พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1113 ยาพิฆาต

บทที่ 1113 ยาพิฆาต

นอกจากร่างเทพชูรา ในการสืบทอดที่บวรทัตทิ้งไว้ให้รพีพงษ์ ยังมีความรู้มากมายเกี่ยวกับโลกแห่งการฝึกฝน ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหามากมายที่อาจพบเจอระหว่างทางการฝึกฝน

เพราะความผิดพลาดในการฝึกฝนของบนโลก ดังนั้นของบางอย่างที่รพีพงษ์รู้ แค่สิ่งที่สืบทอดมาในโลกศิลปะการต่อสู้ สำหรับเรื่องราวในโลกแห่งการฝึกฝนสามารถเรียกได้ว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย

แต่การสืบทอดที่บวรทัตให้กับเขา ชดเชยข้อบกพร่องของเขาได้พอดี บนโลกตอนนี้ เกรงว่าจะไม่มีใครมีความรู้ในด้านนี้มากไปกว่ารพีพงษ์

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นของทวีปโอชวิน สิ่งที่รู้ก็อาจจะไม่มากไปกว่ารพีพงษ์

แน่นอนว่า ตอนนี้รพีพงษ์ไม่มีเวลาไปจัดการสะสางสิ่งของเหล่านี้ในการสืบทอด แม้แต่ร่างเทพชูรา เขาก็กวาดตามองผ่านไปแวบเดียว ยังไม่ทันได้ฝึกฝน

การสืบทอดนี้เพียงพอที่จะสนับสนุนเส้นทางการฝึกฝนระยะยาวของรพีพงษ์ในอนาคตได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเรียนรู้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่วัน สิ่งนี้เขาจำเป็นต้องสำรวจและซึมซับทีละนิด

ดังนั้นต่อให้มีการสืบทอดของบวรทัต เขาก็จำเป็นต้องหมั่นฝึกฝน และทำให้รากฐานของตัวเองมั่งคงแข็งแกร่ง ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็จะว่างเปล่า

ว่าบนกระบี่สยบเซียนไม่มีช่องว่างแล้ว ความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เขาถือกระบี่สยบเซียนไว้ในมือของตัวเอง เจตจำนงดาบพุ่งทะยานตรงไปที่ก้นบึ้งหัวใจของรพีพงษ์ ในขณะนี้ รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง และแสดงความสามารถออกมาให้หมด

ในเวลาเดียวกันเมื่อเขากับกระบี่สยบเซียนสัมผัสกัน ความทรงจำส่วนหนึ่งก็ผ่านเขามาปรากฏในหัวสมองของเขาด้วยวิธีพิเศษ

“วิชาสยบเซียนเก้าท่า!”

รพีพงษ์รู้สึกถึงความทรงจำส่วนนั้นที่ปรากฏในหัวสมองของตัวเอง บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ คาดไม่ถึงกระบี่สยบเซียนที่สมบูรณ์แบบ จะมาพร้อมกับกลยุทธ์ทั้งชุด

เพียงแค่เหลือบมองไปที่ความทรงจำส่วนนั้นผ่านๆแวบหนึ่ง รพีพงษ์ก็รู้สึกได้ว่า วิชาสยบเซียนเก้าท่านี้ไม่ธรรมดา

ถ้าหากเดาไม่ผิด ถ้ารพีพงษ์สามารถชำนาญวิชาสยบเซียนเก้าท่านี้ เกรงว่าพลังอานุภาพก็จะต่างกันไม่มากกว่าร่างเทพชูรา

กระบี่สยบเซียนก็แสดงความสนิทสนมออกมาต่อรพีพงษ์ หลังจากที่พลังจิตดวงสุดท้ายของบวรทัตหายไป รพีพงษ์ก็กลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของกระบี่สยบอย่างสมบูรณ์ ยังมีความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นกับระหว่างทั้งสอง นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปดาบเล่มนี้ ออกจากร่าง ก็เพียงเพื่อรพีพงษ์!

ควบคุมความตื่นเต้นภายในใจของตัวเอง รพีพงษ์เก็บกระบี่สยบเซียนไว้ในสมองของตัวเอง จากนั้นถามชยนต์และตมิสาว่า: “ฉันอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแค่ไหนแล้ว?”

“ตอบเจ้านาย ทั้งหมดสิบวัน”ตมิสาตอบ

รพีพงษ์นิ่งอึ้ง เมื่อนับเวลาที่เขาใช้ในช่องทางก่อนหน้านั้น เขาไม่ได้ออกไปมาเป็นเวลาสองอาทิตย์กว่าแล้ว

ตอนนั้นเขาตกลงกับนนทภูเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้นนทภูคงจะรู้สึกว่าตัวเองตายอยู่ข้างในนี้แล้ว

เขาเอ่ยปากพูดทันทีว่า: “เวลาไม่เคยคอยท่า ตอนนี้พวกเราออกจากที่นี่กันเถอะ”

ชยนต์และตมิสาพูดพร้อมเพรียงกัน: “รับทราบ!”

ต่อจากนั้นทั้งสามคนก็เดินออกไปที่ด้านนอกของห้องโถง

ในห้องโถงนี้มีทางออกอีกทางหนึ่ง พวกเขาไม่ต้องออกไปทางช่องทางเดินเกิดใหม่

หลังจากที่มาถึงด้านของห้องโถง รพีพงษ์ก็รู้สึกถึงไอพิฆาตอันน่าสะพรึงกลัวที่แพร่กระจายอยู่ด้านนอก

แม้ว่าพลังจิตของบวรทัตจะหายไปแล้ว แต่ว่าไอพิฆาตเหล่าไม่ได้หายไปพร้อมกับเขา ถ้าหากอยู่ที่นี่ ก็ยังคงภัยอันตรายแอบแฝงที่ยิ่งใหญ่อยู่

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ในหัวสมองของเขาก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมา ต่อจากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วหยิบหยกรวมทิพย์ออกมา

จิตใจสั่นไหวเล็กน้อย แรงดูดที่ยิ่งใหญ่ปรากฏออกมาบนหยกรวมทิพย์อย่างกะทันหัน ต่อจากนั้น ไอพิฆาตเหล่านั้นในช่องทางก็เริ่มหลอมรวมไปในหยกรวมทิพย์

ในหยกรวมทิพย์มีพื้นที่ภายในขนาดใหญ่มาก ในเมื่อมันสามารถกักเก็บปราณทิพย์ได้ ถ้าอย่างนั้นก็สามารถที่จะกักเก็บไอพิฆาตได้เป็นธรรมดา ดังนั้นรพีพงษ์จึงคิดใช้วิธีนี้มาเพื่อดูดซับไอพิฆาตเหล่านี้

รวมทั้งตอนนี้รพีพงษ์รู้ถึงความรู้ด้านการฝึกฝนมากมาย ดังนั้นจัดการไอพิฆาตเหล่านี้จึงเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ

แม้ว่าความเร็วในการดูดซับของหยกรวมทิพย์จะเร็วมาก แต่ว่าไอพิฆาตอยู่ที่นี่มาเกือบห้าพันปี ค่อนข้างเข้มข้น ดังนั้นรพีพงษ์จึงดูดซับมานานกว่าสองชั่วโมง ถึงได้ดูดซับไอพิฆาตดินนี้ มาไว้ในหยกรวมทิพย์ทั้งหมด

จนถึงตอนนี้ รพีพงษ์ก็ไม่ต้องกังวลว่าไอพิฆาตของที่นี่จะรั่วไหลออกมาอีกต่อไป

หลังจากที่ดูดซับไอพิฆาตหมด รพีพงษ์ไม่ได้เก็บหยกรวมทิพย์ทันที แต่วางมือไว้บนหยกรวมทิพย์ และแพร่กระจายพลังภายในของตัวเอง เข้าไปในหยกรวมทิพย์

ไม่นานหลังจากนั้น รพีพงษ์ก็แขวนหยกรวมทิพย์ไว้ที่เอวของตัวเอง จากนั้นพลิกมือ บนฝ่ามือ สิ่งที่เหมือนกับยาเม็ดสีดำห้าเม็ดก็ปรากฏ

ยาเม็ดทั้งห้าเม็ดนี้ กลายเป็นจากไอพิฆาตเหล่านั้นที่หยกรวมทิพย์ดูดซับแล้ว

พวกมันแต่ละเม็ด มีพลังไอพิฆาตที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวรวมอยู่ ถ้าหากระเบิดออกมา สามารถก่อให้เกิดพลังอานุภาพ ก็ยากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

“ยาเม็ดนี้แปลงร่างมาจากไอพิฆาต ก็ตั้งชื่อว่ายาพิฆาตเถอะ”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ยาพิฆาตนี้มีพื้นฐานมาจากความทรงจำในการสืบทอดของเขา ใช้พลังของตัวเองทำให้เป็นกลาง และหลอมรวมกลายเป็นออกมา

ตราบใดที่รพีพงษ์ใช้การสัมผัสทั้งสองของตัวเอง ไอพิฆาตนี้ก็จะเกิดการระเบิด ทำให้เกิดการทำลายล้างที่เหนือจินตนาการ

ที่สำคัญเดิมทีไอพิฆาตก็กัดกร่อนโดยเนื้อแท้ รวมทั้งหลังจากที่พลังของรพีพงษ์ทำให้ระเบิด นอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล ยังทำให้ผู้คนถูกไอพิฆาตกัดกร่อนจนสำเร็จ ต่อให้จะโชคดีพอที่จะอยู่รอด ก็จะถูกไอพิฆาตทรมานให้ตายทั้งเป็น

ดังนั้นยาพิฆาตนี้เป็นอาวุธฆ่าที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัว หากถูกโยนไปทำให้ระเบิดในขณะที่คนไม่ได้เตรียมการไว้ เกรงว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ก็ไม่สามารถต้านทานไว้ได้

ทุกสิ่งในบนโลกใบนี้มีข้อดีข้อเสีย แม้ว่าไอพิฆาตจะเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง แต่ว่าถ้าหากใช้ด้วยวิธีที่ชาญฉลาด ก็จะกลายเป็นอาวุธวิเศษปราบข้าศึกจนได้ชัยชนะ

หลังจากที่รวบรวมยาพิฆาตลงในหยกรวมทิพย์ รพีพงษ์ไม่ได้ลังเลอีกต่อไป รีบเดินไปที่ด้านนอกของช่องทางอย่างรวดเร็ว

เขาจำเป็นต้องรีบไปรายงานความปลอดภัยกับนนทภู ก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้นนทภูได้ส่งคนมาหาตัวเองมั้ย

ถ้าหากเขาคิดว่าตัวเองเสียชีวิตแล้ว ทำเรื่องบ้าบออะไรขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นก็วุ่นวายแล้ว

ชยนต์และตมิสาทั้งสองติดตามอยู่ข้างหลังของรพีพงษ์ ความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองแข็งแกร่งกว่ารพีพงษ์ แต่ว่าอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์กลับต้องคุกเข่าลง สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าไม่สบายใจ

ที่สำคัญที่ผ่านมาเขาไปมาอย่างอิสระคนเดียวมาโดยตลอด ไม่เคยให้ใครติดตามมาก่อน ตอนนี้มีบอดี้การ์ดที่ยอดเยี่ยมเพิ่มมาสองคน เขายังปรับตัวไม่ได้เล็กน้อย

ความรู้สึกที่ชยนต์ให้กับรพีพงษ์ยังดี แต่ตมิสาก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์

สาวสวยแบบนี้ติดตามอยู่ข้างกายของตัวเอง เกรงว่าไม่ว่าจะไปถึงที่ไหน ก็จะสร้างปัญหามาให้ไม่น้อย

รพีพงษ์หันหน้ามองไปที่เสื้อที่โป๊ะบนร่างกายของตมิสาแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากพูดว่า : “เสื้อผ้าประเภทนี้ไม่เป็นที่นิยมในสังคมสมัยใหม่อีกต่อไป รอออกไปแล้วฉันจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไม่อย่างนั้นเธอแต่งตัวแบบนี้ออก ดึงดูสายของผู้คนมากเกิดไป”

หลังจากที่ตมิสาได้ยิน ยิ้มแล้วพูดว่า: “เจ้านาย ตมิสาก็เพื่อให้ท่านได้ชมความงดของทิวทัศน์ถึงได้แต่งตัวแบบนี้ ถ้าหากท่าต้องการ ตมิสาก็สามารถที่จะไม่สวมใส่อะไรเลย”

รพีพงษ์กระแอมขึ้นมาสองครั้งในทันที แล้วพูดว่า: “ไม่ไม่ไม่ เธอสวมใส่มากกว่านี้จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะมีปัญหาได้”

ในเวลาเดียวกันเขาก็แอบบ่นในใจ บวรทัตที่เป็นคนสง่ามีวิชาความรู้ลุ่มลึกมากขนาดนี้ ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำหุ่นเชิดที่เซ็กซี่แบบนี้ออกมาได้

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท