พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่945 ให้โอกาสคุณต่อสู้กับผม

บทที่945 ให้โอกาสคุณต่อสู้กับผม

บทที่945 ให้โอกาสคุณต่อสู้กับผม

ทหารทั้งหมดของทหารมังกรเห็นรพีพงษ์กระโดดลงมาจากหน้าผาจริงๆ ก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง ด้วยความตะลึงและคิดไม่ถึง

“หมดกันหมดกัน หัวหน้าครูฝึกเพิ่งจะรับมอบเสร็จ ก็ฆ่าตัวตายเสียแล้ว พวกเราทหารมังกรดังแล้วล่ะงานนี้”

“อย่าพูดมั่ว แกรู้หรอว่าหัวหน้าครูฝึกจะฆ่าตัวตาย ถ้าเขากระโดดลงมาแล้วไม่เป็นไรล่ะ”

“ลูกพี่ นี่มันหน้าผาสูงร้อนเมตรนะ นอกเสียจากหัวหน้าครูฝึกของเราเป็นเทพเจ้า จะเก่งยังไงก็ไม่เป็นไร”

“ตอนนี้ทำได้เพียงภาวนาให้หัวหน้าครูฝึกไม่เป็นอะไร เมื่อกี้ตอนเขาหยิบธงรบน่ะเท่ห์มาก แต่พอโชว์ออฟเสร็จแล้วตาย นี่มันตลกชัดๆ”

……

ชนสรณ์เห็นร่างของรพีพงษ์ร่วงลงมา ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจ คิดไม่ออกจริงๆว่าหัวหน้าครูฝึกคนใหม่นี้คิดได้ยังไง คิดที่จะกระโดดจากที่สูงขนาดนี้ลงมา

ถ้ารพีพงษ์ทำงานวันแรกก็เกิดเรื่องแล้ว เขาก็หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น แต่เขาไม่มีวิธีอื่น ตอนนี้ทำได้เพียงภาวนาให้รพีพงษ์ปลอดภัย

ตอนที่รพีพงษ์กระโดดลงมาทัตดาก็ไม่สบายใจ ในเวลาเดียวกันก็แขวะผู้ชายพวกนี้โชว์ออฟไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาว่าจะทำให้คนเป็นห่วงมากขนาดไหน

ร่างของรพีพงษ์ล่วงลงมาอย่างเร็ว ตอนที่ร่วงลงมาถึงครึ่งทาง เขารีบปล่อยมา หยิบมุรามาสะที่ปักไว้ที่เขาออกมา

จากนั้นเขาก็ไหลเวียนพลังวิเศษเสน ไปรวมไว้ที่เท้า เพียงมองด้วยตาเปล่าก็สามารถเห็นร่างกายส่วนล่างของเขาปรากฏแสงครอบคลุมไว้ รพีพงษ์เชื่อมั่นว่า แสงนี้สามารถลดแรงเสียดทานตอนถึงพื้นได้

รพีพงษ์ที่ได้เจอกับเรื่องที่ยากจะอธิบายด้วยเหตุผลทั่วไปมามากมายกลับไม่รู้สึกว่าเรื่องที่ตัวเองกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงร้อยเมตรเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ใดๆ

เพียงไม่กี่อึดใจ ร่างของรพีพงษ์ที่ร่วงมาจากหน้าผา ได้มาถึงพื้น

จากนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงดังกังวาน พื้นดินล้วนสั่นสะเทือนขึ้นมา ฝุ่นฟุ้งกระจาย คลุมสถานที่ที่รพีพงษ์ร่วงลงมา

พนักงานที่อยู่ไม่ไกลจากฐานฝึกล้วนรับรู้ได้ถึงแผ่นดินไหว ก็ตกใจขึ้นมา คิดว่าเป็นขีปนาวุธของศัตรูยิงเข้ามา ล้วนรีบวิ่งออกมาด้านนอก

“เกิดอะไรขึ้น เสียงเมื่อกี้ดังมาจากไหน คนของประเทศรัสเซียยิงเข้ามาหรอ?”

“พวกคุณรีบดูตรงนั้นสิ เหมือนกับมีของอะไรหล่นลงมา เขม่ามากขนาดนี้ เป็นก้อนหินก้อนใหญ่บนหน้าผาหล่นลงมาหรอ?”

พนักงานพวกนั้นวิ่งไปที่โล่ง เห็นทหารมังกรทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ด้วยสีหน้าจริงจังกำลังมองไปที่เขม่าฟุ้งกระจายที่อยู่ไกลๆนั้น ล้วนเดาออกว่าต้องเกิดเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างขึ้นอย่างแน่นอน

“ทหารทุกท่าน เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? พวกคุณทดลองยิงขีปนาวุธหรือเปล่า? หรือมีสิ่งอะไรตกลงมาจากหน้าผา?” พนักงานคนหนึ่งเดินไปที่ทหารมังกร แล้วถาม

ทหารมังกรคนหนึ่งรู้สึกตัวขึ้นมา ก็พึมพำ “หัวหน้าครูฝึก กระโดดลงมาจากข้างบน”

“อะไรนะ!” หลังจากที่ได้ยินคำตอบนี้ พนักงานที่วิ่งออกมาพวกนั้นก็ตะลึง พนักงานคนนั้นที่พูดเมื่อกี้ก็รีบกล่าว “หัวหน้าครูฝึกที่มาใหม่คนนั้น? โอ้แม่เจ้า เกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากเป็นครูฝึก เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจ ดังนั้นจึงใช้วิธีนี้ต่อต้านผู้บัญชาการงั้นหรอ?”

ทหารมังกรนั้นหันไปมองเขา ด้วยสีหน้าซับซ้อน อยากเปิดปากอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง สุดท้ายก็ทำได้เพียงอ้าปาก แล้วเงียบ

ผ่านไปไม่นาน หนึ่งในทหารมังกรตะโกนเสียงดังว่า “พวกแกดูสิ ด้านในมีร่างของคนเดินออกมา!”

สายตาของทุกคนมองไปตรงนั้น มีร่างเดินออกมาจากเขม่าควันนั้นจริงๆ และดูออกชัดเจนมาก ว่าเป็นรพีพงษ์ที่ไม่บาดเจ็บใดๆเลย

ทุกคนของทหารมังกรก็ครึกครื้นขึ้นมา พวกเขาไม่คิดมาก่อน ว่าจะมีคนกระโดดลงมาจากร้อยเมตรแล้วไม่เป็นไร นี่มันมีแค่เทพเจ้าเท่านั้นแหละที่ทำได้

“คุกเข่า ฉันยอมคุกเข่าให้กับหัวหน้าครูฝึกคนใหม่คนนี้แล้ว! ต่อไปหัวหน้าครูฝึกคือไอดอลของฉัน ใครกล้าว่าหัวหน้าครูฝึก ฉันจะเอาเรื่องคนนั้น!”

วิเศษมากจริงๆ ฉันไม่เคยเห็นคนที่เก่งกาจแบบนี้มาก่อนเลย เขามาเป็นหัวหน้าครูฝึกของเรา มันก็สมควรแล้ว”

“ถ้าครูฝึกคนใหม่ของเราสามารถสอนพวกเราพุ่งขึ้นไปเป็นร้อยเมตร แล้วก็กระโดดลงมาได้ก็คงดี ครอบครัวฉันซื้อบ้านให้ฉันสามหลัง สามสิบกว่าชั้น ถ้าฉันมีความสามารถแบบนี้ ก็ไม่ต้องใช้ลิฟต์แล้ว”

“ประหยัดไปเถอะ ฝีมือแบบนี้ ต่อให้ทำเป็นแล้ว แต่ก็ไม่ลองมั่วๆบนตึกไม่ได้นะ เดี๋ยวแกไปดูจุดที่หัวหน้าครูฝึกกระโดดลงมา ถ้าแกไม่กลัวส่วนกลางหมู่บ้านวันๆวิ่งหาแต่แก แกก็ทำไป”

……

เขม่าควันสลายไป ทุกคนจึงได้เห็นโคลนที่อยู่ด้านหลังของรพีพงษ์ เกิดเป็นหลุมบ่อใหญ่มาก ลึกเกือบครึ่งเมตร มีรัศมีโดยรอบอยู่ประมาณยี่สิบกว่าเมตร ทั้งหมดเหมือนรอยของใยแมงมุมอย่างไรอย่างนั้น ค่อนข้างน่ากลัว

คนนั้นที่ตอนนั้นพูดว่าจะกระโดดลงจากบ้านตัวเองเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ก็ตาโต ได้เปลี่ยนความคิดนั้นของตัวเองทันใด

ถ้ากระโดดลงจากชั้นบนแบบนี้ เกรงว่าลานจอดรถของหมู่บ้านจะพังยับเยิน

ชนสรณ์มองรพีพงษ์ด้วยความนับถือ ขณะนี้ฝีมือของรพีพงษ์ทำให้เขาเลื่อมใสอย่างสุดใจแล้ว วัยรุ่นคนนี้อายุยี่สิบกว่าปี มีพลังที่เขานึกไม่ถึง ไม่ใช่ใครคิดจะเทียบก็เทียบได้

รพีพงษ์เดินไปอยู่ตรงหน้าของทหารมังกร จากนั้นก็เอาธงรบในมือของตัวเองปักลงตรงหน้าของตัวเอง ทหารมังกรทุกคนเห็นดังนี้ ก็ยืนตรง แล้วมองไปที่รพีพงษ์อย่างเคร่งขรึม

“วันนี้ ผมรพีพงษ์หัวหน้าครูฝึกทหารมังกรคนใหม่ มีใครไม่ยอมรับบ้าง?”

เสียงของรพีพงษ์ราวกับฟ้าผ่าที่ดังสนั่น ดังกึกก้องไปในหูของทหารมังกรทุกคน

ทหารมังกรตอบทันใดว่า “ไม่มี!”

ขณะนี้เหล่าพนักงานที่อยู่ข้างๆก็งงงวย เมื่อกี้ที่เหล่าทหารมังกรพูดนั้นไม่มีผิด เป็นหัวหน้าครูฝึกคนใหม่กระโดดลงมาจริงๆ แต่เค้าไม่ได้ทำเพราะแสดงถึงความไม่พอใจแล้วจะฆ่าตัวตาย

แต่เพื่อสยบเหล่าทหารมังกร จึงได้กระโดดลงมาให้ทุกคนเห็นถึงความเก่งกาจของเขา

“นี่มันวิปริตไปมั้ย กระโดดลงมาจากหน้าผา ในประวัติศาสตร์ก็ไม่น่าจะเคยเกิดขึ้น ดูๆแล้วฐานฝึกครั้งนี้ของทหารมังกร มีคนที่โหดเหี้ยมมาจริงๆแล้วล่ะ” พนักงานคนนั้นพึมพำกับตัวเอง

หลังจากที่ชนสรณ์และทัตดาทั้งสองได้ยินรพีพงษ์ตะโกนคำนั้นออกมา ก็ยืนตรงอย่างห้ามไม่ได้ พวกเขาทั้งสองนับถือรพีพงษ์จากใจจริงอย่างที่สุด

ทัตดาเห็นสายตาของรพีพงษ์แล้ว ก็มีแววตาที่ไม่เหมือนเดิม

เห็นมหารมังกรมองตัวเองด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเมื่อก่อน รพีพงษ์รู้ว่าเขาได้ทำตามเป้าหมายในครั้งนี้สำเร็จแล้ว

แต่เขาก็ยังไม่คิดจะให้มันจบแบบนี้

เขาหันไปมองชนสรณ์ แล้วกล่าว “ชนสรณ์ ตอนขามา ผมรู้สึกว่าคุณเหมือนจะไม่ค่อยยอมรับหัวหน้าครูฝึกอย่างผม”

“ตอนนี้ผมจะให้โอกาสคุณได้ต่อสู้กับผม ไม่ทราบว่าคุณกล้าจะต่อสู้กันสักตั้งมั้ย?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท