พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่963 การแข่งขันความยิ่งใหญ่ของสองกองทัพ

บทที่963 การแข่งขันความยิ่งใหญ่ของสองกองทัพ

บทที่963 การแข่งขันความยิ่งใหญ่ของสองกองทัพ

สนามศิลปะการต่อสู้

การแข่งขันความยิ่งใหญ่ระหว่างทหารมังกรและกลุ่มหมาป่าจัดขึ้นในสนามศิลปะการต่อสู้แห่งนี้

ในเวลานี้พื้นที่ของสนามศิลปะการต่อสู้ เต็มไปด้วยผู้คนแล้ว คนที่สามารถมาดูการแข่งขันความยิ่งใหญ่ระหว่างสองกองทัพที่นี่นั้น เป็นคนที่มีสถานะที่แน่นอนอยู่ในกองทัพเป็นธรรมดา

พวกเขามีไม่น้อยที่จะพาครอบครัวและเพื่อนๆของตัวเองมาด้วย

นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีวิธีการพิเศษจากโลกภายนอก สามารถจะทำให้ได้รับสิทธิ์เข้าสู่ที่นี่ ก็จะวิ่งมาดูการเผชิญหน้าระหว่างสองกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีน

ในเวลานี้ที่นั่งตรงกลางอัฒจันทร์ มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่สวมเครื่องแบบนั่งลงอยู่ และบนหน้าอกของพวกเขา ถูกปักด้วยฟันหมาป่าที่น่าเกรงขาม

คนเหล่านี้ เป็นสมาชิกระดับสูงของกลุ่มหมาป่า

นั่งอยู่ตรงกลางคือชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่า

คนคนนี้คือผู้บัญชาการของกลุ่มหมาป่า ชมชาญ

ในเวลานี้ใบหน้าของชมชาญเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง พูดคุยกับผู้คนที่เข้ามาคุยกับเขาอย่างใจเย็น

แม้ว่ากลุ่มหมาป่าจะพ่ายแพ้ให้กับทหารมังกรในครั้งที่แล้ว แต่ว่ายังคงเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองในประเทศจีน โดยธรรมดาแล้วมีคนไม่น้อยต้องการที่ประจบสอพลอชมชาญ

และชมชาญมีความมั่นใจเพียงพอที่จะเอาชนะทหารมังกรได้ในครั้งนี้

ผู้คนเหล่านั้นที่มาพูดคุยกับชมชาญ ส่วนใหญ่ถือแนวคิดนี้เช่นเหมือนกัน

และเหตุผลที่พวกเขาคิดเช่นนี้ เป็นเพราะว่าทุกคนได้รับรู้ว่า หัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกร เป็นแค่ชายหนุ่มที่อายุยี่สิบกว่า

แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นผู้อาวุโสที่มียศถาบรรดาศักดิ์ แต่ว่าข้อมูลของรพีพงษ์ ถือเป็นความลับสุดยอดในกองทัพ นอกจากจารุวิทย์แล้ว โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครรู้เรื่องราววีรกรรมที่ผ่านมาของรพีพงษ์

สำหรับเรื่องราวที่รพีพงษ์ใช้พลังของตัวเองต่อสู้กับห้าตระกูลใหญ่ตอนนั้น เป็นเพียงการแพร่กระจายอย่างกว้างขวางในแวดวงศิลปะการต่อสู้ และผู้คนในกองทัพก็ไม่สนใจที่จะรับรู้เรื่องแบบนี้เป็นธรรมดา

สิ่งนี้ทำให้ทุกคนคิดว่าหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกรเป็นไอ้โง่ที่ไม่มีประสบการณ์อะไรมาก่อน แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงสามารถมานั่งเป็นหัวหน้าครูฝึกของทหารมังกรได้ แต่ทุกคนก็เห็นตรงกันเป็นเอกฉันท์กันว่า ในครั้งนี้ทหารมังกรต้องการเอาชนะกลุ่มหมาป่าอีก จะค่อนข้างยากลำบาก

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวข่าวลือของยอดฝีมือแดนปรมาจารย์ที่มีความแข็งแกร่งทรงพลังที่กลุ่มหมาป่าได้หามาเป็นครูฝึกทุกคนก็เคยได้ยิน

เมื่อรวมกันแล้ว ความคาดหวังของทุกคนที่มีต่อกลุ่มหมาป่านั้น ก็เหนือกว่าทหารมังกร

“หัวหน้าชาญ ได้ยินมาว่าครั้งนี้พวกคุณได้หายอดฝีมือแดนปรมาจารย์มาเป็นครูสอน ฉันได้ยินมาว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้เหล่านั้นไม่ค่อยรับปากกับคำขอเหล่านี้จากกองทัพ คาดไม่ถึงว่าหัวหน้าชาญจะเชิญคนมาได้ ดูเหมือนว่าการแข่งขันความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ กลุ่มหมาป่า คือมุ่งมั่นที่จะชนะ”

“พูดได้ถูกต้องไม่ทราบว่าปรมาจารย์ท่านนั้นอยู่ที่ไหน คุณช่วยแนะนำให้พวกเราได้มั้ย?”

“บังเอิญว่าท่านปรมาจารย์ชเยศมีธุระ เดี๋ยวรอเขาจัดการธุระเสร็จแล้วก็จะมา ถึงเวลาจะแนะนำพวกคุณให้รู้จักเอง”ชมชาญยิ้มแล้วเอ่ยปากพูด

ทุกคนพยักหน้าอย่างมีความสุข

ท่านปรมาจารย์ชเยศที่ชมชาญพูดถึง เป็นนายใหญ่ของตระกูล เชาวกรกุลซึ่งเป็นนายใหญ่หนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ในโลกศิลปะการต่อสู้ ชเยศ

ในการต่อสู้กับรพีพงษ์ตอนนั้น ชเยศได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบเสียชีวิต หลังจากการรักษาหลายครั้ง ในที่สุดก็สามารถรักษาชีวิตไว้ได้

การเผชิญหน้าของเขาคล้ายกับบดีศวร หลังจากครั้งนั้นแล้ว ตระกูลศิลปะการต่อสู้ก็ล่มสลาย บดีศวรพาคนของตระกูลวัชรชัยหนีไปยังประเทศญี่ปุ่น และชเยศเลือกที่จะเข้าร่วมเป็นทหาร

ในฐานะปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ ทหารให้ความสำคัญอย่างมากเป็นธรรมดา ครั้งนี้เขาได้รับเชิญจากชมชาญให้มาเป็นครูฝึกของกลุ่มหมาป่า ชเยศรู้สึกว่าความโชคดีของตระกูล เชาวกรกุลได้กลับมาแล้ว

เพียงแต่เขาไม่รู้ หัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกรชื่อว่ารพีพงษ์ ที่สำคัญเขารู้จักรพีพงษ์คนนั้นดีที่สุด

ชมชาญไม่สนใจรพีพงษ์ ดังนั้นจึงไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของรพีพงษ์ให้ชเยศได้ยิน

“ฉันได้ยินมาว่าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกรเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่า ก็ไม่รู้ว่าผู้นำคิดอย่างไร กลับให้เด็กน้อยคนหนึ่งมาเป็นหัวหน้าครูฝึกของทหารมังกร การแข่งขันความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ทหารมังกรต้องการจะเอาชนะกลุ่มหมาป่า ก็ยากแล้ว”

“ไม่แน่อาจเป็นเพราะผู้นำรู้สึกว่าความฮึกเหิมของทหารมังกรมีมากเกินไป ดังนั้นต้องการปราบปรามพวกเขา นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มหมาป่าที่จะฮึดขึ้นมา”

ชมชาญฟังผู้คนที่เยาะเย้ยทหารมังกรอย่างเปิดเผย บนใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข และก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา

ในเวลานี้ชนสรณ์และรพีพงษ์ได้นำกลุ่มคนระดับสูงของทหารมังกรเข้ามา การแข่งขันความยิ่งใหญ่ในวันนี้เป็นเพียงการแข่งขันระหว่างสมาชิกในกองทัพ พวกเขาไม่จำเป็นต้องลงสนาม

ชนสรณ์ได้ยินสิ่งที่ผู้คนพูดคุยกันเมื่อกี้นี้ จากนั้นก็พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา: “ก็กลัวว่าถึงเวลากลุ่มหมาป่าของพวกนายยังจะพ่ายแพ้อยู่ในกำมือทหารมังกรของพวกเรา ครั้งที่แล้ว พวกนายห่างเล็กน้อย ครั้งนี้ห่างไกลมากกว่า”

ทันใดนั้นใบหน้าของชมชาญก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ จ้องมองชนสรณ์แล้วเอ่ยปากพูดว่า: “นายอย่าได้ใจไปหน่อยเลย กลุ่มหมาป่าของเราได้ผ่านการชี้แนะของยอดฝีมือ ต้องการเอาชนะพวกนาย เรื่องที่ทำได้อย่างง่ายดาย”

ชนสรณ์เบะปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

หลังจากที่ทัตดากลับมา ได้บอกเรื่องราวที่รพีพงษ์ตัดหัวยอดฝีมือแดนดั่งเทพให้เขาฟัง หลังจากที่ชนสรณ์ได้ฟัง ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ เหนือกว่าปรมาจารย์ไปตั้งนานแล้ว แม้แต่แดนดั่งเทพ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

ถ้ากลุ่มหมาป่าหาแดนปรมาจารย์มาคนหนึ่งก็ถือว่าเป็นผู้ชำนาญ ถ้าอย่างนั้นรพีพงษ์ที่ชี้แนะพวกเขามาในหนึ่งเดือนนี้ ก็น่าจะเป็นเทพเจ้า

รพีพงษ์ก็ไม่สนใจ สำหรับความแข็งแกร่งของทหารมังกรในตอนนี้ เขายังค่อนข้างพอใจ

สายตาของชมชาญจับจ้องไปที่บนร่างกายรพีพงษ์ ในแววตาเผยให้เห็นการดูถูก เอ่ยปากพูดว่า: “นายก็คือหัวหน้าครูฝึกคนใหม่ของทหารมังกร อายุยังน้อยจริงๆ ที่ผ่านมาหารมังกรเคยเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศจีน อย่าได้เพราะนาย พวกเขาก็จะส่งมอบชื่อเสียงนี้ให้กับพวกเรา”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “สิ่งที่หัวหน้าชาญพูดคือ ชื่อเสียงนี้ ต่อให้คุณอยากได้ พวกเราก็ไม่มีทางให้”

สีหน้าของชมชาญก็แข็งทื่อไปทันที จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า: “คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กปากคอเราะราย แต่ทำได้เพียงแค่พูดอวดเก่ง ไม่สามารถนำทหารที่ดีออกมาได้ ถึงเวลากลุ่มหมาป่าของเรา จะทำให้นายได้รู้ว่า อะไรถึงจะเรียกว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”

“หวังเอาเถอะ”รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับชมชาญต่อไป เดินตรงไปยังบริเวณที่ทหารมังกรอยู่

ชมชาญมองดูด้านหลังของรพีพงษ์ และกัดฟันอย่างลับๆ โดยคิดในใจว่าเดี๋ยวจะต้องสั่งสอนเด็กรุ่นหลังที่หยิ่งผยองคนนี้เป็นอย่างดี

ผ่านไปไม่นาน การแข่งขันความยิ่งใหญ่ระหว่างทั้งสองกองทัพก็เริ่มขึ้น และทุกคนก็มุ่งความสนใจไปที่การแข่งขันความยิ่งใหญ่

การแข่งขันความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้มีสามรายการ ได้แก่การแข่งขันการต่อสู้คนเดียว การแข่งขันการต่อสู้แบบทีม และการต่อสู้แบบกลุ่ม

การแข่งขันเริ่มขึ้น ทุกคนในสนามเริ่มส่งเสียงเชียร์ขึ้นมา เพื่อส่งกำลังใจให้ผู้เข้าแข่งขันตัวจริงทั้งสองฝ่าย ฟังได้อย่างชัดเจนว่า เสียงเชียร์ให้กับกลุ่มหมาป่า มากกว่าเสียงเชียร์ของทหารมังกร

แต่ใช้เวลาไม่นาน เสียงเชียร์ของกลุ่มหมาป่าก็อ่อนลง

เนื่องจากการต่อสู้แบบทหารคนเดียวในรอบแรก สมาชิกของทหารมังกรได้รับชัยชนะด้วยความเร็วดุจสายฟ้า คนของกลุ่มหมาป่ายังไม่ทันได้ตอบสนองกลับ การแข่งขันก็จบลง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท