พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1067 อาจารย์ตายไปแล้ว

บทที่1067 อาจารย์ตายไปแล้ว

บทที่1067 อาจารย์ตายไปแล้ว

ในโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์

หลังจากที่จิตวิญญาณเทพของชัชพิสิฐเข้ามาถึงในหัวสมองของเขา ในโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์จิตวิญญาณของจิตวิญญาณเทพก็ลืมตาขึ้นมา

เขาปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณเทพทันที ต้องการที่จะต้านทานให้จิตวิญญาณเทพของชัชพิสิฐออกจากหัวสมองของตัวเอง

แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังต่อต้านอย่างรุนแรง พลังจิตวิญญาณเทพของชัชพิสิฐได้ปราบปรามพลังที่เขาปลดปล่อยออกมากลับไป

ต่อจากนั้น รพีพงษ์เห็นชัชพิสิฐปรากฏตัวขึ้นในโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์

ชัชพิสิฐมองไปที่จิตวิญญาณของจิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “ความสามารถของนายนั้นเหนือความคาดหมายของผู้คนจริงๆ คาดไม่ถึงจิตวิญญาณเทพของนายจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ดูเหมือนว่าหลังจากที่ฉันยึดครองนาย ยังสามารถอาศัยพลังจิตวิญญาณเทพของนายดำเนินก้าวหน้าไปอีกครั้ง”

รพีพงษ์มองไปที่ชัชพิสิฐด้วยสีหน้าท่าทางซับซ้อน ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณเทพของชัชพิสิฐไม่มีลักษณะของวฤนท์ธมแล้ว ดังนั้นรพีพงษ์เผชิญหน้ากับเขา ก็ไม่มีความรู้สึกของอาจารย์ใดๆทั้งนั้น

คนคนนี้เพียงแค่ต้องการหลอกใช้เขาเป็นภาชนะบรรจุในการยึดครอง คนชั่วที่ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อยเท่านั้นเอง

อาจารย์ที่เป็นมิตรและเข้าถึงได้ของตัวเอง เมื่อตอนที่จิตวิญญาณเทพของชัชพิสิฐแยกออกมาจากกันนาน เสียชีวิตไปแล้ว

“ที่ผ่านมาฉันปฏิบัติต่อแกในฐานะบุคคลที่น่านับถือเคารพที่สุดมาโดยตลอด แกเป็นอาจารย์ที่มีพระคุณของฉัน มีพระคุณที่ช่วยชีวิตต่อฉัน ถ้าหากแกต้องการให้ฉันช่วยเหลือด้วยชีวิต ฉันไม่มีจะไม่บอกปัดใดๆอย่างแน่นอน”

“แต่ฉันคาดไม่ถึงว่าฉันจะเป็นเพียงแค่คนที่แกหลอกใช้แล้วฝึกฝนออกมา ไมตรีจิตความรักใคร่ต่ออาจารย์ลูกศิษย์ทั้งหมดเป็นเพียงความยุ่งยากที่ไม่สำคัญในสายตาของแก ดังนั้นต่อให้ก่อนหน้านั้นแกจะสั่งสอนฉันมามากมาย แกก็เป็นเพียงชัชพิสิฐที่หลบหนีออกมาจากทวีปโอชวิน พระคุณอาจารย์ของแกกับฉัน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

“และฉันจะไม่มีทางแสดงความนับเคารพต่อแกอีก ถ้าหากแกต้องการยึดครองฉัน ฉันไม่มีทางที่จะนั่งรอความตายอยู่แน่”

รพีพงษ์มองไปที่ชัชพิสิฐด้วยใบหน้าที่แน่วแน่จริงจังแล้วเอ่ยปากพูด

ชัชพิสิฐยิ้มเล็กน้อย เอ่ยปากพูดว่า: “ในเวลานี้พูดแบบนี้จะมีความหมายอะไร ความรู้สึกทั้งหมดในโลกมนุษย์ เป็นเพียงความเพ้อฝันของมนุษย์ ทำไมต้องสนใจมากมายขนาดนี้ด้วย”

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินสิ่งที่เขาพูด หายใจเข้าลึกๆ เขารู้ว่า ชัชพิสิฐสามารถพูดแบบนี้ออกมาได้ ก็แสดงให้เห็นว่าอาจารย์ผู้มีพระคุณในใจของเขา ได้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน

แววตาของเขากลายเป็นแน่วแน่ขึ้นมา และในใจก็ไม่ได้ว้าวุ่นเพราะเรื่องของอาจารย์ต่อไป

ในเมื่อชัชพิสิฐต้องการได้ร่างกายของตัวเอง ถ้าอย่างนั้นตัวเองก็จะทำให้เขาไม่สมหวัง

แม้ว่าความสามารถส่วนใหญ่ของเขา จะได้รับการสั่งสอนจากอาจารย์ แต่หลายปีมานี้เขาของตัวเองก็มีโอกาสไม่น้อย ไม่เห็นว่าอยู่ต่อหน้าชัชพิสิฐก็จะไม่มีกลยุทธ์และพลังใดๆ

แววตาของเขาแน่วแน่ จากนั้นพลังจิตวิญญาณเทพพุ่งทะยาน ก่อตัวเป็นตราในกลางอากาศทันที กระแทกไปที่ร่างกายของชัชพิสิฐ

“ตราคุมจิต!”

เพราะที่นี่เป็นในโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจีบมือร่ายมนต์ออกมา หมุนเวียนพลังจิตวิญญาณเทพทันที ก็สามารถเพียงพอใช้วิชาโจมตีของจิตวิญญาณเทพออกมาได้

ชัชพิสิฐมองเห็นการปรากฏตัวของตราคุมจิต แววตาก็แน่วแน่ ราวกับว่าคาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์ยังเป็นวิชาโจมตีของจิตวิญญาณเทพ

แต่เขาไม่ได้ตื่นตระหนก ยกมือขึ้นข้างหนึ่ง พลังจิตวิญญาณเทพที่บริสุทธิ์พุ่งเข้าหาตราคุมจิต

ในพริบตาเดียว ตราคุมจิตของรพีพงษ์ก็สลายหายไปทันที และไม่มีผลต่อชัชพิสิฐแม้แต่น้อย

“คาดไม่ถึงนายยังชำนาญพลังจิตวิญญาณเทพ น่าเสียดายจิตวิญญาณเทพของนายอ่อนแอเกินไป ถ้าหากไม่ใช่ว่าฉันจะดำเนินการยึดครองของนาย ไม่อย่างนั้นฉันพลิกฝ่ามือก็สามารถกำจัดนายให้สูญสิ้นได้ นายอย่าทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์เหล่านี้เลย”ชัชพิสิฐเอ่ยปากพูดอย่างราบเรียบ

รพีพงษ์กัดฟัน คาดไม่ถึงว่าชัชพิสิฐจะแข็งแกร่งขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าวิชาโจมตีของจิตวิญญาณเทพของเขาเพียงยกมือก็คลี่คลายได้แล้ว

แต่เขาก็ไม่ได้ลังเล แล้วใช้พลังจิตวิญญาณเทพของตัวเองอีกครั้ง สร้างหอกยาวในกลางอากาศ พุ่งไปทางบนร่างกายของชัชพิสิฐ

วิธีนี้เรียกว่าหอกยาวจิต เป็นวิชาโจมตีของจิตวิญญาณเทพที่รพีพงษ์ได้เรียนรู้จากหนังสือโบราณของตระกูลตระกูลตรีศาสตร์

เมื่อชัชพิสิฐเห็นหอกยาวจิตพุ่งมาทางบนร่างกายตัวเอง ก็หรี่ตาลงมา พลังของหอกยาว เห็นได้ชัดแข็งแกร่งกว่าตราคุมจิตเมื่อกี้นี้มาก

เขายกมือขึ้น โบกแขนเสื้ออย่างแรง ลมแรงที่หลอมรวมโดยพลังจิตวิญญาณเทพก็ปรากฏขึ้น กวาดไปทางหอกยาว

พลังของลมบังคับให้หอกยาวเปลี่ยนทิศทางทันที หันหัวพุ่งไปที่รพีพงษ์

รพีพงษ์คาดไม่ถึงชัชพิสิฐจะเปลี่ยนทิศทางของหอกยาวจิตได้ เห็นหอกยาวพุ่งมาทางฝั่งตัวเอง ก็คลายการโจมตีของหอกยาวจิตทันที ทำให้กระจายไปในอากาศ

รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นประหม่าเล็กน้อย เพราะพลังแค่นี้ของตัวเอง อยู่ตรงหน้าของชัชพิสิฐ ไม่เพียงพอที่จะมอง ไม่ว่าตัวเองจะใช้กลยุทธ์อะไรออกมาก็ตาม ชัชพิสิฐก็เหมือนราวกับจะสามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย

ชัชพิสิฐเดินไปทางรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดกับเขาว่า: “ตอนนี้นายน่าจะสนุกพอแล้วใช่มั้ย? ถึงเวลาดำเนินการเรื่องที่จริงของพวกเราได้แล้ว”

รพีพงษ์รู้สึกถึงภาวะวิกฤตขึ้นมา ก็ถอยไปด้านหลังทันที

ชัชพิสิฐยื่นมือชี้ออกไป เส้นไหมที่หลอมรวมด้วยพลังจิตวิญญาณเทพปรากฏขึ้นข้างรพีพงษ์อย่างเงียบสงบ พันเขาขึ้นมาทันที

การปรากฏของเส้นไหมไม่มีสังหรณ์ใจแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นรพีพงษ์ ก็ไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้เป็นอันดับแรก

เมื่อตอนที่ตระหนักถึงอันตราย มือเท้าของเขาได้ถูกเส้นไหมนี้ควบคุมแล้ว

ในใจของรพีพงษ์เกิดความหวาดกลัวเล็กน้อย ต้องรู้ว่าที่นี่เป็นโลกแห่งจิตวิญญาณของเขา แต่เขาไม่สามารถรับรู้สิ่งที่ปรากฏอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณของตัวเอง เรื่องนี้ต้องผ่านการคิดก่อนจึงจะรู้ว่าน่ากลัวมากแค่ไหน

หลังจากที่ควบคุมรพีพงษ์ไว้ได้ ชัชพิสิฐเดินไปตรงหน้ารพีพงษ์ มองดูพลังจิตวิญญาณเทพรอบตัวของเขา บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม

“โชคดีที่ฉันไม่ได้สอนวิชาฝึกของจิตวิญญาณเทพใดๆให้กับนาย ไม่อย่างนั้นด้วยความสามารถของนาย กลัวเพียงว่าตอนที่ฉันจะยึดครองต่อนาย นายจะมีความสามารถเพียงพอ มาต่อต้านฉันแล้ว”ชัชพิสิฐเอ่ยปากพูด

รพีพงษ์เขม็งตาใส่เขา เอ่ยปากพูดว่า: “ต่อให้แกไม่ได้สอนวิชาฝึกของจิตวิญญาณเทพให้กับฉัน วันนี้แกก็อย่าได้คิดที่จะยึดครองฉัน!”

ชัชพิสิฐยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่เขาพูด แต่ยื่นมือออกไป สร้างตราที่ซับซ้อน ต่อจากนั้น รูปแบบที่ซับซ้อนก็ปรากฏขึ้นทั่วตัวของเขา ปกคลุมจิตวิญญาณเทพของตัวเขาเองและรพีพงษ์ขึ้นมาทันที

“ต่อไปฉันจะเริ่มยึดครอง สัมผัสเวลาที่นายรู้ตัวเป็นครั้งสุดท้ายให้เต็มที่ ผ่านช่วงเวลานี้ไป ฉันจะสืบทอดความทรงจำทั้งหมดของนาย จากนี้ไป ก็เป็นฉัน ที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกแทนนาย”

ทันทีที่เสียงของเขาลดลง รพีพงษ์ก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดอันทรงพลังปรากฏขึ้นทั่วร่างกาย แรงดึงดูดนั้นเหมือนราวกับว่าจะดูดตัวเองไปทั้งหมด ไม่เพียงแค่พลังจิตวิญญาณเทพของตัวเอง แต่ยังรวมถึงความทรงจำของตัวเอง การรับรู้ของตัวเอง ทุกอย่างที่ตัวเองมี

“ต้องการยึดครองฉัน ฝันไปเถอะ!”

รพีพงษ์ตะโกนเสียงดัง จากนั้นเขากัดฟันกำหมัดของตัวเองแน่น ใช้พลังสุดท้ายของตัวเอง แสงสีทองหนึ่งแสง เรียกออกมา

กระบี่สยบเซียนปรากฏขึ้นในโลกแห่งจิตวิญญาณของรพีพงษ์อย่างกะทันหัน ทะลุผ่านร่างกายของชัชพิสิฐไป

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท