พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1044 โชคลาภ

บทที่1044 โชคลาภ

บทที่1044 โชคลาภ

ดิษยาและจุฑาธชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วมองหน้ากัน ไม่เข้าใจว่ารพีพงษ์คิดจะทำอะไร

“เด็กน้อย แกคิดจะหลอกลวงพวกเราหรอ?” จุฑาธชกล่าวต่อรพีพงษ์

รพีพงษ์หัวเราะ กล่าว “ฉันก็แค่ฉุกคิดขึ้นมาได้ก็เท่านั้น วันนี้ตอนไปธนาคาร ฉันถอนออกมาหกล้านจริงๆ แต่ถ้าพวกแกไม่อยากเล่น ก็ไม่เป็นไรนะ”

พูดจบ เขาโบกมือ จากนั้นในห้อง ก็มีคนเดินออกมาหลายคน คือหมาป่าและลูกน้องหลายคนของเขา

ในมือของพวกเขาได้ถือถุงพลาสติกใสไว้ ในถุงบรรจุ ธรบัตรเป็นปึ๊งๆ ทำเอาดิษยาและจุฑาธชอึ้งไปตามๆกัน

หมาป่าในขณะนี้ได้มองรพีพงษ์เป็นคนที่ตัวเองแตะต้องไม่ได้แล้ว ดังนั้นวันนี้ที่รพีพงษ์ไปหาเขาอีกครั้ง แล้วให้เขาทำอะไรบางอย่าง เขาจึงไม่กล้าปฏิเสธใดๆ

ที่รพีพงษ์ให้หมาป่ามานั้น ก็เพราะมีแผนเป็นของตัวเอง

โศภิตาก็มองธนบัตรในถุงนั้นอย่างไม่ละสายตา ไม่เข้าใจว่ารพีพงษ์จะทำอะไร

ดิษยามองรพีพงษ์อย่างสงสัย ถาม “คนพวกนี้มาทำอะไร? แกคงไม่ฉวยโอกาสนี้ทำอะไรพวกเราหรอกนะ?”

รพีพงษ์หัวเราะ กล่าว “พวกเขาช่วยฉันถือเงินไง เงินมากขนาดนี้ ฉันเอามาคนเดียวไม่ไหวหรอกมั้ง”

ดิษยาครุ่นคิด รู้สึกว่าสิ่งที่รพีพงษ์พูดก็มีเหตุผล แต่เธอมองพวกหมาป่าเหมือนไม่ใช่คนธรรมดา

แต่เธอก็ไม่กลัว นักเลงที่พวกเขาพามานั้น เก่งกาจมาก คนเดียวต่อสู้กับสิบคน ดังนั้นจึงไม่กลัวว่ารพีพงษ์จะใช้กลอุบายอะไร

“ถ้าพวกแกไม่เล่นล่ะก็ ฉันจะให้พวกเขาเอาเงินไปให้หมด เดิมทีฉันก็แค่อยากหาอะไรสนุกๆทำ ทุกคนเขย่าลูกเต๋า ใครมากกว่าน้อยกว่า ง่ายดายแล้วยังสนุกอีกด้วย แต่พวกแกไม่อยากเล่น ฉันจะทำได้แค่ช่างมัน” รพีพงษ์กล่าว

ดิษยามองเงินที่อยู่ในมือของพวกหมาป่าอย่างตาลุกวาว นั่นมันสามล้านเลยนะ ถ้าพวกเขาโชคดีสักหน่อย ก็จะเอาสามล้านนี้มาได้แล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดคือ รพีพงษ์ได้ให้เงินพวกเขาไว้แล้วสามล้าน แม้จะแพ้ พวกเขาก็ไม่เจ็บ อีกอย่าง ถ้าแพ้มากๆ พวกเขาหยุดเล่นก็ได้ ยังไงคืนนี้ก็มีแต่ได้กำไร

คิดได้ดังนี้ ดิษยาก็กระซิบข้างๆหูจุฑาธช เบาๆว่า “ไม่งั้นเราเล่นสักสองต่อมั้ย ยังไงถ้าแพ้ก็ไม่ใช่เงินของเรา พวกเราพนันน้อยๆหน่อยก็ได้แล้ว”

ขณะนี้จุฑาธชค่อนข้างสนใจในเงินสามล้านที่รพีพงษ์ให้หมาป่าถือออกมา ครอบครัวของเขามีบริษัทที่มีมูลค่าสูง แต่เงินของบริษัทเขาใช้ไม่ได้ แต่หกล้าน ต่อให้เป็นพ่อเขา จะเอาออกมาก็ไม่ใช่ง่าย ถ้าคืนนี้เขาสามารถคว้าหกล้านนี้มาได้ อนาคตอีกไหล เขาก็สามารถมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาได้แล้ว

เขาพยักหน้า กล่าว “ไม่เมื่อแกอยากเล่น งั้นพวกเราก็เล่นสักกี่ตา ตกลงกันก่อนนะ ถ้าพวกเราบอกว่าไม่อยากเล่นแล้ว แกห้ามหาเหตุผลมารั้ง”

“ได้ ก็แค่อยากให้มีความสุข” เห็นทั้งสองตกลง รพีพงษ์ก็ยิ้มออกมา

“พวกเรากินข้าวกันก่อน กินข้าวเสร็จแล้วค่อยเล่น” รพีพงษ์กล่าว

ดิษยาและจุฑาธชทั้งสองไม่พูดอะไร หยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วกินอย่างไม่เกรงใจ

ไม่นาน ทุกคนกินข้าวเสร็จ รพีพงษ์เรียกให้พนักงานมาเก็บของบนโต๊ะให้หมด จากนั้นก็ไปนั่งที่โต๊ะพนัน ให้หมาป่าเอาลูกเต๋ามาที่โต๊ะ

ดิษยาและจุฑาธชนั่งที่โต๊ะพนัน ตรงข้ามรพีพงษ์ ทุกคนก็อยู่ข้างๆ

รพีพงษ์ส่งลูกเต๋าและถ้วยเขย่าลูกเต๋าให้ดิษยาและจุฑาธช แล้วกล่าว “กฎของพวกเราง่ายๆ ก็คือเขย่าลูกเต๋าพนันมากน้อย ก่อนเปิดถ้วยเขย่าออก เลขเยอะก็ชนะ”

“พวกแกตรวจสอบลูกเต๋ากับถ้วยเขย่าลูกเต๋าก่อนได้นะ ถ้ารู้สึกว่าคิดว่าฉันทำอะไรกับมัน สามารถออกไปซื้อมาเองได้”

จุฑาธชบึนปาก กล่าว “ก็แค่เขย่าลูกเต๋า ของแบบนี้ต่อให้โกงยังไงก็ยาก ฉันไม่คิดว่าแกจะมีปัญญาทำเรื่องนี้”

รพีพงษ์หัวเราะ ไม่พูดอะไร

จากนั้นทุกคนก็เริ่มพนัน

ตอนเริ่ม ดิษยาและจุฑาธชเล่นอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าลงเยอะ หนึ่งหมื่นก็มากพอแล้ว

แต่ผ่านไปไม่นาน พวกเขาพบว่ามือของพวกเขาดีเหลือเกิน ชนะติดกันสามครั้ง จุฑาธชเขย่าลูกเต๋า ดิษยาเชียร์อยู่ข้างๆไม่หยุด

รพีพงษ์แสดงท่าทางสิ้นหวัง แล้วกล่าวว่า “หรือคืนนี้ฉันจะโชคร้ายแบบนี้แล้ว? ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะต้องแพ้ตลอดแน่ๆเลย?”

จุฑาธชเห็นเขาพูดแบบนี้ ก็รีบกล่าวออกมา “เกมนี้แกเป็นคนพูดขึ้นมาเองนะ ถ้าเพราะแกโชคร้ายหน่อยแล้วจะไม่เล่น พวกฉันไม่ยอมหรอกนะ”

“ได้ได้ได้ คืนนี้ฉันจะต้องเป็นเพื่อนเล่นพวกแกจนถึงที่สุดนั่นแหละ แม้ฉันจะแพ้หมดตัว ก็ไม่เป็นไร เพียงแค่พวกแกทั้งสองสบายใจก็พอแล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว

ดิษยาและจุฑาธชทั้งคู่ไม่รู้อะไรเลย ว่ารพีพงษ์ฉายาราชาการพนัน ที่พวกเขาชนะ ก็เป็นเพราะรพีพงษ์ให้พวกเขาชนะก็เท่านั้น

ผ่านไปไม่นาน เพราะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีไม่น้อย ความกล้าของจุฑาธชเริ่มมากขึ้น เงินที่ลงพนันก็มากขึ้นตามไปด้วย อยากจะชนะครั้งเดียวได้เงินเยอะ

รพีพงษ์ก็ทำตามใจของเขา แพ้มากชนะน้อย ให้จุฑาธชคิดผิดว่าคืนนี้ตัวเองมือดี

เขาเข้าใจการพนันเป็นอย่างมาก ที่ทำไปทั้งหมดตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ล้วนเป็นการทำให้ดิษยาและจุฑาธชตกหลุมพราง

และที่เขาทำแบบนี้ ไม่ใช่เพราะแพ้ให้กับจุฑาธชพวกเขา นักพนันมักจะคิดว่าตัวเองชนะไม่กี่ครั้ง ก็โชคดีสุดๆแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าที่พวกเขาชนะมาทั้งหมด สุดท้ายแล้วต้องคืนกลับไปหลายเท่า

จากเวลาในการเล่นพนัน จุฑาธชยิ่งอยู่ยิ่งวางเงินมากขึ้น จนกระทั่งรอบหนึ่งลงห้าแสน การที่รพีพงษ์แพ้นั้นควบคุมไว้ในขอบเขตที่จุฑาธชและดิษยาโชคดีจึงได้ชนะเท่านั้น เพื่อไม่ให้พวกเขาเกิดสงสัย

นัดสุดท้ายสิ้นสุดลง รพีพงษ์แพ้ให้กับจุฑาธชและดิษยาอีกครั้ง ครั้งนี้เงินทั้งหมดบนโต๊ะ ได้ไปอยู่ที่จุฑาธชพวกเขาแล้ว

รพีพงษ์แสดงท่าทีหัวร้อนออกมา มองไปที่เงินเหล่านั้นที่อยู่ด้านหน้าของจุฑาธชและดิษยา กล่าว “ทำไมคืนนี้โชคฉันแย่จังนะ แวบเดียว สามล้านหายไปแล้ว”

จุฑาธชยิ้มพลางกล่าว “โชคมา ใครก็ห้ามไม่อยู่ ฉันว่าแกยอมรับมันเถอะนะ”

รพีพงษ์หลับตาลง จากนั้นก็เอาบัตรธนาคารมาวางไว้บนโต๊ะ กล่าว “ไม่ได้ คืนนี้ฉันจะต้องเอากลับมาให้ได้บ้างสักหน่อย มิเช่นนั้นฉันคงนอนไม่หลับแน่ๆ”

“ในบัตรนี้มีสิบล้าน ไม่รู้ว่าพวกแกยังเล่นอยากต่อมั้ย?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท