พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1097 สำรวจ

บทที่ 1097 สำรวจ

หลังจากที่นนทภูได้ยินคำถามของรพีพงษ์ บนใบหน้าก็แสดงสีหน้าจริงจัง แล้วพูดว่า: “เรื่องนี้พ่อก็ต้องเคยตรวจสอบมาก่อนเป็นธรรมดา สถานที่แห่งนี้ของเทือกเขากิสนา ค่อนข้างมีความพิเศษในตัวของมันเอง และตำแหน่งที่ตั้งเกาะ??นี้ ก็เคยเกิดเรื่องราวบางอย่างที่ทำให้คนคาดไม่ถึง”

“หลายปีมานี้พ่อพักอาศัยอยู่ที่นี่มาโดยตลอด มีหลายคืน พ่อก็จะฝันถึงเรื่องราวแปลกๆ บางครั้งคนที่ทั้งร่างกายเปื้อนด้วยเลือดก็จะวิ่งมาทางพ่อ ต้องการจะจับตัวพ่อไว้ บางครั้งมันก็เป็นฉากการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว้างมาก และฉากแบบนั้น มีเพียงในโทรทัศน์ถึงจะมี”

“ที่สำคัญพ่อมักจะได้ยินเสียงหนึ่งเสียง เสียงนั้นทำให้พ่อดำดิ่งลงสู่ก้นทะเลสาบ ที่นั่นมีคนกำลังรอพ่ออยู่”

“ต่อมาเพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ พ่อหาผู้คนมากมาย ให้พวกเขาดำน้ำลงไปที่ก้นทะเลสาบ ไปดูว่าที่นั่นมีของอะไรอยู่กันแน่ ถือโอกาสตรวจสอบว่าทำไมสถานที่นี้ถึงได้มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาตในร่างกายของพ่อ”

“แต่สิ่งที่ทำให้พ่อคาดไม่ถึงก็คือ ใต้ก้นทะเลสาบนี้ มีไอพิฆาตรวมอยู่ด้วยกันจำนวนมากมาย คนเหล่านั้นที่ดำลงไป ไม่มีใครที่รอดชีวิต”

“ต่อมาพ่อก็มุ่งเน้นความสนใจมาที่บนเกาะศูนย์กลาง ในเมื่อไม่สามารถตรวจสอบใต้น้ำได้ พ่อจึงขุดหลุมจากบนเกาะโดยตรง ดูว่าสามารถขุดเจออะไรได้บ้าง”

“ต่อมาพ่อยังขุดช่องทางเดินบนเกาะออกมาได้หนึ่งเส้นทาง แต่ว่าในช่องทางนั้นก็เต็มไปด้วยไอพิฆาต ที่สำคัญเป็นหลายเท่าของในทะเลสาบ คนเหล่านั้นที่ขุดหลุม ทั้งหมดถูกไอพิฆาตกัดกร่อนจนเป็นปีศาจ พ่อไม่มีทางเลือกทำได้เพียงฆ่าพวกเขาทั้งหมด”

“ตั้งแต่นั้นมา พ่อก็ล้มเลิกความคิดที่จะตรวจสอบหาสาเหตุ เกาะทั้งเกาะนี้ เกือบแทบจะถูกล้อมรอบไปด้วยไอพิฆาต นอกจากอยู่บนพื้นดินไม่เป็นอะไรที่สำคัญยังมีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต ไอพิฆาตในทะเลสาบและไอพิฆาตในช่องทางเส้นนั้น ไม่เคยรั่วไหลออกมาก่อน”

“สำหรับเหตุผล พ่อก็ไม่มีทางรู้แล้ว ไอพิฆาตเหล่านั้นน่ากลัวเกินไปจริงๆ และไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถสัมผัสได้”

หลังจากที่รพีพงษ์ฟังคำพูดของนนทภูจบ ในใจก็รู้สึกแปลกๆอย่างฉับพลัน คิดไม่ออกว่าทำไมถึงมีไอพิฆาตอยู่ในทะเลสาบและใต้ดิน แต่บนผิวพื้นกลับไม่มีไอพิฆาตแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามยังมาประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต

ที่สำคัญจากคำพูดของนนทภูรพีพงษ์ก็คาดเดาได้ว่า ใต้เกาะนี้ ดูเหมือนว่ามีบางอย่างอยู่จริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่มีทางที่จะขุดช่องทางเดินบนเกาะนี้ได้

ถ้าอย่างนั้นช่องทางเดินนี้ทะลุไปที่ไหน? มีไอพิฆาตมากมายอยู่ขนาดนี้ ซึ่งหมายความว่าใต้เกาะนี้ ความจริงเป็นสุสานแห่งหนึ่งเหรอ?

หรือบางที ใต้กลางเกาะ ก็คือดินแดนลึกลับที่จีรภัทรพูดถึงเหรอ?

คำถามเหล่านี้ทำให้รพีพงษ์สงสัยว่าสถานที่เทือกเขากิสนานี้ ความจริงมีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่ และทำให้เขาเกิดความอยากรู้อยากเห็นมากมายต่อช่องทางเดินใต้เกาะ??นั้น

ถ้าหากมีดินแดนลึกลับแห่งหนึ่งอยู่ใต้เกาะช่องทางเดิน ถ้าอย่างนั้นรพีพงษ์ก็จะเข้าใกล้เครื่องยาสมุนไพรที่จีรภัทรต้องการไปอีกก้าวหนึ่ง

สำหรับพื้นที่บนพื้นดินที่มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาต ก็ทำให้รพีพงษ์คิดไม่ออก

อย่างไรก็ตามเขามั่นใจได้ว่า คงจะไม่ใช่ความพิเศษของอากาศบนพื้นดินที่มีผลในการปราบไอพิฆาตด้านล่าง คงจะเป็นบนเกาะศูนย์กลางนี้ มีสิ่งของที่สามารถปราบไอพิฆาตเหล่านี้ได้

เดิมทีเขาต้องการปลดปล่อยพลังจิตของตัวเองออกมา และมาตามหาว่าที่นี่มีสิ่งของอะไรเป็นพิเศษมั้ย

แต่การใช้พลังไปทั้งวันทำให้เขาก็ต้านทานไม่ไหว จิตวิญญาณก็อ่อนเพลียอย่างฉับพลัน และไม่มีทางที่จะปลดปล่อยพลังจิตออกมาได้

“พ่อ ผมจะอยู่ที่นี่สักพัก มาตรวจสอบว่าที่นี่ทำไมถึงได้พิเศษขนาดนั้น เพียงแต่ว่าวันนี้ผมเหนื่อยมาก ต้องการพักผ่อนก่อน จัดเตรียมสถานที่พักให้ผมก่อนเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปากพูด

นนทภูรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นยืนขึ้น และตบมือ

ชายในชุดสูทสีดำเดินมาจากด้านนอกทันที หลังจากที่เขาเห็นหน้าของนนทภูกลับมาเป็นปกติแล้ว ก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

“รีบจัดเตรียมห้องให้นายน้อยอย่างรวดเร็ว และจัดเด็กผู้หญิงที่ละเอียดรอบคอบดูแลแนบชิดใกล้เขา ไปจัดการเดี๋ยว”นนทภูเอ่ยปากพูด

รพีพงษ์รีบเอ่ยปากพูดอย่างรวดเร็ว: “จัดเตรียมห้องให้ก็พอแล้ว เด็กผู้หญิงก็ช่างเถอะ”

นนทภูยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ โดยคิดว่าลูกชายของตัวเองเป็นคนรักเดียวใจที่หาพบได้ยาก ไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม ก็จะซื่อสัตย์ต่อภรรยาเพียงคนเดียว

หลังจากที่ชายคนนั้นได้รับคำสั่ง ก็รีบไปจัดห้องให้รพีพงษ์หนึ่งห้อง หลังจากที่รพีพงษ์เข้าไปในห้องพอหัวถึงนอนก็หลับ มีแนวโน้มว่าจะนอนเป็นเวลาสามวันสามคืน

แม้ว่ารพีพงษ์จะไม่ต้องการให้ผู้หญิงมาดูแล แต่ว่าผู้ชายคนนั้นก็ยังจัดเตรียมผู้หญิงหลายคนเฝ้าอยู่นอกประตู ถ้าหากรพีพงษ์มีอะไรที่ต้องการ พวกเขาก็จะบริการรพีพงษ์เป็นอันดับแรก

เมื่อรพีพงษ์นอนหลับไป ก็นอนหลับไปนานจริงๆ จนกระทั่งถึงตอนเที่ยงวันที่สาม เขาถึงค่อยตื่นมา

เขาบิดขี้เกียจ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าสดชื่น และเห็นได้ชัดว่าพักผ่อนได้ค่อนข้างดี

เขาเปิดประตูแล้วเดินออกไปด้านนอก พบว่าเด็กผู้หญิงหลายคนในชุดสาวกระต่าย

กำลังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู ในมือของพวกเธอถืออาหารมากมาย เห็นรพีพงษ์เปิดประตูออกมาจากในห้อง ก็ล้อมรอบมาทันที

“เจ้านาย ท่านหิวแล้วใช่มั้ยค่ะ? รีบทานอาหารเหล่านี้เถอะ”

รพีพงษ์มองไปที่สาวกระต่ายหลายคน อาการขนลุกบนร่างกายก็ลุกขึ้นมาทันที คิดในใจว่าตัวเองบอกแล้วว่าไม่ต้องการเด็กผู้หญิงมาดูแล คาดไม่ถึงว่าพ่อของตัวเองยังจัดเตรียมให้กับเขา ที่สำคัญยังเป็นสาวกระต่าย

แต่เขาหิวจริงๆ หลังจากจ้องมองอาหารในมือขอสาวกระต่ายหลายคนแล้ว เขาก็หยิบจานในนั้นมาหนึ่งใบ จากนั้นก็ออกจากที่นี่ โดยปล่อยให้สาวกระต่ายที่เหลือหลายคนได้แต่จ้องมองดูกันไปมา

หลังจากที่เขาทานอิ่มดื่มพอ รพีพงษ์ก็เริ่มงานสำรวจบนเกาะ?? แม้ว่าในเวลานี้ขอบเขตของพลังจิตของเขาจะห่างไกลกว่าที่ผ่านไม่สามารถเทียบได้ แต่ว่าพื้นที่ของเกาะศูนย์กลางนั้นไม่เล็ก เขาไม่มีความสามารถปกคลุมทั้งหมดได้ทันที ทำได้เพียงตรวจสอบทีละเล็กนิด

ยิ่งไปกว่านั้นตามที่นนทภูบอก พื้นดินบนเกาะ ขุดลงไปลึกถึงสามเมตร ก็ไม่ได้มีไอพิฆาตอยู่ ดังนั้นไม่ค้นพบของสิ่งนั้นที่สามารถปราบไอพิฆาตได้ คือฝังอยู่ในพื้นดิน

แม้ว่าความยากของพลังจิตจะทะลุพื้นดินได้ไม่มาก แต่สำหรับการใช้ของพลังจิตวิญญาณเทพนั้นมาก ดังนั้นสิ่งนี้สำหรับรพีพงษ์เป็นงานที่ใหญ่

จนกระทั่งในตอนเย็น ในที่สุดรพีพงษ์อยู่ในสถานที่บนเกาะที่ปกติไม่มีใครไป ก็พบความผิดปกติเล็กน้อย

เขาปกคลุมบริเวณรอบๆด้วยพลังจิต จากนั้นก็เจาะลงไปในพื้น หลังจากนั้นไม่นาน พลังจิตของรพีพงษ์ก็สัมผัสกับสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง

สถานที่แห่งนั้นกลับปิดกั้นพลังจิตของรพีพงษ์ไว้ทันที เขารู้สึกไม่ได้เลยว่าที่นั่นมีของสิ่งใด เหมือนราวกับว่าส่วนหนึ่งของพื้นที่หายไปจากอากาศ ค่อนข้างแปลก

เขาหาผู้คนเหล่านั้นมาทันที ให้พวกเขาขุดสถานที่ที่ค้นพบความผิดปกติ

เมื่อกี้นี้

หลังจากนั้นไม่นาน คนเหล่านั้นก็ขุดสิ่งของบางอย่างขึ้นมาจากพื้นดิน

รพีพงษ์รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเอาดินด้านบนออก พบว่าสิ่งที่ฝังอยู่ที่นี่ กลับเป็นจี้หยกที่แกะสลักลวดลายสลับซับซ้อน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท