พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่955 สูงกว่าแดนปรมาจารย์

บทที่955 สูงกว่าแดนปรมาจารย์

บทที่955 สูงกว่าแดนปรมาจารย์

“เมื่อกี้……เมื่อกี้ผมประมาทก็เท่านั้น ครั้งนี้ผมไม่มีทางให้มันทำสำเร็จอย่างแน่นอน!”

ปรวีร์อับอาย ดูๆไปเหมือนกับแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพูด

เพียงแค่ตอนนี้มีคนดูอยู่มาก และการต่อสู้ครั้งนี้ระหว่างเขาและรพีพงษ์ก็เป็นเพราะทัตดา เขาไม่อยากยอมแพ้แบบนี้

พรภวิษย์มองปรวีร์อย่างไม่ช่วยไม่ได้ แล้วกล่าว “แกกับมันต่างกันมาก ไม่ว่าจะต่อสู้สักกี่ครั้ง ก็เจอจุดจบแบบเดิม”

ปรวีร์แว็บเดียวก็ชะงัก มองคุณปู่ของตัวเองอย่างไม่เชื่อ แล้วถาม “คุณปู่ หมายความว่าไง? ความสามารถของมัน เป็นแดนปรมาจารย์แล้วหรอ?”

พรภวิษย์หลับตาลง แล้วกล่าว “บางที อาจจะอยู่เหนือแดนปรมาจารย์เสียอีก”

ปรวีร์ชะงัก หันไปหารพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน

พรภวิษย์พูดแล้วว่าฝีมือของรพีพงษ์อาจจะอยู่เหนือกว่าแดนปรมาจารย์ นั่นก็หมายถึงรพีพงษ์เป็นแดนดั่งเทพแล้ว

อายุของรพีพงษ์มากกว่าเขาไม่กี่ปี ถ้าเทียบกัน ทั้งสองก็ยังจัดเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน

ที่ผ่านมาปรวีร์ถูกผู้คนเรียกว่าเป็นอัจฉริยะหนึ่งในหมื่น เพราะในรุ่นอายุของเขา ไม่ค่อยมีใครเป็นแดนปรมาจารย์

แต่ตอนนี้ผู้ชายที่ทัตดาพากลับมา อาจจะเป็นแดนดั่งเทพ

ปรวีร์รู้สึกว่ามุมมองของเขาได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่เก่งกว่าเขาเลย ในรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาปรีชาสามารถมาโดยตลอด ตอนนี้จู่ๆมีคนที่เก่งกว่าเขามากโผล่ขึ้นมา แน่นอนว่าเขารับไม่ได้

“เป็น……เป็นไปได้ไง คุณปู่คุณเพิ่งจะเป็นแดนดั่งเทพได้ไม่กี่ปี แล้วเขาอายุเท่านี้จะเป็นแดนดั่งเทพแล้วได้ไง?” ปรวีร์พูดเสียงสั่น

พรภวิษย์ไม่มีวิธีที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้ปรวีร์ฟังได้ แล้วหันไปหารพีพงษ์

ขณะนี้เมธชนันมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้

หลายชายพรภวิษย์ที่เขาให้ความสนใจนั้น เมื่อเทียบกับรพีพงษ์กลายเป็นคนไม่มีน้ำยาไปเลย

สามครั้งติดต่อกัน รพีพงษ์ถีบครั้งเดียวปรวีร์ก็ลอยไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีแรงกดดันเท่านั้น

เขามองรพีพงษ์ด้วยความซับซ้อน จากนั้นก็มองทัตดา เห็นทัตดาตื่นเต้น หลงใหลในรพีพงษ์อย่างนั้น ก็ได้แต่ถอนหายใจ

ครั้งนี้ เกรงว่าเขาจะมองพลาดไปเองแล้วล่ะ

ทัตดาวิ่งไปหารพีพงษ์ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ควงแขนรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “เมื่อกี้คุณสุดยอดมากจริงๆ”

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว แล้วพูดกับทัตดาเบาๆว่า “ปล่อยผม”

ทัตดายังคงยิ้ม แล้วใช้เสียงที่เหมือนกันตอบรพีพงษ์ “ตอนนี้คุณเป็นแฟนฉันนะ ฉันทำแบบนี้จึงจะสามารถให้พวกเขาเห็นว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นแน่นแฟ้น ฉันไม่ปล่อย”

รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงทำตามทัตดา

ปรวีร์อึดอัดใจ เขารู้ ว่าตัวเองได้เสียสิทธิ์ในการแย่งทัตดาจากรพีพงษ์แล้ว

พรภวิษย์จ้องรพีพงษ์ แล้วถาม “ความสามารถของคุณ เป็นระดับแดนดั่งเทพแล้ว?”

“ยัง แค่แดนดั่งเทพเท่านั้น” รพีพงษ์ไม่ปกปิด แล้วตอบพรภวิษย์

แม้จะใกล้เคียงกับที่ตัวเองคาดเดาไว้ แต่เขารู้สึกว่าระหว่างแดนครึ่งดั่งเทพกับแดนดั่งเทพนั้นไม่ต่างกันมาก

เป็นแดนดั่งเทพได้ในขณะที่อายุราวๆรพีพงษ์ ทำได้เพียงใช้คำว่าน่ากลัวมาอธิบาย

และชัดเจนว่าพรภวิษย์รู้สึกรับได้กับคำตอบนี้ของรพีพงษ์

ถ้ารพีพงษ์เป็นแดนดั่งเทพจริงๆ งั้นเขาที่เพิ่งเป็นแดนดั่งเทพไม่กี่ปี เกรงว่าจะไม่มีหน้าอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้แล้ว

“แดนดั่งเทพ ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นแล้ว น้องชาย ฝีมือและพรสวรรค์ของคุณเก่งกว่าปรวีร์เยอะ ก่อนหน้านี้พวกเราเสียมารยาท พวกเราขอโทษ” พรภวิษย์กล่าวอย่างจริงใจ

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่พูดอะไร

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่งจะรู้สึกตัว เทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้สายตาที่มองรพีพงษ์ เต็มไปด้วยความเลื่อมใส

“ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าสหายจะเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ ฉันคิดว่าเขาโอ้อวดเสียอีก ฉันคิดไปเอง”

“ไม่แปลกที่เป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร ที่แท้ก็มีเหตุผลของมัน ก่อนหน้านี้พวกเรามีอคติ คิดๆแล้วต้องขอโทษด้วยจริงๆ”

“จุ๊จุ๊จุ๊ ดูๆแล้วพวกเราเข้าใจทัตดาผิดไปแล้วล่ะ ไม่แปลกที่ช่วยหลายปีมานี้คุณท่านหาคู่ให้กับทัตดาแล้วทัตดาไม่ชอบ ที่แท้ตัวเองก็มีของดีขนาดนี้แล้ว จำเป็นต้องพูดว่าทัตดาเป็นสาวที่มีความสามารถจริงๆ”

……

เมธชนันมองทุกคนแล้วเริ่มชมรพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่ข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เพราะตอนแรกเขาสงสัยในตัวรพีพงษ์

ตอนนี้รพีพงษ์ได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก

“คุณปู่ ตอนนี้ยังจะไล่รพีพงษ์ไปอีกมั้ย เขาคือหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรนะ และความสามารถยังเก่งขนาดนี้ หลานเขยที่เยี่ยมขนาดนี้ ถ้าคุณปู่ยังไล่ไปอีก ชาตินี้ก็หาไม่ได้อีกแล้ว”

ทัตดาหันไปมองเมธชนันอย่างมีเลศนัย

เมธชนันมองเธอด้วยความไม่พอใจ แล้วพึมพำ “ทำอะไรแกไม่ได้จริงๆ”

ดูออก ว่าเขายอมรับรพีพงษ์แล้ว

เขามองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ความสามารถของแกไม่เลวจริงๆ ที่พวกเขาให้แกมาเป็นหัวหน้าครูฝึกของทหารมังกรนั้น มีเหตุผล แต่แกอย่าคิดว่าแบบนี้แล้วฉันจะเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองที่มีต่อแก”

“ที่ฉันหาแฟนของทัตดา ดูว่าจะดีกับทัตดาได้มั้ย จะรักเธอมั้ย ถ้าทำไม่ได้ ต่อให้แกเก่ง ฉันก็ไม่มีทางให้ทัตดาอยู่กับแกแน่”

ทัตดามองบน คิดในใจตอนนั้นคุณปู่ไม่ได้พูดแบบนี้หนิ

“แหม คุณปู่ รพีพงษ์ดีกับหนูมาก เขากลัวว่าหนูจะอ่อนแอ ยังวิดพื้นไปพร้อมๆกับหนูเลยนะ อันนี้คุณปู่วางใจได้” ทัตดากล่าว

เมธชนันไม่ตั้งใจหาเรื่องรพีพงษ์ แล้วพูดว่า “ในเมื่อก่อนเปรียบเทียบจบลงแล้ว งั้นพวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะนะ นี่เป็นแค่การเรียนรู้กันเท่านั้น หวังว่าพรภวิษย์กับปรวีร์จะไม่คิดมาก ”

เมธชนันยังคงเกรงใจอย่างมาก แต่พรภวิษย์และปรวีร์ทั้งสองรู้ ตัวแสดงหลักในวันนี้ ไม่ใช่พวกเขาอีกต่อไปแล้ว

ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินกลับไปที่คฤหาสน์นั้น มีลมพัดมา จากนั้น ร่างที่ทรงพลานุภาพปรากฏตัวกลางสนาม

ทุกคนตกใจ ไม่รู้ว่าคนที่ปรากฏขึ้นมากะทันหันนี้มาทำอะไร

หลังจากที่คนนั้นปรากฏกาย สายตาก็มองไปที่พรภวิษย์ จากนั้นก็ใช้เสียงที่น่ากลัวดังขึ้น “พรภวิษย์ไอ้เลว สุดท้ายแกก็ออกมาจากเขาแล้ว!”

“ฉันมาแกมาตั้งนาน วันนี้ถ้าฉันจับแกได้ อย่าคิดว่าแกจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเลย”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท