พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1013 ถนนเส้นนี้ก็เป็นของบ้านพวกเรา

บทที่1013 ถนนเส้นนี้ก็เป็นของบ้านพวกเรา

บทที่1013 ถนนเส้นนี้ก็เป็นของบ้านพวกเรา

“พระเจ้า ผู้จัดการของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลเกรงใจเขาขนาดนี้ ต้องมีเบื้องหลังที่มีอำนาจมากขนาดไหน จึงจะได้รับการปฏิบัติเช่นนี้”

“ที่แท้พวกเราเข้าใจคนอื่นเขาผิดไปแล้ว คนอื่นเขามาเช็คอินเข้าพักจริงๆ แม้แต่ผู้จัดการของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพอย่างนี้ เรื่องนี้คงจะไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอน”

“จุ๊ๆ ทำให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ สวมใส่ธรรมดาขนาดนี้ แต่กลับเข้าพักโรงแรมราคาแพงแบบนี้ นี่คงจะเป็นลูกพี่ใหญ่ที่ทะนงตนอย่างแท้จริง”

……

หลังจากผู้จัดการขอโทษรพีพงษ์แล้ว ก็หันไปมองชายที่สงสัยรพีพงษ์ และท่าทีก็เยือกเย็นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“คุณรพีเป็นแขกวีไอพีของพวกเรา แต่นายกลับพูดจาไร้มารยาทกับเขา สงสัยฐานะตัวตนของเขา ยังทำให้คุณรพีเสียเวลาอันมีค่ามากมายขนาดนี้”

“นายสร้างความสูญเสียให้คุณรพีนับไม่ถ้วน ดังนั้นพวกเราจะจับตัวนายส่งมอบให้กับตำรวจ หวังว่านายจะให้ความร่วมมือ”

หลังจากพูดจบ ผู้จัดการก็มองไปที่ทุกคนรอบๆอีกครั้ง และพูดเสียงดังว่า: “สำหรับพวกคุณ เชิญออกไปโดยเร็วที่สุด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางเข้าของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมไล่ตามดารา ถ้าหากละเมิดฝ่าฝืน จะถูกจับโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพวกเรา ส่งมอบให้กับสำนักงานสันติบาล!”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของผู้จัดการ ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เดิมทีพวกเขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่ไม่คาดคิดว่าคนอื่นเขาจะไม่อนุญาตให้ทำกิจกรรมไล่ตามดาราในสถานที่นี้

ชายคนนั้นที่สงสัยกับรพีพงษ์ เขาคาดไม่ถึงว่าผู้จัดการโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลจะจับกุมเขา และส่งมอบให้ตำรวจ

ทั้งๆที่เมื่อกี้นี้เขาเป็นคนที่ถูกทำร้าย!

ผู้จัดการไม่ได้พูดจาเรื่องไร้สาระ ส่งสายตาให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้าง หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าใจความหมาย เดินเข้าไปจับตัวชายคนนั้นไว้

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เหลือก็เริ่มขับไล่ทุกคนที่มารวมตัวกันอยู่ที่ด้านนอก

ชายคนนั้นรีบขัดขืน และเอ่ยปากตะโกนว่า: “ทำไมพวกคุณต้องมาจับตัวฉันด้วย ต่อให้เขาจะมาเช็คอินเข้าพักจริงไปแล้วยังไง? เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งเตะฉัน!”

“จะโทษ ก็โทษที่ตัวของนายหาเหาใส่หัวเอง ตอนนั้นคุณชายท่านนี้ปฏิบัติต่อนายด้วยท่าทีที่ค่อนข้างสุภาพ คือของตัวนายเองที่ไม่ยังยินยอม ยังพูดว่าร้ายให้กับลูกสาวของคุณผู้ชายท่านนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันก็ไม่มีทางออมมือให้กับนาย!”หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะคอกอย่างเย็นชา

เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สนใจคำพูดของเขา กลอกตาอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนว่า: “ถ้าอย่างพวกนายมีสิทธิ์อะไรมาขับไล่พวกเรา พวกเรามาดูไอดอลของพวกเรามันเป็นสิทธิ์ของตัวพวกเราเอง!”

“ทุกคนอย่าได้เป็นเพราะเรื่องนี้ก็ยอมแพ้ที่จะรอไอดอลของพวกเราที่นี่ พวกเราไม่ได้เข้าไปในโรงแรมของพวกเขา ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะขับไล่พวกเราออกไป!”

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม กระตุ้นให้ผู้คนโกรธ ถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพมาก

ตราบใดที่ทุกคนต่อต้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลที่ขับไล่พวกเขาออกไป ชายคนนี้ก็ยังมีโอกาสที่จะไม่ถูกส่งตัวไปที่สำนักสันติบาล

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของชายคนนั้น ก็ดึงสติกลับมาได้ และต่อต้านขึ้นมาทันที

“พูดถูก พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาขับไล่พวกเราออกไป! พวกเราไม่ได้เข้าไปข้างในโรงแรม ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาขับไล่พวกเราออกไป!”

“พวกคุณเด็ดขาดมากจริงๆ บอกว่าขับไล่พวกเราออกไป พวกเราก็ต้องเชื่อฟังพวกคุณเหรอ? ที่นี่ไม่ใช่ของบ้านพวกคุณ!”

“เหอะ คาดไม่ถึงจัดการของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลจะหยิ่งผยองไร้เหตุผลขนาดนี้ พวกเราแค่อยู่ที่หน้าประตู ก็จะขับไล่พวกเราออกไป ทำไมพวกคุณไม่บอกว่าถนนหน้าประตูก็ไม่ให้พวกเราเดิน!”

……

เมื่อผู้จัดการได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูด สีหน้าไร้ความรู้สึก พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “ขอโทษด้วย บริเวณนี้ด้านหน้าโรงแรมของพวกเราที่ดูไปแล้วเหมือนเป็นพื้นที่สาธารณะ คืออยู่ในขอบเขตกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของโรงแรมของพวกเรา”

“สำหรับถนนด้านหน้าประตูที่พวกคุณพูดถึง ก็เป็นของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลของพวกเราเช่นกัน”

“หลายปีก่อน ที่นี่ไม่มีถนน โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลของพวกเราซื้อกรรมสิทธิ์ทั้งหมดบริเวณรอบๆ และสร้างถนนเส้นทางนี้ออกมา เพื่อความสะดวกของแขกที่มาพักที่โรงแรมของพวกเรา”

“พวกคุณสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้ เป็นความยินยอมของโรงแรมของพวกเราเท่านั้นเอง ถ้าถือสาเอาความจริงๆ พวกเรามีสิทธิ์ขับไล่พวกคุณออกไป และห้ามให้พวกคุณใช้ถนนเส้นทางด้านหน้านี้ด้วยซ้ำ”

“ถ้าหากพวกคุณไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันก็สามารถไปเอาหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์มา เพียงแต่พอถึงเวลา พวกเราจะตัดสินว่าพวกคุณบุกรุกผิดกฎหมาย สิ่งนี้ต้องติดคุก!”

เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของผู้จัดการ ตกตะลึงทันที ยังไงพวกเขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่า สถานที่บริเวณด้านหน้าประตูของโรงแรมที่ดูไปแล้วเหมือนกับพื้นที่สาธารณะ จะเป็นของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลจริงๆ

แม้แต่ถนนเส้นทางหน้าประตู ก็สร้างออกมาโดยโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าประท้วงอีกต่อไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ขับไล่พวกเขาออกไป และพวกเขาก็จากไปอย่างว่าง่าย

ชายคนนี้ก็คิดไม่ออกว่าจะขัดขืนต่อไปอย่างไร ทำได้เพียงถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับตัวไปที่สำนักงานสันติบาลอย่างช่วยไม่ได้

ไม่ว่าตำรวจจะลงโทษเขาหรือไม่ เรื่องนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าปวดหัวสำหรับเขา

หลังจากจัดการเรื่องเหล่านี้แล้ว ผู้จัดการก็พาครอบครัวของรพีพงษ์ทั้งสามคนเข้าไปในโรงแรมทันที พาพวกเขาไปที่ห้องเพลสสิเดนท์สูทที่มีเพียงสองห้องในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

ห้องเพลสสิเดนท์สูททั้งสองห้องนี้มีมาตรฐานสูงที่สุดในโลก ราคาคืนหนึ่ง ก็ประมาณหนึ่งแสน ซึ่งเป็นโรงแรมหรูหราที่แท้จริง

แน่นอนว่า รพีพงษ์มาพร้อมกับการ์ดวีไอพี พักอยู่ในห้องเพลสสิเดนท์สูทชั้นนำนี้ โดยไม่ต้องเสียเงิน

หลังจากเหตุการณ์ของรพีพงษ์จบไป โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต ได้แจ้งกับโลกภายนอกตรงๆ เพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญคนหนึ่ง นับจากนี้เป็นต้นไป จะไม่รับแขกที่เป็นดาราเข้าพักอีกต่อไป

ข่าวนี้ก็ดังขึ้นทันทีในอินเทอร์เน็ตของเมืองเมฆา

ทุกคนไม่คาดคิดว่า โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลเพื่อแขกคนหนึ่ง จะปฏิเสธแขกทั้งหมดที่เป็นดาราที่จะเข้าพักหลังจากนี้ แขกคนสำคัญคนนี้มีเบื้องหลังแบบไหนกันแน่?

ในขณะนี้ ทุกคนเริ่มเดาฐานะตัวตนของแขกคนนี้ แน่นอนแล้วว่า สิ่งเหล่านี้อยู่หยุดเพียงแค่ในระดับของคำบอกเล่าเท่านั้น

บรรดาดาราที่เช็คอินเข้าพักในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลแล้ว โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลไม่ได้ขอให้พวกเขาออกไป เนื่องจากให้ความสำคัญกับการมาก่อนก็ใช้สิทธิ์ก่อนมาทีหลังก็ใช้สิทธิ์ทีหลัง ต่อให้ทำเพื่อรพีพงษ์ พวกเขาก็ไม่สามารถขับไล่ผู้ที่เข้าพักแล้วให้ออกไป เพียงแต่ห้ามไม่ให้ดาราคนเข้าเช็คอินเข้าพัก

บ่ายวันนั้น

จันทร์ปรียาพร้อมด้วยผู้ช่วย มาถึงที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล วันนี้หล่อนเพิ่งกลับจากการถ่ายทำการแสดงที่ต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่ทราบกฎระเบียบใหม่ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

ในฐานะดาราแถวหน้า จันทร์ปรียาสำหรับที่พักของตัวเองแล้วก็ต้องมีข้อกำหนด ที่สำคัญหล่อนไม่เคยมาที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ดังนั้นต้องการสัมผัสประสบการณ์นี้

หล่อนพาผู้ช่วยมาถึงที่ประตูโรงแรม ด้วยสีหน้าแปลกใจ สงสัยว่าสถานที่รวมตัวของดาราแบบนี้ ทำไมแม้แต่แฟนคลับคนหนึ่งก็ไม่มี เห็นได้ชัดว่าผิดปกติมาก

ในเวลานี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นพวกหล่อน รีบเดินไปทันที หลังจากยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถามว่า: “ขออนุญาตถามคุณคือจันทร์ปรียาหรือเปล่า?”

จันทร์ปรียาพยักหน้า

ผู้ช่วยของหล่อนยิ้มทันทีและพูดว่า: “ทำไม? หรือว่าโรงแรมของพวกคุณจะเป็นเพราะชื่อเสียงที่โด่งดังของพี่ปรียา จัดเตรียมห้องดีๆให้เหรอ?”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่ายหัว และพูดว่า: “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว โรงแรมของพวกเราไม่รับแขกที่เป็นดารา ผมมาก็เพื่อยืนยัน จากนั้นเตือนพวกคุณให้ไปสถานที่อื่น”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท