พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่912 วิชาสะกดจิต

บทที่912 วิชาสะกดจิต

บทที่912 วิชาสะกดจิต

ในห้องโถงของร้านอาหาร รพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคนได้นั่งที่หน้าโต๊ะแล้ว และผู้หญิงเหล่านั้นที่เรวัตเชิญมาก็ทยอยกันนั่งลงมา

รพีพงษ์สังเกตดูผู้หญิงเหล่านี้อย่างละเอียดแวบหนึ่ง พบว่าพวกหล่อนต่างก็เป็นแค่คนธรรมดา มีลักษณะที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวคือสวยงามมาก

สิ่งนี้ทำให้ในใจของรพีพงษ์สงสัยว่าเรวัตฉวยโอกาสที่เรียกว่าเชิญอาจารย์มาทานอาหารหรือเปล่า จงใจมาอยู่กับสาวๆ

หงส์มองไปที่ผู้หญิงเหล่านั้นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยใบหน้าแปลกประหลาด กระซิบบอกกับรพีพงษ์ว่า: “ไหนบอกว่าเชิญอาจารย์มาทานอาหารไง เรียกหญิงสาวมากมายขนาดนี้มาทำอะไร?”

“เรื่องนี้ต้องถามตัวของเรวัตคนนั้นแล้ว ดูไปก่อนค่อยว่ากันเถอะ ดูว่าอาจารย์ที่พูดถึงเป็นใคร ถ้าหากสถานการณ์ไม่ค่อยดี พวกเราก็ค่อยออกจากที่นี่ก็พอแล้ว”รพีพงษ์ตอบกลับ

หงส์พยักหน้า และไม่พูดอะไรอีก

สามารถมองเห็นความสงสัยบนใบหน้าของผู้หญิงเหล่านั้นได้ เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าเรวัตจะเชิญผู้หญิงมากมายขนาดนี้ สถานการณ์แบบนี้แตกต่างจากที่เรวัตบอกพวกหล่อน

แต่ในเมื่อมาแล้ว จะจากไปแบบนี้ก็คงจะไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ที่เรวัตบอกยังไม่ปรากฏตัว ถ้าหากไปแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะขัดใจกับคุณชายของตระกูลกิติมหาคุณ ยังขัดใจกับอาจารย์อีก สำหรับพวกหล่อนแล้วได้ไม่คุ้มเสีย

ผ่านไปสักพัก เรวัตก็เดินออกมาจากข้างใน อาจารย์ทั้งสามท่านนั้นก็เดินตามออกมาด้วยกัน

“ฉันมาแนะให้ทุกคนก่อน ทั้งสามท่านนี้ ก็คืออาจารย์ที่ฉันเชิญมา ท่านนี้คือจิรัสย์ อาจารย์จิรัสย์ ท่านนี้คือธรณินทร์ อาจารย์ธรณินทร์ ท่านนี้คือนิรวิทย์ อาจารย์นิรวิทย์”

เรวัตแนะนำอาจารย์ทั้งสามนี้ให้ทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารรู้จัก

สายตาของรพีพงษ์มองไปที่ทั้งสาม และไม่พบความผันผวนของเน่ยจิ้งอยู่บนตัวของทั้งสามคน แต่พลังอานุภาพบนตัวทั้งสามคนแตกต่างจากของคนธรรมดาจริงๆ ดังนั้นรพีพงษ์จึงใช้พลังจิตในการตรวจสอบดูทั้งสามอีกครั้ง พบว่าทั่วตัวสามคนมีชั้นของแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่กระจายออกมาจากร่างกาย

ถ้าหากเดาไม่ผิด ทั้งสามนี้ควรได้รับการฝึกฝนวรยุทธบางอย่างของแวดวงวิชาเวทย์ แม้ว่าพวกเขาไม่มีเน่ยจิ้ง แต่พลังที่ฝึกฝนออกมาจากวรยุทธแบบนี้ก็ไม่ได้แย่กว่าเน่ยจิ้ง

จิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนยิ้มให้คนที่โต๊ะเล็กน้อย เมื่อตอนที่สายตาตกอยู่ที่บนตัวรพีพงษ์ ก็ตั้งใจมองไปสองวินาทีเป็นพิเศษ จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งลงที่หน้าโต๊ะ และใช้สายตาที่ส่งสูงจับจ้องมองไปที่ผู้คนที่อยู่หน้าโต๊ะ

หญิงสาวที่นั่งอยู่ในที่นี้ต่างก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย หลายคนยืดตัวตรงขึ้น โดยต้องการรักษาความประทับใจที่ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์

เรวัตก็นั่งลงมา จากนั้นก็เริ่มให้พนักงานเสิร์ฟอาหาร หลังจากที่โต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร เรวัตมองไปที่ทุกคน เอ่ยปากว่า: “พวกคุณน่าจะอยากรู้มากว่าอาจารย์ทั้งสามนี้ชำนาญอะไร ต่อไปก็ให้ฉันมาแนะนำให้ทุกคน”

“อาจารย์ทั้งสามท่านนี้ ชำนาญที่สุด ก็คือวิชาสะกดจิตและวิชาฝึกค และที่ฉันเชิญพวกคุณมา ความจริงแล้วก็เพื่อช่วยให้อาจารย์ทั้งสามท่านฝึกฝนวิชาฝึกคให้สำเร็จ อาจารย์ทั้งสามท่านจำเป็นต้องร่วมประเวณีกับพวกคุณ มาเพิ่มพลังวิชา สามารถช่วยเหลืออาจารย์ทั้งสามท่านได้ พวกคุณน่าจะรู้สึกเป็นเกียรติ”

ทันทีที่เรวัตพูดจบ ใบหน้าของทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง คาดไม่ถึงเรวัตกลับพูดคำต่ำทรามเช่นนี้ออกมาได้

“นายหมายความว่าอย่างไร? ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นกับพวกเขา? นายคงจะไม่ใช่ว่าจงใจหลอกพวกเรามาใช่มั้ย?”หงส์ตะโกนใส่เรวัตอย่างรุนแรง

เรวัตยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “ในเมื่อทุกคนต่างก็นั่งลงมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะไม่ปิดบังแล้ว หล่อนพูดถูก ฉันจงใจหลอกพวกคุณมาจริงๆ”

“นายนี่มันสารเลว หรือว่านายไม่กลัวว่าชื่อเสียงของตระกูลกิติมหาคุณจะถูกทำลายด้วยเงื้อมมือของนายเหรอ?”หงส์จ้องไปที่เรวัตแล้วตะโกน และผู้หญิงที่เหลือสายตาต่างก็แสดงสายตาที่รังเกียจให้กับเรวัต

“เมื่อกี้นี้ฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ อาจารย์ทั้งสามทั้งชำนาญวิชาสะกดจิต เมื่อพวกคุณโดนวิชาสะกดจิตของพวกเขา แล้วจะมีใครรู้บ้างว่าฉันหลอกพวกคุณ?”ใบหน้าของเรวัตเต็มไปด้วยความเฉยเมย

ทันทีที่เสียงของเขาลดลง มือของจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนเริ่มจีบมือร่ายมนต์ จากนั้นพลังประหลาดแปลกมากก็แผ่ซ่านออกมาจากบนตัวของทั้งสามคน ปกคลุมทุกคนที่อยู่ในร้านอาหารไปทันที

หงส์ที่เดิมทีว่าจะตั้งใจจะถกเถียงกับเรวัตและคนที่เรียกว่าอาจารย์ทั้งสามคนก็ถูกปกคลุมด้วยพลังนี้ นั่งลงมาอย่างเหม่อลอยในทันที คนทั้งคนก็สับสนมึนงง ราวกับว่าสูญเสียจิตวิญญาณ

รพีพงษ์ก็รู้สึกได้ถึงพลังนั้นที่ปกคลุมอยู่บนร่างกายของตัวเอง จากนั้นก็เริ่มส่งผลต่อจิตวิญญาณของตัวเอง พลังนี้พยายามที่จะปิดผนึกสติสัมปชัญญะการรับรู้ของรพีพงษ์ หลังจากที่จิตวิญญาณในหัวสมองของรพีพงษ์รับรู้ บนร่างกายก็แผ่แสงออกมาอย่างฉับพลัน จากนั้นรพีพงษ์ก็รู้สึกถึงพลังที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เขาเหลือบมองไปที่รอบๆ พบว่าผู้หญิงทุกคนรวมทั้งหงส์ดูเหมือนกับว่าจะโดนควบคุมจิตใจ นั่งเหม่อลอยอยู่ที่เดิม ราวกับไม่ได้รับคำสั่ง ก็ไม่ยอมเคลื่อนไหวเหมือนกับหุ่นเชิด

เพื่อที่จะรู้แน่ชัดว่าเรวัตและสามคนนี้ที่เรียกว่าอาจารย์ต้องการจะทำอะไร รพีพงษ์อยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว แต่กลับคอยสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

อาจารย์ทั้งสามคนต่างลุกขึ้นยืน จิรัสย์มองไปที่เรวัตแล้วยิ้ม เอ่ยปากว่า: “ผู้คนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว เพียงแค่โดนวิชาสะกดจิตของพวกเรา นอกจากพวกเราตาย หรือว่าพวกเราเป็นคนคลายมนต์สะกดบนร่างกายของพวกเขาเอง ภายในหนึ่งเดือน พวกเขาจะเชื่อฟังเราทั้งหมด”

“ครั้งนี้คุณชายเรวัตได้หาหญิงที่คุณภาพสูงมามากมาย ไม่เพียงแต่วิชาฝึกคของพวกเราจะสามารถที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น ยังสามารถมีความสุขสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ทีเดียว”

บนใบหน้าของเรวัตก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เอ่ยปากว่า: “อาจารย์ทั้งสามท่านมีความสุขก็พอ ฉันก็จะเลือกสักสองคนมาสนุก หลังจากสนุกเสร็จ ยังจะส่งพวกหล่อนให้อาจารย์ทั้งสามท่าน”

หลังจากพูดเสร็จ สายตาของเรวัตก็มองไปที่บนตัวรพีพงษ์

“เด็กคนนั้นก็ถูกอาจารย์ทั้งสามทั้งท่านควบคุมแล้วเหรอ?”เรวัตเอ่ยปากถาม

จิรัสย์พยักหน้า แล้วพูดว่า: “ใครก็ตามที่ไม่รู้วิชาเวทย์ เพียงแค่โดนวิชาสะกดจิตของพวกเรา ก็จะสูญเสียการควบคุมสติของตัวเอง แม้ว่าเด็กคนนี้จะเป็นนักรบ แต่ดูอายุแล้วก็ไม่น่าจะเป็นนักรบที่สามารถบรรลุถึงแดนดั่งเทพได้ คงจะต้านทานวิชาสะกดจิตของพวกเราไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้คุณชายเรวัตสามารถจัดการกับเขาได้ตามความต้องการ”

เรวัตยิ้มและเดินไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “เด็กน้อย แกคงจะคาดไม่ถึง ที่ฉันเชิญพวกแกมา ความจริงคืออยากจะสั่งสอนแกอย่างโหดๆ แกแค่คนต่างถิ่นคนหนึ่ง กลับกล้ามาแย่งของกับฉัน ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีจริงๆ”

“ตอนนี้แกโดนวิชาสะกดจิตของอาจารย์ทั้งสามท่าน แม้แต่ชีวิตของแกก็อยู่ในกำมือของฉัน ฉันจะดูว่าแกยังจะแย่งของกับฉันยังไงอีก!”

หลังจากพูดจบ เรวัตก็หยุดลงมาตรงหน้ารพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “เลียรองเท้าให้ฉันก่อน ให้ฉันได้ดูว่ากลยุทธ์ของอาจารย์ทั้งสามท่านวิเศษเหมือนราวกับในตำนานจริงๆหรือเปล่า”

รพีพงษ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หลังจากที่เรวัตเห็น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงคนที่โดนวิชาสะกดจิตจะเชื่อฟังขนาดนี้จริงๆ

อย่างไรก็ตามรพีพงษ์ไม่ได้เลียรองเท้าให้เขาตามที่เรวัตบอก แต่กลับแสดงให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่เขา จากนั้นเตะไปที่บนตัวเรวัตในทันที

ร่างของเรวัตบินกลับออกไปทันที กระแทกกับบนกำแพง คนทั้งคนก็ฝังอยู่ในกำแพงโดยตรง

“ขอโทษด้วย ฝีมือของอาจารย์ทั้งสามคนนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้วิเศษอย่างที่แกคิด”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท