พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1096 คลี่คลายไอพิฆาต

บทที่ 1096 คลี่คลายไอพิฆาต

หลังจากที่นนทภูได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็นิ่งอึ้งไปทันที เอ่ยปากพูดว่า: “ตอนนี้พ่อเต็มไปด้วยไอพิฆาต ต่อให้แค่สัมผัส มีความเป็นไปได้ที่ไอพิฆาตเหล่านี้จะกัดกร่อนร่างกายของลูกไปตามมือของพ่อ ดังนั้นลูกอย่าได้แตะต้องพ่อแม้แต่น้อย”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “พ่อ ความจริงหลังจากที่ผมออกจากเทือกเขากิสนา ความแข็งแกร่งของผมพัฒนาเพิ่มขึ้นมาก ไอพิฆาตสำหรับผม อาจจะไม่เท่าไหร่หรอก”

นนทภูส่ายหัว และพูดว่า: “ความสามารถของลูกไม่เลวจริงๆ แต่ว่าไอพิฆาตนี้ค่อนข้างแปลกประหลาด และไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเราคิด ต่อให้ลูกจะต่อสู้กับใครได้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้กับไอพิฆาตได้”

รพีพงษ์เห็นว่านนทภูไม่เชื่อเขา ก็ปลดปล่อยพลังออกมาเล็กน้อย บนนิ้วกลายเป็นดาบเรืองแสง ต่อจากนั้นเขาก็ยิงไปที่เก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกล

ในพริบตาเดียว เก้าอี้ตัวนั้นภายใต้แสงดาบของรพีพงษ์ ก็กลายเป็นผง

นนทภูมองไปที่ฉากนี้อย่างเหลือเชื่อ เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะสามารถทำสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ได้ ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างจนกลมโต

เพียงแต่ภาพลักษณ์ตอนนี้ของเขาดูน่ากลัว ดังนั้นหลังจากที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต ก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปหลายเท่า

“นี่…..นี่มันทำได้อย่างไร?”นนทภูพึมพำกับตัวเอง

ที่ผ่านมา เขามักจะคิดว่าอย่างตัวเองและรพีพงษ์แบบนี้ สามารถต่อสู้กับยอดฝีมือสิบกว่าคนอย่างต่อเนื่องได้ ก็ถือได้ว่าเป็นขีดจำกัดที่มนุษย์สามารถบรรลุได้

แต่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า รพีพงษ์แค่นิ้วเดียวเบาๆ ก็ทำให้เก้าอี้ตัวนั้นเป็นผง สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถทำได้

ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เขาคงจะคิดว่ามันเป็นเพียงเทคนิคพิเศษที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำออกมา

รพีพงษ์ยิ้มให้นนทภูแล้วพูดว่า: “สิ่งนี้เรียกว่าพลังวิเศษเสน เป็นพลังที่ฝึกฝนออกมาจากร่างกาย เมื่อบรรลุถึงระดับหนึ่ง ก็สามารถปลดปล่อยพลังแบบนี้ออกมา โจมตีผู้อื่น”

เห็นได้ชัดว่าเป็นครั้งแรกที่นนทภูได้สัมผัสกับเรื่องแบบนี้ ในแววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และหวังว่ารพีพงษ์จะสามารถเล่าให้เขาได้มากกว่านี้

รพีพงษ์ไม่รีบร้อน และเริ่มเล่าการพัฒนาศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนให้นนทภูฟัง และการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนให้ถึงขีดสุด จะเป็นสถานะแบบไหนกันแน่

หลังจากที่นนทภูฟังจบใบหน้าก็เผยถึงความทอดถอนใจ เอ่ยปากพูดว่า: “คาดไม่ถึงว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนจะลึกลับมหัศจรรย์ขนาดนี้ ฝึกฝนจนถึงสิ้นสุด สามารถปลดปล่อยพลังออกมาภายนอกได้ และดีดนิ้วฆ่าคน ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นกบในกะลาจริงๆ เมื่อก่อนคิดมาโดยตลอด หลังจากที่มนุษย์บรรลุถึงขีดจำกัดของร่างกาย ก็ไม่สามารถที่จะก้าวหน้าต่อไปได้อีก ”

รพีพงษ์ยิ้มโดยไม่พูดอะไร เขาไม่ได้บอกกับนนทภูว่าความจริงศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนนั้นเป็นเพียงพื้นฐานที่สุด ตอนนั้นบนโลกยังมีเซียนเดินอยู่บนโลก

ตอนนี้พูดมากมายขนาดนี้กับนนทภูก็ไม่มีประโยชน์อะไร ไม่แน่พูดมากไปแล้ว กลับกลายเป็นก่อเกิดให้ผลเสียบางอย่าง ดังนั้นตอนนี้รพีพงษ์เพียงต้องการให้เขารู้ว่าศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีนลึกลับมหัศจรรย์มากกว่าที่เขาคิดก็เพียงพอแล้ว

“ดังนั้นผมรู้สึกว่าพลังเหล่านี้ของผม คือมีความเป็นไปได้ที่จะคลี่คลายไอพิฆาตในร่างกายของพ่อได้ ต่อให้คลี่คลายไม่ได้ ผมก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้ไอพิฆาตในร่างกายของพ่อกัดกร่อนผมได้”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดกับนนทภู

นนทภูลังเลอยู่พักหนึ่ง และในที่สุดก็กัดฟัน แล้วพูดว่า: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นพ่อก็จะให้ลูกลองดู เกิดพลังของลูกไม่สามารถคลี่คลายได้ ต้องหยุดลงมาในทันที พ่อไม่ต้องการพวกเราสองพ่อลูกติดอยู่ที่นี่”

“พ่อวางใจได้ ผมรู้สิ่งที่ทำอยู่”รพีพงษ์พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

หลังจากนั้นนนทภูก็ได้เอามือของตัวเองออกไป ยื่นให้ตรงหน้ารพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ไม่ลังเล จับมือนนทภูทันที จากนั้นปลดปล่อยพลังวิเศษเสนในร่างกายของตัวเองออกมา ไปตามจุดฝังเข็มบนฝ่ามือของนนทภู เข้าสู่เส้นลมปราณของเขาโดยตรง

เมื่อเพิ่งสัมผัสมือข้างนั้นของนนทภู รพีพงษ์ก็รู้สึกได้ถึงพลังโจมตีที่พยายามจะผลักพลังที่เขาปลดปล่อยออกมาให้กลับไป คิดว่าน่าจะเป็นพลังของไอพิฆาตนั้น

รพีพงษ์ควบคุมพลังของตัวเองโดยตรงเพื่อต่อสู้กับพลังนั้นในร่างกายของนนทภูขึ้นมา

ระดับความรบเร้าของไอพิฆาตนี้อยู่เหนือจินตนาการของรพีพงษ์ แต่พลังวิเศษเสนในร่างกายของรพีพงษ์นั้นเนื่องจากเป็นพลังที่คนของทวีปโอชวินปรารถนาอย่างยิ่ง ดังนั้นระดับพลังแข็งแกร่งกว่า พลังแค่นี้ของไอพิฆาตไม่มีทางที่จะเทียบกับพลังวิเศษเสนได้

ต่อให้ไอพิฆาตนี้จะรบเร้าอย่างไร้ที่สิ้นสุด แต่สุดท้ายมันยังคงถูกพลังวิเศษเผาผลาญไปทีละนิด

นนทภูไม่รู้ว่ารพีพงษ์กำลังประสบกับความรู้สึกแบบไหนกันแน่ เขาเพียงรู้สึกว่าบนฝ่ามือของรพีพงษ์ส่งความรู้สึกอุณหภูมิร้อนมา และไอพิฆาตในร่างกายเหล่านั้นของตัวเองก็กลายเป็นปั่นป่วนมากเพราะเหตุนี้

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในช่วงอดทน ดังนั้นจึงต้องอดทนอยู่ตลอดเวลา รอให้รพีพงษ์ช่วยเขาคลี่คลายไอพิฆาตในร่างกายของเขา

ไอพิฆาตเหล่านั้นแพร่กระจายอยู่ไปทั่วเส้นลมปราณทั้งร่างของนนทภู รพีพงษ์ต้องการช่วยนนทภูคลี่คลายไอพิฆาตเหล่านั้นทั้งหมด เป็นระดับงานที่ค่อนข้างใหญ่มหาศาล

ยิ่งไปกว่านั้นเขาต้องควบคุมพลังของตัวเอง เส้นลมปราณของร่างกายมนุษย์ค่อนข้างบอบบาง แค่ไม่ระวัง ก็อาจจะทำลายเส้นลมปราณของนนทภูได้ทันที

ทั้งสองคนก็นั่งอยู่ในห้องหนังสือแบบนี้ รักษาลักษณะท่าทางนี้ ไปจนถึงดึกดื่น

ในเวลานี้ร่างกายของรพีพงษ์เต็มไปด้วยเหงื่อแล้ว และเสื้อผ้าก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ สภาพของนนทภูก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา ที่สำคัญไอพิฆาตอยู่ในร่างกายของเขาในสภาพที่ปั่นป่วน สิ่งนี้ทำให้เขาต้องทนกับความเจ็บปวดอย่างมาก

อย่างไรก็ตามในตอนนี้เส้นเลือดสีดำบนใบหน้าของนนทภูได้หายไปเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ และคนทั้งคนก็ดูปกติมากขึ้น ดูเหมือนว่าความพยายามมาตลอดทั้งวันนี้ของรพีพงษ์ ยังคงมีประสิทธิผลมาก

ในที่สุด รพีพงษ์ก็อาศัยพลังของตัวเอง คลี่คลายร่องรอยสุดท้ายของไอพิฆาตในร่างกายของนนทภูได้ ต่อจากนั้นรีบเก็บพลังของตัวเองคืนสู่ในร่างกายอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ถอนหายใจยาวๆ

นนทภูรู้สึกได้ถึงความรู้สึกของร่างกายตัวเองกลับคืนสู่ในสภาพปกติ เหมือนราวว่ากับได้รับชีวิตใหม่ ทั้งร่างกายก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิมมาก

ใบหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ ไม่ได้มีสภาพที่เต็มไปด้วยไอพิฆาตอย่างที่ผ่านอีกต่อไป และบุคลิกที่สง่างามแบบเมื่อก่อนนี้ก็กลับมาสู่บนร่างกายของเขาอีกครั้ง

รพีพงษ์มองดูพ่อของตัวเองที่ในเวลานี้กลับมาเป็นปกติแล้ว และรอยยิ้มที่มีความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เขาในเวลานี้เหนื่อยสายตัวแทบขาด เกือบแทบจะทรุด

คลี่คลายไอพิฆาตไม่ใช่เรื่องยาก ความยากก็ยากตรงที่รพีพงษ์จำเป็นต้องรวบรวมสมาธิ ไม่สามารถทำร้ายเส้นลมปราณของนนทภูได้ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลานานมากขนาดนี้ ถึงจะคลี่คลายไอพิฆาตในร่างกายของนนทภูให้หมดไป

“คาดไม่ถึงว่าไอพิฆาตเหล่านี้จะมีวันหนึ่งที่จะหายไปจากในร่างกายของฉันได้ ก่อนหน้านั้น พ่อได้เตรียมใจที่จะตายแล้ว รพีพงษ์ ขอบคุณลูก ครั้งนี้ถ้าไม่มีลูก พ่อก็จะถูกไอพิฆาตเหล่านี้กัดกร่อนและตายไม่ช้าก็เร็ว”นนทภูพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย เพื่อให้คลี่คลายวิกฤตอันตรายให้พ่อของตัวเอง เป็นสิ่งที่ลูกชายอย่างเขาควรทำเป็นธรรมดา

ก็จนถึงเวลานี้ เขาถึงได้ถามความสงสัยในใจของตัวเองออกมาอีกครั้ง

“พ่อ พ่อเคยคิดบ้างมั้ย ทำไมตำแหน่งที่ตั้งเกาะ??นี้ มีประสิทธิผลในการปราบไอพิฆาตในร่างกายของพ่อ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท