พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่947 ทางเข้า

บทที่947 ทางเข้า

บทที่947 ทางเข้า

“ดูสิๆ หัวหน้าครูฝึกกับทัตดาเดินไปด้วยกันเหมาะสมกันจัง หัวหน้าครูฝึกของเขาดูๆไปก็น่าจะยี่สิบกว่าปี และเก่งขนาดนี้ ยังหนุ่มยังแน่นก็เป็นหัวหน้าครูฝึกของเราทหารมังกรแล้ว ทัตดาก็เพิ่งจะยี่สิบต้นๆ สวยด้วย ถ้าพวกเขาทั้งสองเป็นแฟนกัน เหมาะสมที่สุด”

“พูดถูก แม้ทัตดาจะเป็นสาวในฝันของฉันมาโดยตลอด แต่ตอนนี้หัวหน้าครูฝึกมาแล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองเทียบกับหัวหน้าครูฝึกไม่ได้ จึงทำได้เพียงละทิ้งความรักเท่านั้น”

“น่าอิจฉาฉะมัด ทัตดาน่าจะเป็นดอกไม้ที่สวยที่สุดของกองทัพเราแล้ว ดูท่าทีของเธอ ก็เหมือนจะเลื่อมใสหัวหน้าครูฝึกมากนะ ครั้งนี้ไม่รู้จะมีพี่น้องสักกี่คนต้องอกหักกันนะ”

……

ทุกคนมองด้านหลังของรพีพงษ์และทัตดาวิจารณ์กันอย่างไม่หยุดหย่อน

“หุบปากไปซะ แล้วกลับไปฝึก ถ้าใครนินทาหัวหน้าครูฝึกลับหลัง ก็ไปวิ่งยี่สิบกิโลเมตรซะ” ชนสรณ์ชักตาใส่เหล่าทหารมังกร

ทุกคนรีบหุบปาก ไม่กล้านินทาอะไรอีก

ชนสรณ์หันไปมองรพีพงษ์และทัตดา จากนั้นก็พูดกับตัวเองว่า “ดูๆไปก็เหมาะสมกันดี เสียดาย หัวหน้าครูฝึกแต่งงานแล้ว”

“แต่ไม่ว่าจะยังไง ครั้งนี้ทหารมังกรมีเขาเป็นหัวหน้าครูฝึก จะต้องรุ่งโรจน์กว่าเมื่อก่อนแน่นอน”

ชนสรณ์อุทาน จนกระทั่งตอนนี้ เขาได้เลื่อมใสกับพลังที่รพีพงษ์ใช้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

……

รพีพงษ์ใช้พลังจิตฟังทุกคนตลอดทาง ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันใด ต้องออกห่างจากทัตดาสักหน่อย

ทัตดาเห็นรพีพงษ์เดินชิดข้าง ก็แปลกใจ ก็ได้เดินเข้าไปใกล้ๆรพีพงษ์อีก

รพีพงษ์เห็นดังนี้ ก็รีบเดินให้เร็วขึ้นได้อีก ถ้ามีโอกาสเขาต้องบอกกับจารุวิทย์สักหน่อย ให้เปลี่ยนผู้แนะนำเป็นผู้ชาย

ไม่งั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะเกิดรักหลอกลวงอะไรขึ้นมาอีก

ที่แท้ คนเก่งคนหนึ่งไม่ใช่จะมีประโยชน์ไปเสียหมด นี่ทำให้รพีพงษ์ยืดหยัดว่าอนาคตจะต้องแน่วแน่ให้มาก

ผ่านไปไม่นาน ทั้งสองมาถึงฐานฝึก ทัตดาพารพีพงษ์มายังที่พักที่ได้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว

เพราะเปร์คิงค่อนข้างลำบาก ดังนั้นที่พักก็ไม่ถึงว่าดีขนาดไหน แต่โดยรวมก็โอเค

รพีพงษ์ไม่ใส่ใจกับที่พักมากนัก เพียงแค่มีเตียงก็พอแล้ว

เขาเอาของของตัวเองวางไว้ หันไปมองทัตดาที่ยังยืนอยู่ในห้อง แล้วกล่าว “คุณไปได้แล้ว ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง”

ทัตดารีบกล่าว “หัวหน้าครูฝึก ฉันปูเตียงให้คุณนะ”

พูดจบ เธอก็มาที่เตียงของรพีพงษ์ เริ่มช่วยรพีพงษ์จัดเตียง

รพีพงษ์กล่าว “ไม่ต้องแล้ว คุณออกไปเถอะ”

ทัตดาไม่ฟังรพีพงษ์ พลางปูเตียงพลางพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันช่วยคุณปูเอง ผู้ชายอย่างพวกคุณไม่ละเอียดเท่าผู้หญิงอย่างฉันหรอกนะ ฉันช่วยคุณ คุณจะได้นอนหลับสบาย”

รพีพงษ์เบื่อหน่าย กล่าวกับทัตดาว่า “ตอนนี้ผมสั่งให้คุณออกไป!”

ทัตดาเห็นน้ำเสียงของรพีพงษ์เริ่มไม่ใช่ ตกใจจนรีบหยุดลง หันไปหารพีพงษ์ ปากขมุบขมิบทันที

“หัวหน้าครูฝึก คุณอย่ารุนแรงกับฉันได้มั้ย เค้าก็แค่รู้สึกว่าเมื่อก่อนทำไม่ดีไว้ ดังนั้นจึงอยากแสดงออกมาบ้าง คุณเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก เมื่อก่อนฉันไม่ควรใช้กิริยาแบบนั้นกับคุณ คุณยกโทษให้ฉันได้มั้ย”ทัตดาพูดอย่างน่าสงสาร

แม้ได้มาถึงกองทัพแล้ว แต่ทัตดาถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็กๆ มาที่นี่ก็มีแต่คนปกป้อง ดังนั้นเธอนิสัยของเธอก็ยังคงเหมือนเด็ก เทียบกับทหารของทหารผ่านศึกพวกนั้นไม่ได้

รพีพงษ์เห็นทัตดากำลังจะร้องออกมา ก็รู้สึกปวดหัว เพื่อให้เธอรีบไป จึงรีบกล่าวว่า “ผมยกโทษให้คุณแล้ว คุณรีบออกไปเถอะ”

“คุณยกโทษให้ฉันแล้วจริงๆใช่มั้ย?” ทัตดาถามรพีพงษ์อีกครั้ง

“จริง” รพีพงษ์กล่าว

เห็นรพีพงษ์ยกโทษให้ตัวเอง ทัตดาก็ยิ้ม เมื่อกี้ท่าทางที่น่าสงสารก็หายไปอย่างเร็ว

“งั้นฉันไปก่อนนะ มีอะไรคุณเรียกฉันก็แล้วกัน ฉันสามารถมาปูเตียงให้คุณได้ทุกวันนะ” พูดจบ ทัตดาก็ขยิบตาของตัวเอง

รพีพงษ์รีบผลักทัตดาออกจากห้องของตัวเอง แล้วปิดประตู

หลังจากที่ส่งทัตดาออกไปแล้ว รพีพงษ์ก็โล่งอก คิดในใจว่าจารุวิชญ์ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ต้องจัดผู้แนะนำเป็นผู้หญิงมาให้เขาให้ได้ นี่มันหาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ

การมาของรพีพงษ์ ชักนำให้เหล่าทหารของเปร์คิงถกเถียงกันอย่างเมามัน โดยเฉพาะเรื่องที่เขาขึ้นหน้าผาร้อยเมตร เอาธงรบที่ปักอยู่ลงมา มันชั่งตะลึงทุกคนจริงๆ

เรื่องที่เขากระโดดลงมาจากหน้าผาสูงร้อยเมตรก็เป็นตำนานของเปร์คิง ผู้คนที่ได้ยินเรื่องนี้ทุกคนก็วิ่งไปดูที่โล่งของด้านล่างทางลาดชันนั่น หลังจากที่เห็นโคลนที่แตกระแหงที่รพีพงษ์ได้ทำไว้ ทุกคนก็สูดหายใจอย่างตะลึงในที่เกิดเหตุ คิดไม่ออกจริงๆว่าร่างแบบไหน จึงจะสามารถรับกับแรงเสียดทานที่มากขนาดนี้ได้โดยที่ไม่เป็นไรเลย

แพทย์สนามของฐานฝึกทหารมังกรถึงขั้นติดตามรพีพงษ์เงียบๆอยู่หลายวัน อยากสังเกตดูว่าเขาจะเดินๆอยู่แล้วล้มลงไปมั้ย

เพราะด้านนอกไม่เป็นไร ไม่ได้หมายความว่าอวัยวะภายในไม่เป็นไร เรื่องที่หล่นจากที่สูง ยืนขึ้นแล้วเดินต่อไปพวกเขาก็เห็นมาไม่น้อย ผ่านไปสักระยะคนพวกนั้นก็จะตายในที่สุด เพราะอวัยวะภายในของพวกเขาได้แตกแล้ว เพียงแค่สมองยังไม่รับรู้แค่นั้น

แต่ต่อมาหลังจากที่เห็นรพีพงษ์ปลอดภัยดีแล้ว เหล่าแพทย์สนามจึงไร้กังวล ในเวลาเดียวกันก็ตื่นตะลึงกับร่างกายของรพีพงษ์ ถึงขั้นอยากจะจับรพีพงษ์มาผ่าศึกษาดูกันเลยทีเดียว

แน่นอน พวกเขาเอาชนะรพีพงษ์ไม่ได้ ดังนั้นมีจะมีความคิดแบบนี้ ก็ต้องอดใจไว้

ในขณะเดียวกันนี้ ชายแดนของประเทศจีนและประเทศรัสเซีย ในภูเขาที่เชื่อมระหว่างประเทศ ไร้ผู้คน ในเหวที่เครื่องจักรยากที่จะสำรวจ

บนเขาที่เดิมทีเงียบสงบ ขณะนี้เต็มไปด้วยควันสีดำ ควันดำนั้นอยู่ในอากาศได้เปลี่ยนเป็นวังวนในลักษณะวงรี ค่อนข้างประหลาด

จากเวลาที่เคลื่อนไหว ควันในวังวนนั้นยิ่งอยู่ยิ่งหนักขึ้น สุดท้าย สิ่งที่ยับอยู่ข้างในได้กระจายออก ไปรอบๆทิศทาง เครื่องรับสัญญาณของกองทัพที่ใกล้ที่สุดกับสถานที่แห่งนี้มีความผิดปกติบางอย่างเพราะความผันผวน แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

ไม่นาน มีร่างสวมชุดสีดำฉางผาว ที่กระจายความผันผวนที่แปลกนั้นปีนออกมาจากวังวน ยืนอยู่ในเหว

ร่างนั้นมองไปที่ประเทศจีน จากนั้นก็กล่าว “สุดท้ายก็มาถึง พวกนั้นน่าจะคิดไม่ถึง พวกเราได้ทิ้งทางเข้าเดิม แล้วเปิดทางใหม่”

“แม้ทางเข้านี้มีเพียงฉันคนเดียวที่เข้ามาได้ แต่ก็พอแล้ว ที่แห่งนี้ มีแต่คนธรรมดา ด้วยความสามารถของฉัน จะทำอะไรสักอย่าง ก็ง่ายนิดเดียว

พูดพลาง ร่างคนก็ยกมือขึ้น แล้วนับนิ้ว จากนั้นก็ดูแคลน หันไปที่พรมแดนของประเทศรัสเซีย แล้วเดินไป

คนนั้นเดินไม่เร็ว แต่ทุกย่างก้าว ก็จะปรากฏห่างจากที่เดิมไปสิบเมตร แต่ไม่นาน คนนั้นก็หายไป ไม่รู้ว่าไปไหน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท