พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน

บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน

บทที่1053 ฉันขอประกาศว่าเขาก็คือแฟนของฉัน

ทุกคนต่างมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความตกตะลึง คาดไม่ถึงเขาจะเดินออกไปไกลสิบเมตรได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ ปกติตอนที่พวกเขาจะแบกกล่องใบนี้เดิน ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเท่านี้มาก่อน

นิศมาที่ตอนเริ่มแรกรู้สึกว่ารพีพงษ์อวดดีในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยความตื่นตกใจเช่นกัน ความแข็งแกร่งของเธอเป็นแดนปรมาจารย์ชั้นยอด กล่องใบนั้นก่อนหน้านั้นเธอเคยแบกมาแล้ว ค่อนข้างจะรู้ดีเป็นธรรมดา จะแบกกล่องนี้และเดินไปทางด้านหน้ายากมากแค่ไหน

แต่ตอนนี้รพีพงษ์ก็เหมือนกับว่ากำลังแบกกล่องหนักห้ากิโลกรัมเดินไปด้านหน้า ดูไม่ออกมาว่ามีความยากมากแค่ไหน

ในเวลานี้เธอถึงได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจรพีพงษ์ผิด ที่แท้เขาไม่ได้กำลังอวดดี แต่มีความมั่นใจในตัวเองอย่างแน่นอน

เมื่อคิดแบบนี้ นิศมาก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความกระอักกระอ่วนเล็กน้อย

นฤชัยจ้องมองรพีพงษ์เป็นเวลานานโดยไม่พูด วินาทีแรกเขายังคิดว่ารพีพงษ์คงจะเดินไปได้ไม่ไกลมาก ปรากฏว่าวินาทีต่อมารพีพงษ์ก็เดินออกมาสิบเมตรทำให้เขาอับอายขายหน้า

ไม่ว่าเปลี่ยนเป็นใคร ในเวลานี้คงจะต้องกระอักกระอ่วนอย่างแน่นอน

สิ่งที่สำคัญคือ รพีพงษ์สามารถทำแบบทดสอบนี้ได้สำเร็จอย่างง่ายดาย เดิมทีเขาต้องการอาศัยการทดสอบนี้มาทำให้รพีพงษ์อับอาย ปรากฏว่ากลับทำให้รพีพงษ์แสดงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาออกมาต่อหน้าทุกคน ตอนนี้ทุกคนคงจะยอมรับคำชมที่อาจารย์ชมรพีพงษ์ก่อนหน้านั้นแล้ว

แต่ไม่ว่าในใจจะคิดอย่างไร ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ นฤชัยไม่สามารถแสดงสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในใจออกมาได้

เขากระแอมเบาๆ เอ่ยปากพูดว่า: “ถือว่านายยังพอผ่านการทดสอบไปได้ ดูเหมือนว่าอาจารย์จะไม่ได้ดูพลาดไป ไม่ได้รับคนไร้ประโยชน์กลับมาเป็นลูกศิษย์”

หลังจากที่ผู้คนได้ยินคำพูดของนฤชัย รู้สึกว่าความต้องการของศิษย์พี่ใหญ่นั้นแข็งก้าวเกินไป พวกเขาในบรรดาผู้คนที่บรรลุถึงแดนปรมาจารย์ ถึงจะสามารถฝืนทนแบกกล่องใบนี้เดินไปห้าเมตร แต่รพีพงษ์มาถึงก็เดินไปได้สิบเมตร สิ่งนี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว

แต่นฤชัยกลับบอกว่ายังพอผ่านไปได้ ทำให้พวกเขารู้ว่าความต้องการสูงมากเกินไป

บาวันที่เดิมทียังคงรอดูเรื่องขายหน้าของรพีพงษ์ในเวลานี้ก็ตกตะลึง หลังจากที่สายตาจับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์ก็ไม่เคยละสายตาออกไป

ในฐานะเด็กสาวอายุสิบแปดเก้าปี บาวันเกิดมีความรู้สึกดีๆให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเป็นธรรมดา

แม้ว่าเธอจะจงใจทำให้นฤชัยเกิดความเป็นปรปักษ์ต่อรพีพงษ์ แต่นั่นเป็นเพราะรพีพงษ์ไม่ให้เธอดูสิ่งของในกระเป๋า

แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมา ได้ทำให้เธอสิ้นฤทธิ์อย่างสมบูรณ์แล้ว

“นี่ก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว เดินไปสิบเมตรได้อย่างง่ายดายแบบนี้ ฉันอยากจะแบกกล่องใบนั้นขึ้นมายังยาก”

“ไม่แปลกใจที่อาจารย์ชอบชมเขาขนาดนี้ ดูเหมือนเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไปจริงๆ”

“โธ่เอ๊ย ถ้ารู้ก่อนว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เขาแล้ว ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้ ที่สำคัญมีบุคลิกนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อเทียบกับศิษย์พี่เหล่านั้นที่ต้องการจะเอาเปรียบฉันก็แตกต่างมาก”

“ถ้ารู้ก่อนฉันก็จะบอกว่าเขาเป็นแฟนของฉันแล้ว”

บาวันพึมพำพูดกับตัวเอง เพราะใช้ชีวิตอยู่บนเกาะเป็นระยะเวลายาวนาน ทำให้เธอเป็นคนบุ่มบ่าม โดยทั่วไปคิดอะไร ก็พูดออกมาทันที

รวมทั้งทุกคนบนเกาะต่างก็เอาใจเธอ ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วเธอคิดอะไรได้ก็ทำอะไร ไม่เคยมีความยับยั้งชั่งใจอะไรมาก่อน

ดังนั้นหลังจากที่เกิดเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อรพีพงษ์ เธอก็เดินพุ่งไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “รพีพงษ์ เรื่องก่อนหน้านั้นคือฉันไม่ดีเอง ฉันไม่ควรพูดจาเหลวไหล ความจริงแล้วนายกับศิษย์พี่นิศมาไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น”

เมื่อรพีพงษ์เห็นบาวันชี้แจง มุมมองที่มีต่อเธอในใจก็เกิดการเปลี่ยนไปเล็กน้อย และยังพยักหน้าให้เธอ

แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึง ประโยคถัดมาของบาวันเกือบทำให้เขาพุ่งตรงไปหยิกยัยเด็กนี่ให้ตาย

“ทุกคน ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์พวกพี่ก็ได้เห็นแล้ว เขาเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ที่อาจารย์ชื่นชมจริงๆ ดังนั้นเขามีสิทธิ์อยู่บนเกาะ ต่อไปฉันจะประกาศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รพีพงษ์ก็คือแฟนของฉัน พวกพี่ใครก็ห้ามรังแกเขา!”

หลังจากพูดจบ บาวันหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ แล้วพูดว่า: “นายสบายใจได้ จากนี้ไปเป็นคนของฉันแล้ว ฉันรับรองอยู่บนเกาะนี้ทำให้นายได้อยู่ดีกินดี”

ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความเซ็ง สำหรับวงจรสมองของบาวัน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีคนสามารถเข้าใจได้

รพีพงษ์หมดคำพูดอย่างฉับพลัน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ถูกคำพูดของบาวันหยุดไว้ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

ดูเหมือนว่าเขายังคงประเมินประสิทธิภาพการต่อสู้ของบาวันต่ำไป เมื่อกี้นี้ยังคิดว่าเธอชี้แจ้งเพื่อตัวเองก็ยังไม่เลว ตอนนี้ดูเหมือนว่า ตัวเองจะไร้เดียงสาเกินไป

นิศมาก็มองไปที่บาวันอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอ่ยปากพูดว่า: “เธอทำตัวบ้าๆบอๆอีกแล้ว รพีพงษ์เพิ่งมาถึงบนเกาะได้ไม่นาน เธอก็ให้คนอื่นเขาเป็นแฟนของเธอแล้ว”

ใบหน้าของบาวันดูไม่พอใจ เอ่ยปากพูดว่า: “ทำไมล่ะ หรือว่าไม่ได้เหรอ? ศิษย์พี่ พี่รีบร้อนพูดแบบนี้ หรือว่าก็สนใจรพีพงษ์เหรอ?”

นิศมาก็แสดงร่องรอยแห่งความเขินอายออกมา และเอ่ยปากพูดว่า: “เธอพูดจาเหลวไหลอะไร! ฉันทำอะไรไม่เข้าท่าเหมือนกับเธอที่ไหนกัน”

“แฮะๆ ศิษย์พี่ หน้าพี่แดงแล้ว การแสดงออกของพี่หลอกคนไม่ได้”บาวันยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูด

นิศมารีบลูบหน้าของตัวเอง แล้วพูดว่า: “พูดจาเหลวไหล”

นฤชัยเห็นท่าทางของนิศมาอยู่ในสายตา ความเป็นปรปักษ์ต่อรพีพงษ์ในใจ ก็ลึกล้ำขึ้นอีกหลายเท่า

ทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความอิจฉา แน่นอนว่าพวกเขาสามารถเห็นท่าทีของนิศมาและบาวันที่มีต่อรพีพงษ์ได้ เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งที่รพีพงษ์แสดงออกมาเมื่อกี้นี้นั้น พิชิตทุกคนได้แล้ว

“เฮ้อ ฉันอุตส่าห์ตามจีบศิษย์พี่นิศมามาขนาดนี้ เธอก็เย็นชาต่อฉัน รพีพงษ์เพิ่งมาบนเกาะไม่นาน ศิษย์พี่นิศมาก็หน้าแดงเพราะเขา ช่องว่างนะ”คนที่ยืนอยู่ด้านข้างนฤชัยพูดด้วยความทอดถอนหายใจ

คำพูดนี้ของเขาทำไมจะไม่ใช่เสียงในใจของนฤชัย เมื่อได้ยินคำพูดของคนคนนั้น สีหน้าของนฤชัยก็เปลี่ยนเป็นยิ่งดูไม่ดีมากขึ้น

“เหอะ แค่ย้ายกล่องเดินไปได้สิบเมตรเท่านั้นเอง สิ่งนี้มีอะไรน่าอวด คนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ ให้ความสำคัญกับการต่อสู้จริง มีกำลังมากแค่ไหน ไม่สามารถทำออกแรงต่อสู้จริงได้ ก็ไม่มีประโยชน์”นฤชัยพูดด้วยความโกรธ

ทุกคนต่างพยักหน้า รู้สึกว่าสิ่งที่นฤชัยพูดนั้นสมเหตุสมผล

“พูดได้ถูก ผู้คนที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับกำลังอันยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ความแข็งแกร่งบรรลุถึงชั้นยอดแต่มีไม่กี่คน เว้นแต่ว่ารพีพงษ์คนนั้นจะบรรลุถึงระดับเดียวกับศิษย์พี่นฤชัย ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเทียบกับศิษย์พี่นฤชัยได้”

“ใช่ แดนถึงจะเป็นหนทางยุติธรรม แดนดั่งเทพขั้นกลางของศิษย์พี่นฤชัยถึงจะถือได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง”

“ก็แค่เด็กผู้หญิงที่ยังไม่เติบโตอย่างบาวันถึงจะมองเห็นว่าคนอื่นมีตรงที่ไม่ธรรมดาเพียงเล็กน้อย ก็จะประหลาดใจ เธอก็ยังไร้เดียงสา”

เมื่อนฤชัยได้ยินทุกคนพูดเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาก สายตาที่มองไปทางรพีพงษ์ก็ยิ่งดูถูกมากขึ้น

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่า ความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ บรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอดแล้ว มีความแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากจนไล่ตามไม่ทัน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท