พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่881 ชัชพิสิฐ

บทที่881 ชัชพิสิฐ

บทที่881 ชัชพิสิฐ

รพีพงษ์จ้องไปที่รายชื่อบนอันดับรางวัลนำจับอย่างละเอียด ด้านบนนอกจากชื่อพวกนั้นแล้ว ยังมีรูปภาพประกอบชื่อ และยังมีข้อมูลพื้นฐานของคนเหล่านั้นด้วย

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์ไม่คาดคิดก็คือ สิบคนแรกของอันดับรางวัลนำจับ ล้วนเป็นแดนดั่งเทพ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นแดนดั่งเทพขั้นต้น แต่จำนวนนี้ก็พอที่จะให้รพีพงษ์ตะลึงได้แล้ว

ตอนแรกที่ยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับแดนปรมาจารย์ ก็รู้สึกว่าแดนปรมาจารย์เป็นได้ยาก ดังนั้นจำนวนยอดฝีมือของแดนปรมาจารย์จึงน้อยมากจนน่าตกใจ แต่ทว่าเมื่อฝีมือของรพีพงษ์เป็นแดนปรมาจารย์แล้ว จนกระทั่งหลังจากเป็นแดนครึ่งดั่งเทพ ก็ได้เจอกับแดนปรมาจารย์มากขึ้น

ตอนนี้รพีพงษ์เป็นแดนครึ่งดั่งเทพแล้ว คนที่พบเจอส่วนใหญ่ก็เป็นยอดฝีมือระดับแดนดั่งเทพ ถึงขั้นเจอกับธัชธรรมและนิรภัฏสัตว์ประหลาดแบบนี้

ที่แท้กลุ่มของคนนั้นตัดสินจากฝีมือของตัวเอง ตอนที่คนๆหนึ่งมีเงินหนึ่งแสน ก็รู้สึกว่าคนรวยมีจำนวนน้อย ถึงขั้นเห็นก็ไม่เห็นเลย แต่เมื่อคนๆหนึ่งมีเงินหนึ่งล้านจริงๆ คนรอบๆข้างของเขา ก็เปลี่ยนเป็นคนที่มีสมบัติหลักล้าน และตอนนี้เขาก็จะรู้สึกว่าเศรษฐีนั้นมีจำนวนน้อยเหลือเกิน

คาดไม่ถึงแม้เศรษฐีมีจำนวนน้อย แต่ก็ยังคงมีอยู่เยอะ ที่มีความรู้สึกแบบนี้ เพราะตัวเองยังไม่ถึงระดับนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้รู้จักคนระดับนั้น

ตอนนี้รพีพงษ์ก็ถือว่าเข้าอยู่ในกลุ่มของผู้แข็งแกร่ง คนที่พบเจอ ก็ต้องเป็นคนระดับเดียวกับตัวเอง

วงการบู๊แห่งหัวเซี่ยมีมายาวนานกว่าพันปี แม้แดนดั่งเทพจะน้อย แต่ก็ไม่น้อยเท่าที่รพีพงษ์รู้ว่ามีแค่ไม่กี่คน

อันดับรางวัลนำจับสิบคนแรก นอกจากฝีมือจะยอดเยี่ยมแล้ว ก็ยังทำแต่เรื่องชั่วร้ายมาตลอดชีวิต ด้านบนเขียนเกี่ยวกับการกระทำผิดของพวกเขาอย่างละเอียด รพีพงษ์เห็นแล้วก็หมดอาลัยตายอยาก คิดไม่ถึงว่าคนที่ฝีมือระดับนี้ บางครั้งก็สามารถทำเรื่องที่คนจิตวิปริตทำกันได้

หนึ่งในนั้นลำดับที่เจ็ด ชื่อปรินทร คนนี้มีฝีมือเป็นแดนดั่งเทพขั้นต้น และมีพรสวรรค์อีกด้วย ตอนที่เป็นแดนดั่งเทพขั้นต้น มีอายุแค่สี่สิบกว่าปี

แต่คนนี้ลามก อาศัยการที่ตัวเองฝีมือดี บีบบังคับหญิงสาวเหล่านั้นเป็นของเล่นของเขา วิธีชั้นต่ำ โกรธจนหัวชี้ขึ้นมา

มีหญิงสาวหลายคนที่ชีวิตพังในมือของปรินทร แล้วเขายังทำเรื่องที่ผิดกฎของกลุ่มสิงโตหลายเรื่อง ดังนั้นจึงเป็นเป้าหมายหลักที่กลุ่มสิงโตต้องตามจับให้ได้

แต่ฝีมือของปรินทร หลบหนีเร็ว แม้กลุ่มสิงโตจะไฮเทค แต่จนปัจจุบันนี้ก็ยังจับปรินทรมาไม่ได้

คนที่อยู่บนอันดับรางวัลนำจับ ส่วนมากก็ทำความผิดคล้ายๆกับปรินทร ถึงขั้นผิดมากกว่าปรินทรก็มี ดังนั้นจึงได้เป็นอันดับของรางวัลนำจับ มีกลุ่มสิงโตผู้จับชั้นดี คนพวกนี้ก็จับได้มาก

แน่นอน อยากจับคนพวกนี้ ก็ต้องพึ่งแดนดั่งเทพของกลุ่มสิงโต

รพีพงษ์ดูข้อมูลของอันดับรางวัลนำจับเหล่านี้โดยคร่าวๆ สุดท้ายสายตาก็มองไปที่อันดับหนึ่ง

ชัชพิสิฐ

คนที่อยู่อันดับที่หนึ่งมีแค่ชื่อ ไม่มีรูป และข้อมูลเกี่ยวกับเขาก็น้อยอีกด้วย มีเพียงประโยคสั้นๆ “ถ้าคนนี้ยังมีชีวิตอยู่จะกระทบกับกลุ่มสิงโตและความปลอดภัยของโลก

นี่ทำให้รพีพงษ์สนใจในตัวของชัชพิสิฐอย่างมาก

ไม่รู้ว่าเป็นคนแบบไหน ถึงได้ถูกกลุ่มสิงโตมองว่าเป็นคนที่มีความอันตรายกับโลก ฝีมือของคนนี้ต้องเป็นระดับไหนกัน?

แล้วด้านบนก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับชัชพิสิฐ แม้กลุ่มสิงโตจะเก่งกาจขนาดไหน เกรงว่าจะไม่มีทางจับคนนี้ได้

หงส์เห็นรพีพงษ์กำลังจ้องอันดับรางวัลนำจับ จึงเดินไปที่ข้างๆเขา แล้วกล่าว “แม้ตอนนี้ฝีมือแกจะไม่ด้อย เป็นแดนครึ่งดั่งเทพ แต่สิบคนแรกของอันดับรางวัลนำจับอาจจะเป็นแดนดั่งเทพตัวจริง แกเพิ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโต อย่าเพิ่งสนใจอันดับรางวัลนำจับพวกนี้เลย”

รพีพงษ์ไม่สนใจคำพูดของหงส์ แล้วกล่าวว่า “ชัชพิสิฐนี่เป็นใคร? ทำไมด้านบนไม่มีข้อมูลของเขา มีแค่ชื่อ?”

หงส์เห็นรพีพงษ์ถามแบบนี้ จึงกล่าว “ชัชพิสิฐนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจที่ลี้ลับที่สุดตั้งแต่กลุ่มสิงโตได้จัดตั้งขึ้นมา ตอนนี้ในกลุ่มสิงโต รู้ดีถึงเบื้องหลังของชัชพิสิฐ ก็น่าจะมีแค่เจ้าสำนัก”

“ในเมื่อเจ้าสำนักรู้ดีเกี่ยวกับเขา แล้วทำไมไม่ป่าวประกาศออกมาล่ะ แบบนี้ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าชัชพิสิฐอยู่ไหนง่ายขึ้นมั้ย?” รพีพงษ์ถามอย่างไม่เข้าใจ

หงส์เหลือบตาไปมองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ชัชพิสิฐนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่แกคิด จากที่เจ้าสำนักพูดมา ชัชพิสิฐมันอันตรายมาก ในกลุ่มสิงโต ไม่มีใครเอาชนะเขาได้ แม้เจ้าสำนักเจอเข้ากับเขา แพ้ชนะก็ไม่รู้ และคนที่เข้าไปยุ่งเรื่องของชัชพิสิฐ ก็มีแต่จะหาเรื่องให้ตัวเองเท่านั้น”

“ดังนั้นเจ้าสำนักเพียงแค่ให้เอาชื่อของชัชพิสิฐป่าวประกาศออกมา ให้ทุกคนได้รู้ว่ามีหมายเลขหนึ่งแบบนี้อยู่ ให้ทุกคนได้ระวังตัว”

“และยังได้ยินมาอีกว่าชัชพิสิฐนี้มาอายุมายาวกว่าสองร้อยกว่าปีแล้ว คนนี้คือเจ้าสำนักคนก่อน ตอนนี้เจ้าสำนักก็ปาเข้าไปหนึ่งร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว เขามีอายุขนาดนี้ได้ ก็พอที่จะทำให้คนเกรงขามมากแล้ว”

ได้ยินคำพูดนี้ของหงส์ รพีพงษ์ก็ตะลึง ตอนแรกรพีพงษ์คิดว่ามีอายุร้อยห้าสิบกว่าปีก็ถือว่าน่ากลัวมากแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนที่อายุเป็นสองร้อยกว่าปีอีก หรือการที่ฝีมือถือจุดๆหนึ่ง แล้วจะทำให้อายุยาวนานด้วยหรอ?

“คนแบบนี้อยู่ในโลก ค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียว? ทำไมเจ้าสำนักไม่รวบรวมฝีมือทั้งหมดของกลุ่มสิงโต แล้วกำจัดกขาเสียล่ะ” รพีพงษ์ถาม

“ความจริงช่วงหลายปีมานี้ชัชพิสิฐไม่ได้ปรากฏตัวในสายตาของผู้คนมานานแล้ว อย่างน้อยกลุ่มสิงโตก็ไม่เห็นความเป็นอยู่ของอันดับที่หนึ่งแบบนี้แล้ว ดังนั้นทุกคนจึงรู้เพียงว่ามีปีศาจแบบนี้อยู่ แต่ไม่ใ้ห้ความสำคัญใดๆ” หงส์อธิบาย

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว ถาม “งั้นพวกคุณรู้ได้ไงว่าเขามีชีวิตอยู่ในโลก ในเมื่อนานแล้วที่เขาไม่ปรากฏกายออกมา

“เจ้าสำนักเป็นคนพูด และมั่นใจอย่างมากว่าชัชพิสิฐยังมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงได้มั่นใจ อันนี้ฉันก็ไม่รู้” หงส์กล่าว

รพีพงษ์คิด ชัชพิสิฐไม่ธรรมดาจริงๆ แน่นอน ว่าความสามารถของเขาในตอนนี้ ยังไม่พอที่จะไปเข้าใจเรื่องตรงนี้ ดังนั้นคิดไปก็ไร้ประโยชน์

“แกอย่าคิดว่าตัวเองฉลาดนิดหน่อย แล้วจะผยองได้ อย่าพูดว่าเป็นชัชพิสิฐเลย สิบอันดับรางวัลนำจับ ถ้าแกเจอก็มีแต่ตาย แกเริ่มจากภาระง่ายๆของกลุ่มสิงโตก่อนจะดีกว่านะ” หงส์เกรี้ยวกราดใส่รพีพงษ์ เพราะเป็นศัตรูตั้งแต่แรกเห็น ยังไงเธอก็ไม่ชอบรพีพงษ์อยู่ดี

“อ๋อ”

รพีพงษ์ตอบอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็หันกลับไม่สนใจเธอ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน