พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1037 ไล่พวกมันทั้งสองออกไป

บทที่1037 ไล่พวกมันทั้งสองออกไป

บทที่1037 ไล่พวกมันทั้งสองออกไป

หัวหน้ารปภ.ไม่คาดคิดว่าหัวหน้าของตนจะโมโหได้ขนาดนี้ ทำเอาตนเองงงไปหมด

เขามองชโนดมอย่างกระวนกระวาย แล้วกล่าวอย่างตัวสั่น “หัวหน้า ผม ผมไม่รู้ครับ”

“อะไรคือมึงแม่งไม่รู้เรื่อง? เจอเหตุการณ์แบบนี้มึงไปถามกูสักหน่อยไม่ได้หรือไง? ต้องทำผิดกับคุณรพี จนคุณรพีต้องโทรหากูเองจึงจะจบ?” ชโนดมโมโหจนหายใจไม่ทัน

คนรอบข้างก็ล้วนไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ เดิมทีพวกเขาคิดว่ารพีพงษ์ทั้งสามแอบเข้ามาจริงๆ กลับไม่คาดคิดว่าผู้รับผิดชอบฝ่ายจัดงานจะเคารพรพีพงษ์ขนาดนี้

ดูๆแล้วเบื้องหลังรพีพงษ์ต้องมีคนใหญ่คนโตแน่นอน

ที่แท้ก็ดูคนจากภายนอกไม่ได้

“หัวหน้า ผมผิดไปแล้ว ต่อไปผมจะขอคำแนะนำคุณคนแรกเลย” หัวหน้ารปภ.รีบพูดกับชโนดม

“ขอคำแนะนำเชี่ยไรล่ะ จากวันนี้ไป มึงไม่ต้องมาทำงานอีก กูไม่ต้องการคนอย่างมึง!” ชโนดมตะคอกอย่างไม่เกรงใจ

สีหน้าของรปภ.แย่ลง แล้วขอร้องว่า “หัวหน้า ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้งด้วยเถิด ผมมีคนแก่และเด็กที่ต้องดูแล คนทั้งครอบครัวต้องพึ่งผมนะ ถ้าผมไม่ได้ทำงานนี้แล้ว ครอบครัวจะต้องอดอยากแน่นอน”

ชโนดมขมวดคิ้วหนักขึ้น คิดในใจในเมื่อมีความกดดันเยอะขนาดนี้ ทำไมขยันหมั่นเพียร ยังจะเชื่อคนง่ายแบบนี้อีก

เขากำลังจะพูดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา ทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ แต่ในขณะเดียกวันนี้เอง รพีพงษ์กล่าวว่า “เรื่องไล่เขาออกนั้นช่างมันเถอะ ลงโทษเขาเป็นการสั่งสอนก็พอแล้ว เพราะเขาก็ไม่ได้ตั้งใจ เพียงแค่เชื่อคนง่ายไปก็เท่านั้น”

ชโนดมเห็นรพีพงษ์เห็นใจหัวหน้ารปภ. ก็รีบยิ้มพลางกล่าว “คุณรพี คุณใจกว้างจริงๆ ในเมื่อคุณพูดแล้ว งั้นผมจะหักเงินเดือนเขาหนึ่งเดือน คุณว่าได้มั้ย?”

“ได้” รพีพงษ์ตอบ

ชโนดมหันไปหารปภ. กล่าว “ยังไม่รีบขอบคุณคุณรพีอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณรพีช่วยแกไว้ วันนี้ฉันไม่มีทางเอาแกไว้แน่!”

หัวหน้ารปภ.พยักหน้า มองไปที่รพีพงษ์อย่างซาบซึ้งใจ กล่าว “ขอบคุณครับคุณรพี บุญคุณยิ่งใหญ่ของคุณรพี ชาตินี้ผมจะไม่มีวันลืมมันเลย ก่อนหน้านี้ผมมันโง่ ใครพูดอะไรก็เชื่อ ต่อไปถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมจะต้องสังเกตให้มากๆ”

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่พูดอะไร

ตอนนี้โศภิตาจึงได้เชื่อว่ารพีพงษ์ไม่ธรรมดา สามารถจัดงานคอนเสิร์ตรวมดาราได้ จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน และผู้รับผิดชอบของฝ่ายผู้จัดคำนับรพีพงษ์ ไม่กล้าขัดคำสั่งแต่อย่างใด

รพีพงษ์เก่งกาจขนาดไหน ต่อให้ไม่รู้ชัดเจน แต่ก็สามารถเดาได้

รพีพงษ์หันไปมองดิษยาและจุฑาธชสองคน ถ้าวันนี้พวกเขาเพียงแค่ดูถูกว่าตัวเองแอบเข้ามา เขาก็อาจจะไม่คิดอะไรมาก

แต่ตอนนั้นได้ยินโศภิตาเราเรื่องที่ตัวเองเจอมาแล้วนั้น เขาจึงรู้สึกได้ว่าดิษยาเป็นคนที่น่ารังเกียจขนาดไหน

ดังนั้นเขาจึงจะไม่จบง่ายๆแบบนี้ สำหรับคนที่น่ารังเกียจเช่นนี้ รพีพงษ์ไม่เคยใจอ่อน

“สองคนนั้นที่ดูถูกว่าพวกเราลักลอบเข้ามา น่าจะตั้งใจทำ” รพีพงษ์กล่าว

ชโนดมเข้าใจความหมายของรพีพงษ์ทันใด แล้วกล่าวออกมาทันทีว่า “คุณรพี วางใจได้ คนประเภทนี้ที่ตั้งใจมาหาเรื่อง ไร้ยางอาย แม้พวกเขาจะซื้อตั๋วเข้ามา พวกเราก็จะไม่มีทางให้ตัวอันตรายอยู่ที่นี่ต่อไปได้ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ ”

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่พูดอะไร ลากอารียากลับมานั่งที่โซฟาเช่นเดิม

คนเหล่านั้นที่นั่งอยู่ที่ซูเปอร์วีไอพีกับรพีพงษ์ขณะนี้ก็ได้รับรู้แล้วว่ารพีพงษ์ไม่ธรรมดา เห็นรพีพงษ์นั่งลง ก็รีบเข้ามาทำความรู้จัก

ชโนดมพาเหล่ารปภ.ไปที่ดิษยาทั้งสองนั้น

ดิษยาและจุฑาธชทั้งสองมองไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ซูเปอร์วีไอพีตรงนั้นอย่างรอคอย เพราะพวกเขาไม่มีตั๋วที่นั่น ดังนั้นจึงไม่มีสิทธิ์ไป

หลังจากที่พวกเขาเห็นรปภ.เดินมา ต้องพารพีพงษ์ทั้งสามคนมาก่อน แต่รพีพงษ์โทรศัพท์ ทุกคนรอสักพัก มีชายวัยกลางคนไป แล้วตบหัวหน้ารปภ.หนึ่งฉาด

ตอนที่เห็นเหตุการณ์นี้ ทั้งสองก็มีท่าทีสงสัย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ทำไมคนนั้นต้องตบรปภ.หนึ่งฉาดด้วยล่ะ?” จุฑาธชถาม

ดิษยาไม่เข้าใจ โดยหลักแล้วรปภ.คนนั้นจับรพีพงษ์และพวกทั้งสามก็จบแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำแบบนี้

“คุณรีบดูสิ ชายคนนั้นพารปภ.มาที่เรา” จุฑาธชเห็นชโนดมพวกเขาเดินมา ก็รีบกล่าว

ดิษยาไตร่ตรองสักพัก จากนั้นก็ตาลุกวาว กล่าว “ชายคนนั้นน่าจะเป็นหัวหน้าของรปภ.พวกนี้ เมื่อกี้ที่เขาตบรปภ.ไปนั้น ต้องเป็นเพราะรปภ.ผิดพลาดในหน้าที่ ปล่อยให้พวกรพีพงษ์เข้ามาได้ ดังนั้นจึงสั่งสอน”

“และตอนนี้ที่พวกเขามา ก็เป็นเพราะพวกเราบอกพวกเขาเรื่องนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงมาขอบคุณพวกเรา”

จุฑาธชได้ยินคำพูดของดิษยา ก็รู้สึกว่ามีเหตุผล แต่รู้สึกว่าเหมือนมีอะไรไม่ถูกต้องสักอย่าง

“ทำไมรปภ.ไม่ไล่โศภิตาพวกเขาทั้งสามไปล่ะ?” จุฑาธชกล่าว

ดิษยาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไล่โศภิตาทั้งสามคนออกไปก่อน แล้วกล่าวทันใดว่า “อาจจะเป็นเรื่องขอบคุณพวกเราสำคัญกว่ามั้ง อย่าไปสนใจ ยังไงพวกเขาก็ไม่ได้มาไล่พวกเราออกไปอยู่แล้ว”

สักพัก ชโนดมก็พาเหล่ารปภ.มาอยู่ตรงหน้าของดิษยาและจุฑาธช

ดิษยายิ้มให้ชโนดมกล่าว “พวกเราช่วยคุณดูสามคนนั้นที่แอบลักลอบเข้ามา ความจริงพวกคุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเรา แค่ให้พวกเราไปนั่งที่ซูเปอร์วีไอพีก็พอ”

ชโนดมได้ยินคำพูดของดิษยา ก็ขมวดคิ้ว คิดในใจว่าสาวคนนี้น่าจะปัญญาอ่อน ยังคิดจะไปนั่งที่ซูเปอร์ดูคอนเสิร์ตอีก

“อย่างพวกคุณจะให้ผมขอบคุณอีกงั้นหรอ? พวกคุณตั้งใจเหยียดหยามแขกผู้สูงศักดิ์ของเรา เกือบจะทำให้พวกเราได้รับผลกระทบที่เอากลับคืนมาได้ไม่อีกแล้ว พวกเรามานี่เพื่อถามคุณ พวกคุณจะออกไปจากที่นี่เอง หรือให้พวกเราไล่พวกคุณออกไป?” ชโนดมกล่าวอย่างไม่เกรงใจ

หลังจากที่ดิษยาและจุฑาธชได้ยินคำพูดนี้แล้วนั้น ก็งงงวย

“แขกผู้สูงศักดิ์? พวกมันทั้งสามไม่ได้ลักลอบเข้ามาหรอ? ทำไมถึงได้เป็นแขกผู้สูงศักดิ์ของพวกคุณไปแล้ว?” ดิษยาถามอย่างไม่เข้าใจ

“ผมว่าพวกคุณทั้งสองต่างหากที่ลักลอบเข้ามา แค่อ้าปากก็ว่าคนอื่นแอบเข้ามา ถ้าเค้าไม่ใจกว้าง ผมคงจะต้องตกงานเพราะพวกคุณแล้ว!” หัวหน้ารปภ.ตะคอกไปที่สองคนนั้นอย่างโมโห

“หัวหน้า ผมว่าไล่พวกเขาออกไปเถอะ”

ชโนดมพยักหน้า กล่าว “ไล่ไปเถอะ อธิบายให้คนแบบนี้ฟังก็มีแต่จะเสียเวลา”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท