พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่915 สยบเซียน

บทที่915 สยบเซียน

บทที่915 สยบเซียน

การเสียชีวิตของเรวัตทำให้ทั้งตระกูลกิติมหาคุณสั่นสะเทือน ไม่มีใครจะคิดว่า คุณชายใหญ่ของตระกูลกิติมหาคุณ กลับตายอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่น ที่สำคัญว่ากันว่ายังมีอาจารย์สามคนที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในแวดวงวิชาเวทย์เสียชีวิตไปพร้อมกันด้วย

คนที่ลงมือคงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน นิธินาถใช้ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลกิติมหาคุณ ค้นหาฆาตกรที่ฆ่าเรวัต

ตอนที่คนของตระกูลกิติมหาคุณเข้าไปตรวจสอบที่ร้านอาหารเจนนี่ พบว่ากล้องวงจรปิดของร้านอาหารเจนนี่ถูกคนทำลาย ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการซ่อมแซม

นิธินาถลนลาน โกรธจัด แทบจะพลิกแผ่นดินทั้งเมืองอยู่เย็นหาคนที่ฆ่าลูกชายของเขาออกมา

เพียงแต่ตอนนี้ยังมีเวลาอีกสองวันก่อนงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ การเสียชีวิตของเรวัตจะต้องไม่เป็นปัญหามากเกินไป ดังนั้นในสุดนิธินาถก็เก็บเหตุการณ์นี้ไว้ แจ้งเหตุการณ์นี้ให้ทราบแต่กับภายในตระกูลกิติมหาคุณเท่านั้น และห้ามมิให้แพร่กระจายโดยเด็ดขาด

ทุกคนในตระกูลกิติมหาคุณถูกแบ่งกำลังออกมาส่วนหนึ่งมาตรวจสอบเรื่องนี้ ส่วนที่เหลือก็ต้องเตรียมตัวสำหรับงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ต่อไป

ตอนนี้บัตรเชิญถูกส่งออกไปแล้ว คนในแวดวงวิชาเวทย์ไม่น้อยได้เดินทางมาถึงเมืองอยู่เย็นแล้ว ดังนั้นตระกูลกิติมหาคุณก็ต้องจัดเตรียมเรื่องนี้ก่อน สำหรับเรื่องของเรวัต ถ้าหากสามารถหาตัวฆาตกรได้จะเป็นการดีที่สุด หาไม่เจอก็คงต้องรอให้งานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์จบลงก่อนค่อยว่ากันอีกที

คนในตระกูลกิติมหาคุณไม่น้อยบอกว่าคนที่ฆ่าเรวัตเป็นศัตรูของตระกูลกิติมหาคุณ ฆ่าเรวัตเป็นเพียงการตักเตือนตระกูลกิติมหาคุณ คนคนนี้จะปรากฏตัวในที่งานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์อย่างแน่นอน

มีคนบอกว่าเป็นเพราะเรวัตอยู่กับอาจารย์สามคนนั้น และบังเอิญพบกับศัตรูของอาจารย์ทั้งสามคนที่มาแก้แค้น ดังนั้นจึงถูกฆ่าด้วย

ในระยะสั้นเหตุการณ์นี้ทำให้ตระกูลกิติมหาคุณแตกตื่น ผู้คนมากมายกลัวว่าจู่ๆศัตรูของตระกูลกิติมหาคุณจะบุกมาฆ่าถึงที่ และฆ่าพวกเขาทั้งหมด

นิธินาถเพียงแค่คิดเป็นเวลานานก็คิดไม่ออกว่าตกลงศัตรูแบบไหนกันจะทำแบบนี้ได้ ที่สำคัญภาพศัตรูในหัวของเขา น่าจะไม่สามารถจัดการกับจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามนิธินาถหวังว่าคนคนนี้จะปรากฏตัวในงานประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์ ถึงเวลาตอนนั้นยอดฝีมือแวดวงวิชาเวทย์ก็อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเพื่อนของเขา ต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหน คงจะไม่สามารถหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน

ในขณะที่ตระกูลกิติมหาคุณสั่นสะเทือนเพราะการตายของเรวัต ฆาตกรอย่างรพีพงษ์กำลังยังคงอยู่ในโรงแรมอย่างสบายๆศึกษาค้นคว้ากระบี่หยกที่ซื้อจากนิทรรศการโบราณ

เขาไม่กังวลว่าตระกูลกิติมหาคุณจะมาหาถึงที่ ตอนที่ออกมา เขาจงใจทำลายกล้องวงจรปิดของร้านอาหาร ต่อให้ตระกูลฐิติมหาคุณจะค้นหาผ่านเบาะแสบางอย่างจนพบเบาะแสเข้า ก็คงจะถึงตอนที่เริ่มประชุมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการฝึกวิชาเวทย์อย่าแน่นอน

ถึงเวลาตอนนั้นรพีพงษ์จะเป็นคนไปหาตระกูลกิติมหาคุณ คนของตระกูลกิติมหาคุณก็ไม่จำเป็นต้องมาหาเขาเอง

ห้องของรพีพงษ์และหงส์อยู่ติดกัน ในเวลานี้หงส์กำลังเหม่อลอยอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

และรพีพงษ์ที่อยู่ห้องข้างๆกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ จ้องมองสังเกตกระบี่หยกในมืออย่างละเอียด

ฝีมือของกระบี่หยกนี้มีความประณีต ถ้าหากดูอย่างละเอียด พบว่ามีรอยเส้นที่แปลกประหลาดอยู่ด้านบน รพีพงษ์จ้องไปที่รอยเส้นเหล่านั้นแล้วศึกษาสักพัก แต่ก็ไม่เห็นทางออกใดๆ

บนร่างกายของกระบี่ สามารถมองเห็นตัวอักษรได้สองตัวอย่างคลุมเครือ เพียงแต่เพราะกระบี่หยกหักไปชิ้นหนึ่ง ดังนั้นคำทั้งสองนี้จึงไม่สมบูรณ์ แต่ว่ายังคงสามารถแยกแยะออกมาได้สองคำว่า“สยบเซียน”

ถ้าหากเดาไม่ผิด ชื่อของกระบี่หยกเล่มนี้ น่าจะเป็นสยบเซียน

เมื่อตอนที่เห็นชื่อนี้ของกระบี่หยก ในใจรพีพงษ์ยังประหลาดใจ กระบี่หยกเล่มนี้ กลับกล้าเรียกชื่อที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมามันมีพลังแบบนี้จริงๆหรือไม่ หรือเป็นคนทำกระบี่หยกเพื่อที่จะให้ดูแข็งแกร่งดังนั้นจึงจงใจตั้งชื่อนี้

“ยังไม่ต้องพูดถึงว่าบนโลกใบนี้มีเซียนหรือไม่ เพียงแค่ชื่อสยบเซียนแบบนี้ ก็ฟังดูน่ากลัวเล็กน้อย ถ้าหากกระบี่เล่มนี้สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ ฉันคงต้องพึ่งพามันให้ไร้คู่ต่อกรแล้ว”

รพีพงษ์กล่าวด้วยยิ้ม กระบี่เล่มนี้ทำจากหยก ส่วนใหญ่ถือเป็นเครื่องประดับ ที่สำคัญใบมีดไม่ได้มีขนาดเท่าฝ่ามือ อย่าว่าแต่สยบเซียน ต่อให้ตัดกระดาษยังเปลืองแรง

หลังจากสังเกตร่างกระบี่ของกระบี่หยกแล้วพบว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ รพีพงษ์ปลดปล่อยพลังจิตของตัวเองออกมา ตอนนั้นเขาก็อาศัยพลังจิตถึงค้นพบความพิเศษของกระบี่เล่มนี้ ข้างในใจคาดเดาต้องการจะค้นพบความลับของกระบี่เล่มนี้ คาดว่ายังต้องอาศัยพลังจิต

หลังจากที่พลังจิตค่อยๆครอบคลุมกระบี่หยกนี้ทีละนิด รพีพงษ์ก็เห็นแสงที่ส่องประกายจากด้านบนอีกครั้ง แต่นอกเหนือจากสิ่งนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแล้ว

“หรือว่ากระบี่หยกนี้ทำจากวัสดุที่มีความเป็นพิเศษ ดังนั้นตอนที่พลังจิตครอบคลุม ก็จะเปล่งแสงออกมา และไม่มีความลับอื่น?”

รพีพงษ์พึมพำกับตัวเอง ในเวลานี้เขาความสนใจของเขาอยู่ที่ช่องว่างของกระบี่หยกเล่มนี้ เขารู้สึกได้ว่าช่องว่างดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดเล็กน้อย กำลังดึงพลังจิตของเขา

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? รู้สึกเหมือนกระบี่หยกเล่มนี้กำลังต้องการพลังจิตของฉันเป็นอาหาร”

บนใบหน้ารพีพงษ์เผยให้เห็นถึงความสงสัย จากนั้นนำพลังจิตจดจ่ออยู่ที่บนช่องว่าง

ในขณะนี้ แรงดึงดูดของช่องว่างนั้นเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ดูดพลังจิตของรพีพงษ์เข้าไปในทันที

สีหน้าของรพีพงษ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน คาดไม่ถึงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ เขาต้องกลับจะเก็บพลังจิตกลับคืนมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ พลังจิตของตัวเองกลับไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองแล้ว

ช่องว่างนั้นเหมือนกับปากที่เติมเท่าไหร่ก็ไม่เต็ม ดูดพลังจิตของรพีพงษ์อย่างตะกละตะกลาม หลังจากนั้นไม่นานรพีพงษ์ก็รู้สึกอ่อนเพลีย แต่กระบี่เล่มนี้ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะหยุดลงมา

จิตวิญญาณในหัวสมองของรพีพงษ์ก็ไม่สามารถไปควบคุมกระบี่เล่มนี้ที่ดูดซับพลังจิตของตัวเองได้ เมื่อเวลาผ่านไป สังเกตว่าจิตวิญญาณในหัวสมองของตัวเองเริ่มโปร่งใสขึ้นเล็กน้อย

“ให้เถอะ กระบี่เล่มนี้คงจะไม่ทำให้จิตวิญญาณของฉันหมดไปใช่มั้ย และทำให้ฉันกลายเป็นคนโง่ที่ไร้สติเหรอ?”

รพีพงษ์แอบด่าในใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้ ถ้ารู้ก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เขาก็จะไม่ใช่พลังจิตในการสำรวจกระบี่หยกนี้อย่างตามใจ

ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง รพีพงษ์ก็กลายเป็นค่อนข้างเหนื่อย เปลือกตาแทบจะเปิดไม่ออก กระบี่เล่มนี้ทำให้จิตวิญญาณของเขาหมดลงอย่างมาก เขารู้สึกว่าถ้าตัวเองยังไม่รีบนอน อาจจะต้องตายในทันที

ในเวลานี้ ในที่สุดกระบี่หยกก็หยุดดูดซับพลังจิตของรพีพงษ์

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ แสงบนกระบี่หยกนี้ กลายเป็นแสงเจิดจ้ามากขึ้น และมันก็ไม่ธรรมดาเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป

เมื่อเห็นว่ากระบี่หยกหยุดลงมา รพีพงษ์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลับตาในทันที ฟุบลงหลับไปบนโต๊ะ

เขารู้สึกว่าตัวเองในสภาพแบบนี้ สามารถนอนหลับได้สามวันสามคืน

ในขณะที่รพีพงษ์กำลังหลับไป กระบี่หยกเล่มนั้นส่องแสงเจิดจ้า ส่องสว่างไปทั่วห้องทันที ในเวลาเดียวกันปราณกระบี่ก็ปรากฏขึ้นในห้อง ข้าวของทั้งหมดในห้องดูเหมือนจะกลัวปราณกระบี่เล่มนี้ก็สั่นขึ้นมาเล็กน้อย

ผ่านไปสักพัก กระบี่หยกก็กลายเป็นแสงสีทอง และเข้าไปในหัวสมองของรพีพงษ์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท