พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่929 จะให้คำอธิบายอย่างแน่นอน

บทที่929 จะให้คำอธิบายอย่างแน่นอน

บทที่929 จะให้คำอธิบายอย่างแน่นอน

รพีพงษ์จ้องมองไปที่ธีรนุชแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากว่า: “เขาคิดว่าฉันเป็นยาจก ไม่คู่ควรที่จะเข้าไปในชุมชนของพวกคุณ ยังชนรถของฉันด้วย”

เมื่อธีรนุชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ สีหน้าก็เริ่มแย่ลงมาก จู่ๆก็มีเหงื่อเย็นที่หน้าผาก ตอนนี้รพีพงษ์เป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลตรีศาสตร์ของหล่อน แม้ว่าธิติสรณ์จะไม่ใช่คนของตระกูลตรีศาสตร์ แต่ก็มีความสัมพันธ์กับตระกูลตรีศาสตร์

ถ้ารพีพงษ์เป็นเพราะเรื่องนี้ไม่ช่วยพี่สาวของหล่อน ถ้าอย่างนั้นทุกอย่างก็จบเห่แล้ว

ธีรนุชรีบหน้ามองไปที่ธิติสรณ์ พูดอย่างเย็นชา: “นายหมายความว่ายังไง? ทำไมถึงพูดแบบนี้กับคุณรพี?”

ธิติสรณ์ยังไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เอ่ยปากพูดกับธีรนุชว่า: “นุช ผู้ชายคนนี้เป็นเพียงแค่ยาจกจริงๆ คุณดูรถคันนี้ที่ขับ แค่รถSantanaพังๆเท่านั้นเอง ที่สำคัญเขายังด่าว่าฉัน ข้างในใจฉันโกรธมาก รู้สึกว่าคนแบบนี้ไม่มีสิทธิ์มาด่าฉัน ดังนั้นก็ชนรถของเขา”

เมื่อได้ยินธีรนุชก็โกรธมาก แทบอยากจะตบธิติสรณ์ไปหนึ่งครั้ง ยังไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของรพีพงษ์เป็นอย่างไร เพียงแค่ฐานะที่เขาเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ในเกียวโต ก็ไม่มีใครกล้าว่าให้เขาเป็นยาจกแล้ว

ตอนนี้ธิติสรณ์ไม่เพียงขวางรพีพงษ์ไว้ที่ด้านนอกชุมชน แต่ยังชนรถของรพีพงษ์ วันนี้ถ้าหากเขาไม่ช่วยรพีพงษ์ระบายความโกรธนี้ รพีพงษ์คงจะไม่ช่วยตระกูลตรีศาสตร์ของพวกเขาจริงๆ

หล่อนยกมือขึ้นทันที ตบไปที่บนใบหน้าของธิติสรณ์ ด่าว่า: “นายกำลังพูดจาเหลวไหลอะไร นายรู้มั้ยว่าเขาเป็นใครถึงได้กล้าพูดจาแบบนี้!”

ธิติสรณ์ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงธีรนุชจะลงมือตบเขาในทันใด

“เขา….เขาขับรถSantanaดูไม่เหมือนคนรวย หรือฉันพูดผิดเหรอ?”น้ำเสียงของธิติสรณ์อ่อนลงอย่างกะทันหัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นธีรนุชโกรธมากขนาดนี้

รพีพงษ์เห็นธีรนุชลงมือกับธิติสรณ์ จึงเอ่ยปากถามว่า: “เขาเป็นคนตระกูลตรีศาสตร์ของพวกคุณเหรอ?”

ธีรนุชรีบหันกลับมา เอ่ยปากพูดว่า: “เขาเป็นลูกชายของคนขับรถก่อนหน้านี้ของบ้านเรา ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณรพี ฉันจะให้คำอธิบายแก่คุณอย่างแน่นอน”

รพีพงษ์พยักหน้า เอ่ยปากพูดว่า: “หวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”

ธีรนุชพยักหน้าด้วยแววตาที่แน่วแน่ จากนั้นหันไปมองธิติสรณ์ พูดอย่างเย็นชาว่า: “ครั้งนี้นายสร้างปัญหาใหญ่มาก ต่อให้พ่อเขานายจะเป็นคนขับรถมาให้ตระกูลฉันมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ไม่มีใครคุ้มครองนายได้”

ธิติสรณ์ก็มึนงงไปทันที คาดไม่ถึงว่าเรื่องจะร้ายแรงขนาดนี้ เอ่ยปากถามว่า: “นุช นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ฉันก็แค่ชนรถของเขา ฉันชดใช้เงินคืนให้เขาก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“เหอะ? เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าชดใช้เงินก็แก้ไขได้แล้ว นายรู้มั้ยว่าเขาเป็นใคร?”ธีรนุชเอ่ยปากพูด

“เขาเป็นใคร?”ธิติสรณ์หันหน้ามองไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง ไม่ว่ามองยังไง ต่างก็รู้สึกว่าเขาดูไม่เหมือนคนที่มีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่

“เขาเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ที่สำคัญคุณรพียังเป็นแขกผู้มีเกียรติของตระกูลตรีศาสตร์ของฉัน ครั้งนี้คุณปู่ของฉันเชิญเขามา แต่นายกลับไม่ให้เขาเข้าไปในชุมชน ยังชนรถของเขาด้วย ธิติสรณ์ นายกล้าหาญมากจริงๆ!”ธีรนุชพูดอย่างโกรธๆ

ธิติสรณ์ตกตะลึงในทันที มองไปที่รพีพงษ์อย่างเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่ดูธรรมดาๆคนนี้ จะเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์!

ริมฝีปากของเขาซีดลง และสั่นขึ้นเล็กน้อย ในใจของเขารู้ดีท่าทีที่เขาเพิ่งปฏิบัติต่อรพีพงษ์ และด้วยฐานะของรพีพงษ์ เขาสร้างปัญหาที่ใหญ่!

“คุณ….คุณรพี ผมนึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคุณ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจ รถคันนี้ของคุณผมจะชดใช้ให้อย่างแน่นอน ผมขอโทษคุณสำหรับท่าทีของผมที่มีปฏิบัติคุณก่อนหน้านี้ คุณได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย”ธิติสรณ์รีบขอโทษรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว

รพีพงษ์ส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปากพูดว่า: “ถ้าหากฉันไม่ใช่นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ นายก็มีสิทธิ์พูดจาแบบนี้กับคนอื่นเหรอ? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินว่าไม่สามารถขับรถSantanaมาในสถานที่แบบนี้ เรื่องในวันนี้นายขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์ ดูว่าคนของตระกูลตรีศาสตร์จะให้คำอธิบายแบบไหนกับฉัน”

ธีรนุชฟังความหมายของรพีพงษ์ในคำพูดแบบนี้ของรพีพงษ์ออกมาได้ รู้ทันทีว่าควรทำอย่างไร

หล่อนมองไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “คุณรพี พวกเราเข้าไปจัดการเรื่องนี้ที่ข้างในเถอะ ก็ไม่อยู่รอที่ประตูชุมชนแล้ว”

รพีพงษ์พยักหน้า ธีรนุชรีบพารพีพงษ์เดินเข้าไปในด้านใน จากนั้นหล่อนก็ตะโกนใส่ธิติสรณ์ว่า: “นายก็มาด้วย แล้วบอกพ่อของนายด้วย ให้เขามาที่บ้านฉัน”

ใบหน้าของธิติสรณ์แสดงสีหน้าขมขื่น แต่ไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งของธีรนุช รีบเดินตามไปที่ด้านหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์หาพ่อของตัวเอง

“พ่อ พ่อมาที่ตระกูลตรีศาสตร์ มีเรื่องจะรบกวนพ่อ”น้ำเสียงของธิติสรณ์เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และไม่กล้าบอกตรงๆว่าตัวเองเรื่องอะไรผิดมา

เมื่อเห็นคนทั้งสามเดินเข้าไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่งอก โชคดีที่ตัวเองไม่สร้างความลำบากใจให้รพีพงษ์ไปพร้อมธิติสรณ์ ไม่อย่างนั้นวันนี้ก็จบเห่ไปพร้อมกันแน่

“โอ้พระเจ้าช่วย คาดไม่ถึงว่าเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ น้ำนิ่งไหลลึกจริงๆ เกรงว่านี่ถึงจะเป็นคนมีอำนาจที่ไม่ทะนงตนอย่างแท้จริง คนที่มีอำนาจมากขนาดนี้ กลับขับเพียงรถSantana นี่ดีกว่าผู้ชายที่ชอบอวดดีอย่างธิติสรณ์”

……

คฤหาสน์ตระกูลตรีศาสตร์

ในเวลานี้เมธีรากำลังนั่งอยู่บนโซฟา รอการมาของรพีพงษ์

เมื่อตอนที่รู้ว่าวันนี้รพีพงษ์จะมาที่ตระกูลตรีศาสตร์ ในใจของเขายังคงมีความสุขอยู่เล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นาน ธีรนุชพารพีพงษ์ไปที่ห้องรับแขกของคฤหาสน์ เมธีรารีบลุกขึ้นมาต้อนรับ เมื่อเห็นสีหน้าของธีรนุชและรพีพงษ์ไม่ค่อยดี เมธีราก็มึนงง

ต่อจากนั้น เขาก็เห็นธิติสรณ์ก็เดินตามเข้ามา ความสงสัยบนใบหน้ายิ่งมากขึ้น เอ่ยปากถามธีรนุชว่า: “เป็นอะไร? นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ธีรนุชมองไปที่เมธีราแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “เดี๋ยวคุณอาสรณ์ก็มาแล้ว รอเขามาแล้วค่อยพูด”

เมธีราทำได้เพียงพยัก เห็นได้จากการแสดงออกของทั้งสามคน คงจะไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของธิติสรณ์ก็มาถึงที่คฤหาสน์ตระกูลตรีศาสตร์

เข้าไปด้านใน เขาทักทายเมธีราและธีรนุชก่อน เอ่ยปากถามว่า: “คุณท่าน คุณหนู ไม่ทราบว่าพวกคุณเรียกผมมา มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”

ธีรนุชมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “อาถามลูกของตัวเองเถอะ”

ข้างในใจพ่อของธิติสรณ์ก็เอะใจ จากนั้นหันไปมองลูกชายของตัวเอง แล้วเอ่ยปากถาม: “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? แกไปสร้างเรื่องอะไรให้ฉันอีก?”

ในที่ธิติสรณ์ก็ไม่สามารถอดกลั้นมันไว้ได้ คุกเข่าลงต่อหน้าพ่อของเขาทันที และตะโกนร้องไห้ขึ้นมา

“พ่อ พ่อต้องช่วยผมนะ ผมไม่รู้จริงๆว่าท่านนั้นคือนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ผมรู้ตัวว่าผิดแล้ว พ่อไปขอร้องท่านเมธี ให้เขาช่วยขอความเมตตาให้ผมด้วย”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท