พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่969 ทำได้เพียงสู้

บทที่969 ทำได้เพียงสู้

บทที่969 ทำได้เพียงสู้

ทวีรัชต์เป็นคนแรกที่ดึงสติกลับคืนมาได้ เขาหยิบปืนของตัวเองออกมาทันที เล็งไปที่แม็กซิมพวกเขาทั้งสี่คน ตะโกนเสียงดังว่า: “กล้ามาที่กองบัญชาการประเทศจีนของเรา พวกแกไม่กลัวตายจริงๆ!”

หลังจากพูดจบ เขาก็เหนี่ยวไกปืน ยิงปืนใส่แม็กซิมพวกเขาหลายนัด

ในฐานะนายพลที่อยู่ในกองทัพมาหลายปี ทวีรัชต์ยังคงมั่นใจในฝีมือความแม่นปืนของตัวเอง และเขาเชื่อมั่นว่าคนเหล่านี้จะไม่มีวันหลบลูกกระสุนของเขาพ้นได้

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ เมื่อเสียงปืนดังขึ้น ทั้งสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆแม็กซิมได้ปลดปล่อยพลังอันบริสุทธิ์ออกมาจากร่างกาย สร้างเกราะป้องกันตรงหน้าพวกเขา

กระสุนของทวีรัชต์ยิงโดนที่บนเกราะป้องกันชั้นนั้น ก็เหมือนราวกับว่ายิงเข้าในฝ้าย โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆต่อทั้งห้าคนเลย

“เป็นไปได้ยังไง!”เมื่อเห็นฉากนี้ ทวีรัชต์ก็แสดงสีหน้าตกใจอีกครั้ง เขาเหลือบมองไปที่รพีพงษ์โดยไม่รู้ตัว คาดไม่ถึงว่าทั้งห้าคนนี้ที่บุกเข้ามากองบัญชาการ กลับมีเหมือนกันกับรพีพงษ์ กลยุทธ์ต้านทานลูกกระสุน

ในเวลานี้เองรพีพงษ์ตระหนักได้ว่า ทั้งห้าคนที่ลักลอบเข้ามา กลับเป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้น

สิ่งนี้ทำให้เขาขมวดคิ้วพูดอย่างอดไม่ได้ พูดตามเหตุผลแล้ว ประเทศรัสเซียไม่ได้มีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้แบบเดียวกันกับประเทศจีน ส่วนใหญ่พวกเขาอาศัยรูปร่างที่เกิดมาสูงใหญ่ พลังที่แข็งแรงโด่งดังไปทั่วโลก

นอกจากนี้แดนดั่งเทพยังค่อนข้างยากที่จะบรรลุถึง ศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนได้รับการสืบทอดมาเป็นเวลาหลายปี ยอดฝีมือแดนดั่งเทพในตอนนี้ ก็มีจำน้อย สถานการณ์ที่ครั้งเดียวปรากฏยอดฝีมือแดนดั่งเทพห้าคนมีน้อยมาก

ตอนนี้ประเทศรัสเซียได้ส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้นมาลอบสังหารโดยตรง ทำให้คนคิดไม่ออกจริงๆ

พวกเขาบรรลุถึงระดับแดนดั่งเทพได้อย่างไร?

ดูจากลมปราณและวิธีที่ใช้พลังของทั้งห้าคน ค่อนข้างคล้ายกับวิชาหายใจออกของประเทศจีน ที่สำคัญดูเหมือนว่าจะยอดเยี่ยมกว่า

ถ้าจะบอกว่าประเทศรัสเซียมีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังกว่าประเทศจีน รพีพงษ์คงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนที่เหลืออยู่ในที่เกิดเหตุก็ดึงสติกลับได้ เจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนรอบๆมาโดยตลอดก็หยิบปืนพกออกมา และยิงไปที่แม็กซิมพวกเขาทั้งห้าคนโดยที่ไม่ลังเล

ชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งสวนลาน เสียงปืนก็ดังขึ้นไปทั่ว ราวกับว่าเกิดมีการต่อสู้ด้วยปืนที่ดุเดือดขึ้น

ทั้งสี่คนที่อยู่ข้างๆกายแม็กซิมต่างปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมา สร้างเกราะป้องกันรอบตัว เพื่อต้านทานกระสุนของทุกคน เพียงแค่อาศัยความแรงของลูกกระสุนเหล่านี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายพวกเขาได้แม้แต่น้อย

“คนพวกนี้แปลกประหลาดมาก ลูกกระสุนไม่มีผลต่อพวกเขา!”มีคนตะโกนเสียงดัง

แต่ในเวลานี้อยากจะใช้อาวุธหนักคงจะไม่ทัน เนื่องจากใครก็คาดไม่ถึง คนประเทศรัสเซียจะส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพมาลอบสังหาร

ถ้าหากพวกเขาอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการลักลอบเข้ามา ทหารประเทศจีนจับพวกเขาไปทรมานสอบปากคำตั้งนานแล้ว

เนื่องจากกองบัญชาการไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาได้ตามอำเภอใจ

แต่อีกฝ่ายส่งยอดฝีมือแดนดั่งเทพห้าคนมา ซึ่งนี่ทำให้พวกเขารับมือไม่ทัน

“อย่าเปลืองลูกกระสุนเลย พวกเรามีพลังพิเศษ ลูกกระสุนไม่มีผลต่อพวกเรา พวกแกทุกคน รอรับความตายซะดีๆ!”

แม็กซิมตะโกนใส่ทุกคน จากนั้นก็กวาดสายตามองไปรอบๆ สุดท้ายสายก็จับจ้องไปที่บนร่างกายจารุวิทย์

บนใบหน้าของเขาแสยะยิ้ม จากนั้นภายใต้การคุ้มกันของทั้งสี่คน เดินไปทางจารุวิทย์

สีหน้าท่าทางของจารุวิทย์แน่วแน่มองไปที่แม็กซิม แม้ว่าตอนนี้จะรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในวิกฤตอันตรายครั้งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย

“ประเทศรัสเซียของพวกแกลืมไปแล้วเหรอที่ก่อนหน้านี้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ในมือของประเทศจีน? ตอนนี้กลับกล้าส่งคนมาลอบสังหารที่กองบัญชาการของประเทศจีนของเรา หรือว่าพวกแกก็ไม่กลัวที่จะทำให้เกิดสงครามขึ้นมาเหรอ?”จารุวิทย์จ้องมองแม็กซิมเอ่ยปากถาม

แม็กซิมหัวเราะขึ้นมา และเอ่ยปากพูดว่า: “ฆ่าแกแล้ว ฆ่าเจ้าหน้าที่ระดับชั้นสูงขอประเทศจีนของพวกแก ก็จะแตกความสามัคคี ถึงเวลาต่อให้จะระเบิดเกิดสงครามขึ้นจริงๆ พวกแกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเรามีผู้ชำนาญค่อยช่วยเหลือ ประเทศจีนของพวกแก ไม่ช้าก็เร็วก็จะพวกเราถูกเหยียบย่ำใต้อยู่เท้า”

“เหอะ แกก็แน่ใจจริงเหรอว่าครั้งนี้จะสามารถฆ่าฉันได้?”จารุวิทย์ส่งเสียงเย็นชา แววตาที่มองไปที่แม็กซิมมีความเยือกเย็น

ในฐานะผู้นำของประเทศจีน จารุวิทย์ก็มีวิธีการป้องกันตนเองเป็นธรรมดา ในเวลานี้ในมือข้างหนึ่งของเขา ถือปุ่มไว้หนึ่งอันแล้ว

เพียงแต่ว่าสถานการณ์เร่งด่วน จารุวิทย์สามารถใช้วิธีการช่วยชีวิตที่จำกัด ที่สำคัญถ้าเกิดใช้แล้ว ชีวิตของตัวเขาเองก็จะได้รับอันตราย ดังนั้นหากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย ห้ามกดปุ่มนั้นเป็นอันขาด

“ถ้าเป็นที่ผ่านมา พวกเราแม้แต่จะเข้าใกล้แกยังยากที่จะทำได้ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน พวกเรามีพลังที่แข็งแกร่งพิเศษ และแม้แต่ลูกกระสุนก็ไม่มีผลกับเรา”

“ฉันรู้ว่าในประเทศจีนของพวกแกมีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แต่ว่าในสถานที่นี้คงจะไม่มีอย่างแน่นอน พวกแกก็คงจะคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะมีพลังแบบนี้ ดังนั้นวันนี้แกอยู่ตรงหน้า ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

แม็กซิมเอ่ยปากพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ดวงตาของจารุวิทย์หรี่ลง ในหัวสมองครุ่นคิดถึงมาตรการรับมืออย่างรวดเร็ว

“เวลาไม่เคยค่อยท่า ตอนนี้ฉันก็ให้แกได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของฉัน!”

แม็กซิมไม่ได้ลังเล มือข้างหนึ่งหลอมรวมพลังภายในกลายเป็นหอกยาว จากนั้นใช้เรี่ยวแรงเหวี่ยงหอกยาว ไปบนตัวร่างกายของจารุวิทย์ ความเร็วนั้นเร็ว เหมือนกระสุน

ในช่วงเวลาสั้นๆ จารุวิทย์ไม่ทันได้ดึงสติกลับมา ทำได้เพียงมองดูหอกยาว ที่แทงเข้าหาบนร่างกายของตัวเอง

ในขณะนี้ มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าจารุวิทย์ คือรพีพงษ์ที่ถือมุรามาสะ

เขาปกคลุมพลังวิเศษเสนไว้บนดาบ จากนั้นใช้พละกำลังทั้งหมด ฟันไปที่หอกยาว ที่บินมา

เมื่อทั้งสองปะทะกัน คลื่นที่รุนแรงก็แตกออกในทันที ซึ่งทำให้คนรอบข้างสั่นสะเทือนล้มลงไปที่พื้นทันที

“ใครบอกแก ที่นี่ไม่มีใครสามารถรับมือกับพวกแกได้เหรอ?”

แววตารพีพงษ์เยือกเย็น จ้องมองแม็กซิม พลังอานุภาพก็ไม่อ่อนแอไปกว่าอีกฝ่าย

แม็กซิมเห็นการโจมตีของตัวเองถูกคนต้านทานไว้ได้ บนใบหน้าก็แสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ

“คาดไม่ถึงว่าพวกแกจะซ่อนยอดฝีมือแบบนี้ไว้ที่นี่ ดูเหมือนว่าพวกเราจะประเมินพวกคุณต่ำเกินไปจริงๆ”แม็กซิมจ้องมองรพีพงษ์ กัดฟันพูด

หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้นจากบนพื้น ในแววตาก็แสดงถึงความตื่นเต้น เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว พวกเขาทำได้เพียงแค่ฝากความหวังไว้ที่บนตัวรพีพงษ์

“ยอมพ่ายแพ้ตอนนี้ ฉันยังสามารถทำให้พวกแกตายเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้น พวกแกจะตายทั้งเป็น”รพีพงษ์กล่าวด้วยเสียงราบเรียบ

บนใบหน้าของแม็กซิมก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า: “เด็กน้อย แกลืมตามองดูให้ดีๆ แกแค่คนเดียว แต่พวกเรามีกันตั้งห้าคน แกอยากให้พวกเรายอมแพ้เหรอ? น่าตลกสิ้นดี!”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ยกมุรามาสะในมือของตัวเองขึ้นมา

การร่วมมือของยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นต้น สำหรับเขาแล้วกลับเป็นความท้าทายอย่างมาก แต่ว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงสู้!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท