บทที่955 สูงกว่าแดนปรมาจารย์
“เมื่อกี้……เมื่อกี้ผมประมาทก็เท่านั้น ครั้งนี้ผมไม่มีทางให้มันทำสำเร็จอย่างแน่นอน!”
ปรวีร์อับอาย ดูๆไปเหมือนกับแม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองพูด
เพียงแค่ตอนนี้มีคนดูอยู่มาก และการต่อสู้ครั้งนี้ระหว่างเขาและรพีพงษ์ก็เป็นเพราะทัตดา เขาไม่อยากยอมแพ้แบบนี้
พรภวิษย์มองปรวีร์อย่างไม่ช่วยไม่ได้ แล้วกล่าว “แกกับมันต่างกันมาก ไม่ว่าจะต่อสู้สักกี่ครั้ง ก็เจอจุดจบแบบเดิม”
ปรวีร์แว็บเดียวก็ชะงัก มองคุณปู่ของตัวเองอย่างไม่เชื่อ แล้วถาม “คุณปู่ หมายความว่าไง? ความสามารถของมัน เป็นแดนปรมาจารย์แล้วหรอ?”
พรภวิษย์หลับตาลง แล้วกล่าว “บางที อาจจะอยู่เหนือแดนปรมาจารย์เสียอีก”
ปรวีร์ชะงัก หันไปหารพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
พรภวิษย์พูดแล้วว่าฝีมือของรพีพงษ์อาจจะอยู่เหนือกว่าแดนปรมาจารย์ นั่นก็หมายถึงรพีพงษ์เป็นแดนดั่งเทพแล้ว
อายุของรพีพงษ์มากกว่าเขาไม่กี่ปี ถ้าเทียบกัน ทั้งสองก็ยังจัดเป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
ที่ผ่านมาปรวีร์ถูกผู้คนเรียกว่าเป็นอัจฉริยะหนึ่งในหมื่น เพราะในรุ่นอายุของเขา ไม่ค่อยมีใครเป็นแดนปรมาจารย์
แต่ตอนนี้ผู้ชายที่ทัตดาพากลับมา อาจจะเป็นแดนดั่งเทพ
ปรวีร์รู้สึกว่ามุมมองของเขาได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่เก่งกว่าเขาเลย ในรุ่นราวคราวเดียวกัน เขาปรีชาสามารถมาโดยตลอด ตอนนี้จู่ๆมีคนที่เก่งกว่าเขามากโผล่ขึ้นมา แน่นอนว่าเขารับไม่ได้
“เป็น……เป็นไปได้ไง คุณปู่คุณเพิ่งจะเป็นแดนดั่งเทพได้ไม่กี่ปี แล้วเขาอายุเท่านี้จะเป็นแดนดั่งเทพแล้วได้ไง?” ปรวีร์พูดเสียงสั่น
พรภวิษย์ไม่มีวิธีที่จะอธิบายเรื่องนี้ให้ปรวีร์ฟังได้ แล้วหันไปหารพีพงษ์
ขณะนี้เมธชนันมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความประหลาดใจ ไม่คิดว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้
หลายชายพรภวิษย์ที่เขาให้ความสนใจนั้น เมื่อเทียบกับรพีพงษ์กลายเป็นคนไม่มีน้ำยาไปเลย
สามครั้งติดต่อกัน รพีพงษ์ถีบครั้งเดียวปรวีร์ก็ลอยไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีแรงกดดันเท่านั้น
เขามองรพีพงษ์ด้วยความซับซ้อน จากนั้นก็มองทัตดา เห็นทัตดาตื่นเต้น หลงใหลในรพีพงษ์อย่างนั้น ก็ได้แต่ถอนหายใจ
ครั้งนี้ เกรงว่าเขาจะมองพลาดไปเองแล้วล่ะ
ทัตดาวิ่งไปหารพีพงษ์ด้วยความดีใจ จากนั้นก็ควงแขนรพีพงษ์ ยิ้มพลางกล่าว “เมื่อกี้คุณสุดยอดมากจริงๆ”
รพีพงษ์ขมวดคิ้ว แล้วพูดกับทัตดาเบาๆว่า “ปล่อยผม”
ทัตดายังคงยิ้ม แล้วใช้เสียงที่เหมือนกันตอบรพีพงษ์ “ตอนนี้คุณเป็นแฟนฉันนะ ฉันทำแบบนี้จึงจะสามารถให้พวกเขาเห็นว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นแน่นแฟ้น ฉันไม่ปล่อย”
รพีพงษ์เซ็ง ทำได้เพียงทำตามทัตดา
ปรวีร์อึดอัดใจ เขารู้ ว่าตัวเองได้เสียสิทธิ์ในการแย่งทัตดาจากรพีพงษ์แล้ว
พรภวิษย์จ้องรพีพงษ์ แล้วถาม “ความสามารถของคุณ เป็นระดับแดนดั่งเทพแล้ว?”
“ยัง แค่แดนดั่งเทพเท่านั้น” รพีพงษ์ไม่ปกปิด แล้วตอบพรภวิษย์
แม้จะใกล้เคียงกับที่ตัวเองคาดเดาไว้ แต่เขารู้สึกว่าระหว่างแดนครึ่งดั่งเทพกับแดนดั่งเทพนั้นไม่ต่างกันมาก
เป็นแดนดั่งเทพได้ในขณะที่อายุราวๆรพีพงษ์ ทำได้เพียงใช้คำว่าน่ากลัวมาอธิบาย
และชัดเจนว่าพรภวิษย์รู้สึกรับได้กับคำตอบนี้ของรพีพงษ์
ถ้ารพีพงษ์เป็นแดนดั่งเทพจริงๆ งั้นเขาที่เพิ่งเป็นแดนดั่งเทพไม่กี่ปี เกรงว่าจะไม่มีหน้าอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้แล้ว
“แดนดั่งเทพ ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นแล้ว น้องชาย ฝีมือและพรสวรรค์ของคุณเก่งกว่าปรวีร์เยอะ ก่อนหน้านี้พวกเราเสียมารยาท พวกเราขอโทษ” พรภวิษย์กล่าวอย่างจริงใจ
รพีพงษ์พยักหน้า ไม่พูดอะไร
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่งจะรู้สึกตัว เทียบกับเมื่อก่อน ตอนนี้สายตาที่มองรพีพงษ์ เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
“ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าสหายจะเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ ฉันคิดว่าเขาโอ้อวดเสียอีก ฉันคิดไปเอง”
“ไม่แปลกที่เป็นหัวหน้าครูฝึกทหารมังกร ที่แท้ก็มีเหตุผลของมัน ก่อนหน้านี้พวกเรามีอคติ คิดๆแล้วต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“จุ๊จุ๊จุ๊ ดูๆแล้วพวกเราเข้าใจทัตดาผิดไปแล้วล่ะ ไม่แปลกที่ช่วยหลายปีมานี้คุณท่านหาคู่ให้กับทัตดาแล้วทัตดาไม่ชอบ ที่แท้ตัวเองก็มีของดีขนาดนี้แล้ว จำเป็นต้องพูดว่าทัตดาเป็นสาวที่มีความสามารถจริงๆ”
……
เมธชนันมองทุกคนแล้วเริ่มชมรพีพงษ์ ด้วยสีหน้าที่ข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เพราะตอนแรกเขาสงสัยในตัวรพีพงษ์
ตอนนี้รพีพงษ์ได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก
“คุณปู่ ตอนนี้ยังจะไล่รพีพงษ์ไปอีกมั้ย เขาคือหัวหน้าครูฝึกทหารมังกรนะ และความสามารถยังเก่งขนาดนี้ หลานเขยที่เยี่ยมขนาดนี้ ถ้าคุณปู่ยังไล่ไปอีก ชาตินี้ก็หาไม่ได้อีกแล้ว”
ทัตดาหันไปมองเมธชนันอย่างมีเลศนัย
เมธชนันมองเธอด้วยความไม่พอใจ แล้วพึมพำ “ทำอะไรแกไม่ได้จริงๆ”
ดูออก ว่าเขายอมรับรพีพงษ์แล้ว
เขามองรพีพงษ์ แล้วกล่าว “ความสามารถของแกไม่เลวจริงๆ ที่พวกเขาให้แกมาเป็นหัวหน้าครูฝึกของทหารมังกรนั้น มีเหตุผล แต่แกอย่าคิดว่าแบบนี้แล้วฉันจะเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองที่มีต่อแก”
“ที่ฉันหาแฟนของทัตดา ดูว่าจะดีกับทัตดาได้มั้ย จะรักเธอมั้ย ถ้าทำไม่ได้ ต่อให้แกเก่ง ฉันก็ไม่มีทางให้ทัตดาอยู่กับแกแน่”
ทัตดามองบน คิดในใจตอนนั้นคุณปู่ไม่ได้พูดแบบนี้หนิ
“แหม คุณปู่ รพีพงษ์ดีกับหนูมาก เขากลัวว่าหนูจะอ่อนแอ ยังวิดพื้นไปพร้อมๆกับหนูเลยนะ อันนี้คุณปู่วางใจได้” ทัตดากล่าว
เมธชนันไม่ตั้งใจหาเรื่องรพีพงษ์ แล้วพูดว่า “ในเมื่อก่อนเปรียบเทียบจบลงแล้ว งั้นพวกเราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะนะ นี่เป็นแค่การเรียนรู้กันเท่านั้น หวังว่าพรภวิษย์กับปรวีร์จะไม่คิดมาก ”
เมธชนันยังคงเกรงใจอย่างมาก แต่พรภวิษย์และปรวีร์ทั้งสองรู้ ตัวแสดงหลักในวันนี้ ไม่ใช่พวกเขาอีกต่อไปแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังเดินกลับไปที่คฤหาสน์นั้น มีลมพัดมา จากนั้น ร่างที่ทรงพลานุภาพปรากฏตัวกลางสนาม
ทุกคนตกใจ ไม่รู้ว่าคนที่ปรากฏขึ้นมากะทันหันนี้มาทำอะไร
หลังจากที่คนนั้นปรากฏกาย สายตาก็มองไปที่พรภวิษย์ จากนั้นก็ใช้เสียงที่น่ากลัวดังขึ้น “พรภวิษย์ไอ้เลว สุดท้ายแกก็ออกมาจากเขาแล้ว!”
“ฉันมาแกมาตั้งนาน วันนี้ถ้าฉันจับแกได้ อย่าคิดว่าแกจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกเลย”