พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่892 ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร

บทที่892 ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร

บทที่892 ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร

ปรินทรมองไปยังรพีพงษ์ที่ป้องกันการโจมตีของตน ด้วยสีหน้าที่ไม่สงบอีกต่อไป เขาไม่เคยเห็นการโจมตีของรพีพงษ์ที่เมื่อกี้ปล่อยมาก่อน ในมโนภาพของเขา ผู้ที่ไม่ถึงแดนดั่งเทพ ไม่มีทางโจมตีแบบนี้ได้

“ทำไมฝีมือแกเป็นแบบนี้? แกเป็นใครกันแน่ การโจมตีแบบนี้ ใครสอนแก?” ปรินทรจ้องรพีพงษ์แล้วถาม

ตอนนี้รพีพงษ์กำลังเรียนรู้พลังของลำแสงนั้นที่ปรินทรใช้ ถึงแม้เขาได้ป้องกันการโจมตีนั้นของปรินทรไว้ แต่รพีพงษ์ในตอนนี้ยังไม่ได้กินยาชั้นเลิศหรือใช้วิธีปฏิบัติแต่อย่างใด ดังนั้นจึงค่อนข้างเหนื่อย

แต่ช่วงที่ผ่านมานี้ฝีมือของเขาก้าวหน้าไปไม่น้อย ดังนั้นตอนนี้ท่าดาวฟ้าต้านการโจมตีของแดนดั่งเทพขั้นต้น ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก

ทำให้พลังของปรินทรลดลงแล้วนั้น รพีพงษ์ก็โล่งอก มองไปที่ปรินทร แล้วกล่าวอย่างนิ่งๆว่า “ถ้าฉันพูดว่าฉันเพิ่งจะเข้าร่วมกลุ่มสิงโต แกจะเชื่อมั้ย?”

ปรินทรหน้าซีด กลุ่มสิงโตสามคำนี้คือฝันร้ายของเขา เรื่องตอนนี้ที่เขาต้องระวังมากที่สุด ก็คือหลบไปให้ไกล เพราะมีกลุ่มสิงโต

ฝีมือของรพีพงษ์แปลกประหลาดขนาดนี้ แล้วยังอายุน้อย ถูกกลุ่มสิงโตเรียกเข้ากลุ่มก็ถือว่าไม่แปลก ดังนั้นปรินทรจึงไม่สงสัยในคำพูดของรพีพงษ์

ยังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่าในตระกูลทางโลกนี้ จะมีคนของกลุ่มสิงโตอยู่ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ เขาไม่มีทางเชื่อคำพูดของตระกูลฉัตรมงคลแห่งเมืองยองแน่นอน

แม้ตอนนี้เขาจะจัดการรพีพงษ์ได้ จากฝีมือของกลุ่มสิงโต จะต้องหาที่อยู่ของเขาเจออย่างแน่นอน หลังจากนั้นเขาจะต้องถูกกลุ่มสิงโตตามไล่ฆ่าอยู่ระยะหนึ่งแน่นอน ถ้าไม่ระวังตัว อาจเสียชีวิตได้

เขาหันไปมองประวีร์และดิลวิลที่หลบไปไกล ด้วยสายตาอาฆาต อยากจะรีบพุ่งไปฆ่าทั้งสองนั้นให้ตายเสียตอนนี้

ดิลวิลและประวีร์ทั้งสองคนเห็นสายตาอาฆาตของปรินทร ก็ตัวสั่นขึ้นมา

“ลูกชาย ทำไมเมื่อกี้เหมือนพ่อจะรู้สึกว่าผู้ยิ่งใหญ่มองเราสองพ่อลูกด้วยสายตาพยาบาทกันนะ น่ากลัวจริงๆ เพียงแค่มองก็ทำให้พ่อขนลุกซู่ชันแล้ว” ดิลวิลกล่าว

ประวีร์และดิลวิลมีความรู้สึกเดียวกัน แล้วกล่าว “น่าจะเป็นเพราะผู้ยิ่งใหญ่เห็นว่ารพีพงษ์จัดการยาก ดังนั้นจึงมองพวกเราแบบนี้ อาจจะไม่มีอะไรมากก็ได้นะ”

ดิลวิลพยักหน้า กล่าว “รพีพงษ์นี่มันเกินคาดจริงๆ ไม่คิดว่าจะสามารถต่อกรกับผู้ยิ่งใหญ่ได้หลายท่า แกว่าผู้ยิ่งใหญ่จะจัดการมันได้มั้ย?”

“แม้ฝีมือของไอ้นี่จะทำให้คนคิดไม่ถึง แต่เมื่อกี้พ่อไม่ได้ยินที่ผู้ยิ่งใหญ่พูดหรอว่ามันไม่ใช่แดนดั่งเทพแน่นอน ดังนั้นสุดท้ายที่ชนะก็ต้องเป็นผู่ยิ่งใหญ่แน่นอน ไม่ต้องคิดอะไรมาก” ประวีร์กล่าว

ทั้งคู่ไม่พูดอะไรต่อ มองไปยังการต่อสู้ที่อยู่บนหลังคานั้น

ปรินทรจ้องไปที่รพีพงษ์สักพัก จากนั้นก็ยิ้มออกมา แล้วกล่าว “คิดไม่ถึงว่าน้องชายจะเป็นคนของกลุ่มสิงโต ไม่แปลกที่ละอ่อนและฝีมือไม่ธรรมดาแบบนี้ หาได้ยากจริงๆ”

“ฉันรู้ว่ากลุ่มสิงโตกำลังตามจับฉันอยู่ วันนี้ที่ฉันมาเจอแกที่นี่ จะต้องรู้แพ้รู้ชนะ แต่แม้ว่าพรสวรรค์แกจะเก่งสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังห่างจากแดนดั่งเทพอยู่ดี ถ้าต้องสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งล่ะก็ สุดท้ายคนที่ตายก็คือแกแน่นอน”

“และฉันก็ไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มสิงโตมากนัก ดังนั้นพวกเราถอยกันคนล่ะก้าว ฉันไม่เอาเมียแกแล้ว และรับรองได้ว่าจะไม่มาหาเรื่องแกอีก และแกก็ห้ามบอกว่าฉันปรากฏตัวที่เกียวโต ว่าไง?”

ได้ยินคำพูดของปรินทร รพีพงษ์ก็ดูถูกขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าชื่อของกลุ่มสิงโตจะมีประโยชน์ขนาดนี้ ปรินทรเพียงแค่ได้ยินว่าตัวเองเป็นคนของกลุ่มสิงโตเท่านั้น ก็อยากจะต่างคนต่างถอยคนล่ะก้าวแล้ว

แต่รพีพงษ์เป็นคนที่มีแค้นก็ต้องชำระ ปรินทรมันกล้าสนใจในตัวอารียา รพีพงษ์ไม่มีทางให้เขาได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกเด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของรพีพงษ์ ปรินทรเป็นผลงานชั้นดี เขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆได้ไงกัน

“แกคิดมากไปแล้ว การต่อสู้วันนี้บางทีอาจต้องเอาเป็นเอาตาย แต่สุดท้ายคนที่ตายต้องเป็นแกแน่นอน ดังนั้นแกไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกับฉัน” รพีพงษ์กล่าว

ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ปรินทรก็ด่าในใจ ไม่คิดว่าเด็กนี่มันจะไม่รู้จักกาลเทศะเอาเสียเลย

“เหอะ ในเมื่อฉันให้โอกาสแกแล้วแกไม่คว้าไว้ งั้นแกอย่าว่าฉันไม่เตือนนะ ความสามารถแค่นี้ของแก แม้จะเอาเป็นเอาตายกับฉัน ก็ไม่มีทางทำอะไรฉันได้!”

พูดจบ ปรินทรก็พุ่งไปที่รพีพงษ์อีกครั้ง ลำแสงในมีเห็นชัดเจนว่ามีพลังขึ้น ดูออกว่าเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว

ไม่ใช่เพราะปรินทรเห็นฝีมือของรพีพงษ์ แต่ในโลกนี้ ทุกที่มีกล้องวงจรปิด แม้วันนี้เขาจะหนีไปได้ กลุ่มสิงโตก็สามารถดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาที่อยู่ของเขาได้ หากภายในระยะเวลาสามวันเขาไม่สามารถหนีจากทางโลกไปได้ สุดท้ายก็จะต้องถูกคนของกลุ่มสิงโตหาเจอแน่นอน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงต้องใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อรีบจัดการกับการต่อสู้เสีย

นี่ก็เป็นเหตุผลทำไมเหล่าแดนดั่งเทพที่ถูกประกาศจับน้อยมากที่จะออกมาทำอะไรไม่ดี

แม้ต้องทำร้ายคนบนโลก พวกเขาก็ต้องเลือกสถานที่ที่ลับหูลับตาคน เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบัน ยิ่งพวกเขาอยู่บนโลกนานเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายต่อการที่คนของกลุ่มสิงโตจะจับมากขึ้นเท่านั้น

รพีพงษ์เห็นปรินทรค่อยๆเข้ามา ก็เริ่มกระตุ้นตัวเอง จับมุรามาสะไว้แน่น เตรียมพร้อมต่อสู้กับเขาอย่างเร็ว

ครั้งนี้รพีพงษ์เริ่มรู้สึกใช้พลังเยอะ ปรินทรใช้พลังทั้งหมด ถ้าแค่ใช้กำลังของแดนครึ่งดั่งเทพล่ะก็ ยากที่จะขัดขวางเขาเอาไว้ได้

รพีพงษ์เริ่มถดถอย พลังของปรินทรแข็งแกร่งมากขึ้น อยากกำจัดรพีพงษ์อย่างร้อนรน

ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเห็นเหตุการณ์นี้ก็ปาดเหงื่อกันเป็นแถวๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป รพีพงษ์จะต้องแพ้ในมือของปรินทรอย่างแน่นอน

ลำแสงได้สาดออกไปอีกครั้ง ปรินทรยิ้มอย่างมั่นใจให้รพีพงษ์ แล้วกล่าว “เด็กน้อย แกไม่ใช่คู่ต่อกรของฉัน ถ้ายังต่อสู้กันต่อไป แกก็ไม่มีทางชนะได้!”

รพีพงษ์ดูแคลน จากนั้นก็พึมพำ “ดูๆไปแดนดั่งเทพของฉันในตอนนี้สามารถค้ำจุดสูงสุดได้ก็ตอนนี้แหละ แต่……นี่ก็พอแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้เห็นประสบการณ์ฉันเพียงพอแล้ว เพียงพอแล้วจริงๆ”

พูดจบ รพีพงษ์ก็เงยหน้ามองปรินทร พลังวิเศษเสนในร่างกายได้ไหลเวียนอยู่ในร่างกายโดยวิธีที่น่าเหลือเชื่อ ไม่นาน พลังในร่างกายของรพีพงษ์ก็ระเบิดขึ้นอีกขั้น

รพีพงษ์ใช้ยาชั้นเลิศหมดแล้ว วันนี้ที่ใช้ เป็นวิธีลับในการเพิ่มพลัง

แดนครึ่งดั่งเทพ บวกกับวิธีลับแล้ว พลังที่จะแสดงออกมา ไม่น้อยไปกว่าแดนดั่งเทพขั้นต้นเลย

ตอนนี้ ในสายตาของรพีพงษ์ ไม่มีจุดเด่นอะไรอีกต่อไป!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท