บทที่969 ทำได้เพียงสู้
ทวีรัชต์เป็นคนแรกที่ดึงสติกลับคืนมาได้ เขาหยิบปืนของตัวเองออกมาทันที เล็งไปที่แม็กซิมพวกเขาทั้งสี่คน ตะโกนเสียงดังว่า: “กล้ามาที่กองบัญชาการประเทศจีนของเรา พวกแกไม่กลัวตายจริงๆ!”
หลังจากพูดจบ เขาก็เหนี่ยวไกปืน ยิงปืนใส่แม็กซิมพวกเขาหลายนัด
ในฐานะนายพลที่อยู่ในกองทัพมาหลายปี ทวีรัชต์ยังคงมั่นใจในฝีมือความแม่นปืนของตัวเอง และเขาเชื่อมั่นว่าคนเหล่านี้จะไม่มีวันหลบลูกกระสุนของเขาพ้นได้
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เมื่อเสียงปืนดังขึ้น ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆแม็กซิมได้ปลดปล่อยพลังอันบริสุทธิ์ออกมาจากร่างกาย สร้างเกราะป้องกันตรงหน้าพวกเขา
กระสุนของทวีรัชต์ยิงโดนที่บนเกราะป้องกันชั้นนั้น ก็เหมือนราวกับว่ายิงเข้าในฝ้าย โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆต่อทั้งห้าคนเลย
“เป็นไปได้ยังไง!”เมื่อเห็นฉากนี้ ทวีรัชต์ก็แสดงสีหน้าตกใจอีกครั้ง เขาเหลือบมองไปที่รพีพงษ์โดยไม่รู้ตัว คาดไม่ถึงว่าทั้งห้าคนนี้ที่บุกเข้ามากองบัญชาการ กลับมีเหมือนกันกับรพีพงษ์ กลยุทธ์ต้านทานลูกกระสุน
ในเวลานี้เองรพีพงษ์ตระหนักได้ว่า ทั้งห้าคนที่ลักลอบเข้ามา กลับเป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้น
สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วพูดอย่างอดไม่ได้ พูดตามเหตุผลแล้ว ประเทศรัสเซียไม่ได้มีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้แบบเดียวกันกับประเทศจีน ส่วนใหญ่พวกเขาอาศัยรูปร่างที่เกิดมาสูงใหญ่ พลังที่แข็งแรงโด่งดังไปทั่วโลก
นอกจากนี้แดนดั่งเทพยังค่อนข้างยากที่จะบรรลุถึง ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนได้รับการสืบทอดมาเป็นเวลาหลายปี ยอดฝีมือแดนดั่งเทพในตอนนี้ ก็มีจำน้อย สถานการณ์ที่ครั้งเดียวปรากฏยอดฝีมือแดนดั่งเทพห้าคนมีน้อยมาก
ตอนนี้ประเทศรัสเซียได้ส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้นมาลอบสังหารโดยตรง ทำให้คนคิดไม่ออกจริงๆ
พวกเขาบรรลุถึงระดับแดนดั่งเทพได้อย่างไร?
ดูจากลมปราณและวิธีที่ใช้พลังของทั้งห้าคน ค่อนข้างคล้ายกับวิชาหายใจออกของประเทศจีน ที่สำคัญดูเหมือนว่าจะยอดเยี่ยมกว่า
ถ้าจะบอกว่าประเทศรัสเซียมีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังกว่าประเทศจีน รพีพงษ์คงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่เหลืออยู่ในที่เกิดเหตุก็ดึงสติกลับได้ เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนรอบๆมาโดยตลอดก็หยิบปืนพกออกมา และยิงไปที่แม็กซิมพวกเขาทั้งห้าคนโดยที่ไม่ลังเล
ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งสวนลาน เสียงปืนก็ดังขึ้นไปทั่ว ราวกับว่าเกิดมีการต่อสู้ด้วยปืนที่ดุเดือดขึ้น
ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างๆกายแม็กซิมต่างปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา สร้างเกราะป้องกันรอบตัว เพื่อต้านทานกระสุนของทุกคน เพียงแค่อาศัยความแรงของลูกกระสุนเหล่านี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายพวกเขาได้แม้แต่น้อย
“คนพวกนี้แปลกประหลาดมาก ลูกกระสุนไม่มีผลต่อพวกเขา!”มีคนตะโกนเสียงดัง
แต่ในเวลานี้อยากจะใช้อาวุธหนักคงจะไม่ทัน เนื่องจากใครก็คาดไม่ถึง คนประเทศรัสเซียจะส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพมาลอบสังหาร
ถ้าหากพวกเขาอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการลักลอบเข้ามา ทหารประเทศจีนจับพวกเขาไปทรมานสอบปากคำตั้งนานแล้ว
เนื่องจากกองบัญชาการไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาได้ตามอำเภอใจ
แต่อีกฝ่ายส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพห้าคนมา ซึ่งนี่ทำให้พวกเขารับมือไม่ทัน
“อย่าเปลืองลูกกระสุนเลย พวกเรามีพลังพิเศษ ลูกกระสุนไม่มีผลต่อพวกเรา พวกแกทุกคน รอรับความตายซะดีๆ!”
แม็กซิมตะโกนใส่ทุกคน จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ สุดท้ายสายก็จับจ้องไปที่บนร่างกายจารุวิทย์
บนใบหน้าของเขาแสยะยิ้ม จากนั้นภายใต้การคุ้มกันของทั้งสี่คน เดินไปทางจารุวิทย์
สีหน้าท่าทางของจารุวิทย์แน่วแน่มองไปที่แม็กซิม แม้ว่าตอนนี้จะรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในวิกฤตอันตรายครั้งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย
“ประเทศรัสเซียของพวกแกลืมไปแล้วเหรอที่ก่อนหน้านี้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ในมือของประเทศจีน? ตอนนี้กลับกล้าส่งคนมาลอบสังหารที่กองบัญชาการของประเทศจีนของเรา หรือว่าพวกแกก็ไม่กลัวที่จะทำให้เกิดสงครามขึ้นมาเหรอ?”จารุวิทย์จ้องมองแม็กซิมเอ่ยปากถาม
แม็กซิมหัวเราะขึ้นมา และเอ่ยปากพูดว่า: “ฆ่าแกแล้ว ฆ่าเจ้าหน้าที่ระดับชั้นสูงขอประเทศจีนของพวกแก ก็จะแตกความสามัคคี ถึงเวลาต่อให้จะระเบิดเกิดสงครามขึ้นจริงๆ พวกแกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเรามีผู้ชำนาญค่อยช่วยเหลือ ประเทศจีนของพวกแก ไม่ช้าก็เร็วก็จะพวกเราถูกเหยียบย่ำใต้อยู่เท้า”
“เหอะ แกก็แน่ใจจริงเหรอว่าครั้งนี้จะสามารถฆ่าฉันได้?”จารุวิทย์ส่งเสียงเย็นชา แววตาที่มองไปที่แม็กซิมมีความเยือกเย็น
ในฐานะผู้นำของประเทศจีน จารุวิทย์ก็มีวิธีการป้องกันตนเองเป็นธรรมดา ในเวลานี้ในมือข้างหนึ่งของเขา ถือปุ่มไว้หนึ่งอันแล้ว
เพียงแต่ว่าสถานการณ์เร่งด่วน จารุวิทย์สามารถใช้วิธีการช่วยชีวิตที่จำกัด ที่สำคัญถ้าเกิดใช้แล้ว ชีวิตของตัวเขาเองก็จะได้รับอันตราย ดังนั้นหากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ห้ามกดปุ่มนั้นเป็นอันขาด
“ถ้าเป็นที่ผ่านมา พวกเราแม้แต่จะเข้าใกล้แกยังยากที่จะทำได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน พวกเรามีพลังที่แข็งแกร่งพิเศษ และแม้แต่ลูกกระสุนก็ไม่มีผลกับเรา”
“ฉันรู้ว่าในประเทศจีนของพวกแกมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ว่าในสถานที่นี้คงจะไม่มีอย่างแน่นอน พวกแกก็คงจะคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะมีพลังแบบนี้ ดังนั้นวันนี้แกอยู่ตรงหน้า ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
แม็กซิมเอ่ยปากพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
ดวงตาของจารุวิทย์หรี่ลง ในหัวสมองครุ่นคิดถึงมาตรการรับมืออย่างรวดเร็ว
“เวลาไม่เคยค่อยท่า ตอนนี้ฉันก็ให้แกได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของฉัน!”
แม็กซิมไม่ได้ลังเล มือข้างหนึ่งหลอมรวมพลังภายในกลายเป็นหอกยาว จากนั้นใช้เรี่ยวแรงเหวี่ยงหอกยาว ไปบนตัวร่างกายของจารุวิทย์ ความเร็วนั้นเร็ว เหมือนกระสุน
ในช่วงเวลาสั้นๆ จารุวิทย์ไม่ทันได้ดึงสติกลับมา ทำได้เพียงมองดูหอกยาว ที่แทงเข้าหาบนร่างกายของตัวเอง
ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าจารุวิทย์ คือรพีพงษ์ที่ถือมุรามาสะ
เขาปกคลุมพลังวิเศษเสนไว้บนดาบ จากนั้นใช้พละกำลังทั้งหมด ฟันไปที่หอกยาว ที่บินมา
เมื่อทั้งสองปะทะกัน คลื่นที่รุนแรงก็แตกออกในทันที ซึ่งทำให้คนรอบข้างสั่นสะเทือนล้มลงไปที่พื้นทันที
“ใครบอกแก ที่นี่ไม่มีใครสามารถรับมือกับพวกแกได้เหรอ?”
แววตารพีพงษ์เยือกเย็น จ้องมองแม็กซิม พลังอานุภาพก็ไม่อ่อนแอไปกว่าอีกฝ่าย
แม็กซิมเห็นการโจมตีของตัวเองถูกคนต้านทานไว้ได้ บนใบหน้าก็แสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ
“คาดไม่ถึงว่าพวกแกจะซ่อนยอดฝีมือแบบนี้ไว้ที่นี่ ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินพวกคุณต่ำเกินไปจริงๆ”แม็กซิมจ้องมองรพีพงษ์ กัดฟันพูด
หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้นจากบนพื้น ในแววตาก็แสดงถึงความตื่นเต้น เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว พวกเขาทำได้เพียงแค่ฝากความหวังไว้ที่บนตัวรพีพงษ์
“ยอมพ่ายแพ้ตอนนี้ ฉันยังสามารถทำให้พวกแกตายเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้น พวกแกจะตายทั้งเป็น”รพีพงษ์กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
บนใบหน้าของแม็กซิมก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เด็กน้อย แกลืมตามองดูให้ดีๆ แกแค่คนเดียว แต่พวกเรามีกันตั้งห้าคน แกอยากให้พวกเรายอมแพ้เหรอ? น่าตลกสิ้นดี!”
รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ยกมุรามาสะในมือของตัวเองขึ้นมา
การร่วมมือของยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้น สำหรับเขาแล้วกลับเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่ว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงสู้!