พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1049 เกาะต่างประเทศ

บทที่1049 เกาะต่างประเทศ

บทที่1049 เกาะต่างประเทศ

ต่างประเทศ ก่อนหน้าเกาะเล็กจะถูกพัฒนา มีเรือประมงลำหนึ่งมาถึงที่นี่ บนเรือประมง มีรพีพงษ์ที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล เปลี่ยนพาหนะมาหลายประเภท นั่งมาสุดท้ายก็มาถึงที่นี่

รพีพงษ์ดูเกาะเล็กๆที่ไร้ซึ่งผู้คน ก็โล่งอก เขามาตามที่อยู่ที่อาจารย์ให้ไว้ หามาหลายวัน จนสุดท้ายก็ได้เจอกับเกาะเล็กๆนี้

เพราะเหตุนี้เขายังได้ซื้อเรือประมงโดยเฉพาะ มิเช่นนั้น ไม่สามารถหาสถานที่แห่งนี้ได้เลย

พาเรือประมงจอดไว้ที่ท่าเรือ หลังจากที่ทอดสมอแล้ว รพีพงษ์ก็ขึ้นมาจากเรือประมง ขึ้นไปบนเกาะเล็ก

แม้มองจากไกลๆ เกาะเล็กนี้ไม่ถือว่าใหญ่ แต่หลังจากที่ขึ้นเกาะแล้ว รพีพงษ์เพิ่งจะพบว่าพื้นที่ของเกาะใหญ่กว่าที่คิดไว้มาก อย่างน้อยก็ใหญ่พอๆกับหลายๆเมือง

ตอนนั้นอาจารย์ให้เขามาเกาะนี้เพื่อหาเขา แต่ไม่ได้พูดว่าพอถึงเกาะแล้วให้ติดต่อยังไง ดังนั้นรพีพงษ์อยากจะหาอาจารย์ ก็ต้องเดินหารอบๆเกาะ

แม้ขอบเขตของพลังจิตรพีพงษ์จะพัฒนาไปพร้อมกับฝีมือ และได้พัฒนาไปไกลมาก แต่ขอบเขตมากสุด ก็แค่ห้าร้อยเมตร อยากจะล้อมเกาะนี้ไว้ ยาก

ตอนนี้เขาไม่เพียงหมดอาลัยตายอยาก ถ้าพลังจิตของตัวเองไกลมากถึงขั้นคลุมเกาะนี้เอาไว้ได้ งั้นแว็บเดียวเขาก็สามารถหาตำแหน่งของอาจารย์เจอแล้ว

เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังจิตวิญญาณเทพ รพีพงษ์ไม่ได้ใช้พลังจิตในการหาตำแหน่งของอาจารย์ เพราะในรัศมีห้าร้อยเมตร ก็เหมือนใช้สายตาทั่วไป

เขาเดินไปรอบๆเกาะเพียงลำพัง ไม่พบแม้แต่คนเดียว ภูมิประเทศของเกาะนี้ค่อนข้างซับซ้อน แล้วยังมีสัตว์ขนาดใหญ่ที่รพีพงษ์ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย ได้บดบังทัศนียภาพอย่างมาก ทำให้การค้นหาของรพีพงษ์เป็นไปได้ยากขึ้น

ผ่านไปไม่นาน รพีพงษ์ได้ยินเสียงไหลของน้ำข้างหน้า จึงได้รีบเดินไป หลังจากที่ผ่านต้นไม้สูงใหญ่กลุ่มนั้นไป ก็เห็นลำธารปรากฏตรงหน้า

ต้นสายของลำธารไม่รู้มาจากไหน แต่ดูจากลักษณะแล้ว น่าจะเป็นลำธารน้ำจืด

แน่นอน ว่านี่ไม่สำคัญ สำคัญที่ รพีพงษ์เห็นหญิงสาวผมยาวกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธาร

ความสวยของหญิงสาวนั้นเป็นอันดับต้นๆ รูปร่างสมส่วน อยู่ในน้ำยิ่งมีเสน่ห์ แม้แต่รพีพงษ์เห็น ก็มีความรู้สึกทนไม่ไหว

หญิงสาวเล่นน้ำในลำธาร ไม่สนใจสิ่งรอบๆข้าง ตอนที่เธอหันไปเห็นรพีพงษ์ เห็นรพีพงษ์กำลังจ้องเธอ ก็ร้องกรี๊ดออกมา จากนั้นรีบเอามือมาปกปิดร่างกายเอาไว้

รพีพงษ์รู้สึกว่าไม่ใช่ จึงรีบหันหลังกลับ ไม่ดูสาวคนนั้นอีก

“คุณเป็นใคร? ทำไมต้องแอบดูฉันอาบน้ำ?” หญิงสาวส่งเสียงโมโหออกมา

รพีพงษ์รีบอธิบาย “ขอโทษครับ ผมมาหาอาจารย์ของผม เมื่อกี้ไม่รู้ว่าคุณอาบน้ำอยู่ เลยมองอย่างไม่ได้ตั้งใจ”

“หาอาจารย์ของคุณ? อาจารย์คุณคือใคร?” หญิงสาวถาม

“วฤนท์ธม” รพีพงษ์ตอบ

“คุณคือรพีพงษ์?” หญิงสาวถามตรงๆ

รพีพงษ์รู้สึกแปลกๆ อยากจะหันไปถามเธอ แต่เมื่อกี้หันไปแป๊บเดียว เห็นหญิงสาวอยู่ในน้ำ ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ดังนั้นจึงรีบหันกลับมา

“คุณรู้ได้ไงว่าผมคือรพีพงษ์? คุณรู้จักอาจารย์ของผมงั้นหรอ?” รพีพงษ์ถาม

เขาได้ยินเสียงผู้หญิงเดินขึ้นมาจากน้ำ ตอนนี้น่าจะไปใส่เสื้อผ้าแล้ว

“ชิ ฉันก็เป็นศิษย์ของอาจารย์เหมือนกัน ต้องรู้จักอาจารย์อยู่แล้ว ปกติอาจารย์มักจะชื่นชมคุณต่อหน้าพวกเรา ฉันก็คิดว่าคุณเป็นอัจฉริยะอะไร ไม่คิดว่าจะเป็นไอ้ลามกดีๆนี่เอง!” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น

รพีพงษ์รู้สึกเหมือนกำลังโดนเข้าใจผิด กล่าว “ผมไม่ได้ตั้งใจมองคุณ ไม่มีเจตนา”

“ไม่ต้องอธิบาย ผู้ชายอย่างพวกคุณโกหกเหมือนๆกันนั่นแหละ ศิษย์พี่ของฉันหลายคนก็มักจะพูดประโยคเดียวกับที่คุณพูดเมื่อกี้นั่นแหละ” หญิงสาวกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

รพีพงษ์เบื่อหน่าย ดูๆแล้วอธิบายให้หญิงสาวคนนี้ฟังไม่เป็นผล แต่ฟังจากคำพูดของเธอแล้ว รพีพงษ์ก็รู้ได้ว่า น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยแอบดูเธออาบน้ำ

แล้วเมื่อกี้หญิงสาวคนนี้บอกว่าเธอเป็นศิษย์ของอาจารย์ หรือคนนี้คือศิษย์พี่หรือศิษย์น้องของเขา?

นอกจากเธอ บนเกาะนี้เหมือนกับว่าจะมีศิษย์ของอาจารย์อีกหลายคน

ก่อนหน้านี้รพีพงษ์รู้ว่า อาจารย์เป็นคนที่ชอบรับลูกศิษย์ ไม่ว่าจะไปที่ไหน เพียงแค่เหมาะสม อาจารย์ก็จะรับศิษย์ แล้วสอนตามความแข็งแกร่ง

ตอนนั้นรพีพงษ์ก็รู้จักศิษย์พี่ศิษย์น้องบางคน ศิษย์ผู้หญิงที่อาจารย์รับ เธอเป็นคนแรก

ดูๆแล้วเขารู้จักอาจารย์น้อยเกินไป

ผ่านไปไม่นาน หญิงสาวสวมเสื้อผ้าเสร็จ ก็กล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณหันมาได้”

รพีพงษ์หันหลังไป มองที่สาวคนนั้น

เพราะเธอเช็ดตัวยังไม่แห้งแล้วสวมเสื้อผ้า ดังนั้นเสื้อผ้าที่ใส่ บวกกับตอนนี้เป็นฤดูร้อน เสื้อผ้าที่ใส่เดิมที่ก็ไม่หนา ดังนั้นร่างกายที่โค้งเว้าของหญิงสาวได้ปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ผมของเธอยังคงเปียกชุ่ม ดูๆแล้วมีเสน่ห์

“ขอโทษจริงๆนะครับ ผมขอโทษสำหรับการกระทำเมื่อกี้ของผม คุณบอกว่าคุณเป็นศิษย์ของอาจารย์ ไม่ทราบว่าผมควรจะเรียกคุณว่าศิษย์พี่หรือศิษย์น้อง?” รพีพงษ์กล่าว

หญิงสาวมองบน แล้วกล่าว “ฉันชื่อนิศมา ถือว่าเป็นศิษย์พี่ของคุณ”

“คุณเทียบกับศิษย์พี่พวกนั้นแล้ว ไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่ แอบดูแล้วยังขอโทษ พวกเขาแอบดูแล้ว ยังไม่ยอมรับผิดอีก”

รพีพงษ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่คิดจะแอบดู แต่เรื่องแบบนี้ยิ่งอธิบายยิ่งเหมือนตัวเองหาข้ออ้าง ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไรมาก

“ศิษย์พี่พาผมไปหาอาจารย์ได้มั้ยครับ?” รพีพงษ์ถาม

นิศมาหันกลับมา แล้วกล่าว “ตามฉันมา”

รพีพงษ์รีบตามไป คิดในใจที่นิศมาให้เขาเรียกว่าศิษย์พี่ แต่ดูๆแล้วระดับของเธอไม่ต่างจากตัวเองมาก แสดงว่าตอนที่นิศมาไหว้อาจารย์ ตั้งแต่อายุยังน้อย

“ศิษย์พี่ ไม่ทราบว่าบนเกาะนี้มีทั้งหมดกี่คน เป็นศิษย์ของอาจารย์ทั้งหมดเลยมั้ย?” เดินพลาง รพีพงษ์ก็ถามพลาง

“บนเกาะถามรวมอาจารย์ด้วย ทั้งหมดก็สามสิบเอ็ดคน พวกเราสามสิบคน เป็นศิษย์ของอาจารย์ทั้งหมด ตอนนี้รวมคุณ ก็สามสิบสอง” นิศมากล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า คิดไม่ถึงว่าบนเกาะนี้อยู่กับอาจารย์สามสิบคน จำนวนนี้อยู่เหนือความคาดหมายของเขา

ทั้งสองออกมาจากลำธานนั้น มาถึงถนนเส้นหนึ่ง ขณะนี้มีหญิงคนหนึ่งวิ่งมาทางนี้

เทียบกับนิศมาแล้ว หญิงที่วิ่งมาน่ารัก ดูๆแล้วอายุน่าจะราวๆสิบแปดสิบเก้าปี

หญิงคนนั้นเห็นนิศมากับชายแปลกหน้า ก็ตกใจ แล้วกล่าว “ศิษย์พี่ พี่……พาชายป่าเถื่อนไปอาบน้ำด้วยกันหรอ!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท