พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่921เสื้อเกราะสะท้อนกลับ

บทที่921เสื้อเกราะสะท้อนกลับ

ทที่921เสื้อเกราะสะท้อนกลับ

เมื่อทุกคนเห็นกระบี่ลวงตาท่าธันเดอร์ขนาดใหญ่ อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นๆเข้าไป การโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรุนแรงกว่าสิ่งที่เรียกว่ากลยุทธ์วิชาเวทย์ของพวกเขาไปกี่เท่า

หลังจากที่ศิลปะการต่อสู้บรรลุถึงแดนดั่งเทพ ไม่ได้อ่อนแอกว่าไปวิชาเวทย์ที่อยู่ระดับมนต์ขลังมากนัก ที่สำคัญเห็นได้ชัดว่าพลังแข็งแกร่งมากขึ้นกว่า

แน่นอนว่า นี่เป็นเพราะวิชาเวทย์ในปัจจุบันเสื่อมคลายไม่เป็นรูปเป็นร่าง สิ่งที่เหลือรอดลงมาได้ ล้วนแต่ไม่ได้เรื่อง ในบันทึกที่ผ่านมา วิชาเวทย์มีพลังในการทำลายล้างโลก

เช่นเดียวกับค่ายเก้ามังกรสังหารของแผนผังค่ายกลวิเศษของตระกูลกิติมหาคุณ คงจะตกทอดมานานแล้วเมื่อตอนที่วิชาเวทย์เจริญรุ่งเรือง ถ้าหากวิชาเวทย์ยังเจริญรุ่งเรืองจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลกิติมหาคุณจะไม่รู้แม้แต่วิธีเปิดแผนผังค่ายวิเศษ

ดังนั้นรพีพงษ์ก็มีความสงสัยอยู่ในใจว่าทำไมวิชาเวทย์ถึงได้เสื่อมคลาย ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับความลับที่ยิ่งใหญ่มากแน่ๆ

เมื่อเห็นว่ากระบี่ลวงตาขนาดใหญ่กำลังจะฟันไปบนร่างของนิธินาถ ทุกคนต่างก็รู้สึกวิตกกังวลแทนนิธินาถ

เพียงแต่ตัวของนิธินาถเองก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด กลับแสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยแทน

หลังจากที่รพีพงษ์สังเกตเห็นยิ้มเยาะเย้ยนี้ ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ผุดขึ้นมาในใจ ก็ถอยกลับไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว

แต่ในเวลานี้กระบี่ลวงตาฟันอยู่บนร่างกายของนิธินาถ และนิธินาถไม่มีความตั้งใจที่ต้านทานหรือว่าหลบหนีแม้แต่น้อย

เขายืนอยู่ที่เดิม มองดูกระบี่ลวงตาฟันอยู่บนร่างกายของตัวเอง ต่อจากนั้น บนผิวหนังของเขา ค่อยๆมีอักษรยันต์สีทองปรากฏขึ้นทีละตัว บนพื้นผิวร่างกายของเขากลายเป็นพลังเกราะแสงสีทอง ต้านทานการโจมตีของรพีพงษ์ทันที

ในพริบตาเดียว เกราะแสงสีทองนั้นดูดซับพลังการโจมตีของรพีพงษ์ทั้งหมด จากนั้นโดยที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยก็กระแทกไปที่บนร่างกายของรพีพงษ์ทั้งหมด

รูม่านตาของรพีพงษ์หดตัวลง ไม่คาดคิดว่านิธินาถยังมีกลยุทธ์แบบนี้ ที่สำคัญทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในระหว่างพริบตาเดียวแล้วก็หายไป ต่อให้รพีพงษ์จะรับรู้ถึงอันตราย ก็ไม่ทันที่จะรับมือกับมันได้

พลังที่นิธินาถสะท้อนกลับมากระแทกไปบนร่างกายของรพีพงษ์ทั้งหมด ซึ่งนี่เทียบเท่ากับว่าตัวของเขาเองโจมตีท่าธันเดอร์ใส่ตัวเองอย่างเต็มกำลัง ระดับการทำร้ายแบบนี้ก็ยังคงน่ากลัวมาก

ร่างกายของรพีพงษ์บินออกไปทันที บินออกไปในกลางอากาศมากกว่าสิบเมตร จากนั้นก็กระแทกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง

เลือดหนึ่งคำไหลกระอักออกมาจากปากของรพีพงษ์ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดลงมาก

หงส์ที่ดูการต่อสู้อยู่ข้างๆเมื่อเห็นเช่นนี้ รีบพุ่งไปทางรพีพงษ์ พยุงเขาขึ้นมา ถามด้วยความเป็นห่วงมากว่า: “นายไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”

รพีพงษ์หายใจเข้าลึก เอ่ยปากว่า: “ยังไม่ถึงตาย คาดไม่ถึงว่าเขากลับมีกลยุทธ์แบบนี้ ครั้งนี้ฉันประมาทเกินไปจริงๆ”

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างก็ประหลาดใจกับกลยุทธ์เมื่อกี้นี้ของนิธินาถ ไม่รู้ว่าเขาสะท้อนการโจมตีของรพีพงษ์กลับมาได้อย่างไร

สายตาของรพีพงษ์จับจ้องไปที่บนร่างกายของนิธินาถ เอ่ยปากถามว่า: “เมื่อกี้นี้แกใช้กลยุทธ์อะไร ทำไมถึงสามารถสะท้อนการโจมตีของฉันกลับมาได้?”

เมื่อนิธินาถเห็นว่ารพีพงษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่รีบร้อนลงมือกับเขาต่อ แต่กลับยิ้มแล้วพูดว่า: “แกพูดถูก การต่อสู้ระยะประชิดฉันไม่ชำนาญจริงๆ เหตุผลนี้ฉันรู้ดีกว่าแก ดังนั้นแกคิดว่าฉันจะให้โอกาสแกได้เข้าใกล้ฉันเหรอ? ถ้าหากสามารถเข้าใกล้ฉันได้อย่างง่ายดาย นั่นก็เป็นเพียงแค่ฉันจงใจเท่านั้นเอง”

“เสื้อผ้าตัวด้านในของฉัน เรียกว่าเสื้อเกราะสะท้อนกลับ เป็นอาวุธวิเศษที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลกิติมหาคุณของฉัน อาวุธวิเศษนี้สามารถต้านทานการโจมตีของศัตรูแทนฉันได้ และสามารถสะท้อนกลับได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์”

“ในช่วงหลายปีที่ผ่านฉันเอาชนะยอดฝีมือศิลปะการต่อสู้มาไม่น้อย ในบรรดาพวกเขามีมากกว่าครึ่งหนึ่ง ความจริงไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับกระบี่บินของฉัน แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับเสื้อเกราะสะท้อนตัวนี้”

“นักรบอย่างพวกแก มักจะคิดว่าประชิดตัวของพวกเราแล้ว พวกเราก็จะทำอะไรพวกแกไม่ได้ เหตุผลจริงก็เป็นแบบนี้ แต่พวกเราไม่ได้โง่ ไม่อย่างนั้นตอนนี้แกก็จะไม่มีทางตกอยู่ในสภาพแบบนี้”

“เด็กน้อย ความแข็งแกร่งของแกไม่ได้อ่อนแอ ที่สำคัญอายยังน้อยขนาดนี้ เรียกได้ว่ามีความสามารถที่โดดเด่นมาก น่าเสียดายแกฆ่าลูกชายของฉัน ต่อให้แกจะมีความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุด วันนี้ฉันก็จะต้องฆ่าแกที่นี่ เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายของฉัน!”

ทุกคนมองไปที่นิธินาถอย่างเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงว่านิธินาถไม่เพียงมีแต่กระบี่บินที่สามารถฆ่าคนได้ในอากาศ บนร่างกายกลับยังสวมใส่อาวุธวิเศษสะท้อนการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต้องนับถือเลื่อมใสตระกูลกิติมหาคุณในฐานะลูกพี่ใหญ่ในแวดวงวิชาเวทย์ ภูมิหลังไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเทียบได้

สีหน้ารพีพงษ์เต็มไปด้วยความแน่วแน่ เขาประเมินนิธินาถต่ำไปจริงๆ อาวุธวิเศษที่สามารถสะท้อนการโจมตีของคนอื่น เขาก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

แต่ในใจรพีพงษ์รู้ดีว่า อาวุธวิเศษของนิธินาถสามารถใช้งานได้เพียงครั้งเดียวภายในช่วงเวลาสั้นๆ ที่สำคัญพลังที่สามารถสะท้อนกลับก็มีขีดจำกัด ไม่อย่างนั้นนิธินาถก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหว ยืนอยู่ที่เดิมให้คนอื่นโจมตี เพียงแค่สะท้อนกลับก็สามารถสะท้อนให้ศัตรูตายได้

นิธินาถมองไปทางรพีพงษ์แล้วเดินเข้าไป บนใบหน้าปรากฏความอาฆาต กระบี่บินลอยอยู่ข้างๆกายนิธินาถ ดูเหมือนว่าจะแทงมาที่รพีพงษ์ได้ตลอดเวลา

“เด็กน้อย ตอนนี้แกรีบคุกเข่าลงให้ฉันเดี๋ยวนี้ ก้มกราบคำนับให้หัวมีเสียงต่ออากาศสิบครั้ง ถือได้ว่าเป็นการแสดงความเคารพต่อวิญญาณที่อยู่บนสวรรค์ของลูกชายฉัน ฉันสามารถพิจารณาให้แกตายอย่างไม่ทรมาน ไม่อย่างนั้น ฉันจะค่อยๆทรมานแก จนกว่าแกจะทนไม่ไหว ค่อยฆ่าแกทิ้ง”นิธินาถเอ่ยปากว่า

รพีพงษ์หรี่ตาลง ส่งเสียงเย็นชาว่า: “ฝันไปเถอะ!”

“หึ ถ้าอย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

หลังจากพูดจบ กระบี่บินที่อยู่ข้างๆนิธินาถก็กำลังจะแทงเข้าไปที่ศีรษะของรพีพงษ์

ในเวลานี้หงส์ยืนขวางอยู่ตรงหน้ารพีพงษ์ เอ่ยปากว่า: “ถ้าคุณจะฆ่าก็ฉันก่อน ทั้งๆที่ลูกชายของคุณวางแผนทำมิดีมิร้ายต่อพวกเรา เขาตายก็สมควรแล้ว คุณฆ่าพวกเรา กลุ่มสิงโตไม่มีทางปล่อยตระกูลกิติมหาคุณของพวกคุณไปแน่!”

นิธินาถหรี่ตาลง ส่งเสียงเย็นชาพูดว่า: “ฉันก็คิดว่าพวกแกเป็นใคร คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคนของกลุ่มสิงโต แต่ต่อให้เป็นคนของกลุ่มสิงโต ฆ่าลูกชายของฉัน ก็ต้องเอาชีวิตมาชดใช้ อย่าคิดว่าฉันจะกลัวพวกแก!”

หลังจากพูดจบ กระบี่บินของนิธินาถก็ส่งเสียงกระบี่ดังทะลุออก มาจากนั้นก็พุ่งไปหารพีพงษ์และหงส์ทั้งสองคน

หงส์หลับตาลงทันที รู้ว่าวันนี้ตัวเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

แต่ในขณะนี้ รพีพงษ์ดึงเขา ดึงหล่อนไปไว้ด้านหลังของตัวเอง ยิ้มแล้วพูดว่า: “ฉันไม่เคยบอกว่าฉันติดกับดักของเขาแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะจัดการกับเขา เธอไม่ต้องใจร้อนให้เขาฆ่าเธอขนาดนั้น”

หลังจากพูดจบ รพีพงษ์มองไปที่กระบี่บิน และพึมพำว่า: “แค่กระบี่บินเท่านั้นเอง แกคิดว่ามีเพียงแก่ที่เล่นของแบบนี้เป็นเหรอ?”

ทันทีที่คำพูดสิ้นสุดลง เหนือศีรษะของรพีพงษ์ ก็มีรัศมีแสงสีทองปรากฏขึ้นมา ต่อจากนั้น กระบี่ทองยาวก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคน บนใบหน้าของทุกคนมีแสงสีทอง

กระบี่ทองยาวชี้ไปที่กระบี่บินของนิธินาถ โดยที่ไม่ลังเลใดๆ พุ่งออกไปทางด้านนั้น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท