พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1115 วิชามังกรเลื้อย

บทที่1115 วิชามังกรเลื้อย

“พวกแกซ่อนตัวอยู่ลึกพอสมควร ถ้ารู้ก่อนว่าพวกแกเป็นผู้ชายที่หน้าเนื้อใจเสือ ตอนนั้นฉันไม่มีทางที่จะให้พวกแกอยู่ในตระกูลลัดดาวัลย์”รพีพงษ์เอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ปวัตรยิ้มเยาะแล้วพูดว่า: “สามคำที่ไร้ประโยชน์มากที่สุดในโลกนี้ ก็คือถ้ารู้ก่อน แม้ว่าตอนนี้แกจะรู้แล้ว แต่ว่าภรรยาของแกก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว เรื่องแบบนี้ เป็นทุกข์มากใช่มั้ย?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา สีหน้าของรพีพงษ์ก็ไม่พอใจทันที เอ่ยปากพูดว่า: “พวกแกได้ตายอย่างทรมานมากแน่”

เหตุผลที่ตอนนี้อารียาหมดสติไม่ฟื้น ก็เป็นเพราะสองพี่น้องตรงหน้า แม้ว่าชัชพิสิฐที่ตายไปแล้วจะเป็นคนบงการให้พวกเขาสองคนทำแบบนี้ สองคนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นฆาตกรที่แท้จริง

พวกเขาสองคนได้ปรากฏตัวขึ้นอยู่ในบัญชีดำของรพีพงษ์ ตอนนี้พบกัน รพีพงษ์ย่อมไม่มีปล่อยให้พวกเขารอดไปได้

ปวัตรและปวิชก็เบะปาก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดนี้ของรพีพงษ์

“อย่างแก ต้องการฆ่าพวกเรา ยังห่างไกลมาก!”ปวิชพูดอย่างเย็นชา

ในเวลานี้ชยนต์เดินไปที่ข้างหลังรพีพงษ์ เอ่ยปากพูดว่า: “เจ้านาย ต้องการให้ผมช่วยท่านจัดการผู้ชายสองคนนี้มั้ย?”

รพีพงษ์โบกมือ แล้วพูดว่า: “พวกเขาสองคนฉันมาจัดการด้วยตัวเอง พวกเธอยืนดูอยู่ข้างๆก็พอ”

อารียาหมดสติไม่ฟื้นเพราะสองคนนี้ แน่นอนว่าเขาต้องฆ่าพวกเขาทั้งสองด้วยตัวเอง

เมื่อชยนต์เห็นว่ารพีพงษ์พูดแบบนี้ ก็ทำได้เพียงพยักหน้า เดี๋ยวถ้าหากรพีพงษ์มีอันตรายอะไร เขาและตมิสาทั้งสองคนจะพุ่งไปจัดการกับปวัตรและปวิชทั้งสองคนเป็นอันดับแรก

นนทภูไม่รู้ว่ารพีพงษ์ได้ประสบกับอะไรที่ใต้ดินมา ดังนั้นไม่รู้ว่ารพีพงษ์สามารถที่จะรับมือกับสองคนที่ร่วมมือกันได้หรือเปล่า พูดออกมาน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล: “รพีพงษ์ ลูกอย่าได้ใจร้อน ลูกรีบคิดหาทางออกไปจากที่นี่ก่อน เรื่องแก้แค้นค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้สิ่งสำคัญคือรักษาชีวิตไว้ก่อน!”

รพีพงษ์มองไปที่นนทภูแวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “พ่อ พ่อวางใจได้ พวกเขาสองคนทำอะไรผมไม่ได้”

หลังจากพูดจบ เขาหันหน้าไปพูดกับชยนต์ว่า: “ปลดเชือกออกจากบนตัวของพ่อฉัน คุ้มกันเขาไว้ให้ดี”

ชยนต์พยักหน้าทันที จากนั้นก็เดินไปที่นนทภู

ปวัตรมองไปที่นนทภูแวบหนึ่ง ส่งเสียงเย็นชา: “ในเมื่อแกออกมาแล้ว ถ้าอย่างเขาก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ก่อนหน้าที่จะจัดการกับแก ฉันจะทำให้แกได้ลิ้นรสความรู้สึกของการที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร!”

หลังจากพูดจบ เขาก็ปลดปล่อยพลังที่บริสุทธิ์ออกมา และพุ่งตรงไปที่บนร่างกายของนนทภู

อย่างไรก็ตามก่อนที่พลังนั้นจะไปถึงที่ตรงหน้านนทภู และมือข้างหนึ่งก็ขวางพลังนั้นไว้

ชยนต์หันหน้าเหลือบมองไปที่พลังกระทบอยู่บนมือของตัวเอง อะไรก็ไม่ได้ทำ พลังนั้นก็กลายเป็นควัน และหายไปอย่างไร้ร่องรอย

การโจมตีอย่างเต็มพลังของปวัตร และไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้บนมือของชยนต์!

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!”ปวัตรอุทานออกมาทันที มองไปที่ชยนต์ด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อ ในใจเกิดความหวาดกลัว

ชยนต์ค่อยๆหันหน้าไป และพูดกับปวัตรและปวิชทั้งสองว่า: “ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของเจ้านาย ตอนนี้พวกแกสองคนได้ตายอยู่ในเงื้อมมือของฉันแล้ว”

ปวิชเดินที่ด้านข้างปวัตร เอ่ยปากพูดว่า: “คนคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ทำไมอาศัยแค่ร่างกายก็สามารถรับมือกับการโจมตีอย่างเต็มพลังของนายได้?”

ปวัตรหรี่ตา เอ่ยปากพูดว่า: “ดูไม่ออก แต่ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไป บางทีเขาอาจจะเพียงแค่ฝืนเท่านั้นเอง เป้าหมายของพวกเราคือรพีพงษ์ ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจคนอื่น”

ปวิชพยักหน้า จากนั้นหันหน้าและสายตาก็จ้องไปที่บนร่างกายของรพีพงษ์

รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว กระบี่สยบเซียนปรากฏขึ้นในมือของเขา

“พวกแกวางใจได้ ความแค้นระหว่างฉันกับพวกแก พวกเขาสองคนไม่มีทางลงมือ”รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ปวัตรส่งเสียงเย็นชา เอ่ยปากพูดว่า: “ต่อให้พวกเขาลุยเข้ามาพร้อมกัน ก็ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราสองคน!”

รพีพงษ์เบะปาก ตอนนี้ความแข็งแกร่งของตัวเองคือแดนดั่งเทพชั้นยอดจริงๆ หนึ่งคนต่อสู้กับพวกเขาสองคน เป็นเรื่องที่กินแรงเป็นอย่างมาก

แต่ตอนนี้กระบี่เล่มนี้ในมือของเขา เป็นกระบี่เทพที่จอมมารชูราใช้มาสยบเซียนในปีนั้น มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ นับประสาอะไรกับพวกเขาสองคน ต่อให้จะมียอดฝีมือแดนดั่งเทพมามากกว่านี้ รพีพงษ์ก็มีความเชื่อว่าจะสยบพวกเขาอยู่ภายใต้กระบี่ได้

“ลงมือเถอะ!”

รพีพงษ์ตะโกนใส่พวกเขาสองคน จากนั้นชูกระบี่ขึ้นมา ทำท่าทางที่จะลงมือ

ปวัตรและปวิชสองคนพี่น้องก็ไม่ลังเล ต่างคนต่างใช้พลังเน่ยจิ้งแปลงร่างอาวุธของตัวเองออกมา

หอกยาวสองเล่ม!

พวกเขาสองคนพี่น้องเป็นพี่น้องฝาแฝด จิตสื่อสารกันได้ เมื่อร่วมกันขึ้นมาเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบมาก การร่วมมือของพวกเขา ต่อให้เป็นแดนดั่งเทพชั้นยอด ก็สามารถเอาชนะไปได้ นับประสาอะไรกับรพีพงษ์คนเดียว

ทั้งสองคนต่างคนต่างชี้หอกยาวในมือของตัวเองไปที่รพีพงษ์ จากนั้นตะโกนพร้อมกัน และก็พุ่งเข้าหารพีพงษ์

รพีพงษ์ก็ไม่ได้ลังเล กระบี่ยาวในมือฟันไปที่ปวัตรและปวิชสองคนพี่น้อง

แสงกระบี่ที่น่าตกใจได้ปรากฏขึ้น ระหว่างฟ้าและดินต่างก็เต็มไปด้วยเจตจำนงดาบ เมื่อคนธรรมดาอย่างนนทภูเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา

“นี่……นี่ก็คือกลยุทธ์ที่แท้จริงของรพีพงษ์เหรอ เขา…….ยังเป็นอยู่คนมั้ย?”นนทภูพึมพำกับตัวเอง

แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยเห็นพลังของรพีพงษ์มาก่อน แต่ว่าเขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ของยอดฝีมือระดับนี้มาก่อน ดังนั้นหลังจากที่เห็นแสงกระบี่ที่น่าตกใจปรากฏขึ้น ในใจก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

สิ่งนี้สำหรับเขาแล้วเกินความเข้าใจในการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง ดูเหมือนว่าหลายปีมานี้ เขาหยุดอยู่ไม่ก้าวหน้าต่อไปจริงๆ

ความจริงไม่เพียงแต่นนทภูที่ตกใจเท่านั้น ก็แม้แต่ตัวของรพีพงษ์เองก็ตกใจ เมื่อกี้นี้เขาแค่ฟันออกไปที่ด้านหน้าอย่างเรียบง่าย คาดไม่ถึงว่าจะมีกระแสอานุภาพมากขนาดนี้

ดูเหมือนว่ากระบี่สยบเซียนที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ เป็นอาวุธมีคมสำหรับสยบเซียนกำจัดปีศาจได้

ต่อให้พลังไม่ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น ถือกระบี่สยบเซียนไว้ก็สามารถแสดงพลังอานุภาพที่น่าตกใจออกมาได้

ปวัตรและปวิชสองคนพี่น้องก็ขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่ารพีพงษ์เริ่มแรกก็ใช้กลยุทธ์ที่ทรงพลังแบบนี้ออกมา พวกเขาต่างก็ใช้กลคลี่คลายออกมาทั้งหมด ถึงหลบหลีกท่วงท่านี้ของรพีพงษ์ไปได้

ปวัตรจับจ้องไปที่รพีพงษ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากพูดว่า: “แกมาถึงก็ใช้กลยุทธ์ที่ทรงพลังที่สุดของตัวเองออกมาแล้วใช่มั้ย? หรือว่าแกคิดว่าแบบนี้ก็สามารถทำให้พวกเราสองคนกลัวได้เหรอ? แกมาถึงก็เผยไม้ตายของตัวเองออกมาแล้ว ฉันกลับอยากจะดู ต่อไปแกจะรับมือกับพวกเราได้อย่างไร!”

รพีพงษ์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ คาดไม่ถึงพวกเขาจะถือว่าการโจมตีที่ธรรมดาเมื่อกี้นี้เป็นไม้ตายของตัวเอง

ในเวลานี้จู่ๆในหัวสมองของเขาก็มีความคิดประหลาดผุดขึ้นมา ในเมื่อการโจมตีที่ธรรมดา ก็มีพลังอานุภาพแบบนี้ ถ้าหากตัวเองปลดปล่อยวิชาสยบเซียนเก้าท่าออกมา จะสามารถปลดปล่อยพลังอานุภาพออกมาได้มากเพียงใด?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ รพีพงษ์ได้ทำตามความทรงจำในหัวสมองของตัวเอง เริ่มแสดงท่าแรกของวิชาสยบเซียนเก้าท่า ออกมาทีละเล็กน้อย

แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา ก็ยังค่อนข้างยากที่จะแสดงท่วงท่าที่แท้จริงนี้ออกมา แต่ต่อให้จะแสดงความแข็งแกร่งออกมาเพียงครึ่งหนึ่ง ก็น่าจะสามารถกำจัดปวัตรและปวิชสองคนพี่น้องได้แล้ว

เจตจำนงดาบหลอมรวมกันด้วยครั้งแล้วครั้งเล่า ในพริบตาเดียว เจตจำนงดาบบนตัวกระบี่สยบเซียนก็บรรลุถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว

ต่อจากนั้นรพีพงษ์ก็ปลดปล่อยเจตจำนงดาบเหล่านี้ออกมา มุ่งไปที่ปวัตรและปวิชสองคนพี่น้อง

“สิ่งนี้ ถึงจะเป็นไม้ตายที่แท้จริงของฉัน!”

“วิชามังกรเลื้อย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท