พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1126 ไปบ้านตระกูลณัฐรัชต์

บทที่ 1126 ไปบ้านตระกูลณัฐรัชต์

คฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์

นลินเดินเข้าไปที่ประตูใหญ่ เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ยังจะหันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ที่อยู่ไม่ไกลด้านหลังของเธอแวบหนึ่ง ในแววตามาพร้อมกับความลังเลเล็กน้อย

ในเวลานี้เอวของนลินยังคงมีถุงหอมถุงเดิมนั้นอยู่ เพียงแต่ในถุงหอมนั้นไม่มีหนอนพิษอยู่แล้ว เธอใส่ไว้แบบนี้ ก็เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัยของผู้อื่นเท่านั้นเอง

ก่อนหน้าที่จะกลับมา รพีพงษ์ได้อธิบายกับเธอเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่เธอทำตามคำพูดของรพีพงษ์ รพีพงษ์ก็จะช่วยเธอตรวจสอบให้ชัดเจนว่าทำไมลุงใหญ่ของเธอถึงได้โกหกเธอมานานหลายปี ยังทำให้พิษที่นำความโชคร้ายมาให้ผู้คนพกอยู่บนตัวของเธอ

สำหรับตมิสาและชยนต์ทั้งสองคน รพีพงษ์ไม่สามารถที่จะพาเข้าไปด้วยกันเป็นธรรมดา ดังนั้นทำได้เพียงออกคำสั่งให้พวกเขาสองคนรออยู่ที่บริเวณใกล้เคียงกับคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์ ถ้าหากเวลาที่รพีพงษ์ต้องการพวกเขา เพียงความคิดเดียว ก็สามารถที่จะออกคำสั่งกับพวกเขาได้

ผู้ติดตามทั้งสองคนนั้นต่อหน้าก็มองไปที่รพีพงษ์อย่างแปลกประหลาด พวกเธอคาดไม่ถึงว่า หลังจากที่คุณหนูของตัวเองพูดคุยที่ตรอกซอยกับรพีพงษ์แล้ว ก็จะพาเขากลับมาที่บ้านด้วย

ที่สำคัญผู้ชายคนนี้เหมือนราวกับไม่กลัวคุณหนูเลยแม้แต่น้อย เดินได้ใกล้กว่าพวกเธอสองคนมาก นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

“ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้คิดอย่างไรกันแน่ เดินเข้าใกล้คุณหนูมากขนาดนี้ หรือว่าเขาก็ไม่กลัวว่าจะถูกความโชคร้ายติดตัวเหรอ?”

“ใครจะไปรู้ แต่เธอดูเขาเดินมากับคุณหนูตลอดทาง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ชายที่โชคดีมากกว่า ไม่อย่างนั้นคงจะไม่กล้าเข้าใกล้คุณหนูของพวกเรามากขนาดนี้”

หลังจากนั้นไม่นาน นลินเดินมาถึงที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์

ด้านนอกของประตูใหญ่มีคนกำลังเฝ้าอยู่ หลังจากที่เห็นนลินกลับมา ก็ตะโกนเสียงดังทันทีว่า: “คุณหนูกลับมาแล้ว!”

หลังจากที่ผู้คนเหล่าในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์ได้ยินเสียงตะโกนนี้ ก็รีบวิ่งไปที่ส่วนลึกของคฤหาสน์ทันที ก็เหมือนอย่างกับว่าพบเจอกับภูตปีศาจ

แต่ในพริบตาเดียว ทุกคนก็หลบซ่อนตัวขึ้นมา เดิมทีสวนลานที่ยังคงครึกครื้นก็กลายเป็นว่างเปล่าทันที

คนที่ตะโกนเสียงดังเมื่อกี้นี้เป็นผู้รับผิดที่คนของตระกูลณัฐรัชต์ตั้งใจส่งมา

ดูว่านลินจะกลับมาเมื่อไหร่ ตราบใดที่นลินกลับมา เขาก็จำเป็นต้องประกาศแจ้งให้ทุกคนในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์

นลินสำหรับเรื่องนี้ก็เลยเห็นว่าไม่มีอะไรประหลาดมานานแล้ว ตราบใดที่เธออยู่ที่ไหน ทุกคนของตระกูลณัฐรัชต์ก็จะวิ่งหนีหายไปทั้งหมด

มีคนที่กล้าหาญกว่าหลายคนจะซ่อนตัวอยู่ในห้องและแอบมองออกมาด้านนอก ในเวลานี้มีคนไม่น้อยที่จ้องมองนลินผ่านจากหน้าต่าง

หลังจากที่ทุกคนเห็นรพีพงษ์เดินตามอยู่ข้างหลังของนลิน ก็แสดงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจออกมาทันที

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมเขาเดินตามอยู่ที่ข้างหลังของนลิน เขาเข้าใกล้นลินขนาดนี้ หรือว่าจะไม่กลัวการเสียชีวิตจากความตายเหรอ?”

“พระเจ้า นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นคนที่กล้าหาญมากขนาดนี้ เดินเข้าใกล้นลินมากขนาดนี้ ไม่แน่เดี๋ยวเขาอาจจะถูกหินที่ตกลงมาจากฟากฟ้ากระแทกตายอย่างกะทันหันก็ได้”

“คนนั้นเป็นเพื่อนของนลินเหรอ? นลินไม่ได้บอกเขาหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นตัวซวย ดังนั้นคนคนนั้นถึงได้กล้าเข้าใกล้เธอมากขนาดนี้เหรอ?”

“เธอเบาๆหน่อยเถอะ เดี๋ยวนลินได้ยินเข้า วิ่งมาโดนตัวเธอ คาดว่าน่าจะเพียงพอที่เธอจะโชคร้ายไปห้าปีแล้ว”

……

รพีพงษ์ได้ยินคำพูดของทุกคนในคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์อยู่ในหูโดยอาศัยพลังจิต ในใจก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจต่อนลินลึกซึ้งขึ้นหลายเท่า

แม้ว่าปีนั้นเขาก็โดนคนดูถูก ถูกคนอื่นมองว่าเป็นเศษสวะ แต่ว่าสถานการณ์ของนลินร้ายแรงกว่าเขามาก อย่างน้อยทุกคนเห็นเขาแล้ว ก็ไม่กลัวจนต้องวิ่งหนี

แม้ว่านลินจะไม่ได้ยินว่าคนเหล่านี้กำลังพูดอะไร แต่ว่าในใจของเธอรู้ว่าทุกคนกำลัง วิพากษ์วิจารณ์เธอ เธออดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง ข้างในใจก็ค่อนข้างวิตกกังวล ไม่รู้ว่าตัวเองพารพีพงษ์กลับมา เป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีกันแน่

ไม่นานหลังจากนั้น นลินพารพีพงษ์มาถึงในสวนลานเล็ก ในสวนลานนี้มีเพียงห้องเดียว

“หลายวันนี้พี่ก็พักอยู่ที่นี่เถอะ ฉันจะให้คนเอาของใช้ประจำวันมาให้ สถานที่ฉันพักอยู่ก็อยู่ข้างๆ เพราะว่าทุกคนหวาดกลัวฉันมาก ดังนั้นที่นี่ก็สงบสบายมาโดยตลอด พี่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนมารบกวนพี่” นลินเอ่ยปากพูดกับรพีพงษ์

รพีพงษ์พยักหน้า เขากลับชอบความสงบสบาย สถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าเหมาะสมกับเขามาก

“ฉันกลับไปก่อนแล้ว ถ้าหากอยู่กับพี่เป็นเวลานานมากเกินไป จะถูกสงสัยเอา” นลินเอ่ยปากพูด

รพีพงษ์พยักหน้า

หลังจากที่นลินจากไป รพีพงษ์ก็เข้าไปในห้องนั้น เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงทันที จากนั้นรวบรวมสมาธิ ปลดปล่อยพลังจิต ตั้งใจว่าจะดูว่าคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์มีที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่

ด้วยการเพิ่มขึ้นของความแข็งแกร่งของเขา ขอบเขตของพลังจิตกลายเป็นเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ต้องการรวบรวมคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์ทั้งหมดเข้าไป ยังค่อนข้างง่ายดายเป็นอย่างมาก

พลังจากที่ปกคลุมคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลณัฐรัชต์ทั้งหมด รพีพงษ์ยังค้นพบว่าคฤหาสน์ใหญ่มีความพิเศษบางอย่างจริงๆ โดยเฉพาะนลินและนลินสวนลานทั้งสองสวนอีกด้านหนึ่ง

อยู่ในพลังจิตของรพีพงษ์ มีแสงจางๆที่ปลดปล่อยออกมาจากสวนลานทั้งสอง ดูแล้วค่อนข้างลึกลับแปลกประหลาด

……

ในห้องนอนของธีรเดชลูกชายของปิยะพลนายใหญ่ของตระกูลณัฐรัชต์

ในเวลานี้ลูกชายของธีรเดชกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา ในขณะนี้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องของเขา เอ่ยปากพูดว่า: “คุณชาย คุณหนูนลินกลับมาแล้ว เธอยังพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาด้วย มีคนเห็นว่าคุณนลินจัดการให้ผู้ชายคนนั้นไปอยู่ในสวนลานด้านข้างของเธอด้วย”

หลังจากที่ธีรเดชได้ยินคำพูดนี้ ก็นั่งตัวตรงทันที ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจว่า: “นายว่าอะไรนะ? ตัวซวยอย่างนลินพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาเหรอ? ยังมีคนกล้ากลับมากับนลินด้วยเหรอ? ไม่เอาชีวิตแล้วเหรอ?”

“คุณชาย ผู้น้อยเห็นกับตาตัวเอง ผู้ชายคนนั้นยังเดินเข้าใกล้คุณหนูนลินเป็นอย่างมาก ก็เหมือนกับไม่กลัวคุณหนูนลิน” ชายคนนั้นเอ่ยปากพูด

ธีรเดชส่งเสียงเย็นชาออกมาทันที เอ่ยปากพูดว่า: “คาดว่าน่าจะเป็นตัวซวยเหมือนกับนลิน หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ก็ไม่น่ากลัวแล้ว”

“คาดไม่ถึงจริงๆว่าตัวประหลาดอย่างนลินก็สามารถหาเพื่อนได้จริงๆ พระอาทิตย์จะขึ้นมาทางทิศตะวันตกจริงๆ”

เพราะด้วยสาเหตุตัวของนลินเอง ตั้งแต่เล็กจนโตธีรเดชจึงเกลียดนลินเป็นอย่างมาก คิดว่านลินเป็นตัวซวยมาโดยตลอด มีแต่จะทำให้คนอื่นโชคร้ายเท่านั้น

เขาต้องการจะขับไล่นลินออกจากบ้านตัวเองมานานแล้ว แต่ว่าเพราะปิยะพลออกคำสั่ง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถขับไล่นลินออกไปได้จริงๆ ทำได้เพียงสร้างปัญหาให้นลินเป็นครั้งเป็นคราว

แน่นอนว่า เขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้นลิน สร้างปัญหาก็ทำได้เพียงการกลั่นแกล้ง และเฝ้าดูจากระยะไกลเท่านั้นเอง

ตอนนี้ได้ยินว่านลินพาเพื่อนกลับมาคนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องปกติที่ธีรเดชจะรู้สึกไม่ดีต่อเพื่อนคนนี้ของนลิน

ที่สำคัญข้างในใจของเขายังคิดว่านลินจะนำพาความโชคร้ายมาสู่ผู้คน เพื่อนคนนี้ของเธอก็ไม่มีทางเหมือนกับเธอ

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจัดการกับนลินได้ แต่ว่ากลั่นแกล้งเพื่อนของเธอเล่นก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อคิดแบบนี้ บนใบหน้าของธีรเดชก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ควักมือให้กับชายด้านข้างคนนั้น แล้วพูดว่า: “เดี๋ยวไปซื้อของมาให้ฉัน คืนนี้ มีอะไรให้เล่นแล้ว”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท