พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่906 การปฏิบัติ

บทที่906 การปฏิบัติ

บทที่906 การปฏิบัติ

ตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลปิยะศักดิ์ รพีพงษ์ได้ถือการ์ดเชิญใบหนึ่ง ด้านบนเขียนว่า“เชิญร่วมงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์” รูปแบบเหมือนที่รพีพงษ์ได้มาจากปรินทร

รพีพงษ์ก็ไม่คาดคิด ว่าทัดธนจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์เช่นกัน ดูๆไปลักษณะของงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ครั้งนี้จะใหญ่กว่าที่รพีพงษ์คิดไว้ ผู้ที่ถูกเชิญ จะต้องเป็นคนบุคคลที่มีความสามารถแน่นอน

นี่ทำให้รพีพงษ์สนใจในการประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์นี้ อยากรู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นในงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์นี้ จะมีอาจารย์พลังจิตจริงๆมาบ้างมั้ย

ตอนนี้ความเข้าใจของเขาที่มีต่อพลังจิตหยุดอยู่ที่ขั้นพื้นฐาน ตอนนี้เขานอกจากรู้ว่าพลังจิตของเขาสามารถรับรู้เหตุการณ์ของสิ่งรอบๆได้ ก็ไม่รู้ว่ายังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมั้ย

แม้ว่าเขาจะแค่จ้องมัดธนครั้งเดียวเท่านั้น ทัดธนก็เจ็บหนัก แต่ตอนนั้นเป็นเพราะพลังจิตของทัดธนปล่อยมาที่รพีพงษ์ รพีพงษ์จึงได้ฉสวยโอกาสใช้พลังตัวเองต่อกรนั้นพลังนั้นกลับไป มิเช่นนั้น รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าจะใช้พลังจิตของตัวเองจู่โจมคนอื่นได้อย่างไร

ดังนั้นตอนนี้เขาอยากหาคนที่เข้าใจด้านนี้จริงๆ ถ้าสามารถควบคุมพลังจิตในการจู่โจมคนอื่นได้ นี่จะเป็นท่าไม้ตายที่ดีที่สุดของรพีพงษ์ ในการต่อสู้ จู่โจมด้วยพลังจิตอย่างฉับพลัน แม้คนนั้นจะระดับสูงกว่ารพีพงษ์ เกรงว่าไม่มีทางที่จะต้านทานได้

ถ้าสามารถหาวิธีในการใช้พลังจิตจากประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์นี้ได้ สำหรับรพีพงษ์แล้วถือว่ามีประโยชน์อย่างหาที่สุดไม่ได้

ตอนนี้หงส์ตามหลังรพีพงษ์ หงส์ที่ได้จัดการทัดธนด้วยมือของตัวเองดูอารมณ์ไม่เลวเลยทีเดียว เธอมองไปยังรพีพงษ์ที่ด้านนำหน้า ด้วยความแปลกใจ

ผ่านไปไม่นาน หงส์อดกลั้นไม่อยู่ มองไปที่รพีพงษ์แล้วถาม “ตอนนั้นคุณแค่จ้องทัดธนครั้งเดียวเท่านั้น แล้วเขาก็เจ็บหนักอ้วกออกมา ดังนั้นคุณก็มีพลังจิตความสามารถนี่ด้วยหรือไม่? คุณสบายใจได้ ฉันจะเก็บเป็นความลับ”

รพีพงษ์หันหน้าไปหาเธอ แล้วกล่าว “ไม่ถึงขั้นเป็นความสามารถ ก็แค่มีพลังด้านนี้โดยบังเอิญเท่านั้น จะควบคุมมันอย่างไร ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ”

ได้ยินรพีพงษ์ตอบแบบนี้ หงส์ก็เกิดอิจฉาขึ้นมา

จากสถิติของกลุ่มสิงโต คนที่มีพลังจิตนั้นน้อยถึงน้อยมาก อย่างรพีพงษ์อัจฉริยะหนึ่งในหมื่นแบบนี้ ยังมีความสามารถแบบนี้อีก ชั่งทำให้คนเกลียดความลำเอียงของพระเจ้าจริงๆ

ตอนนี้หงส์เริ่มนับถือรพีพงษ์ ก่อนหน้านี้เธอก็ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ เมื่อเจอเข้ากับรพีพงษ์ เธอจึงได้เข้าใจว่าตัวเองยังห่างจากอัจฉริยะอยู่มาก

รพีพงษ์เห็นหงส์ยังตามตนอยู่ ก็ได้กล่าวว่า “ภารกิจของคุยสำเร็จแล้ว ตอนนี้คุณไม่กลับไปพักฟื้นหรอ? จะตามผมอยู่ทำไม?

หงส์ได้ยินรพีพงษ์เหมือนรังเกียจตัวเอง ก็โกรธขึ้นมา แล้วตอบอย่างเกรี้ยวกราดว่า “ใครบอกว่าภารกิจสำเร็จแล้ว ยังมีประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์อีกไม่ใช่หรอ ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมนี้ไม่ใช่คนธรรมดาสามารถต่อกรได้แน่นอน ในฐานะที่เป็นคนของกลุ่มสิงโต ฉันมีหน้าที่ที่จะต้องไปยับยั้งเหตุการณ์ไม่ดีที่จะเกิดขึ้น”

“คุณก็น่าจะไปประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์นี่ด้วยใช่ป่ะ ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงาน ฉันต้องไปทำภารกิจด้วยกันสิ”

ได้ยินคำพูดของหงส์ รพีพงษ์ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี คิดไปคิดมา จึงกล่าวว่า “ผมไปคนเดียวก็พอแล้ว คุณไม่ได้มีความจำเป็นต้องไป”

“ไม่ได้ การ์ดเชิญนี้ความจริงฉันได้มาจากทัดธน ฉันจำเป็นต้องไป” หงส์กล่าวอย่างจริงจัง

รพีพงษ์เบื่อหน่าย แม้เขาไม่อยากทำภารกิจร่วมกับเสือสาวคนนี้ เสียงร้องโอดครวญเมื่อกี้ของทัดธนยังดังกึกก้องอยู่ในหูของรพีพงษ์ แต่ในเมื่อหงส์พูดแบบนี้ เขาก็ปฏิเสธไม่ได้

และการประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์รพีพงษ์ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ มีหลายคนยิ่งดูแลกันได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ความเร็วในการที่หงส์จะหาคนช่วย ต้องเร็วกว่าเขาอย่างแน่นอน

ไม่พูดอะไรต่อ รพีพงษ์กลับไปคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์พร้อมกับหงส์ รพีพงษ์จัดห้องให้หงส์พัก ให้เธอพักที่คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์สักกี่วัน รพีพงษ์จะอยู่เป็นเพื่อนอารียาและหนูลินสักกี่วัน จากนั้นพวกเขาค่อยออกเดินทางไปเข้าร่วมงานนั้น

กลางคืน รพีพงษ์และอารียาอยู่ในห้อง ขวัญนลินถูกชนิสราอุ้มไป คืนนี้รพีพงษ์จะอยู่กับอารียากันแค่สองคน

อารียากำลังพอกหน้าอยู่ที่หน้าโต๊ะแป้ง เมื่อเสร็จก็ไปนอนบนเตียง เธอสวมชุดนอนผ้าแพร รูปร่างทั้งตัวปรากฏออกผ่านทางชุดนอน

บวกกับอารียาขี้เกียจ ทำให้ท่าทางของเธอสวยงามอ่อนช้อย ค่อนข้างยั่วยวน

ขณะนี้รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะจ้องไปที่หยกโยงจิต อยากรู้ว่าหยกโยงจิตนี้ใช้วัตถุดิบอะไรกันแน่ ทำไมจึงมีประโยชน์ในการบำรุงพลังจิต

“รพีพงษ์ มานี่หน่อย” อารียาตะโกนใส่รพีพงษ์

รพีพงษ์วางหยกโยงจิตในมือลง แล้วหันไปหาอารียา เห็นท่าทางของเธอในตอนนี้ ก็ยิ้มออกมา แล้วเดินไปที่เตียง

เขาไปที่ร่างของอารียา ยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วกล่าว “ทำไม วันนี้แลดูคึกคักนะ เตรียมจะทำสงครามสามร้อยนัดกับผมแล้ว?”

อารียามองรพีพงษ์อย่างโมโห แล้วกล่าว “ถามหน่อย ตอนที่คุณอยู่ข้างนอก มักจะติดต่อกับพวกสาวสวยพวกนั้นใช่มั้ย?”

รพีพงษ์ชะงัก ไม่คาดคิดว่าอารียาจะถามคำถามนี้กับเขา

“ไม่ถึงขั้นติดต่อ แต่เป็นเพราะมีความจำเป็นบางอย่าง จึงได้รู้จักบางคน” รพีพงษ์ตอบตรงไปตรงมา

อารียาเสียใจ แล้วกล่าว “งั้นคุณถูกพวกเธอทำให้หลงผิดมั้ย? เพื่อนร่วมงานคนนั้นของคุณ เป็นคนสวย และฉันก็รู้สึกว่าเธอก็สนใจในตัวคุณ ครั้งนี้พวกคุณไปทำภารกิจด้วยกัน จะเกิดอะไรขึ้นมั้ย?”

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยื่นมาไปวางไว้บนใบหน้าของอารียา ยิ้มพลางกล่าว “เป็นไปได้ไง ผมหลบเธอไม่หวาดไม่ไหวต่างหากล่ะ แล้วจะมีอะไรกับเธอได้ไง ผมเป็นคนยังไงคุณไม่รู้หรอ?”

“คุณอยู่ข้างนอก เกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้เลย ใครจะรู้ว่าคุณทำอะไรลับหลังฉันมั้ย” อารียายังคงทำหน้าน่าสงสาร

รพีพงษ์พาเธอไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วกล่าว “ผมสาบานด้วยเกียรติของผม ผมไม่มีทางทำเรื่องที่ผิดต่อคุณแน่นอน ผมมีแค่คุณคนเดียว แล้วผมเป็นผู้ชายตรงๆ ไม่มีทางให้โอกาสหญิงอื่นได้”

อารียาคิดแล้วคิดอีก รู้สึกว่ารพีพงษ์พูดมาก็เป็นแบบนั้นจริง เธอเพียงแค่อยากจู้จี้จุกจิก สำหรับการกระทำของรพีพงษ์ เธอรู้ดีที่สุด

“คุณพูดเองนะ ถ้าคุณทำผิดต่อฉัน ฉันจะพาหนูลินไปในที่ๆคุณหาไม่เจอ ให้คุณร้อนรน” อารียาออดอ้อนรพีพงษ์

รพีพงษ์กดอารียาให้อยู่บนตัวของเขา ยิ้มพลางกล่าว “ผมรักคุณได้เพียงคนเดียว ตอนนี้ผมจะใช้การกระทำเพื่อพิสูจน์ความรักที่ผมมีต่อคุณ

พูดจบ เขาก็ก้มลง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท