พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1065 ความจริง

บทที่1065 ความจริง

บทที่1065 ความจริง

หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำพูดของวฤนท์ธม ดวงตาก็เบิกกว้างทันที มองไปที่อาจารย์อย่างเหลือเชื่อ คาดไม่ถึงเขาจะพูดคำพูดที่น่าตกใจเช่นนี้ออกมา

“อาจารย์ ชัชพิสิฐเสียชีวิตไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ศพของเขาก็วางอยู่บนพื้น ท่านก็อย่ามาล้อเล่นกับพวกเราเลย”ในเวลานี้คนคนหนึ่งยิ้มแล้วพูดกับวฤนท์ธม

วฤนท์ธมยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “แกคิดว่าฉันเป็นคนชอบล้อเล่นเหรอ?”

รพีพงษ์ที่นอนอยู่บนเตียงหินตระหนักได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติในทันที จึงรีบลุกขึ้นจากเตียงหิน และถามสาเหตุกับอาจารย์

แต่ในขณะนี้ เขาพบกับความประหลาดใจ ตัวเองไม่สามารถใช้แรงได้อีกแล้ว

เขาลองหมุนเวียนพลังวิเศษเสน แต่ผลก็คือรู้สึกราวกับว่าติดอยู่ในร่างกายเหมือนมีสิ่งกีดขวางบางอย่างอยู่ และไม่สามารถออกแรงได้เลยแม้แต่น้อย

ไม่เพียงแค่เขา ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็สังเกตเห็นว่า พวกเขาไม่สามารถใช้พลังในร่างกายของตัวเองได้อีกต่อไป แม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นยืนก็ไม่มี ทำได้เพียงนั่งลงบนพื้นต่อไป

“อาจารย์ ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”บาวันจ้องมองวฤนท์ธมแล้วถาม

วฤนท์ธมยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “นี่เป็นผลของยาที่ฉันเอาให้พวกเธอทานเริ่มออกฤทธิ์แล้ว”

“ยาเม็ดนั้นสามารถต้านทานไอพิฆาตได้จริงๆ แต่ในเวลาเดียวกันก็จะทำให้พวกเธอสูญเสียพลังไปชั่วคราว”

ทุกคนต่างก็ตกตะลึง รู้สึกว่าวฤนท์ธมตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว คือคนแปลกหน้ามาก

“อาจารย์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”รพีพงษ์จ้องมองวฤนท์ธมแล้วถาม

วฤนท์ธมหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ จากนั้นพูดเน้นย้ำว่า: “เมื่อกี้นี้ฉันก็พูดไปแล้ว ความจริงฉันคือชัชพิสิฐ และที่ฉันพาพวกเธอมา ก็ไม่ได้ต้องการหายาถอนพิษคลี่คลายไอพิฆาตอะไร เป้าหมายที่แท้จริงของฉัน ความจริงคือยึดครองเปลี่ยนร่างกายหนึ่งร่างใหม่”

หลังจากพูดจบ บนใบหน้าของเขาก็เกิดความทอดถอนใจ เหมือนราวกับว่าในที่สุดก็ได้เปิดเผยความลับที่ฝังอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของตัวเองออกมา ดูไปแล้วค่อนข้างผ่อนคลาย

รพีพงษ์ตัดสินจากสีหน้าท่าทางของเขาออกมาได้ว่า เขาไม่ได้พูดโกหก

“ถ้าท่านคือชัชพิสิฐ ถ้าอย่างนั้นศพนั้นคืออะไร?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

“เรื่องราวก่อนหน้านี้ที่ฉันพูดกับนาย ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่โกหกออกมา มีวฤนท์ธมคนนี้อยู่จริง ที่สำคัญเป็นเจ้าของที่แท้จริงของร่างกายฉัน ปีนั้นฉันเห็นว่าความสามารถของเขาไม่เลว จึงเก็บเขาไว้ข้างกายตัวเอง”

“เวลานั้นฉันเพิ่งหลบหนีออกมาจากช่องทางขนส่ง ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กำลังได้รับความเสียหายอย่างมาก มองดูก็กำลังจะตาย”

“ดังนั้นฉันได้ถือว่าวฤนท์ธมเป็นภาชนะบรรจุของตัวเองมาฝึกฝน ตอนที่ฉันกำลังจะตาย ฉันก็ดำเนินการยึดครองต่อเขา แย่งร่างกายของเขาไป และแทนที่ตัวตนของเขา”

วฤนท์ธมไม่มีความลุกลี้ลุกลนแม้แต่น้อย อธิบายให้รพีพงษ์อย่างค่อนข้างใจเย็น

ในใจรพีพงษ์เกิดความหวาดกลัวอย่างยากที่จะปิดซ่อนได้ ยังไงเขาก็คาดไม่ถึง อาจารย์ของตัวเอง กลับเป็นชัชพิสิฐที่เกิดใหม่จากยึดครอง!

ไม่น่าแปลกใจที่ในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่าน กลุ่มสิงโตหายังไงก็หาเบาะแสของชัชพิสิฐไม่พบ ที่แท้เขาได้กลายเป็นคนอีกคนได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์

เพราะตอนนั้นได้ประสบกับเรื่องของบรรพบุรุษของตระกูลตรีศาสตร์ ดังนั้นยึดครองสำหรับรพีพงษ์ไม่ใช่เรื่องแปลก และยังเกือบจะถูกบรรพบุรุษของตระกูลตรีศาสตร์ยึดครองแล้ว

จนถึงตอนนี้ รพีพงษ์ถึงได้คิดเข้าใจว่า ก่อนหน้านั้นทำไมวฤนท์ธมถึงได้แสดงสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลออกมามากมาย

ไม่น่าแปลกใจตอนที่เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของตัวเองได้บรรลุถึงแดนดั่งเทพชั้นยอด จะแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลนออกมา เขาน่าจะรู้นานแล้วว่าตัวเองถือเป็นเป้าหมายของการยึดครองมาฝึกฝน ความแข็งแกร่งของตัวเองยิ่งแข็งแกร่ง ความยากที่เขาจะยึดครองก็ยิ่งมากขึ้น

ก็ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะคุ้นเคยกับสุสานกษัตริย์ฉินนี้มากขนาดนี้ เพราะนี่เป็นสุสานของตัวเขาเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาเดินทางไปทั่วโลกโดยตลอด ก็ไม่ใช้เพื่อการสืบทอดอะไร แต่เพื่อมองหาภาชนะบรรจุต่อไปสำหรับยึดครองของตัวเอง

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ในใจรพีพงษ์ก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างไม่อาจบรรยายได้ เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าอาจารย์ที่เขายกย่องนับถือมาโดยตลอด จะเป็นคนแบบนี้

ทุกอย่างที่เขามีคือการเสแสร้งทำออกมา สิ่งนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของอาจารย์คนนั้นที่เหมือนราวกับนักบุญในใจของรพีพงษ์ได้พังทลายไปทันที

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์คงจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับรพีพงษ์ ไม่ว่าเปลี่ยนเป็นใคร คงจะยอมรับความจริงนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

บนใบหน้าของวฤนท์ธมปรากฏความทอดถอนใจออกมาเล็กน้อย มองไปที่คนที่เหมือนราวกับแวมไพร์ที่ไม่มีชีวิตชีวาใดๆตรงนั้น

“ปีนั้นอยู่ในทวีปโอชวิน มีสำนักใหญ่ต่างๆเพื่อกังฟูเสน ลงมือรุมโจมตีฉันด้วยกัน ฉันเพื่อที่จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ พาผู้คุมกันสี่คนบุกรุกช่องทางที่ปิดผนึก สิ่งที่โชคดีคือ พวกเราทั้งห้าคนหนีรอดออกมาจากในช่องทางได้”

“แต่พลังปิดผนึกของช่องทางนี้น่ากลัวมาก แม้ว่าพวกเราจะรอดชีวิตมาได้ ก็ยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังจะตาย”

“ในเวลานั้นบรรดาผู้คุมกันทั้งสี่คน มีสามคนเลือกที่จะจากฉันไป ตั้งใจต่างคนต่างไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเอง มีเพียงเขาคนเดียวที่จงรักภักดี ติดตามฉันไปตลอดจนตาย”

“ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งร้อยปีกว่า ร่างกายของเขาถูกไอพิฆาตกัดกร่อน แต่กลับยังคงคุ้มครองฉันอยู่ ความภักดีนี้ของเขา ถือได้ว่าเป็นในบรรดาจำนวนลูกน้องมากมายของฉันในปีนั้น ยิ่งใหญ่ที่สุด”

“น่าเสียดายตอนนั้นฉันไม่มีพลังที่มากมาช่วยเขาดำเนินการยึดครองหนึ่งครั้ง ไม่อย่างนั้น มีเขามาเป็นผู้ช่วยคนสนิทของฉัน โลกใบนี้ คงจะเป็นโลกของฉันไปนานแล้ว”

รพีพงษ์ไม่ได้ซาบซึ้งกับลูกน้องคนนี้ของวฤนท์ธม และจากคำพูดของวฤนท์ธม จับใจความข้อมูลสำคัญบางอย่างได้

คนที่หนีมาด้วยกันกับชัชพิสิฐในปีนั้น คาดไม่ถึงมีสี่คน

สรุปจากข้อมูลที่ตัวรพีพงษ์รู้อยู่แล้ว เรื่องราวในหัวสมองของเขาที่คิดไม่ออกอยู่ตลอดเวลา ในเวลานี้ก็มีได้รับคำตอบ

ปีนั้นปู่ของชาลิสาได้ปล้นสุสาน หากังฟูเสนพบ ต่อมาส่งมอบให้รพีพงษ์ รพีพงษ์สงสัยว่าสุสานที่ปู่ของชาลิสาปล้นก่อนหน้านี้ เป็นสุสานของชัชพิสิฐ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นั่นน่าจะเป็นสุสานของหนึ่งในสี่คนผู้คุมกันของชัชพิสิฐ

และวิธีลับที่รพีพงษ์ชำนาญ เพียงแค่มีผลต่อพลังวิเศษเสน เขาพยายามลองใช้เน่ยจิ้งกระตุ้นวิธีลับ ได้ผลเพียงเล็กน้อย สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าวิธีลับและกังฟูเสน คือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดมาก

แต่วิธีลับนี้คือรพีพงษ์ได้มาจากอาจารย์โอบนิธิ สิ่งที่ได้มาด้วยกันกับวิธีลับ ยังมีไม้แดงเทพท่อนใหญ่ ตามที่อาจารย์โอบนิธิบอก เขาหาสิ่งของเหล่านี้พบที่บนกระดูกในถ้ำแห่งหนึ่ง

ถ้าหากเดาไม่ผิด กระดูกในถ้ำนั้น น่าจะเป็นผู้คุมกันหนึ่งในสี่ของชัชพิสิฐ

รวมทั้งผู้คุมกันคนนี้ในสุสานกษัตริย์ฉิน รพีพงษ์สามารถมั่นใจได้ว่า ผู้คุมกันทั้งสี่คน เสียชีวิตไปแล้วสามคน

สำหรับผู้คุมกันคนสุดท้ายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน รพีพงษ์ก็ไม่รู้

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องกังวล คือเรื่องที่วฤนท์ธมจะยึดครองของตัวเอง

ถ้าหากเป็นที่ผ่านมา อาจารย์ต้องการให้เขาช่วยเหลือด้วยชีวิต เขาจะไม่มีความลังเลใดๆ แต่ตอนนี้หลังจากที่เขารู้ว่าความจริงอาจารย์คือชัชพิสิฐที่ยึดครองอยู่ รพีพงษ์เกิดความเกลียดที่ค่อนข้างล้ำลึกต่อเขา

ความตั้งใจที่เขาสั่งสอนตัวเอง เพียงเพื่อฝึกฝนให้ตัวเองกลายเป็นยึดครองได้ง่าย สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์ยอมรับไม่ได้

ต่อให้เสียชีวิต เขาก็ไม่มีทางให้วฤนท์ธมทำสำเร็จแน่!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท