พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1119 พาตมิสาช้อปปิ้ง

บทที่ 1119 พาตมิสาช้อปปิ้ง

ห้างสรรพสินค้าเมืองภูเขาขาว

รพีพงษ์พาชยนต์และตมิสาทั้งสองคนมาถึงในห้างสรรพสินค้า ในห้างสรรพสินค้ามีสินค้าวางอยู่​ให้เห็นเต็มไปหมดทำให้ทั้งสองคนดูจนตาลาย ตมิสาก็ทอดถอนหายใจออกมาเป็นพักๆ แทบจะย้ายของทั้งหมดในห้างสรรพสินค้ากลับไปที่บ้าน

หลังจากที่ตมิสาปรากฏตัวในห้างสรรพสินค้านี้ ก็กลายเป็นจุดสนใจในสายตาของทุกคนเป็นอันดับแรก

เธอดูสวยมากเกินไปจริงๆ ที่สำคัญรูปร่างของเธอก็ดีอย่างน่าประหลาดใจ รวมทั้งเสื้อผ้าบนเรือนร่างก็ค่อนข้างย้อนยุคและเปิดเผย หลังจากที่ผู้ชายคนไหนเห็นเธอเข้า ก็ไม่สามารถละสายตาของตัวเองไปจากเธอได้

หลังจากที่รพีพงษ์เห็นปฏิกิริยาของผู้คนรอบตัว ก็ปวดหัวทันที เขาเดาได้ก่อนแล้วว่าตมิสาติดตามอยู่ข้างกายตัวเองจะมีปฏิกิริยามากขนาดนี้ แต่กลับคาดไม่ถึงจะรุนแรงขนาดนี้

เมื่อรพีพงษ์ตั้งใจจะรีบพาพวกเขาทั้งสองไปซื้อเสื้อผ้า ตอนที่จะจากที่นี่ไป ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดสูทสีขาว ดูไปแล้วอายุสามสิบปีกว่า ท่าทางหื่นกามเดินมาถึงตรงหน้าพวกเขา

ในปากของชายคนนั้นยังคาบดอกกุหลาบไว้หนึ่งดอก เห็นได้ชัดว่า เขาพุ่งเข้ามาที่นี่เพราะตมิสา

เขาเดินมาถึงตรงหน้าตมิสา กะพริบตาให้ตมิสา จากนั้นเอ่ยปากพูดว่า: “คนสวย ได้พบกันนั้นเหมือนเป็นพรหมลิขิต กุหลาบดอกนี้ผมมอบให้คุณ ตราบใดที่คุณเป็นคนสวยแบบนี้ ก็คู่ควรกับกุหลาบที่มีเสน่ห์และสูงส่ง”

ตมิสาจ้องมองชายคนนั้นแวบหนึ่ง หันหน้าไปถามรพีพงษ์ว่า: “เจ้านาย คนคนนี้จะให้ดอกกุหลาบกับฉัน ฉันจะต้องรับมั้ย?”

เมื่อชายในชุดสูทสีขาวได้ยินตมิสาเรียกรพีพงษ์ เบิกตากว้างทันที คิดในใจ คิดในใจว่าพวกเขาเล่นกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ แม้แต่เจ้านายก็เรียกได้

รพีพงษ์มองไปที่ชายคนนี้อย่างหมดคำพูด มุกเสี่ยวจีบสาวไม่กี่คำของเขาเมื่อกี้นี้ทำให้เขาขนลุกไปหมด

เขาส่ายหัวให้ตมิสา แล้วพูดว่า: “พวกเรายังต้องไปซื้อเสื้อผ้า วันหลังเจอคนแบบนี้พยายามอยู่ให้ห่าง อย่าไปเชื่อคำพูดไพเราะแต่ไม่จริงใจของพวกเขา”

เมื่อชายในชุดสูทสีขาวเห็นพวกเขาพูดแบบนี้ ในใจก็เกิดความไม่พอใจเล็กน้อย เอ่ยปากพูดกับรพีพงษ์ว่า: “เด็กน้อย หรือว่านายไม่รู้ว่าโลกนี้พูดด้วยความแข็งแกร่งเหรอ? สาวสายแบบนี้ มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ควรมี นายแต่งตัวได้ยากจนแบบนี้ มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่มีเงิน นายจะสามารถซื้อเสื้อผ้าอะไรให้กับสาวสวยได้?”

หลังจากที่พูดจบ เขามองไปที่ตมิสา เอ่ยปากพูดว่า: “สาวสวย ไปกับฉันเถอะ ในการ์ดของฉันมีเงินอยู่ ไม่ว่าคุณอยากจะซื้อเสื้อผ้าอะไร ฉันก็สามารถซื้อให้คุณได้”

ตมิสาเหลือบมองไปที่ชายคนนั้นแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “เจ้านายของฉันบอกแล้ว ให้ฉันอยู่ห่างจากคนอย่างนาย นายรีบไปให้พ้น ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

ชายในชุดสูทสีขาวคาดไม่ถึงว่าตัวเองใช้เงินยังไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของสาวสวยคนนี้ได้ ในใจก็เกิดอารมณ์ฮึกเหิมขึ้นมา

“สาวสวย คุณไปกับเขาไม่มีทางมีชีวิตที่ดีได้ เขาจะทำให้คุณลำบาก แบบนี้คุณยังเรียกเขาว่าเจ้านาย โง่จริงๆ”ชายในชุดสูทสีขาว

เมื่อรพีพงษ์เห็นชายคนนี้ยังไม่ยอมฟังคำตักเตือน ก็หมดคำพูด หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา หาข้อความสั้นจากธนาคาร ยื่นให้ตรงหน้าชายในชุดสูทสีขาว

“ดูให้ดีๆว่า ฉันสามารถที่จะเลี้ยงดูเธอได้มั้ย”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ชายในชุดสูทสีขาวยังคงมีร่องรอยดูถูกเหยียดหยามอยู่บนใบหน้า คิดในใจว่าไม่ว่าจะมองยังไง ผู้ชายคนนี้ก็คงจะไม่มีเงินมากเท่าไหร่

สายตาของเขาจับจ้องไปที่ข้อความนั้น หลังจากที่เห็นตัวเลขยาวๆ คนทั้งคนก็ตกตะลึง

“หน่วย สิบ ร้อย สะ…..สิบล้าน พัน….ล้าน พันล้าน หมื่นล้าน….. ”

ดวงตาทั้งสองข้างของชายในชุดสูทสีขาวเบิกกว้างกลมโต จนเบ้าตาของตัวเองเกือบจะหลุดออกมา

เขามองไปที่รพีพงษ์อย่างเหลือเชื่อ ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ในการ์ดของเขา จะมียอดเงินมากขนาดนี้

เงินเหล่านี้ในการ์ดของเขา เกรงว่าจะทันGDPครึ่งปีของเมืองภูเขาขาวแล้ว!

“นี่…..นี่เป็นไปได้อย่างไร นายมีเงินมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?”ชายในชุดสูทสีขาวเอ่ยปากพูดด้วยความเหลือเชื่อ

“ทำไม รายได้จากบริษัทภายใต้ชื่อของฉัน มีปัญญาอะไรมั้ย?”รพีพงษ์มองไปที่ชายในชุดสูทสีขาวแล้วเอ่ยปากพูด

ชายในชุดสูทสีขาวรีบเอ่ยปากพูดอย่างรวดเร็ว: “ไม่ ไม่มีปัญหา”

“ไม่มีปัญหาก็อย่ามารบกวนพวกเราอีก นิสัยของฉันไม่ค่อยจะดีนัก เกิดโกรธขึ้นมา ไม่มีผลดีต่อนาย”รพีพงษ์พูดขู่เข็ญ

ชายในชุดสูทสีขาวพยักหน้าอย่างกะทันหัน รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า: “พี่ชาย ขอโทษด้วยจริงๆ ผมตาบอดเอง ดูไม่ออกว่าพี่มีเงินมากขนาดนั้น พี่ถ่อมตนเกินไป ไม่แปลกใจที่จะหาแฟนได้สวยมากขนาดนี้ ผมรับรองว่าจะไม่มารบกวนพวกพี่อีกแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังไป เดินหนีออกไปให้ไกล

รพีพงษ์ถึงได้เก็บโทรศัพท์ในมือของตัวเองกลับมา ในใจคิดว่าบางครั้งตัวเองก็ถ่อมตัวมากเกินไป ทำตัวสูงส่งบ้างอาจจะช่วยลดปัญหาได้

เขามองไปที่ชยนต์และตมิสาทั้งสองคนแวบหนึ่ง และพาพวกเขาสองคนไปที่บริเวณร้านขายเครื่องแต่งกาย

ความต้องการเสื้อผ้าของตัวเองสำหรับชยนต์ไม่ได้สูงมากนัก รพีพงษ์ช่วยเขาซื้อชุดสูทไปหลายชุด เขาก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว

รพีพงษ์ให้เขาเปลี่ยนหนึ่งชุด รูปร่างที่สูงใหญ่ของชยนต์รวมทั้งการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้า ถ้าสวมใส่แว่นตาไปอีกหนึ่งอัน กลับเหมือนกับบอดี้การ์ดยอดเยี่ยมมืออาชีพจริงๆ

แต่ตมิสาไม่ได้แต่งตัวได้ง่ายขนาดนั้น เธอไม่เคยเห็นหญิงสาวสมัยใหม่ใส่เสื้อผ้ามาก่อน ดังนั้นเห็นชุดไหน ก็รู้สึกว่าสวยมากไปหมด รพีพงษ์ทำได้เพียงอาศัยสุนทรียภาพของตมิสามาจัดการ ไม่อย่างนั้น วันนี้ตมิสาคงจะย้ายทั้งห้างสรรพสินค้าไปแล้ว

หลายคนเที่ยวชมร้านค้าหลายแห่งติดต่อกัน ตมิสาลองเสื้อผ้าอย่างไม่หยุด ชยนต์รับผิดถือกระเป๋า และรพีพงษ์รับผิดชอบจ่ายเงิน

คนสามคนมีการแบ่งงานที่ชัดเจน และไม่มีความรู้สึกว่าแย่แม้แต่น้อย

รพีพงษ์ก็มีภาพลวงตาว่าเขาและชยนต์เหมือนกับเป็นบอดี้การ์ด ตมิสาถึงเป็นเจ้านายของพวกเขา

ที่สำคัญเขาก็ค้นพบข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ว่าจะเกิดในยุคปัจจุบัน หรือว่าเกิดเมื่อห้าพันปีก่อน การช้อปปิ้ง ก็เป็นเรื่องที่ชอบทำโดยไม่​รู้สึกเบื่อหน่าย

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสามคนก็มาถึงร้านแบรนด์เนมแห่งสุดท้ายในห้างสรรพสินค้าที่ยังไม่เคยไปมาก่อน ทันทีที่ตมิสาเข้าไป สายตาของตัวเองก็จับจ้องไปที่กระโปรงที่วางอยู่ตรงกลางร้าน

ตมิสาวิ่งตรงไปที่กระโปรงตัวนั้น และเอ่ยปากพูดว่า: “เจ้านาย ท่านดูกระโปรงตัวนี้สิ สวยมาก ช่วยซื้อให้ฉันหน่อยได้มั้ย?”

หลังจากที่พนักงานในร้านได้ยินคำพูดของตมิสา สายตาก็จับจ้องไปที่บนตัวรพีพงษ์และตมิสาทั้งสองคน ดูเหมือนว่าสำหรับการเรียกเจ้านายคำนี้ ก็รู้สึกแปลกประหลาด

ใบหน้าของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ รีบเดินไปที่ตมิสาอย่างรวดเร็ว แล้วพูดว่า: “ฉันจะซื้อกระโปรงให้เธอ นับจากนี้ไปไม่ต้องเรียกฉันว่าเจ้านายต่อหน้าผู้คนมากมาย คำว่าเจ้านายนี้ ในยุคสมัยปัจจุบัน มีเพียงบางสถานการณ์ถึงจะปรากฏ เธอทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นเข้าใจฉันผิดได้ ”

ตมิสายิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า: “รู้แล้ว เจ้านาย”

รพีพงษ์หมดคำพูด รู้สึกว่าคำพูดนี้ของตัวเองเหมือนไม่ได้พูดออกไป

เมื่อตมิสาจะไปลองกระโปรงตัวนี้ หญิงสาวที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและส่งสูง ด้านหลังมีผู้ติดตามสองคนเหมือนสาวใช้เดินมาถึงตรงหน้าพวกเขาสองคน หลังจากที่มองกระโปรงตัวแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “ฉันชอบกระโปรงตัวนี้ ห่อให้ฉันด้วย”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท