พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1146 ตบครั้งเดียว

บทที่ 1146 ตบครั้งเดียว

หลังจากที่ตบไปหนึ่งครั้ง จารุดาโดนพละกำลังมหาศาลกระแทกจนล้มลงไปกับพื้น เธอเอามือกุมแก้มตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอทั้งตกใจและโมโห สายตาที่มองรพีพงษ์เต็มไปด้วยความโมโห

เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่ารพีพงษ์จะกล้าตบเธอต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ อีกทั้งคนในที่นี้ยังมีเพื่อนเธออยู่ไม่น้อย เธอโมโหและตวาดใส่รพีพงษ์

“รพีพงษ์ นายกล้าดียังไงมาตบฉัน!”

“เหอะๆ ฉันตบเธอแค่ครั้งเดียวเพราะเห็นแก่ที่เธอเป็นญาติห่างๆ กับอารียา ทางที่ดีเธอควรจะหยุด ถ้าเธอยังกล้าพูดจาไร้มารยาทอีก อย่ามาว่าหาว่าฉันไร้ความปรานีก็แล้วกัน”

น้ำเสียงของรพีพงษ์เต็มไปด้วยความเย็นชา

“เหอะๆ ลงมืออย่างไร้ความปรานีอย่างนั้นเหรอ นายยังกล้าทำอะไรฉันอีกอย่างนั้นเหรอ ถ้านายยังกล้าตบฉันอีก เรื่องนี้ไม่จบแน่!”

ตอนนี้จารุดาเหมือนป้าปากจัด เธอกำลังจะลุกขึ้นมาพื้นเพื่อที่ไปจับรพีพงษ์ แต่ตอนนี้นลินรู้ว่ารพีพงษ์กำลังรีบ เมื่อเธอเห็นเช่นนั้น เธอจึงหยิบการ์ดสีดำออกมา การ์ดสีดำใบนี้เป็นการ์ดเพียงใบเดียวในตระกูลที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสูงส่ง

เธอพูดกับรปภ.ที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองคน

“พวกนายน่าจะรู้ว่าการ์ดใบนี้หมายถึงอะไร งั้นพวกนายควรจะรู้ว่าถ้าไม่ทำตามที่ฉันพูด พวกนายจะเจอกับอะไร ตอนนี้ฉันอยากให้พวกนายทำเรื่องหนึ่ง เพราะผู้หญิงคนนี้มาขัดขวางการเดินทางของพวกเรา เพราะฉะนั้นฉันอยากให้พวกนายไล่เธอออกไป”

เมื่อนลินหยิบการ์ดดำออกมา รปภ.ทั้งสองคนถึงกับสะดุ้งโหยง พวกเขาเคยได้ยินชื่อของการ์ดดำ โดยปกติแล้วถ้ามีแขกเอาการ์ดนี้ออกมาต่อหน้าของพวกเขา พวกเขาจำเป็นต้องปฏิบัติกับพวกเขาอย่างดีที่สุด

อย่าว่าแต่อีกฝ่ายจะให้พวกเขาช่วยเลย ถ้าอีกฝ่ายให้พวกเขาปิดประตูห้างสรรพสินค้า มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก

รปภ.ทั้งสองคนคิดไม่ถึงว่านลินจะเอาการ์ดดำออกมา นี่แสดงถึงตัวตนของนลิน พวกเขาไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อยและรีบเข้าไปขวางจารุดาเอาไว้ เขาตวาดใส่จารุดาอย่างโมโหว่า

“ทั้งสองท่านนี้เป็นแขกวีไอพี ถ้าเธอยังกล้าพูดอะไรกับทั้งสองท่านนี้อีก อย่ามาโทษพวกเราที่ไล่เธอออกไปจากห้างนี้ วันนี้เธอคงจะมาเดินเล่นสินะ ถ้าเธอโดนไล่ออกไปแล้ว อย่าหวังว่าชีวิตนี้จะได้กลับเข้ามาที่นี่อีก”

รปภ.ทั้งสองคนมายืนอยู่ตรงหน้าจารุดา บวกกับคำพูดที่ออกมาจากปากของพวกเขา ทำให้จารุดาหวาดกลัวมาก

อีกทั้งตอนนี้เพื่อนของจารุดารีบวิ่งเข้ามาประคองเธอ และพูดเบาๆ กับเธอว่า

“เราอย่าไปทะเลาะกับคนพวกนี้เลย เราไม่ควรไปผิดใจกับคนพวกนี้นะ ถ้าเรายังขืนทำแบบนี้ต่อไป ไม่แน่เขาพูดแค่คำเดียวก็สามารถทำให้เราตายได้นะ”

“ใช่ ตอนนี้พวกเรารีบไปกันดีกว่า ถ้าพวกเขาทำอะไรเราขึ้นมา พวกเราซวยแน่”

เพื่อนของจารุดาพูดเกลี้ยกล่อมเธอ พวกเธอคิดว่าสิ่งที่นลินแสดงออกมาทำให้พวกเธอรู้ว่าจารุดาเทียบกับนลินไม่ได้ และตอนนี้จารุดาโมโหจนแทบจะบ้าแล้ว

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนๆ เธอจึงไม่กล้าทำอะไรอีก ถ้าเธอขัดใจนลินก็เท่ากับว่าเธอรนหาที่ตายชัดๆ

ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะมีหน้ามีตาในตระกูลฉัตรมงคล แต่ก็ไม่มีทางที่จะต่อกรกับนลินได้แน่นอน

“หึ พวกแกรอก่อนเถอะ ฉันจะถ่ายรูปพวกแกเอาไว้ การประชุมตระกูลครั้งหน้า ฉันจะต้องให้แกมาคุกเข่าต่อหน้าของฉันและขอร้องไม่ให้ฉันเปิดเผยรูปนี้”

ตอนนี้จารุดาคิดไว้ในใจแล้วว่าจะแก้แค้นรพีพงษ์ยังไง เธอรีบหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปรพีพงษ์กับนลิน เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอจะได้ข่มขู่รพีพงษ์ได้ เมื่อถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่จะได้แก้แค้น อีกทั้งยังทำให้รพีพงษ์ได้อับอายได้อีก

หลังจากที่นลินพูดกับรปภ.จบ เธอก็รีบลากรพีพงษ์ออกจากหน้าประตูห้าง และเดินไปที่ร้านยาข้างๆ เมื่อเข้ามาในร้านยา นลินพูดกับรพีพงษ์ว่า

“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

“จะมีอะไรได้ล่ะ เธอรอฉันแป๊บนึง ฉันจะรีบซื้อ”

ไม่นานรพีพงษ์เลือกวัตถุดิบเสริมที่จำเป็นในการทำยาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเลือกซื้อเสร็จก็เดินออกจากร้านยาโดยไม่ลังเล

เขาเพิ่งเดินออกมาจากร้านยา คนที่อยู่บริเวณนั้นได้ยินว่ามีคนโชว์การ์ดดำออกมา แม้แต่ผู้จัดการของห้างก็ยังออกมาด้วย เพราะอยากรู้ว่าใครที่มาแถวห้างสรรพสินค้าของพวกเขา

ตอนนี้รพีพงษ์กับนลินเดินอยู่บนถนน ผู้จัดการรีบวิ่งตามและรพีพงษ์เอาไว้

“เดี๋ยวก่อนครับ”

แต่ทว่ารพีพงษ์กับนลินไม่มีกะจิตกะใจมาสนใจผู้จัดการคนนี้ เขาเดินมาถึงข้างถนนและเปิดประตูรถเฟอร์รารี่ จากนั้นจึงขับรถออกไป

แน่นอนว่าจารุดากำลังถ่ายรูปเก็บไว้มากมาย ตอนที่เธอกำลังเลื่อนดูรูปในมือถือ ก็อดแสยะยิ้มออกมาไม่ได้ เธอครุ่นคิดอยู่ในใจอย่างเงียบๆ

“รพีพงษ์ เมื่อถึงตอนนั้นฉันอยากรู้จริงๆ ว่าแกจะมีจุดจบยังไง”

หลังจากที่รพีพงษ์กับนลินขึ้นมาบนรถ ก็รีบมุ่งหน้าไปที่บ้าน เมื่อผู้จัดการเห็นทั้งสองคนออกไปแบบนั้นก็โมโหขึ้นมาทันทีและหันไปตวาดผู้คนที่อยู่ข้างๆ

“พวกแกโง่หรือเปล่า ทำไมถึงไม่รั้งคนที่มีฐานะแบบนี้เอาไว้ นี่นับว่าพลาดโอกาสในการประจบประแจงพวกเขาเลยนะ น่าโมโหจริงๆ”

และตอนนี้ผลอุดมก็มีแผนอยู่ในใจ ตอนนี้รพีพงษ์กับนลินน่าจะใกล้ถึงแล้ว เขาหยิบมือถือออกมาโทรหานลิน

“อยู่ไหนกันแล้ว”

“พวกเราใกล้จะถึงแล้ว เพิ่งจะซื้อวัตถุดิบเสริมในการทำยาเสร็จ ตอนนี้กำลังจะไปที่บ้านของคุณรพีพงษ์” นลินรีบพูดขึ้น

“ดูแลคุณรพีพงษ์ให้ดี เขาเป็นผู้มีพระคุณต่อตระกูลเรา ลูกบอกเขาด้วยว่าถ้าต้องการอะไรพวกเราจะหามาให้โดยไม่เกี่ยง” ผลอุดมพูดออกมา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท