พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน

บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน

บทที่883 วัวแก่กินหญ้าอ่อน

หงส์ได้ยินคำพูดของมังกร ก็ชักตา แล้วกล่าว “พี่ พูดมั่วอะไรเนี่ย!”

มังกรไม่สนใจหงส์ มองไปที่พยัคฆ์และเต่า แล้วถาม “พวกแกจำได้มั้ยเมื่อก่อนที่มีแดนดั่งเทพคนหนึ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโต แล้วยั่วโมโหน้องสาว ตอนนั้นเธอทำยังไง?”

“อันนี้ฉันจำได้ ตอนนั้นน้องสาวมาหาฉัน ให้ฉันไปจัดการให้ ฉันไปพูดคุยกับเค้านิดหน่อย พบว่าคนนั้นมันไร้เหตุผลจริงๆ ดังนั้นจึงได้ชกต่อยกัน” เต่าที่รูปร่างสูงใหญ่พูดออกมาทันที

“ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนนั้นก็น่าจะเป็นวันรายงานตัวเหมือนกัน น้องสาวรู้สึกว่าคนนั้นยั่วโมโหตัวเองแล้วนั้น ก็รีบมาหาคนช่วย แต่ครั้งนี้เธออดกลั้นจนรายงานตัวเสร็จ ระหว่างนั้นยังคุยกับเค้า พวกแกคิดว่านี่มันหมายความว่าอะไร?” มังกรยิ้มอีกแล้วถาม

พยัคฆ์ตบขาอ่อน แล้วกล่าว “นี่หมายถึงน้องสาวชอบเค้าไง!”

“พี่รอง พี่พูดบ้าอะไร ต่อไปฉันจะไม่สนพี่แล้ว!” หงส์ได้ยินสามคนพูดถึงตัวเองแบบนี้ ก็โมโหกระทืบเท้า”

“เมื่อคิดแบบนี้ รู้สึกว่าพี่ใหญ่พูดมีเหตุผลนะ นี่เป็นครั้งแรกที่น้องสาวทนได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเมื่อก่อนมีคนลวนลามเธอแบบนี้ ต้องมาให้พวกเราจัดการไปแล้ว ตอนนี้แค่บอกพวกเราว่าเธอโดนรังแกแค่นั้น มันน่าแปลกจริงๆ” เต่าก็พูดตาม

หงส์ถูกพวกเขาสามคนพูดจนอยากที่จะรีบไปหารพีพงษ์แล้วฆ่าเขาทิ้งซะ ความจริงเธอมาเพื่อขอให้พี่ทั้งสามของตัวเองช่วยตัดการรพีพงษ์ แต่พวกเรากลับมาคิดว่าตนมีใจให้รพีพงษ์หรือเปล่าเสียอย่างนั้น

“พวกพี่หยุดเดามั่วได้แล้ว เด็กนั่นอ่อนกว่าฉันตั้งหลายปี ฉันจะชอบเขาได้ไงกันแล้วเขายังขั้นต่ำแล้วยังหลงตัวเองด้วย ฉันจะชอบคนแบบนั้นได้ไงกัน” หงส์แสร้งทำเป็นพูดกับมังกรทั้งสาม

มังกรยิ้ม แล้วพูดกับหงส์ว่า “น้องสาว อายุก็ไม่น้อยแล้วนะ แม้แกจะยี่สิบเก้าปี ก็ถือว่าเริ่มแก่แล้วนะ หลายปีมานี้แกเอาแต่คิดว่าคนรอบข้างแก่เหมาะคู่ควรกับแก ดังนั้นจึงไม่คิดเรื่องแฟน แต่ถ้าแกยังยืดเวลาต่อไป ต่อไปจะไม่มีใครเอาแล้วนะ”

“ใช่น้องสาว พรสวรรค์ของรพีพงษ์ เก่งกว่าพวกเราในตอนแรกมากนะ แดนครึ่งดั่งเทพที่ยี่สิบกว่าปี แม้ตอนนี้แกจะสำเร็จ แต่ก็เทียบกับพรสวรรค์ของเขาไม่ได้ อายุน้อยกว่ากี่ปีแล้วไง วัวแก่กินหญ้าอ่อน แกหาคนที่อ่อนกว่าแก ไม่มีปัญหาอะไรเลย” พยัคฆ์ที่ฉลาดหลักแหลมยิ้มพลางกล่าว

“พี่ต่างหากที่เป็นวัวแก่” หงส์ตอกกลับทันควัน

แต่เมื่อฟังรุ่นพี่ทั้งสามพูดแบบนี้ เธอก็รู้สึกได้เช่นกันว่าตัวเองอายุไม่น้อยแล้ว แม้ความสามารถทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้

แล้วถ้าแบบนี้ พรสวรรค์ของรพีพงษ์ ก็เหมาะสมกับเธอจริงๆเลยล่ะ……

ไอ้หยา กำลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย ฉันจะชอบมันได้ไงกัน หงส์รีบส่ายหัว เธอถูกมังกรและพวกทั้งสามคนเบี่ยงเบนความสนใจแล้ว

“พวกแกดูนะ น้องสาวเริ่มลังเลแล้ว น่าจะโดนพวกเราพูดสะกิดใจแล้วล่ะ” มังกรยิ้มพลางกล่าว

หงส์เกรี้ยวกราด แล้วกล่าว “ฉันมาขอความช่วยเหลือจากพวกพี่นะ ไม่ใช่ให้พวกพี่มาคิดเรื่องแต่งงานของฉัน พวกพี่จะช่วยฉันจัดการไอนั่นมั้ย ถ้าไม่ช่วย ฉันไปหาคนอื่นก็ได้!”

“ช่วยช่วยช่วย ในเมื่อน้องสาวจอความช่วยเหลือแล้ว พวกเราก็ต้องไปหามัน ถามมันสักคำ ว่าทำไมต้องลวนลามน้องสาว” มังกรกล่าวอย่างตั้งใจ พูดจบก็ส่งสายตาให้พยัคฆ์กับเต่าทั้งสอง

หงส์เดินไปข้างนอกด้วยความโกรธ มังกรและพวกทั้งสามคนเดินไปพร้อมกับเธอ ไป”คิดบัญชี”กับรพีพงษ์อย่างเกรี้ยวกราด

ในห้องสิ่งปลูกสร้างในหุบเขา รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่หงส์วางแผนไว้ เขาพอจะเข้าใจกลุ่มสิงโตบ้างแล้ว และยังได้บัญชีที่จะเข้าเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตแล้วด้วย

ขณะนี้เขากำลังท่องเว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตอยู่ อยากจะดูจากเว็บไซต์ว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับหยกโยงจิตบ้างหรือไม่

เว็บไซต์ของกลุ่มสิงโตนี้หลักๆเอาไว้เพื่อประกาศภารกิจสมาชิกของกลุ่มสิงโต ในเวลาเดียวกันสมาชิกก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แลกเปลี่ยนสิ่งของ รวมทั้งผลงานของตัวเองก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของได้ด้วยเช่นกัน

กลุ่มสิงโตมีห้องเก็บของอย่างไร บนเว็บไซต์ก็ปรากฏไว้ ในเวลาเดียวกันสิ่งที่รพีพงษ์อยากรู้ก็สามารถดูจากบนเว็บไซต์นี้ได้เลย

แต่ตอนนี้รพีพงษ์เพิ่งเข้าร่วมกลุ่มสิงโต อำนาจน้อย ดังนั้นบนเว็บไซต์จึงเห็นแค่ของพื้นฐานเท่านั้น ถ้าเกี่ยวกับเนื้อหาและความลับที่สำคัญ รพีพงษ์ไม่มีสิทธิ์ดู

เขาใส่ตัวอักษรสามตัวหยกโยงจิตในช่องค้นหาตรงกลาง แว็บเดียวก็ปรากฏข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับหยกโยงจิตขึ้นมา รพีพงษ์ดูอย่างตั้งใจ พบว่าหยกโยงจิตที่อยากได้นั้น ต้องสะสมให้ได้สามแสนผลงานจึงจะได้มา

และในภารกิจของกลุ่มสิงโต จับแดนดั่งเทพหนึ่งคน ได้แค่ห้าหมื่นผลงานเท่านั้น นั่นเท่ากับว่ารพีพงษ์ต้องจับแดนดั่งเทพหกคน จึงจะได้หยกโยงจิต

ผู้คนเหล่านั้นบนอันดับรางวัลนำจับจะได้ผลงานมากขึ้นมาหน่อย แต่อันดับสามคนแรกรพีพงษ์ไม่ต้องนึกถึง นอกจากชัชพิสิฐ เหลืออีกสองหนึ่งคนคือแดนดั่งเทพขั้นสูงอีกคนคือแดนดั่งเทพขั้นกลาง รพีพงษ์ไปหาพวกเขา ก็เหมือนฆ่าตัวเองชัดๆ

แต่อันดับที่สี่ถึงสิบ ล้วนเป็นแดนดั่งเทพขั้นต้น ดังนั้นผลงานที่จะได้จากค่าของพวกเขานั้นไม่มาก นอกจากอันดับสิบได้ห้าหมื่นผลงาน ที่เหลือได้หกหมื่นผลงาน

เห็นเงื่อนไขนี้ รพีพงษ์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าค่าของหยกโยงจิตจะสูงมากขนาดนี้ แบบนี้เขาก็ต้องไปจับแดนดั่งเทพหกคน จึงจะสะสมผลงานได้เพียงพอ?

ด้วยความสามารถของแดนครึ่งดั่งเทพอย่างเขา อยากจะชนะแดนดั่งเทพหกคน ไม่ใช่เรื่องง่าย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรพีพงษ์ไม่รู้เลยว่าจะไปหาแดนดั่งเทพพวกนี้ได้จากที่ไหน

“หยกโยงจิตนี้มันมีอะไรดีกันแน่? ทำไมกลุ่มสิงโตถึงให้ความสนใจมากขนาดนี้? ก็แค่หยกที่ลี้ลับไม่ใช่หรอ? หรือว่า ไอ้หยกโยงจิตนี่จะมีประโยชน์ที่ฉันไม่รู้ด้วยนะ?” รพีพงษ์พึมพำกับตัวเอง

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังครุ่นคิดว่าจะสะสมผลงานให้ได้สามแสนผลงานอยู่นั้น ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูเข้ามา

“รพีพงษ์ แกรีบออกมาเดี๋ยวนี้นะ ฉันมาคิดบัญชีกับแก! พี่ชายทั้งสามของฉันก็มาด้วย ดูสิว่าแกจะหยิ่งยโสต่อหน้าฉันยังไงอีก!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท