พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์

บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์

บทที่992 ฉันไม่อนุญาตให้คุณทำอะไรรพีพงษ์

ผู้ลี้ลับคนนั้นได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ชะงัก น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ของตัวเองว่าจะเป็นอย่างไรแล้ว

ดังนั้นเขาจึงไม่บังคับให้รพีพงษ์ขึ้นบนเวที เพราะไม่ว่าจะเอาใครมาเป็นตัวอย่าง สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกัน

เขาไม่คิดว่าฝีมือของรพีพงษ์ จะรอดจากน้ำมือของเขาไปได้

ดังนั้นเขาจึงมองไปที่ยาคอฟ แล้วกล่าว “งั้นแกขึ้นมาแล้วกัน เป็นตัวอย่างให้ทุกคนดูหน่อย”

ยาคอฟเห็นผู้ลี้ลับไม่เอารพีพงษ์ แล้วมาเลือกเขา นัยน์ตาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ยังหันหน้าไปมองรพีพงษ์อีกด้วย

จากนั้นเขาก็รีบขึ้นบนเวที ยืนอยู่ข้างๆผู้ลี้ลับอย่างอ่อนน้อม

ฟีน่ามองรพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ แล้วถาม “ทำไมคุณต้องมอบโอกาสนี้ให้เขา?”

รพีพงษ์ยิ้มให้ฟีน่า แล้วกล่าว “นี่ไม่ใช่โอกาสดีอะไร ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะต้องโชคร้าย”

“โชคร้าย?” ฟีน่าแปลกใจขึ้นมา

รพีพงษ์พยักหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แล้วกล่าว “แม้ไม่รู้ว่าทำไมคนนี้ต้องจัดงานเลี้ยงหมื่นคน แต่จุดประสงค์ของเขาไม่ดีแน่นอน”

“ถ้าผมเดาไม่ผิด แสงสีดำได้ล้อมรอบๆลานจัตุรัสไว้แล้ว เดี๋ยวถ้าเกิดอะไรขึ้น คุณจำไว้ว่าต้องไปที่แสงนั่น ไม่ว่าจะออกไปได้หรือไม่ ให้ไปรอที่นั่น ได้ยินมั้ย?”

ฟีน่าได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็ประหลาดใจ เธอมองว่า น่าจะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สิจึงจะใช้ ทำไมรพีพงษ์ถึงได้พูดว่าเดี๋ยวจะเกิดเหตุนะ?

แต่แม้ว่าในใจจะสงสัย แต่ฟีน่าก็พยักหน้าให้รพีพงษ์ ไม่รู้ว่าทำไม เธอรู้สึกว่าตัวเองต้องเชื่อรพีพงษ์อย่างไม่มีข้อสงสัย

รพีพงษ์สูดหายใจเข้าลึกๆฝีมือของผู้ลี้ลับนี้เก่งมาก อีกเดี๋ยวยากนักที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่หืดขึ้นคอได้ ถึงเวลานั้นสถานการณ์เป็นยังไง รพีพงษ์ก็ไม่มั่นใจ สถานการณ์ของฟีน่าจะเป็นไงเขาก็ไม่มีเวลาเอาทัน

ตอนนี้หวังเพียงสาวคนนี้จะโชคดีสักหน่อย

ผู้ลี้ลับเปิดกล่องยาวนั้นออก เห็นคนกำลังนอนอยู่

คนนี้กำลังปิดตาสนิท บนหน้าผาก เต็มไปด้วยลายสีดำสลับซับซ้อน ดูๆแล้วค่อนข้างแปลกประหลาด

ยาคอฟมองไปยังคนที่อยู่ในกล่องนั้น ด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ถึงได้เอาคนไปวางไว้ในกล่อง แล้วดูๆไปยังน่ากลัวอีกด้วย

ผู้ลี้ลับยิ้มให้ยาคอฟ แล้วกล่าว “ไม่ต้องกลัว มาใกล้ๆฉันหน่อย อีกไม่นานแกจะได้คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ในตัวของแกตลอดชีวิตแล้ว”

แม้ยาคอฟจะกระวนกระวายใจ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของผู้ยิ่งใหญ่ แล้วรีบเดินไปที่กล่องนั้น

ผู้ลี้ลับเห็นยาคอฟเดินมาใกล้ ในมือมีตราที่ซับซ้อนอยู่ จากนั้นพลังที่มหาศาลก็ปรากฏออกมา ล้อมตัวของยาคอฟไว้

วินาทีต่อมา ยาคอฟรู้สึกมีพลังดูดที่แข็งแกร่งเกิดขึ้น เขาเกิดความกลัวขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็ถอยหลังไป

แต่ทุกอย่างสายไปแล้ว ยาคอฟรู้สึกว่าตัวเองขยับไม่ได้อีกแล้ว พลังดูดนั้นยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เขารู้สึกชีวิตชีวาของเขาเริ่มหายไป รวมอยู่กับคนนั้นที่นอนอยู่ในกล่อง

“ไม่!” ยาคอฟโอดครวญ จากนั้น ทุกคนก็มองไปที่ยาคอฟจากคนที่มีชีวิต เปลี่ยนเป็นศพแห้ง

เดิมที่ผู้คนมองวิชาของผู้ลี้ลับ คิดว่าจะปล่อยอะไรที่มหัศจรรย์ออกมา สุดท้ายกลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าผวา

ทุกคนตกใจจนร้องกรี๊ดออกมา ลานจัตุรัสเริ่มวุ่นวายขึ้น

“น่ากลัวจัง นี่กำลังทำอะไรกันแน่! ทำไมคนนั้นเปลี่ยนเป็นศพไปได้!”

“พระเจ้า คนนั้นมันต้องเป็นพ่อมดแน่ๆ ทุกคนรีบหนี!”

“ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้? คนนั้นที่มีชีวิตอยู่ดีๆ แว็บเดียวก็กลายเป็นแบบนั้น! ฉันไม่ได้กำลังฝันร้ายใช่มั้ย?”

……

ฟีน่าเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ตกใจ จากนั้นหันไปหารพีพงษ์ ด้วยสายตาที่ซับซ้อน

เธอไม่คิดว่างานเลี้ยงที่ผู้ลี้ลับจัดในครั้งนี้ จะมีจุดประสงค์ร้ายจริงๆ

รพีพงษ์จ้องฟีน่า แล้วกล่าว “จำที่ผมพูดไว้ว่าวิ่งไปที่รอบๆ แล้วก็ อยู่ให้ไกลจากที่ที่คนพลุกพล่าน”

ฟีน่าพยักหน้าให้รพีพงษ์อย่างตั้งใจ

ขณะนี้ผู้ลี้ลับได้มองลงมาจากเวที ยิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกท่านไม่ต้องผวาไป วันนี้คนที่อยู่ในงาน ไม่ใช่จะต้องเจอจุดจบแบบนี้ทุกคน ผมจะเลือกผู้ที่มีคุณภาพ แบบนี้จึงจะได้พลังที่บริสุทธิ์พอ”

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของผู้ลี้ลับแล้ว ก็ตกใจจนวิ่งไปไกลๆ

“ทุกคนรีบหนี! ไอ้นี่มันเป็นพ่อมด!”

คนของตระกูลอังเดรที่รับผิดชอบจัดงานครั้งนี้ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เหล่าการ์ดเริ่มทำงาน พุ่งไปที่ผู้ลี้ลับ

ในมือของพวกเขาทุกคนถือปืนไว้ ยิงไปที่ผู้ลี้ลับที่อยู่บนเวทีอย่างไม่ลังเล

แต่สิ่งที่แปลกคือ ตอนที่กระสุนเหล่านั้นใกล้จะถึงตัวของผู้ลี้ลับแล้ว ก็หยุดลงทันใด เหมือนกับมีมือที่มองไม่เห็นจับเอาไว้

ผู้ลี้ลับเห็นกระสุนที่อยู่รอบๆตัวเองพวกนั้น ก็ยิ้ม แล้วพึมพำ “คนในโลกของพวกแกน่าสนใจจริงๆ คนธรรมดาพึ่งของสิ่งนี้ แล้วยังมีพลังมากขนาดนี้ ในโลกของพวกเราไม่มีหรอกนะ”

“แต่พลังระดับนี้สำหรับฉัน ไม่ต่างจากมด ดังนั้นพวกแกไม่ต้องเสียเวลาแล้ว”

เพิ่งจะพูดจบ กระสุนเหล่านั้นก็หันกลับ พุ่งไปที่คนพวกนั้นของตระกูลอังเดรที่ยิงออกมาอย่างเร็ว ยิงเข้าไปจนตัวพลุน ฆ่าพวกเขาทิ้ง

ทุกคนเห็นเหตุการณ์นี้ ก็ยิ่งผวาหนักเข้าไปอีก คนที่แม้แต่กระสุนก็ฆ่าไม่ได้ จะต้องเป็นปีศาจที่น่ากลัวที่สุดอย่างแน่นอน

ผู้ลี้ลับได้จัดการเหล่าการ์ดของตระกูลอังเดร จากนั้นก็หันไปมองรพีพงษ์

ตั้งแต่เริ่มจนจบ รพีพงษ์ไม่ไปไหน ยังคงสังเกตการณ์ผู้ลี้ลับอยู่อย่างสงบ

“เด็กน้อย ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ แกน่าจะมาเพราะฉันนะ?” ผู้ลี้ลับกล่าว

รพีพงษ์หยิบมุรามาสะออกมา แล้วมองไปที่ผู้ลี้ลับอย่างสงบ แล้วกล่าว “รู้แล้วก็ดี”

“แล้วผู้ใหญ่ของแกได้บอกแกหรือเปล่า ว่าฝีมือระดับแก จะต่อกรกับฉัน มันห่างกันเยอะ?” ผู้ลี้ลับหัวเราะออกมา

รพีพงษ์ไม่พูดไม่จา ได้เตรียมตัวต่อสู้แล้ว

“แกมาแต่โดยดีเถอะนะ ฉันจะให้แกตายอย่างไม่ทรมาน ไม่งั้น แกจะเสียใจที่อยู่บนโลกนี้” ผู้ลี้ลับยกมือขึ้นมา ชี้ไปที่รพีพงษ์

ในขณะเดียวกันนี้เอง มีร่างเข้ามาขวางหน้ารพีพงษ์ไว้ คือฟีน่าผู้น่ารัก

“ฉันไม่ให้แกทำอะไรรพีพงษ์ ถ้าแกจะฆ่า ก็ฆ่าฉันแทนรพีพงษ์!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท