พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่882 วัยหนุ่มสาวกำลังจะมาถึง

บทที่882 วัยหนุ่มสาวกำลังจะมาถึง

บทที่882 วัยหนุ่มสาวกำลังจะมาถึง

เสร็จสิ้นการรายงานตัว หงส์ถือสัญญา และข้อมูลของรพีพงษ์ทั้งห้าคนไป ด้วยสีหน้าบ้าบิ่น

“รพีพงษ์ แกไอ้เด็กเวร เจ๊จำแกไว้แล้ว! ฉันอายุมากขนาดนี้ ไม่เคยต้องโมโหมากขนาดนี้มาก่อน อย่าคิดว่าตัวเองเก่งแล้วจะผยองได้ขนาดนี้ จะบอกให้นะ พี่ชายทั้งสามคนของฉันเป็นแดนดั่งเทพตัวจริง อยากจัดการแกไปหาพวกเขาก็ได้แล้ว ฝากไว้ก่อน แค้นนี้ ต้องชำระ!”

พูดจบ หงส์หยิบข้อมูลเหล่านั้นรีบเดินไปที่เขานั้นที่ธัชธรรมอยู่

เมื่อกี๊ตอนที่อยู่ในห้องที่เซ็นสัยญา พรดรัลมองรพีพงษ์ด้วยความสงสัย แล้วกล่าว “รพีพงษ์น้องชายแม้ฉันจะรู้ว่าฝีมือแกยอดเยี่ยม มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น แต่แบ็คของคุณหงส์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เธอกับแดนดั่งเทพทั้งสามเป็นยอดฝีมือยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของกลุ่มสิงโต อีกสามคนแบ่งเป็นมังกรพยัคฆ์หงส์เต่า ฝีมือค่อนข้างน่าเกรงขามเลยล่ะ”

“ตอนนั้นแกไม่ให้เกียรติเธอ เธอแพ้แก แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่หาตัวช่วยอีกนะ แล้วเธอเป็นผู้หญิงที่อายุน้อยที่สุดของสี่ยอดฝีมือ ถ้าอีกสามคนที่เหลือรู้เข้า ไม่มีทางมองผ่านแน่ๆ”

ได้ยินพรดรัลพูด คิ้วของรพีพงษ์กระตุก ตอนนั้นเขาคิดว่าหญิงที่ชื่อหงส์คนนี้ จะมีชื่ออื่นที่ชื่อว่าลูกเทพทั้งสามนี้หรือไม่ คิดไม่ถึงว่ามีจริงๆ

แล้วยังเป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพอีกด้วย

นี่มันค่อนข้างลำบากจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้กังวลใดๆ เพราะตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นหงส์ต่างหากที่บีบบังคับคนอื่น ยั่วโมโหเขา

“ขอบคุณที่เตือน แต่ผมคิดว่าสามคนที่เหลือไม่น่าจะไม่มีเหตุผล ดังนั้นทุกท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

พูดจบ รพีพงษ์ก็หันหลังออกจากห้องนั้น แล้วเดินไปยังห้องที่กลุ่มสิงโตจัดไว้ให้

ณ กลุ่มสิงโต

ด้านนอกของห้องเปล่า ธัชธรรมนั่งอยู่บนก้อนหิน พักผ่อนดื่มชา

ในขณะเดียวกันนี้ หงส์ถือแฟ้มเอกสารมาอย่างโมโห เมื่อมาถึงด้านหน้าของธัชธรรม ก็โยนแฟ้มเอกสารลงไปบนโต๊ะ

ธัชธรรมมองเห็นเหตุการณ์นี้ ก็รู้สึกแปลกใจ แล้วถาม “แกเป็นอะไร ทำไมโมโหขนาดนี้?”

หงส์จ้องธัชธรรมอย่างโมโห แล้วถาม “ไอ้รพีพงษ์นั่นท่านเป็นคนหามาใช่มั้ย?”

ธัชธรรมชะงัก แล้วพยักหน้า กล่าว “ใช่ ทำไมหรอ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์ แกถูกความเก่งของเขาทำให้โมโห?”

“เหอะ ใครจะโมโหเพราะเหตุผลนี้ พรสวรค์ของมันดีจริง แต่จิตวิปริต สับปลับ กลุ่มสิงโตของเราทำไมถึงให้คนแบบนี้เข้ามาร่วมได้ น่าโมโหจริงๆ” หงส์กล่าวอย่างโมโห

“มัน……เหอะ ไม่ว่ายังไงมันก็คือไอ้ต่ำช้าหยาบคาย ตัวเองมีพรสวรรค์นิดหน่อยก็ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง หนูจะต้องสั่งสอนมัน” หงส์เกรี้ยวกราด

“ข้อมูลของห้าคนวันนี้ที่มารายงานตัวอยู่ในนี้แล้ว ท่านดูเอาเองแล้วกัน หนูไปล่ะ”พูดจบ หงส์ก็ลงจากเขาไป

ธัชธรรมมองหงส์จากไป ก็ได้แต่ยิ้มอย่างเบื่อหน่าย ไม่พูดอะไรต่อ

หงส์คือคนที่ตอนนั้นธัชธรรมพามาจากเที่ยวรอบโลก เธอไม่มีพ่อแม่ เข้ากลุ่มสิงโตตั้งแต่เล็กจนโต ธัชธรรมก็ดูแลเธอเหมือนกับเป็นหลานสาวคนหนึ่ง บวกกับในอดีตหงส์น่ารักใครๆก็ชอบ คนของกลุ่มสิงโตจำนวนมากทำกับเธอเหมือนเธอเป็นเจ้าหญิง ดังนั้นตำแหน่งของหงส์ในกลุ่มสิงโตถือว่าไม่ต่ำเลย

จากเมื่อกี๊ที่เธอใช้น้ำเสียงนั้นพูดกับธัชธรรมก็สามารถดูออกได้

และแม้แต่เจ้าสำนักกลุ่มสิงโตยังไม่กล้ายั่วโมโห แต่กลับถูกรพีพงษ์ลวนลาม แล้วยังเหยียดหยามอีกด้วย แน่นอนว่าหงส์ต้องรับไม่ได้

“คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ที่มาวันแรกก็ยั่วโมโหหงส์ที่อารมณ์เกรี้ยวกราดได้ขนาดนี้ ดูๆไปหญิงคนนี้น่าจะเจอเข้ากับคู่ต่อกรจริงๆแล้วล่ะ” ธัชธรรมลูบหนวดของตัวเองแล้วยิ้ม

“แต่นับๆดู ปีนี้หงส์ก็สามสิบกว่าปีแล้ว อายุปูนนี้ ยังไม่รีบร้อนหาแฟน เกรงว่าอารมณ์จะร้ายขึ้นกว่านี้อีก มีคนมาปรามเธอบ้างก็ดีเหมือนกัน”

“เสียดายที่อายุของรพีพงษ์ห่างจากเธอหลายปี แล้วยังแต่งงานแล้ว ไม่งั้น จะได้หาวิธีให้พวกเขาทั้งสองอยู่ด้วยกัน เพราะการที่จะหาคนปรามเธอนั้น เป็นไปได้ยาก”

หลังจากที่ดื่มชาแล้ว ธัชธรรมก็ส่ายหน้า ไม่คิดเรื่องนี้อีกต่อไป จากนั้นก็หยิบขวดที่ใส่ไม้เทพแดงที่อยู่ในชุดออกมา แล้วตั้งใจมอง

“ไม้เทพแดงก็เอามาแล้ว จะยืดเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ไปศูนย์กลางสักครั้ง ไปช่วยท่านนั้นหน่อย

……

หลังจากที่หงส์ออกจากใจกลางเขาแล้ว ก็ไม่ได้กลับไปยังที่พักของตัวเอง แต่ไปยังเขาอีกลูก ไปทางประตูถ้ำลึกลับ เข้าไปในเขา

ในเขานี้แลดูไฮเทคมากกว่าที่ของธัชธรรมเยอะ เมื่อเข้าไปด้านใน ก็เป็นทางเดินยาว แสงไฟสว่างเหมือนเป็นช่วงกลางวัน

หงส์เดินเข้าไปข้างใน มายังห้องทำสมาธิ ขณะนี้ด้านในมีสามคนกำลังนั่งสมาธิอยู่ สามคนนี้คือยอดฝีมือทั้งสี่ของกลุ่มสิงโต มังกรพยัคฆ์เต่า

แม้อายุของทั้งสามคนจะสี่สิบกว่าปีแล้ว มังกรอายุมากสุดปีนี้ก็ปาเข้าไปห้าสิบปีแล้ว แต่เพราะฝีมือเก่งกาจ จึงดูไม่ออกว่าเขาอายุเท่านี้แล้ว

เมื่อหงส์เข้ามา ก็พูดกับทั้งสามอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ฉันถูกคนรังแก พวกพี่ๆยังมีอารมณ์ทำสมาธิอีกหรือไง?”

ทั้งสามเปิดตาขึ้น มังกรลูกพี่ใหญ่ยิ้มไปที่หงส์ แล้วกล่าว “ในกลุ่มสิงโตแกถือได้ว่าเป็นราชินี ใครกล้ารังแกแกเนี่ย?”

พยัคฆ์และเต่าทั้งสองคนจ้องไปที่หงส์แล้วยิ้ม

หงส์ชักตาใส่มังกร จากนั้นก็เล่าเรื่องที่ตนรับผิดชอบเรื่องรายงานในวันนี้ให้ทั้งสามฟัง แล้วเน้นย้ำเรื่องที่รพีพงษ์ลวนลามตัวเอง

มังกรกับพวกทั้งสามได้ยินก็ครุ่นคิด

หงส์รู้สึกว่าทั้งสามได้ยินเรื่องนี้ ก็จะล้างแค้นให้เธอตั้งแต่วินาทีแรก

มังกรหันไปมองพยัคฆ์และเต่า จากนั้นถามว่า “นับๆดู ปีนี้น้องเล็กก็สามสิบแล้วหนิ?”

พยัคฆ์และเต่าทั้งคู่พยักหน้า

“พูดบ้าอะไร ปีนี้ฉันเพิ่งจะยี่สิบเก้าเองนะ!” หงส์ตะคอกไปยังพวกเขา

มังกรมองเธอ แล้วพึมพำ “โฟกัสอายุตัวเองด้วย เมื่อก่อนแกไม่ได้เป็นแบบนี้หนิ”

“ถ้าจะให้ฉันเดา วัยหนุ่มสาวของน้องสาวกำลังจะมาถึงแล้ว”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท