บทที่982 ขอโทษ
หลังจากที่ผู้คนที่กำลังรอให้ราชามวยปล่อยหมัดอยู่เห็นเหตุการณ์นี้แล้วนั้น ก็เงียบสงัดลง
พวกเขาตาโต มองร่างของราชามวยที่ลอยไปอย่างไม่เชื่อ ขณะนี้ เหมือนโลกทั้งใบได้หยุดหมด
การ์ดยังคงรอที่จะเห็นรพีพงษ์ถูกชกเป็นหัวหมู ได้เตรียมไว้ท่าทีที่จะให้กำลังใจไว้แล้ว เพื่อรอให้ราชามวยปล่อยหมัด
แต่ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง การต่อสู้ยังไม่ทันเริ่ม ราชามวยก็ถูกรพีพงษ์หมัดเดียวลอยออกไปนอกเวทีแล้ว
“เป็น……เป็นไปได้ไง เด็กนั่น ทำไมเก่งอาจขนาดนี้?” การ์ดพึมพำกับตัวเอง ด้วยความประหลาดใจ
คนของมอสโกไม่เคยเห็นฉากนี้มาก่อน ในมโนภาพของเขา ราชามวยไร้ซึ่งคู่ต่อกรได้ แต่ทว่าตอนนี้กลับถูกคนธรรมดา หนึ่งในพวกเขายังต่อยเด็กนี้ให้ลอยไปได้เลย
แค่หมัดเดียว ราชามวยของพวกเขายังไม่ทันได้ระวังตัว ก็ลอยออกนอกเวทีไปแล้ว
ลักษณะของราชามวยนี้แม้ในประเทศรัสเซียจะเหมือนยักษ์ บอกกับกล้ามเนื้อบนร่างกาย จะต่อยเขาให้ลอยภายในหมัดเดียว คิดไม่ออกเลยจริงๆว่าหมัดนั้นของรพีพงษ์จะมีพลังมากมายขนาดไหนเชียว
ผ่านไปสักพัก เพิ่งจะมีคนรู้สึกตัว เริ่มส่งเสียงตะลึงกับความแข็งแกร่งของรพีพงษ์
“นี่……นี่มันช่างเก่งกาจจริงๆ ในผับนี้ราชามวยไร้คู่ต่อสู้นะแต่กลับถูกคนนี้หมัดเดียวจอด!”
“เมื่อก่อนฉันคิดว่าคนจีนไม่เก่ง ไม่คิดว่าพวกเขาที่ดูๆแล้วอ่อนแอ จะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ ดูๆแล้วถ้าอนาคตเจอเข้ากับคนจีน ต้องมีมารยาทสักหน่อยแล้ว”
“ไม่คิดว่ากังฟูของประเทศจีนจะดีจริงๆ หมัดเมื่อกี้ของเขาเจ๋งจริงๆอะ ไม่รู้ว่ารับลูกศิษย์มั้ย ถ้ารับล่ะก็ ฉันจะไปขอเป็นศิษย์”
……
หลังจากที่ราชามวยล้มลง ก็ล้มไปพักหนึ่ง หลังจากที่ตั้งสติกลับมาได้ เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองยังหายใจอยู่ จึงรีบหายใจอย่างลึกๆ
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นรพีพงษ์หมัดเดียวต่อยเขาลอย นั่นก็เป็นแค่ภายนอก มีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าหมัดเมื่อกี้น่ากลัวขนาดไหน
แล้วเขารับรู้ได้ ว่าหมัดนี้ของรพีพงษ์ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด เขารู้สึกได้ว่ารพีพงษ์ออมมือ ถ้ารพีพงษ์ใช้พลังทั้งหมด ตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว
หลังจากที่ยืนขึ้นจากพื้นแล้ว ราชามวยมองไปหารพีพงษ์ด้วยความเคารพ จากนั้นก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวอย่างเสียงดังว่า “ขอโทษนะ ก่อนหน้านี้ผมไม่ควรจะพูดแบบนั้น ผมหลงตัวเองเกินไป”
ทุกคนในเหตุการณ์ส่งเสียงดังอีกครั้ง พวกเขาไม่คิดว่าราชามวย จะขอโทษรพีพงษ์ต่อหน้าพวกเขา!
นี่พิสูจน์ได้ว่า หมัดเมื่อกี้ของรพีพงษ์ ไม่ใช่เป็นเพราะโชคช่วย แต่เพราะยอดเยี่ยมจริงๆต่างหาก แม้แต่ราชามวยถูกต่อยจนเลื่อมใสแล้ว
ทุกคนมองรพีพงษ์ด้วยความเลื่อมใส หลังจากนี้ไป พวกเขาไม่มีทางดูถูกคนจีนแม้แต่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
รพีพงษ์เห็นท่าทีการขอโทษของราชามวยถือว่าค่อนข้างจริงจัง จึงไม่คิดเล็กคิดน้อยใดๆกับเขาอีกต่อไป แล้วจึงกระโดดลงจากเวทีไป
ผู้คนรีบหลีกทางให้รพีพงษ์ ไม่มีใครกล้าขวางทางไว้
รพีพงษ์ไม่สนสายตาของผู้คน สถานการณ์แบบนี้ เขาเห็นมาเยอะแล้ว
คิดๆงานเลี้ยงของปิยวัฒน์น่าจะใกล้เริ่มขึ้นแล้ว รพีพงษ์จึงเดินเข้าไปด้านใน
การ์ดคนนั้นได้แต่เหม่อดู รพีพงษ์เดินไป
“ที่แท้ ในสายตามันกูเป็นแค่ตัวตลก แม้แต่ราชามวย ก็ต่อกรได้แค่หมัดเดียว แล้วกูจะเรียกว่าอะไรเนี่ย?”
หลังจากที่ถอนหายใจอย่างเซ็งแล้ว การ์ดก็หันหลังเดินออกไปนอกผับอย่างสิ้นหวัง
……
ณ ห้องรับรองระดับสูงของผับ
ขณะนี้รพีพงษ์กำลังนั่งอยู่ตรงที่นั่งหลัก ในห้องรับรองในคนจำนวนมากนั่งลงแล้ว พวกเขามองปิยวัฒน์ด้วยความยินดี ต่างพูดจาให้เกียรติซึ่งกันและกัน
คนพวกนี้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับหนังใหม่ครั้งนี้ของปิยวัฒน์ ได้พูดว่าปิยวัฒน์กุมความก้าวหน้าของพวกเขาไว้ พวกเขาต้องประจบสอพลอปิยวัฒน์ให้มากๆ
ขณะนี้ประตูของห้องรับรองถูกเปิดออก จันทร์ปรียาที่ยิ้มได้เดินเข้ามาจากด้านนอก
เมื่อเธอเข้ามา ผู้คนก็ต่างทักทายด้วยความกระตือรือร้น โดยเฉพาะปิยวัฒน์
แต่เธอไม่ได้ประจบสอพลอเกินไปอย่างที่คนอื่นทำ แต่ควบคุมไว้ในระดับที่พอดี
ผู้คนเห็นจันทร์ปรียาเดินเข้ามา บรรยากาศก็เริ่มครึกครื้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน คนสวยก็มักจะสร้างสีสันได้เสมอ
ปิยวัฒน์ไม่พูดพร่ำทำเพลง กล่าวกับผู้คนว่า “งานเลี้ยงครั้งนี้ผมได้เชิญคนที่สำคัญอย่างมากคนหนึ่งมา ตัวตนและฐานะของคนนี้ พวกเราจินตนาการไม่ออกแน่นอน ดังนั้นหลังจากที่บุคคลท่านนั้นมาถึงแล้ว หวังว่าทุกท่านจะกระตือรือร้น”
ผู้คนรีบพยักหน้า คนที่สามารถทำให้ปิยวัฒน์ให้ความสำคัญได้ จะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
จันทร์ปรียามองไปรอบๆ คิดในใจคนที่ปิยวัฒน์คิดว่าสำคัญมากนัก จะต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสล่ะก็ เธอจะต้องประจบสักหน่อยแล้ว
ในขณะที่ปิยวัฒน์พูดจบได้ไม่นาน ประตูของห้องรับรองก็ถูกเปิดออก
คนที่เข้ามา คือรพีพงษ์