พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่914 เขาเสียชีวิตแล้ว

บทที่914 เขาเสียชีวิตแล้ว

บทที่914 เขาเสียชีวิตแล้ว

เดิมทีธรณินทร์และนิรวิทย์ทั้งสองคนก็อยากจะอาศัยวิชาสะกดจิตมาถ่วงเวลาสักพัก ต่อให้จะไม่สามารถควบคุมจิตใจของรพีพงษ์ไว้ได้ ถ่วงเวลาสักพักก็ไม่น่าจะมีปัญหา

แต่เมื่อเห็นท่าทางของจิรัสย์ ในใจทั้งสองก็ตกใจ ตอนนั้นพวกเขาต่างรู้สึกว่าจิรัสย์ใช้วิชาสะกดจิตออกมาแล้ว แต่ในพริบตาจิรัสย์ก็กลายเป็นแบบนี้ อธิบายได้เพียงว่ารพีพงษ์โต้กลับด้วยกลยุทธ์ที่ทรงพลังกว่า ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่จะเกิดสถานการณ์แบบนี้

ในใจของทั้งสองคนก็ตกใจ พวกเขาคิดไม่ออก ตกลงว่ารพีพงษ์เป็นสัตว์อะไรกันแน่ มีความแข็งแกร่งขนาดนี้อยู่ในศิลปะการต่อสู้แล้ว อยู่ในวิชาเวทย์กลับน่ากลัวขนาดนี้ ที่สำคัญอายุยังน้อยขนาดนี้ ซึ่งนี่จะต้องมีความสามารถแค่ไหน ถึงจะสามารถบรรลุถึงระดับแบบนี้ได้ภายในช่วงเวลาสั้นเช่นนี้?

รพีพงษ์มองไปที่จิรัสย์ที่อาเจียนฟองขาว ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อกี้นี้เขามัวแต่ปลดปล่อยพลังจิต ในขณะเดียวกันก็ระวังการกระทำของทั้งสามคน ตอนที่จิรัสย์ใช้วิชาสะกดจิต เขาใช้พลังจิตสะท้านกลับไปทันที คาดไม่ถึงว่าจิรัสย์จะกลายเป็นสภาพแบบนี้

รพีพงษ์ไม่ลังเล ยกเท้าขึ้นเหยียบตรงไปที่หน้าอกของจิรัสย์ จิรัสย์กระตุกไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

สำหรับคนที่ใช้วิธีการชั่วร้ายที่ไม่เหมาะสมลงมือกับเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสา รพีพงษ์ไม่จำเป็นต้องมีความเมตตาเป็นธรรมดา ถ้าเดาไม่ผิด ที่ผ่านทั้งสามคนนี้คงจะใช้วิชาสะกดจิตทำร้ายหญิงสาวมาไม่น้อย ดังนั้นฆ่าทิ้งทันที นี่ถึงจะวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้รับอันตรายในอนาคต

เมื่อธรณินทร์และนิรวิทย์ทั้งสองคนเห็นว่าจิรัสย์เสียชีวิตด้วยเงื้อมมือของรพีพงษ์ ไม่พูดจาแม้แต่คำเดียวก็ลุกขึ้นมาจากบนพื้น และต้องการวิ่งออกไปข้างนอก

ร่างของรพีพงษ์กะพริบเดียว ก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองคน

“เขาได้ไปรายงานตัวที่พญายมแล้ว พวกแกทั้งสองคนจะทิ้งเขาไว้ข้างหลังแบบนี้ ไม่ค่อยจะดีมั้ง”รพีพงษ์กล่าวด้วยราบเรียบ

บนใบหน้าของธรณินทร์และนิรวิทย์เต็มไปความสิ้นหวัง ต่างก็คุกเข่าเสียงดังโครมลงมาอยู่บนพื้น

“น้องชาย ขอร้องปล่อยพวกเราไปเถอะ จากนี้ไปพวกเราจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก พวกเราจะแก้ไขความชั่วร้ายและกลับไปเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย”

รพีพงษ์ส่งเสียงเย็น เอ่ยปากพูดว่า: “ร้องขอความเมตตา ไปพูดกับพญายมเถอะ”

หลังจากพูดจบ รพีพงษ์เตะออกอย่างรวดเร็ว และเตะบนลำคอของธรณินทร์และนิรวิทย์ทั้งสองคน

เห็นเพียงมีเสียงดังกึกกึกขึ้นมาจากในลำคอของทั้งสองคน จากนั้นล้มลงอยู่บนพื้น อ่อนลงไป

หลังจากที่กำจัดทั้งสามคนแล้ว ผู้หญิงที่โดนวิชาสะกดจิตเหล่านั้นก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ

หญิงสาวทุกคนมองไปรอบๆด้วยความสยดสยอง เมื่อกี้นี้พวกหล่อนเหมือนกับฝันร้าย รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียการควบคุมของร่างกาย ที่สำคัญเหมือนราวกับว่าจะทำตามที่คนอื่นบอก ความรู้สึกนี้น่ากลัวจริงๆ

สิ่งแรกที่หงส์ทำหลังจากที่ฟื้นคืนสติ ก็คือการมองไปที่ด้านข้างของตัวเอง อยากแน่ใจว่ารพีพงษ์เป็นอะไรมั้ย

เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์ไม่ได้นั่งอยู่ที่นั่งข้างๆ หล่อนรีบมองไปรอบๆอีกครั้ง และเมื่อเห็นว่าจิรัสย์ธรณินทร์และนิรวิทย์ทั้งสามคนล้มลงกับพื้นโดยไม่มีลมหายใจ ตอนที่รพีพงษ์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคน หล่อนก็โล่งใจอย่างเงียบๆเช่นกัน

หล่อนรีบลุกขึ้นยืน เดินไปที่ข้างรพีพงษ์ เอ่ยปากถามว่า: “นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วพูดว่า: “ปัญหาก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ทั้งสามคนนี้ที่ชำนาญวิชาสะกดจิต เรวัตร่วมมือกับพวกเขาหลอกลวงหญิงสาวเหล่านี้มา เพื่อให้ทั้งสามคนฝึกฝนวิชาฝึกค ดูเหมือนว่าตระกูลกิติมหาคุณก็ไม่ใช่ของดีอะไร กลับสั่งสอนของแบบนี้ออกมา”

เมื่อได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ในใจหงส์ก็หวาดกลัวอย่างฉับพลัน ถ้าหากวันนี้ไม่ใช่รพีพงษ์ หล่อนคงจะถูกเรวัตและเดรัจฉานสามตัวนี้ทำลายแล้ว

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ แววตาของหงส์ที่มองไปที่รพีพงษ์มีความรู้สึกซาบซึ้งเพิ่มมาด้วย ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกถึงความปลอดภัยจากบนตัวของรพีพงษ์ เหมือนราวกับว่าเพียงแค่มีรพีพงษ์อยู่ ความยากลำบากใดๆก็จะได้รับการคลี่คลายให้หมดไปได้อย่างง่ายดาย

“ถ้าอย่างนั้นคุณชายตระกูลกิติมหาคุณล่ะ?”หงส์เห็นเพียงร่างของจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคน และไม่ทันได้สังเกตเห็นเรวัต จึงเอ่ยปากถามหนึ่งประโยค

รพีพงษ์ยื่นมือชี้นิ้วไปที่กำแพง หงส์มองไปตามมือของรพีพงษ์ หลังจากที่เห็นร่างทั้งร่างของเรวัตฝังอยู่ในกำแพง ก็อ้าปากกว้างในทันที

นี่จะต้องมีพละกำลังมากแค่ไหน ถึงสามารถฝังคนเป็นๆเข้าไปด้านในได้

หงส์เดินไปที่ข้างกำแพง เห็นว่าใบหน้าของจิรัสย์ที่ซีดราวกับกระดาษ แววตาก็สูญเสียความสดใส หล่อนยื่นมือไปสัมผัสไว้ที่หน้าจมูกของเรวัต สีหน้าท่าทางดูตกใจ เอ่ยปากพูดว่า: “เขาเสียชีวิตแล้ว”

รพีพงษ์ยักไหล่ และไม่รู้สึกผิดอะไร เรวัตร่วมมือกับจิรัสย์พวกเขาทั้งสามคนทำเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมแบบนี้ รวมทั้งอยากจะลงมือกับรพีพงษ์ ตายไปแล้วก็สมควรได้รับบาปกรรม

“ตระกูลกิติมหาคุณมีอำนาจมากอยู่ในเมืองอยู่เย็น ความแข็งแกร่งของผู้นำตระกูลกิติมหาคุณเมื่อเทียบกับยอดฝีมือแดนดั่งเทพแล้ว ก็ไม่ได้แย่กว่า ลูกชายของเขาตายอยู่ในเงื้อมมือของพวกเรา ตระกูลกิติมหาคุณคงจะไม่มีทางยอมวางมือยุติเรื่องราวอย่างแน่นอน”หงส์เอ่ยปากพูดอย่างกังวล

“เขารนหาที่เอง ถ้าหากผู้นำตระกูลกิติมหาคุณก็ไม่มีสติปัญญาเหมือนลูกชายของเขา ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้เขาไปอยู่เป็นเพื่อนกับลูกชายของเขา”รพีพงษ์กล่าวเสียงราบเรียบ

ในเวลานี้หงส์สัมผัสได้ถึงพลังอานุภาพที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากบนตัวของรพีพงษ์ ก็เหมือนราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามที่ลงมา อยู่บนโลก ใครก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรุกรานความน่าเกรงขามของเขาได้

ในเวลานี้หงส์เลือกที่จะเชื่อรพีพงษ์ ในใจของหล่อน รพีพงษ์มีคุณสมบัติคุ้มค่ากับที่หล่อนจะเชื่อ

ไม่พูดจาเรื่องไร้สาระ รพีพงษ์และหงส์ปลอบใจหญิงสาวเหล่านั้นสักพัก บอกพวกหล่อนว่าอย่าเผยแพร่เรื่องราวในวันนี้ออกไป ไม่อย่างนั้นจะนำพาหายนะถูกฆ่ามาสู่ตัวเองได้

หญิงสาวเหล่านี้ก็รู้ว่าตัวเองเพิ่งรอดพ้นมาจากความตาย รู้สึกซาบซึ้งต่อรพีพงษ์พวกเขาสองคนเป็นอย่างมาก และแสดงออกมาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ออกไปอย่างแน่นอน

จากนั้นภายใต้การนำพาของรพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคน กลุ่มคนได้ออกจากร้านอาหารนี้ หญิงเหล่านั้นกลัวว่าตระกูลกิตติมหาคุณจะมาหาถึงที่ ดังนั้นปรึกษาหารือกันว่าจะออกจากเมืองอยู่เย็นไปช่วงหนึ่ง เพื่อหลีกหนีจากอันตราย

ในคืนนั้น

บ้านใหญ่ตระกูลกิติมหาคุณ นิธินาถอยู่ในห้องสมุด

นิธินาถกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ ถือผ้าค่อยๆเช็ดกระบี่สั้นเล่มหนึ่งที่เปล่งแสงด้วยแสงจันทร์ มีตัวอักษรยันต์ที่ซับซ้อนมากบนกระบี่ ยังคงมีแสงสีทองไหลเวียนระหว่างอักษรยันต์ ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก

กระบี่เล่มนี้เป็นกระบี่บินที่ทำให้นิธินาถมีเชื่อเสียงอย่างมากในแวดวงวิชาเวทย์ พูดให้ถูก กระบี่เล่มนี้เป็นอาวุธวิเศษ เป็นสมบัติที่ตกทอดมาจากตระกูลกิติมหาคุณรุ่นสู่รุ่น มีเพียงผู้นำที่ดำรงอยู่ตำแหน่งถึงจะสามารถมีได้ หลังจากที่อาวุธวิเศษยอมรับเจ้านายแล้ว จึงจะสามารถใช้พลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดได้

ขณะที่นิธินาถกำลังเช็ดกระบี่บิน คนคนหนึ่งก็รีบวิ่งบุกเข้ามาจากด้านนอกด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นคุกเข่าลงตรงหน้านิธินาถ

“คุณ….คุณท่าน ไม่ดีแล้ว คุณชายเขา เขา….”

“คุณชายไปก่อเรื่องใหญ่อะไรอีก? ทำไมถึงต้องตื่นตระหนกขนาดนั้น?”สายตาของนิธินาถจ้องไปที่คนคนนั้นแล้วพูด

“คุณชายตายอยู่ที่ร้านอาหารเจนนี่!”

“แกว่าอะไรนะ!”

นิธินาถลุกขึ้นยืนทันที ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ ทันใดนั้นโต๊ะก็แตกกระจายไปทั่ว ต่อจากนั้น กระบี่บินก็ลอยขึ้นไปในอากาศ เสียบตรงไปที่ตำแหน่งตรงกลางคิ้วของคนคนนั้น มีเพียงกระบี่บินที่ผ่านไป ตรงกลางคิ้วของคนคนนั้นมีเส้นเลือดบางๆปรากฏขึ้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท