บทที่946 การต่อสู้
ชนสรณ์ได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็สะดุ้ง จิตใต้สำนึกต้องการขอโทษรพีพงษ์ แสดงท่าทีที่ว่าตัวเองมีตาแต่หามีแววไม่ ไม่รู้ว่ารพีพงษ์เก่งกาจขนาดนี้
แต่เมื่อกลับมาคิด ถ้าเขาขี้ขลาดตาขาวต่อหน้าเหล่าทหารมังกรพวกนี้ ต่อไปก็จะเบ่งอำนาจต่อหน้าทหารมังกรไม่ได้ ก็คือเขา
เหล่าทหารมังกรได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วนั้นก็แสดงท่าทีรอคอย ดูออกชัดเจนว่าอยากเห็นรพีพงษ์ต่อสู้กับชนสรณ์อย่างมาก
“ชนสรณ์ ต่อสู้กับหัวหน้าครูฝึกของเราหน่อย ให้พวกเราได้เห็น การต่อสู้ของพวกคุณทั้งสอง ต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ!”
“พูดถูก ฝีมือของหัวหน้าครูฝึกน่าตะลึง แต่ฝีมือของชนสรณ์ก็ไม่ด้อย ถ้าชกต่อยกันจริงๆจะต้องสร้างสีสันอย่างแน่นอน”
“ต่อสู้กัน! ชนสรณ์ ถึงเวลาที่ต้องแสดงความแมนออกมาแล้ว! แกพูดมาตลอดไม่ใช่หรอว่าแกเก่งนักเก่งหนา ตอนนี้หัวหน้าครูฝึกมาแล้ว ให้เขาได้ลิ้มลองความเก่งกาจของแกหน่อย!” มีคนตะโกนออกมาอย่างไม่กลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่
ชนสรณ์ได้ยินคนนั้นตะโกนเมื่อกี้ ก็มีแค่วู่วามที่อยากจะพุ่งไปบีบคอคนนั้นให้ตายซะ เมื่อกี้เขากำลังว่าจะปฏิเสธรพีพงษ์ยังไง ให้ตัวเองไม่ขายหน้า
สุดท้ายทหารพวกนี้ตะโกนมา ถ้าเขาไม่ต่อสู้กับรพีพงษ์ ก็เป็นขี้ขลาดตาขาวแล้วจริงๆ
ทัตดาที่อยู่ข้างๆเห็นชนสรณ์หน้าเหมือนกินขี้มา ก็อดไม่ได้ที่จะขำ แล้วกล่าว “ชนสรณ์ ในเมื่อทุกคนอยากเห็นคุณต่อยกับหัวหน้าครูฝึก งั้นคุณก็ตอบรับหัวหน้าครูฝึกเถอะ”
ชนสรณ์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ หันไปหารพีพงษ์ คิดในใจว่าฝีมือของรพีพงษ์เมื่อกี้ทำให้คนตะลึงจริง น้อยคนนักที่จะทำได้ แต่ถ้าในการต่อสู้จริงๆบางทีรพีพงษ์อาจไม่เก่งเท่าเขาก็ได้
มวยไทยถูกขนานนามว่าเป็นวิชาหมัดฆ่าคน ต่อยออกมาถึงขั้นเอาชีวิต ต่อให้รพีพงษ์จะไม่ง่ายในการต่อกร ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่แพ้ก็ได้
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว แววตาของชนสรณ์ก็เปลี่ยนเป็นยืนหยัดขึ้นมา ยกมือคำนับรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ในเมื่อหัวหน้าครูฝึกต้องการต่อสู้ การเคารพเทียบไม่ได้เท่ากับฟังคำสั่ง ถ้าทำผิดอะไรต่อหัวหน้าครูฝึก ขอหัวหน้าครูฝึกให้อภัย”
รพีพงษ์ยิ้ม แล้วทำมือเชิญให้ชนสรณ์
แม้จะรู้ว่าตัวเองทำแบบนี้คือกำลังรังแกชนสรณือยู่ แต่เขาต้องการสร้างศักดิ์ศรีของตัวเองต่อหน้ากลุ่มทหารมังกร ต่อยกับชนสรณ์ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
และเขาก็รู้สึกแปลกใจกับมวยไทย ต่อให้รพีพงษ์เข้าไม่ถึงวิชามวยไทย แต่สามารถเรียนข้อดีบางอย่างจากมวยไทยได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ทั้งสองยืนอยู่ตรงหน้าของทหารมังกร แล้วจัดที่ว่างกว้างๆเอาไว้ เพื่อการต่อสู้
รพีพงษ์จ้องชนสรณ์ จากนั้นก็กล่าว “เริ่มเลยล่ะกัน”
ชนสรณ์ไม่ลังเล หลังจากที่ตั้งหลักแล้ว ก็พุ่งเข้าหารพีพงษ์อย่างเร็ว
รพีพงษ์มองกิริยาของชนสรณ์ ในสายตาเขา ท่าทางของชนสรณ์ไม่ต่างจากเต่าคลาน ถ้ารพีพงษ์อยากลงมือตั้งแต่ตอนที่ชนสรณ์ขยับตัว เขาก็กดชนสรณ์ลงกับพื้นไปแล้ว
หลังจากที่ชนสรณ์พุ่งมาด้านหน้าของรพีพงษ์แล้ว ก็ชกไปที่จุดที่อ่อนแอที่สุดบนร่างกายอย่างเร็ว
รพีพงษ์จ้องท่าของชนสรณ์ ตอนแรกไม่ได้โจมตีใดๆ คิดว่าอยากจะลองวิชามวยไทยสักหน่อย
ชนสรณ์เห็นรพีพงษ์ได้แต่หลบแต่ไม่โต้ตอบ คิดว่ารพีพงษ์ไม่รู้ว่าจะโต้ตอบอย่างไร ในใจก็ดูแคลนออกมา
“ดูๆแล้วเขาน่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ในการประลองจริงๆ ก็แค่มีฝีมือในการปีนเข้าก็เท่านั้น ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็อย่าโทษฉันว่ารุนแรงเกินไปก็แล้วกัน”
คิดแบบนี้ การจู่โจมของชนสรณ์ยิ่งรุนแรงขึ้น ปล่อยหมัดไม่เว้นหมัดไปที่รพีพงษ์ แต่สิ่งที่แปลกคือ หมัดต่างๆของเขาไม่โดนตัวรพีพงษ์เลยแม้แต่น้อย
นี่ทำให้รพีพงษ์เริ่มร้อนใจขึ้นมา เพราะต่อให้รพีพงษ์ไม่โจมตีกลับ เขาต่อยไม่โดนรพีพงษ์ ก็ไม่มีทางชนะได้
หลังจากที่เรียนรู้เกี่ยวกับมวยไทยโดยละเอียดแล้ว รพีพงษ์ก็ส่ายหัวอย่างเซ็ง รู้สึกว่าแม้หมัดพวกนี้จะรุนแรง แต่จุดอ่อนก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อให้ตะเป็นยอดฝีมือที่เพิ่งเป็นเน่ยจิ้ง ตอนที่ต่อสู้กับชนสรณ์ ก็เห็นจุดอ่อนของเขาตั้งนาน ล่ะชนะเขาไปนานแล้ว
แม้ในวงการการต่อสู้มวยไทยจะมีชื่อ แต่เมื่อเทียบกับวงการบู๊ของศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน ก็มีความแตกต่างอยู่มาก
หลังจากที่เข้าใจเกี่ยวกับมวยไทย รพีพงษ์ก็ไม่ตัดสินใจที่จะเสียเวลากับชนสรณ์อีก ตอนที่เขาปล่อยหมัดในตอนนั้น จู่โจมเข้าไปที่จุดอ่อนของเขาโดยตรง ตบเดียวก็ทำเอาเขาล้มลงกับพื้น
ทหารมังกรที่ดูการต่อสู้อยู่นั้นเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ก็เปล่งเสียงตะลึงขึ้นมา เห็นทั้งสองเคล้ากันอยู่นาน สุดท้ายก็ระเบิดพลังออกมาสักที
ชนสรณ์ก็ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์ที่หลบไปมาจะตบเขาล้มลงกับพื้นด้วยฉาดเดียว รีบลุกขึ้นจากพื้น แล้วตั้งท่าต่อสู้อีกครั้ง
“ตุดอ่อนของแกเยอะมาก ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กันต่อไปแล้ว” รพีพงษ์กล่าว
“หัวหน้าครูฝึก เมื่อกี้ผมพลาด กรุณาอย่าดูถูกกัน!”
ชนสรณ์ตะคอก แล้วพุ่งไปที่รพีพงษ์ คิดในใจว่าตัวเองจะต้องทำให้รพีพงษ์ล้มลงให้ได้สักครั้ง เพื่อกอบกู้เกียรติยศ
แต่เขาเพิ่งถึงด้านหน้ารพีพงษ์ รพีพงษ์ก็ตบลงมาอีก ตบจนเขาล้มลงกับพื้น
ชนสรณ์ลุกขึ้นมาอีกครั้ง จะโจมตีรพีพงษ์ วินาทีต่อมา เขาก็ล้มอีกครั้ง
แม้แต่ชนสรณ์เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองล้มลงได้อย่างไร ตอนที่เขารู้ตัว อีกที ก็พบว่าหน้าของตัวเองก็ได้ถูกับพื้นอีกแล้ว
ทุกคนมองเหตุการณ์นี้อย่างตะลึง ชนสรณ์ล้มลงไปไม่ถึงสองวินาทีก็ล้มลงไปอีก ต่อหน้ารพีพงษ์เขาเหมือนกับเด็กที่ไร้เรี่ยวแรง มีแต่โดนต่อยเท่านั้น
จนกระทั่งถึงตอนนี้ ชนสรณ์เพิ่งจะรู้ตัว ก่อนหน้านี้ที่รพีพงษ์ไม่โต้ตอบ แต่ก็แค่ยอมให้ตัวเองเท่านั้น ความสามารถแค่นี้ของตัวเองต่อหน้ารพีพงษ์ ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กันเลยเสียด้วยซ้ำ
เขาไม่อยากเสียหน้าอีกต่อไป หลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว มองรพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ โค้งคำนับแล้วกล่าว “หัวหน้าครูฝึก ความสามารถของคุณยอดเยี่ยม เกินกว่าที่ผมจะเทียบได้ ผมยอมแพ้ และขอโทษกับท่าทีก่อนหน้านี้ที่มีต่อหัวหน้าครูฝึก หวังว่าครูฝึกผู้ใจกว้าง จะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่ผ่านมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชนสรณ์จะเป็นผู้ช่วยหัวหน้าครูฝึกอย่างเต็มที่!”
รพีพงษ์พยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นก็หันหลังไปมองเหล่าทหารมังกร แล้วกล่าว “วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะอบรมพวกคุณอย่างเป็นทางการ ผมตั้งเกณฑ์ของพวกคุณไว้สูงมาก หวังว่าพวกคุณจะรับแรงกดดันได้ ผมรับรอง ถ้าพวกคุณสามารถยืนหยัดกับการฝึกฝนของผมได้ ในภายภาคหน้าพวกคุณจะต้องถอดรูปแปลงร่างแน่นอน!”
“รับทราบ! หัวหน้าครูฝึก!” ทหารมังกรตะโกนพร้อมกัน
รพีพงษ์ไม่พูดอะไรต่อ รับมอบวันนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ทัตดาเดินไปที่รพีพงษ์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วกล่าว “หัวหน้าครูฝึก ฉันพาไปดูที่พักที่เตรียมไว้สำหรับคุณ”
รพีพงษ์พยักหน้า แล้วเดินไปที่ฐานฝึกกับทัตดา