พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่998 จุดจบ

บทที่998 จุดจบ

บทที่998 จุดจบ

ผู้ลี้ลับเห็นเหตุการณ์พลิกผัน มึนงงทันใด

“เป็น……เป็นไปได้ยังไงกัน? นั่นมันยอดฝีมือแดนอาถรรพ์นะ! จะถูกกระบี่ของไอ้เด็กแดนธรรมวิสุทธิ์ชั้นยอดนั่นฆ่าตายได้ไงกัน!!”

นี่เป็นสิ่งที่ผู้ลี้ลับคาดไม่ถึง เขาคิดว่าแม้ฝีมือของรพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดไหน มากสุดก็ทำได้แค่หุ่นเชิดบาดเจ็บเท่านั้น จะผ่าออกไปสองส่วนได้ไงกัน?

ขณะนี้เขานึกถึงเมื่อกี้ที่รพีพงษ์เปลี่ยนจากดาบเป็นกระบี่ ตอนนี้ดูๆแล้ว ที่รพีพงษ์เปลี่ยนกระบี่นั้นออกมา ไม่ใช่อาวุธธรรมดา!

แต่ทว่านึกขึ้นได้ในตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว หุ่นเชิดได้ตายไปแล้ว แล้วเขาก็เจ็บหนักปางตาย เขาไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว ทำได้เพียงเป็นแพะที่รพีพงษ์จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

รพีพงษ์เห็นหุ่นเชิดตาย ก็โล่งอก หลังจากที่ชื่นชมพลังของกระบี่สยบเซียนแล้ว เขารู้สึกว่าขาของเขาอ่อนแรงลง อีกนิดเกือบพับลงกับพื้นแล้ว

พลังของกระบี่สยบเซียนนั้นแข็งแกร่ง แต่การโจมตีเมื่อกี้ ต่อให้เป็นรพีพงษ์ที่มีพลังเต็มเปี่ยม ก็ปล่อยได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เมื่อกี้ที่เขาสามารถปล่อยพลังนั้นได้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะการบีบพลังที่มีของตัวเองออกมา

บวกกับกระบี่สยบเซียนคือพลังจิตวิญญาณเทพ หลังจากที่รพีพงษ์เลื่อนขั้นจิตวิญญาณเทพได้ฟื้นฟู จึงสามารถปล่อยการโจมตีแบบเมื่อกี้ออกมาได้

จนถึงตอนนี้ รพีพงษ์ได้ถึงขีดจำกัดแล้ว

นี่ต้องเป็นการต่อสู้ครั้งเดียวที่ยากที่สุด ของชีวิตเขา ถ้าระหว่างการต่อสู้เขาไม่เลื่อนขั้นแล้วได้พลังใหม่มา ก็ไม่รู้ว่าวันนี้จะเจอกับจุดจบแบบไหน

เขาเดินไปที่ผู้ลี้ลับนั่น ขณะนี้ผู้ลี้ลับสิ้นหวัง ยังไงเขาก็ไม่คาดคิด ว่าวันนี้จะเจอจุดจบแบบนี้

มาถึงด้านหน้าของผู้ลี้ลับ รพีพงษ์ยื่นมือออกไป จี้ที่แขนและขาของผู้ลี้ลับ แสงปรากฏที่ทั้งสี่จุด ทะลุเข้าไปในแขนและขาของผู้ลี้ลับโดยตรง

“เด็กน้อย ฆ่าฉันเถอะ แต่แกจำไว้นะ ต่อให้ฉันจะตาย มันก็ไม่จบเพียงเท่านี้ นี่ก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น!” ผู้ลี้ลับตะคอกไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่สนเขา จับชุดของเขา แล้วลากไปด้านหน้า ของธัชธรรม

ตอนนี้ธัชธรรมสลบไป รพีพงษ์ยื่นมือไปจับเขา พาทั้งคู่เดินออกไปข้างนอก

ขณะนี้ลานจัตุรัสไม่มีแสงสีดำล้อมรอบไว้แล้ว หลังจากที่ผู้คนเห็นว่าไม่มีแสงแล้ว ก็รีบหนีออกไป

ศพแห้งมากมายล้มลงกับพื้น บวกกับการทำลายล้างของการต่อสู้เมื่อกี้ ลานจัตุรัสในขณะนี้ เหมือนกับนรกบนโลกมนุษย์ ต่อให้มีความกล้าขนาดไหน ก็ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อไปได้

รพีพงษ์ลากผู้ลี้ลับและธัชธรรมแบบนี้ไปข้างหน้า เขาต้องออกจากที่นี่ เพราะนี่เป็นถิ่นของประเทศรัสเซีย การต่อสู้เมื่อกี้น่าจะเป็นจุดสนใจของเหล่าทหารแล้ว

อีกไม่นานทหารจะมาถึง ถ้ามีโอกาสได้จับยอดฝีมือที่ความสามารถยอดเยี่ยมสองคน พวกเขาไม่มีทางปลอดไว้แน่ เพราะนี่จะเป็นสิ่งต่อรองในการเจรจากับประเทศจีนได้

รพีพงษ์และธัชธรรมเจ้าสำนักกลุ่มสิงโตในตอนนี้ สำหรับประเทศจีนแล้วมีคุณค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าพวกเขาทั้งคู่ถูกจับ บางทีรัสเซียอาจทำเพื่อให้ศัตรูของตัวเองลดความสามารถลง ก็อาจจะฆ่าเขาทั้งสองไปเลย ถ้าอย่างนั้นวันนี้ที่ทำมาก็ไร้ค่า

แต่รพีพงษ์ตอนนี้รพีพงษ์ได้ถึงขีดจำกัดแล้ว เขาเริ่มสงสัย ว่าเขาจะออกจากจัตุรัสนี้ได้หรือไม่

เขารู้สึกแค่ว่าในสมองเบลอๆ เหมือนจะสลบได้ทุกเมื่อ

ในตอนที่รพีพงษ์เริ่มจะไม่ไหวแล้วนั้น มีร่างผู้หญิงน่ารักร่างหนึ่งโผล่ขึ้นต่อหน้าเขา

“รพีพงษ์ ฉันฟังคำสั่งของคุณ อยู่ที่ที่คนน้อยๆ ฉันรอดชีวิตแล้ว” ฟีน่ามองรพีพงษ์อย่างซาบซึ้ง

รพีพงษ์ยิ้มให้เธอ กล่าว “รีบออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวทหารจะมาปิดที่นี่ไว้ ถ้าพวกเขาเห็นคุณอยู่ที่นี่ จะพาคุณไปสอบสวน”

ฟีน่ามองรพีพงษ์ด้วยความเป็นห่วง แล้วกล่าว “รพีพงษ์ ตอนนี้คุณอ่อนล้ามากแล้วใช่มั้ย ถ้าคุณไม่มีวิธีหนีไปจากที่นี่อย่างเร็วล่ะก็ ฉันช่วยคุณได้นะ คนของตระกูลฉันยังแสตนด์บายรอคำสั่งอยู่”

รพีพงษ์จ้องไปที่เธอ ถาม “ผมเชื่อคุณได้มั้ย?”

ฟีน่าพยักหน้าอย่างตั้งใจ กล่าว “ฉันไม่มีทางมอบคุณให้กับทหารแน่นอน ฉันรู้ว่าคุณกังวลอะไรอยู่ ฉันจะพาคุณไปในที่ๆปลอดภัย”

“โอเค งั้นต่อจากนี้ ก็รบกวนคุณด้วยก็แล้วกัน”

พูดประโยคนี้จบ รพีพงษ์ยืนหยัดไม่ไหวอีกแล้ว ล้มลงโดยตรง

ฟีน่าเห็นท่าทีของรพีพงษ์ ก็เจ็บปวดใจ จากนั้นก็เรียกคุณที่อยู่ไกลๆที่รอรับคำสั่งของตระกูลอังเดรมา คนพวกนั้นรีบวิ่งมา หลังจากที่พารพีพงษ์ทั้งสามไปแล้วนั้น ก็รีบออกจากที่นี่ไป

ผ่านไปประมาณสิบนาที เฮลิคอปเตอร์หลายลำบินมาถึงท้องฟ้าบนcentral square รอบๆลานจัตุรัส เต็มไปด้วยรถถัง ล้อมรอบลานจัตุรัสไว้อย่างรวดเร็ว

บนเฮลิคอปเตอร์ ทหารประเทศรัสเซียที่ผ่านการฝึกกำลังพูดคุยสนุกเฮฮากันอยู่

“ระดับสูงบอกว่าที่central squareเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้น ให้พวกเรากองกำลังแนวหน้ามา แต่ก็แค่ลานจัตุรัส จะเกิดเรื่องสำคัญอะไรขึ้นได้ ผมว่าระดับสูงพูดเว่อร์เกินไป ”

“ผมได้ยินมาว่ามีคนจีนหลายคนกำลังต่อสู้กันอยู่ ได้ยินว่ามีคนตายด้วย ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไงกันแน่ แต่ใช้ทหารแนวหน้า ผมว่าตั้งใจจนเกินไป”

“การต่อสู้ของคนจีน? ใช้กังฟูของพวกเขาหรอ? ผมได้ยินมาว่ากังฟูของคนจีน เป็นเรื่องที่เอาไว้ขู่เด็กๆก็เท่านั้น”

พูดจบ ทุกคนก็หัวเราะออกมา

ผ่านไปไม่นาน เฮลิคอปเตอร์หยุดที่ท้องฟ้าด้านบนห่างจากcentral squareประมาณสิบเมตร ทุกคนมองลงไปที่ลานจัตุรัส อยากรู้ว่าในลานจัตุรัสเกิดอะไรขึ้น

ตอนที่พวกเขาเห็นสภาพของลานจัตุรัส ก็ตกใจ มีบางคนเริ่มพะอืดพะอม ไม่กล้ามองไปด้านล่าง

เห็นทั้งลานจัตุรัสกลายเป็นซากปรักหักพัง มีหลุมนับไม่ถ้วน รอยแตกร้าว สายตาคนที่เห็นตกใจออกมา

บวกกับศพแห้งที่ถูกดูดพลังชีวิตไปกลุ่มนั้นที่ล้มลงกับพื้น ทั้งcentral square เหมือนกับนรกบนโลกเลยก็ว่าได้ ทำเอาทุกคนยิ้มไม่ออกอีกต่อไป

“คนจีนต่อสู้กันไม่ใช่หรอ? ทำไม……ทำไมเป็นแบบนี้?”

“น่ากลัวจริงๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมคนพวกนั้นถึงกลายเป็นแบบนี้ จำนวนเยอะมาก น่าจะประมาณห้าพันอัพ”

“กังฟูของประเทศจีนมีจริงๆหรือเนี่ย? แล้วยังน่ากลัวขนาดนี้อีกด้วย ที่นี่เหมือนเพิ่งผ่านสงครามมาเลยนะ!”

“พระเจ้า ถ้านี่เป็นสิ่งที่มนุษย์ทำล่ะก็ งั้นประเทศจีนจะแข็งแกร่งขนาดไหนกันเนี่ย”

……

ทุกคนมองลานจัตุรัสนี้ด้วยความคาดไม่ถึง ต่อให้ไม่เห็นการต่อสู้จริง แต่พวกเขาก็ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้แล้ว การต่อสู้ครั้งนั้นจะต้องอนาถมากอย่างแน่นอน

ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ประเทศจีนคำนี้ กลายเป็นฝันร้ายของทหารประเทศรัสเซียตลอดไป

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท