พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1074 โทรศัพท์จากนนทภู

บทที่1074 โทรศัพท์จากนนทภู

เดิมทีหัวใจของรพีพงษ์ที่จมลงสู่ก้นบึ้งก็กลับลุกขึ้นอีกครั้งอย่างกะทันหัน เขารีบหันหน้ามองไปที่ธัชธรรม เอ่ยปากถามว่า: “ใครเหรอ?”

ธัชธรรมถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ และเอ่ยปากพูดว่า: “ปีนั้นฉันเคยรับปากคนคนนี้ ตราบใดที่เขาไม่ทำสิ่งชั่วร้ายอยู่บนโลก ฉันก็จะให้สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยกับเขา พวกเราทำข้อตกลงกันว่าจะไม่รบกวนซึ่งกันและกัน เพียงแต่ตอนนี้ดูสถานการณ์แบบนี้ของนาย ก็ทำได้เพียงให้นายไปหาเขาแล้ว”

“เหตุผลที่ฉันคิดว่าคนคนนี้สามารถถอนพิษยาพันพิษได้ เป็นเพราะคนคนนี้ เป็นคนที่มาจากทวีปโอชวิน เขาเป็นหนึ่งในคนที่หลบหนีออกจากช่องทางขนส่งพร้อมกับชัชพิสิฐ”

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินคำพูดของธัชธรรม บนใบหน้าปรากฏร่องรอยประหลาดใจเล็กน้อย คาดไม่ถึงคนคนนี้ที่ธัชธรรมพูดถึงจะเป็นคนที่มาจากทวีปโอชวิน

ที่สำคัญปีนั้นเขาหนีออกมาพร้อมกับชัชพิสิฐ มีสี่คน ในบรรดาทั้งสามคนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว มีเพียงคนสุดท้ายที่ที่ไม่รู้เบาะแสว่าอยู่ที่ไหน

ตอนนี้ดูเหมือนว่า สิ่งที่ธัชธรรมพูดถึง ก็คือผู้คุ้มกันคนที่สี่ของชัชพิสิฐ

“คนของทวีปโอชวินเหรอ? ภารกิจของกลุ่มสิงโตของพวกเรา ไม่ใช่ว่ากำจัดพวกเขาเหรอ? ทำไมท่านธัชธรรมถึงได้ทำข้อตกลงเงื่อนไขแบบนี้กับคนของทวีปโอชวิน ยังให้สภาพแวดล้อมที่อยู่ปลอดภัยกับเขา”รพีพงษ์ถามอย่างไม่เข้าใจ

ธัชธรรมถอนหายใจ และพูดว่า: “เรื่องนี้พูดแล้วมันยาว คนคนนี้แม้ว่าจะหลบหนีออกมาพร้อมกันกับชัชพิสิฐ แต่เขาก็เบื่อชีวิตที่จะติดตามชัชพิสิฐ ดังนั้นจึงเป็นคนมาหาฉันเอง ฉันอยากจะเจรจาเงื่อนไขกับฉัน ”

“ฉันในตอนนั้นไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน เข้าสู่??แห่งหนึ่ง โดนพิษแปลกประหลาด ไม่มีใครสามารถถอนได้ และพอดีว่าเขาเป็นปรมาจารย์การแพทย์ คนหนึ่ง ดังนั้นช่วยรักษาชีวิตของฉันเป็นเงื่อนไข ให้ฉันให้สภาพแวดล้อมที่มั่นคงแห่งหนึ่งกับเขา”

“ฉันเห็นว่าท่าทางที่จริงใจของเขา ที่สำคัญเพื่อมีชีวิตรอด ดังนั้นจึงรับปากเขา”

“เขาก็ทำตามข้อตกลงจริงๆ รักษาพิษบนร่างกายของฉันจนหาย ที่สำคัญผ่านไปนานหลายปีขนาดนี้ ไม่เคยเห็นก่อความเดือดร้อนใดๆให้กับสังคมทางโลก เพียงแค่ลงภูเขามารับลูกศิษย์หลายคนเป็นบางครั้ง”

“เพราะเขาเป็นปรมาจารย์การแพทย์ ดังนั้นฉันถึงรู้สึกว่าเขามีความเป็นไปได้ที่จะถอนพิษยาพันพิษนี้ได้ แต่ผ่านไปหลายปี สถานการณ์ปัจจุบันของเขาเป็นอย่างไร ฉันก็ไม่ชัดเจนมากนัก สามารถที่จะถอนพิษนี้ได้หรือไม่ ก็ทำได้เพียงดูชะตากรรมแล้ว”

หลังจากฟังสิ่งที่ธัชธรรมพูดจบ แววตาของรพีพงษ์ก็แน่วแน่ และเอ่ยปากพูดว่า: “ท่านธัชธรรม ท่านได้โปรดบอกที่อยู่ตอนนี้ของคนคนนี้ให้ผมด้วย ไม่ว่าจะสามารถถอนพิษได้หรือไม่ ผมก็จะไปลองดู”

ธัชธรรมรู้ว่ารพีพงษ์ตกอยู่ในความหมกมุ่นอย่างหนึ่งไปแล้ว ตราบใดที่มียังมีความหวัง เขาก็จะดำเนินการลองดู เพื่อให้อารียาฟื้นขึ้นมา เขาไม่มีทางปล่อยโอกาสใดๆไปอย่างแน่นอน

“ที่อยู่ฉันสามารถให้นายได้ แต่ว่าเนื่องจากว่าเป็นคนของทวีปโอชวิน แม้ว่าหลายปีมานี้ไม่เคยวิ่งทำเรื่องโดดเด่นอะไรออกมา แต่ว่านายยังจะต้องระวังตัวด้วย หลีกเลี่ยงเพื่อไม่หลงกลเขา”ธัชธรรมเอ่ยปากพูด

“ผู้อาวุโสสบายใจได้ สิ่งนี้ผมรู้ความสามารถของตัวเอง ”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด

ธัชธรรมพยักหน้า จากนั้นเขียนที่อยู่ของคนคนนั้นลงมา มอบให้กับรพีพงษ์

หลังจากที่ได้รับที่อยู่ รพีพงษ์หายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้ความหวังทั้งหมดของเขา ฝากไว้ที่บนตัวของผู้คุมกันคนที่สี่ของชัชพิสิฐ ถ้าแม้แต่คนคนนี้ก็ไม่มีวิธีถอนพิษของอารียา ถ้าอย่างนั้นเขาก็ทำได้เพียงไปค้นหายาถอนพิษที่ทวีปโอชวินแล้ว

โดยไม่ต้องเสียเวลามากเกินไป หลังจากที่รพีพงษ์ได้ที่อยู่แล้ว เขาก็ไปจัดการเรื่องหนูลิน

เพราะกลัวว่าหนูลินจะไม่คุ้นเคยกับที่นี่ รพีพงษ์ตั้งใจพาพี่สามาด้วย เพื่อให้หนูลินสามารถรับรู้การดูแลเอาใจใส่อย่างทั่วถึง

ในเวลาเดียวกันเขาก็ไปกำชับหงส์ หวังว่าหงส์จะมีเวลามาอยู่เป็นเพื่อนหนูลิน เนื่องจากสำนักงานใหญ่กลุ่มสิงโตทั้งหมด ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรพีพงษ์มีเพียงหงส์คนเดียว หนูลินอยู่ในวัยที่ต้องการการดูแล เพิ่มคนเอาใจใส่มาหนึ่งคน สามารถคลายความเศร้าที่หนูลินไม่มีแม่คอยดูแลอยู่ไปบ้างได้

หลังจากที่จัดการเรื่องหนูลินเรียบร้อย รพีพงษ์เก็บข้าวของของตัวเอง ตั้งใจออกเดินทางไปหาผู้คุมกันคนที่สี่ของชัชพิสิฐ

ตามที่อยู่ที่ธัชธรรมให้เขามา สถานที่อยู่ในเวลานี้ของผู้คุมกันคนนั้น น่าเป็นในส่วนลึกของเทือกเขาฉินหลิง ต้องการหาเจอไม่ใช่เรื่องง่ายดาย

สิ่งที่ทำให้รพีพงษ์รู้สึกโชคดีก็คือ ยาพิษที่อารียาโดนไม่ใช่ว่าจะออกฤทธิ์ทันที ไม่ว่าจะเป็นชุติเทพหรือธัชธรรมหรือว่าเป็นธีรพัฒน์ต่างก็สรุปว่าพิษของอารียาเวลาที่ออกฤทธิ์อยู่ที่สิบปีต่อมา ดังนั้นในเวลานี้รพีพงษ์ก็ไม่ต้องรีบร้อนมากเกินไป

เพียงแต่หาวิธีช่วยถอนพิษได้เร็วมักดีกว่าช้ากว่า ดังนั้นรพีพงษ์ไม่ยอมที่จะเสียเวลาใดๆทั้งนั้น

หลังจากที่ออกมาจากเทือกเขาคุนหลุน รพีพงษ์ก็รีบเดินทางไปยังเมืองที่ใกล้ที่สุด โดยวางแผนว่าจะนั่งเครื่องบินไปยังบริเวณใกล้เคียงของเทือกเขาฉินหลิง จากนั้นค่อยคิดหาวิธีว่าสามารถที่จะสอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับเทือกเขาฉินหลิงจากปากคนในพื้นที่ได้หรือไม่

ตามที่ธัชธรรมพูดถึง ผู้คุมกันคนที่สี่ของชัชพิสิฐทุกปีจะลงภูเขามารับลูกศิษย์ทุกปี ตามข้อตกลงระหว่างเขากับธัชธรรม ลูกศิษย์ที่เขารับได้มีเพียงหมู่บ้านใกล้เทือกเขาฉินหลิงบางแห่ง ดังนั้นบางทีคนของในหมูบ้านเหล่านี้อาจรู้การมีอยู่ถึงของผู้คุมการคนที่สี่

แต่ทันทีที่รพีพงษ์มาถึงเมืองที่ใกล้ที่สุด ก็ได้รับโทรศัพท์จากนนทภู

ก้มหน้ามองลงไปที่โทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่ในมือขอ’ตัวเอง รพีพงษ์ค่อนข้างก็งุนงง

เขาไม่ได้ติดต่อกับพ่อตัวเองมาเป็นเวลานาน ก็ไม่รู้ว่าเขาโทรมาหาตัวเองทำไม

หลังจากรับสาย เสียงหายใจหนักๆของนนทภูดังมา และเงียบเป็นเวลานาน

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของนนทภูก็ดังมาจากอีกด้าน:“รพีพงษ์ ลูกสบายดีมั้ย? เรื่องของอารียาพ่อได้ฟังแล้ว ตราบใดที่คนมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างก็ยังมีความหวัง ดังนั้นลูกก็อย่าได้วิตกกังวลเกินไป วิตกกังวลมากเกินไป มีแต่จะทำให้เรื่องราวยิ่งแย่ลง ”

รพีพงษ์เสียงอืม แล้วพูดว่า: “ผมไม่เป็นไร พ่อไม่ต้องเป็นห่วงผมมากเกินไป”

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”นนทภูตอบ จากนั้นก็ไม่มีเสียงอีก แต่ฟังออกจากการหายใจของนนทภู เขาน่าจะยังมีอะไรที่ต้องการจะพูด

“พ่อ พ่อยังมีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่า?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

นนทภูเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจ และเอ่ยปากพูดว่า: “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่พิเศษอะไร ถ้าหากลูกมีเวลา ก็มาที่เทือกเขากิสนาเถอะ พ่อจะพูดต่อหน้าลูก”

“แน่นอนว่า ถ้าหากตอนนี้ลูกยังปลีกตัวออกมาไม่ได้ พ่อก็ไม่ได้รีบร้อน ตราบใดที่ช่วงนี้มาที่เทือกเขากิสนารอบหนึ่ง ก็พอแล้ว”นนทภูตอบ

เมื่อได้ยินนนทภูพูดแบบนี้ รพีพงษ์ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที นนทภูเมื่อก่อนนี้ ไม่เคยปิดบังอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน

“พ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า? ทำไมผมรู้สึกว่าน้ำเสียงของพ่อไม่ชอบมาพากล?”รพีพงษ์ถามต่อ

“ไม่มีอะไร พ่อก็แค่จะบอกกับลูกเท่านั้นเอง ลูกมีเวลาก็มาเถอะ แค่นี้แหละ ”น้ำเสียงของนนทภูเปลี่ยนเป็นกังวลเล็กน้อย จากนั้นก็วางสายโทรศัพท์

รพีพงษ์มองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างทำอะไรไม่ถูก และรู้สึกว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในเทือกเขากิสนา

แต่ดูท่าทางของพ่อ น่าจะไม่ใช่เรื่องที่รีบร้อนเกินไป

ตอนนี้เพื่อหาวิธีถอนพิษให้อารียาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด รอครั้งนี้ตัวเองกลับมาจากเทือกเขาฉินหลิง ค่อยไปที่เทือกเขากิสนาก็ไม่สายเกินไป

หลังจากที่ตัดสินใจ รพีพงษ์ก็ไม่ลังเลต่อไป และรีบเดินตรงไปที่สนามบิน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท