พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่940 ผู้มาเยือนเปร์คิง

บทที่940 ผู้มาเยือนเปร์คิง

บทที่940 ผู้มาเยือนเปร์คิง

สถานที่แห่งหนึ่งในเกียวโต รถจิ๊บคันหนึ่งกำลังจอดอยู่ข้างทาง

บนรถจิ๊บมีหญิงหนึ่งชายหนึ่ง ทั้งสองใสเครื่องแบบทหาร ฝ่ายชายสูงและกำยำ คิ้วทำให้ดูเคร่งขรึม บนหน้าผากมีแผลเป็นขนาดนิ้วโป้ง ดูๆไปน่าเกรงขาม ทำให้คนที่เห็นหวาดกลัว

ฝ่ายหญิงลักษณะไม่น่าเกรงขาม แม้จะเป็นเสื้อผ้าเป็นกลางๆก็ไม่สามารถปกปิดออร่าในตัวเธอได้ บวกกับทวารทั้งห้าที่สวยได้รูปดึงดูดสายตา ในกองทัพ ถือว่าเธอเป็นดาวของกองทัพแน่นอน

ผู้ชายมีชื่อว่าชนสรณ์ ปีนี้อายุสามสิบเก้า เป็นทหารระดับสูงของเปร์คิง ผู้ช่วยครูฝึกทหารมังกร เป็นยอดฝีมือมวยไทยที่มีชื่อเสียงของเปร์คิง แม้จะเป็นในกองทัพ ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นคู่แข่งกับเขา

ผู้หญิงชื่อทัตดา ยี่สิบสามปี มีตำแหน่งฝ่ายพลเรือนของกองทัพ เพิ่งจะเข้าร่วมกองทัพได้หนึ่งปี เพราะเก่ง ดังนั้นจึงถูกเลือกให้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายชี้แนะของหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรในครั้งนี้

ที่พวกเขาทั้งสองปรากฏตัวที่นี่นั้น เพื่อมารับคนที่ผู้บัญชาการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรมาเปร์คิงด้วยตัวเอง

รพีพงษ์ เป็นหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกร

ตอนนี้ทัตดากำลังจ้องเอกสารที่มาจากกองทัพส่วนกลางเกี่ยวกับหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ เพราะตัวตนของรพีพงษ์พิเศษ บอกกับจารุวิทย์ให้เกียรติรพีพงษ์ ดังนั้นข้อมูลของรพีพงษ์จึงเป็นลับสุดยอด

คนทั่วไปจะเห็นข้อมูลพื้นฐานของรพีพงษ์เท่านั้น เกี่ยวกับข้อมูลในด้านความสามารถ ฝีมือ และมีผลการรบอย่างไรทั้งหมดจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ มีทหารเพียงระดับสูงเท่านั้นที่จะเห็น

ทัตดาคนระดับนี้ จะเห็นข้อมูลบางอย่างของรพีพงษ์เท่านั้น

“ไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้บัญชาการคิดอะไรอยู่ รู้สึกว่ารพีพงษ์แน่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ก็แค่นายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ป้ะ และเขาก็ยังเคยเป็นผู้ชายแต่งงานเข้าผู้หญิงที่เมืองริเวอร์ด้วย จากข้อมูล ตอนที่เขาเป็นผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิงนั้น ทุกๆคนเรียกเขาว่าไอ้สวะ จนกระทั่งมาสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์จึงได้ผันตัวขึ้นมา”

“ถ้าดูจากประสบการณ์ รพีพงษ์ก็ถือว่าผ่านอะไรมาเยอะ แต่คนที่ถูกคนอื่นเรียกว่าเป็นไอ้สวะ จะเป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรตำแหน่งนี้ได้ไงกัน เพราะทหารมังกรเป็นกลุ่มที่มีเบื้องหลังแข็งแกร่งที่สุดนะ”

ทัตดาพูดข้อสงสัยในใจของตนให้ชนสรณ์ฟัง

ชนสรณ์ได้ยินคำพูดของทัตดาแล้วนั้น ก็ยิ้มอย่างเหยียดหยาม แล้วกล่าว “ผมได้ดูข้อมูลของรพีพงษ์นี่แล้วเช่นกัน ตอนแรกที่เห็น ผมคิดว่าผู้บัญาชาการเลือกผิดคน จึงได้ไปถามผู้บัญชาการโดยเฉพาะ แต่ผู้บัญชาการบอกว่าไม่ผิด ที่จะแต่งตั้ง ก็คือรพีพงษ์คนนี้นี่แหละ”

“ผู้บัญชาการยังบอกอีกนะว่ารพีพงษ์นี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็น ให้ผมกระฉับกระเฉง ต่อมาผมดูข้อมูลพวกนี้อยู่นาน สุดท้ายก็เข้าใจ ที่ผู้บัญชาการให้เขามาเป็นหัวหน้าครูฝึกนั้น น่าจะเพื่อมาฝึกความฮึกเหิมของทหารมังกรที่ขี้โวยวายเวลาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจพวกนั้น

ทัตดายังคงไม่เข้าใจ แล้วถาม “ฝึกความฮึกเหิมของพวกเขา? ทำไมต้องเป็นรพีพงษ์?”

“ใช่ คุณคิดดูนะ รพีพงษ์คนนี้เมื่อก่อนมันเป็นผู้ชายแต่งเข้าบ้านผู้หญิง รับได้ทุกสถานการณ์ ต่อมาเขาเป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ นั่นหมายถึงเขามีฝีมืออยู่บ้าง แต่การที่เขาเป็นหัวหน้าครูฝึก มันยังไม่พอ เพราะจะทำให้ทหารมังกรไม่พอใจ ถึงเวลานั้นรพีพงษ์จะต้องใช้ตัวตนของตัวเองในการบีบทหารของทหารมังกร”

“ในกองทัพ คำสั่งขอเบื้องบนใหญ่ยิ่งกว่าอะไร ต่อให้เหล่าทหารของทหารมังกรจะไม่พอใจ ก็พูดอะไรไม่ได้ สำหรับจิตใจของพวกเขาแล้ว ถือว่าเป็นการฝึกที่เจ็บปวดครั้งหนึ่งเลยทีเดียว แต่รพีพงษ์ที่รับได้ทุกสถานการณ์ ก็สามารถรับได้กับความไม่พอใจของเหล่าทหารทหารมังกร ที่ผู้บังคับบัญชาเชิญมันมา ก็ประมาณนี้”

ชนสรณ์อธิบายให้ทัตดาฟังอย่างตั้งใจ

หลังจากที่ทัตดาฟังจบแล้วนั้น ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆอยู่ดี

“แต่การฝึกฝนความฮึกเหิมนี้ ชนสรณ์คุณเหมาะสมกว่านะ เลื่อนให้คุณเป็นหัวหน้าครูฝึกก็จบ ทำไมพาคนอย่างรพีพงษ์มาด้วย?” ทัตดาถาม

ชนสรณ์อัดอึด ก่อนหน้านี้ตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร จารุวิทย์เป็นผู้ดูแลเอง ครั้งนี้เขาปล่อยตำแหน่ง ตอนแรกชนสรณ์ก็คิดว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะได้เลื่อนขั้นแล้ว

แต่ใครก็ไม่คิด ว่าจารุวิทย์จะรพีพงษ์ที่ไม่เคยผ่านการทหารมาก่อนมาเป็นหัวหน้าครูฝึก และรพีพงษ์อายุแค่ยี่สิบกว่าปี นี่มันเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนอย่างมาก

ชนสรณ์ไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร ต่อมาเดาว่ารพีพงษ์นี้น่าจะเป็นคนที่จารุวิทย์เอามาเพื่อทดสอบเขา

“นี่น่าจะเป็นความคิดของผู้บัญชาการแล้วแหละ ผมคิดว่านอกจากเขาจะฝึกฝนเหล่าทหารทหารมังกรแล้ว น่าจะต้องการทดสอบผม ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกนี้มาโดยตลอด ผู้บัญชาน่าจะคิดว่าผมเห็นความสำคัญกับตำแหน่งนี้ ดังนั้นจึงได้พารพีพงษ์มา ดูว่าผมสามารถจะอดทนต่อความกดดันของคนแบบนี้ แล้วพาทหารมังกรให้สำเร็จได้หรือไม่”

ชนสรณ์อุทานออกมา คราวนี้ทัตดาก็รู้สึกว่าชนสรณ์มีเหตุผลขึ้นมาทันที เพราะถ้าผู้บัญชาการไม่อยากใช้ชนสรณ์ ก็ไม่มีทางที่จะหาคนอายุยี่สิบกว่าปีมาเป็นหัวหน้าครูฝึกได้

“หวังว่าหัวหน้าครูฝึกคนนี้จะไม่เรื่องมาก ได้ยินมาว่าผู้ชายที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงนานๆ แล้วผันตัวขึ้นมาได้ จะมีอารมณ์ที่ค่อนข้างแปลกๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือชอบสั่งการผู้น้อย เพื่อระบายอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตของตัวเอง ถ้าเขาเป็นแบบนี้ ฉันต้องปวดหัวมากแน่ๆ” ทัตดากล่าวอย่างกังวล

ชนสรณ์ยิ้ม แล้วกล่าว “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แม้ในกองทัพจะเป็นเข้มงวดเรื่องระบบลำดับชั้น ต้องเชื่อฟังคำสั่ง แต่ทหารพวกนั้นยโสโอหัง และให้ความสำคัญกับฝีมือมาก การทหาร ยังไงก็เคารพกันที่ความสามารถ”

“ถ้าครูฝึกคนใหม่นี้เป็นไอ้สวะไม่มีความสามารถ เหล่าทหารของทหารมังกรก็ไม่มีทางดีกับเขาแน่นอน ไม่เหมาะสมกับหน้าที่ ก็ต้องถูกดูหมิ่น ผมว่าคนนี้มันอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็จะออกไสหัวไปเอง” ชนสรณ์กล่าวอย่างมั่นใจ

ทัตดาก็หัวเราะตาม ไม่พูดอะไรต่อ

สายตาชนสรณ์ลำเลิกจ้องไปที่ข้อมูลของรพีพงษ์ที่อยู่ในมือของทัตดาแล้วหลับตา

“เด็กน้อย แกแย่งตำแหน่งหัวหน้าครูฝึกฉันไป อย่าคิดว่าฉันจะให้เกียรติแกเลย ฉันฝึกมวยไทยมาตั้งแต่ยังเล็ก ในกองทัพน้อยมากที่จะเป็นคู่ต่อกรของฉันได้ ต่อให้เป็นคนจากนอกโลก ก็ต้องเรียกฉันอย่างนับถือว่าเป็นปรมาจารย์มวยไทย แกมีสิทธิ์อะไรมาเหยียบหัวฉัน รอให้แกมาถึงเปร์คิงก่อน ฉันจะสั่งสอนแกเอง” ชนสรณ์พึมพำ

ผ่านไปไม่นาน ร่างซูบผอมร่างหนึ่งปรากฏกายบนถนน ชนสรณ์และทัตดามองไปที่ร่างนั้น ด้วยความตะลึง

“มาแล้ว คนนี้ไง” ชนสรณ์กล่าว

ทัตดามองรพีพงษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็พึมพำ “ดูธรรมดาจริงๆ ดูๆแล้วผู้บัญชาการต้องการที่จะทดสอบพวกคุณจึงได้พาเขามา แต่ฟังจากชนสรณ์ เกรงว่าคนนี้น่าจะโชคร้ายแล้วล่ะ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท