พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1144 เฟอร์รารี่

บทที่ 1144 เฟอร์รารี่

ตอนนี้รพีพงษ์ไม่มีกะจิตกะใจไปคิดถึงความคิดของคนอื่น ตอนนี้ในหัวของเขามีเพียงเรื่องที่จะกลับไปช่วยให้อารียาฟื้นขึ้นมาเท่านั้น

เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นขึ้นมา รถเฟอร์รารี่ถูกขับโดยรพีพงษ์ มันเคลื่อนตัวออกไปจากลานจอดรถราวกับสายลม เนื่องจากรถคันนี้ได้รับการดัดแปลง มันจึงสมบูรณ์แบบที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพและความเร็วจนถึงขีดสุด

ทันทีที่รพีพงษ์ออกมา ไม่นานเขาก็ขับรถขึ้นไปบนสะพาน ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เขาโดนตำรวจที่อยู่ข้างทางเห็นและสบถออกมา

“คนตระกูลไหนกัน ที่กล้าขับรถเร็วแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ นี่เขาไม่เคารพกฎหมายเลย”

ตำรวจพูดพลางขึ้นรถของตัวเอง เพื่อที่จะตามไปเรียกค่าปรับ แต่ทว่ารถของเขาไม่สามารถไล่ตามรถเฟอร์รารี่ได้ ดังนั้นเขาจึงโมโหเป็นอย่างมาก เขาหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อที่จะสอบถามทะเบียนรถเฟอร์รารี่ เขาอยากรู้ว่าเป็นรถของตระกูลไหน

แต่เมื่อเขารู้ก็ถึงกับต้องตกใจ มันเป็นรถของตระกูลณัฐรัชต์

เมื่อเห็นเช่นนั้นตำรวจจึงหวาดกลัวขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตำรวจ แต่ตระกูลณัฐรัชต์เคยเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก่อน คำโบราณกล่าวไว้ว่าถึงจะตกต่ำแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มา​ก่อน ถ้าขืนเขาขัดขวางรถคันเอาไว้ กลัวว่าเขาจะต้องตกงานน่ะสิ

แต่ตอนนี้รพีพงษ์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนตำรวจจับตาดูอยู่ เขารีบขับรถขึ้นไปบนทางด่วนอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมาบนทางด่วนรพีพงษ์ก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว

ความเร็วปกติของรถอย่างน้อยๆ น่าจะถึงตัวเมืองภายในสามชั่วโมง แต่ทว่ารพีพงษ์ใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งของเวลาเดิมมาถึงร้านยาแห่งหนึ่ง

เมื่อรถคันนี้จอดลง คนรอบๆ ต่างพากันมามุงดู ในขณะเดียวกันแถวๆ ร้านยา

จารุดาญาติห่างๆ ของอารียากับเพื่อนอีกสองสามคนกำลังมาเดินเล่นแถวนี้

“โอ้พระเจ้า นี่รถเฟอร์รารี่ใช่ไหม คุณชายตระกูลไหนเนี่ย ถึงขับรถสปอร์ตสุดหรูแบบนี้ นี่มันเท่สุดๆ ไปเลย”

จู่ๆ ก็มีคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“เหอะๆ เธอเหมือนคนบ้านนอกเลย เธอรอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปขอวีแชทของหนุ่มหล่อคนนั้นมา”

จู่ๆ จารุดาก็เชิดหน้าขึ้นและทำท่ามั่นอกมั่นใจ เธอเดินเข้าไปที่รถเฟอร์รารี่คันนั้น ขณะนั้นรพีพงษ์ก็เปิดประตูออกมาจากรถเฟอร์รารี่ เมื่อเห็นรพีพงษ์ จารุดาก็ตกใจเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้ชายคนนี้จะขับรถเฟอร์รารี่ได้

ชายหนุ่มตรงหน้าเธอรู้จักเป็นอย่างดี นี่เป็นสามีไม่เอาไหนของลูกพี่ลูกน้องเธอไม่ใช่หรือไง คนแบบนี้จะขับเฟอร์รารี่ได้ยังไงกัน

จู่ๆ เธอก็มึนงงไปหมด ในความทรงจำของเธอรพีพงษ์เป็นเพียงคนจนๆ เท่านั้น ไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ เพราะอารียาแต่งงานกับเขา ถึงทำให้เธออยู่ดีกินดีแบบนี้มาหลายปี

ตั้งแต่เล็กจนโต เธอรู้มาโดยตลอดว่าเธอมีลูกพี่ลูกน้องที่เก่งมาก เธอจึงคาดหวังว่าเมื่อตัวเองโตจะสามารถชุบตัวเองได้และจะมากดหัวอารียา

ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะมีโอกาสแบบนี้ อารียาแต่งกับสวะอย่างรพีพงษ์ แต่ทว่าตอนนี้รพีพงษ์ขับเฟอร์รารี่สุดหรู นี่มันทำให้เธอสิ้นหวังเป็นอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้นเหรอจารุดา”

เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ จารุดา ต่างพากันมองเธอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้จารุดากำลังกุมขมับเหมือนกำลังจะเป็นลมได้ตลอดเวลา

“ไม่เป็นอะไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

เมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างๆ จารุดาจึงใจเย็นลง

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง คนที่แต่งตัวแบบนั้นจะขับรถเฟอร์รารี่สุดหรูได้ยังไงกัน”

“ใช่ ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน อย่าบอกนะว่าสมัยนี้พวกคุณชายบ้านรวยชอบแต่งตัวแบบมอมแมมเพราะอยากอวดอย่างนั้นเหรอ”

จู่ๆ คนที่อยู่ข้างๆ ของจารุดาต่างพากันถกเถียงขึ้นมา แต่เมื่อจารุดาได้ยินสิ่งที่ เธอจึงตั้งสติได้ เธอสืบค้นตัวตนของรพีพงษ์ได้ตั้งนานแล้ว

ถึงแม้ช่วงนี้บ้านของอารียาจะทำเงินได้ไม่น้อย แต่รถเฟอร์รารี่คันนี้มีมูลค่าสูง ไม่มีทางที่รพีพงษ์จะขับมันได้แน่นอน

อีกอย่างรพีพงษ์เป็นแค่สวะคนหนึ่งเท่านั้น เขาคงไม่มีกำลังขนาดนั้น จู่ๆ เธอก็นึกถึงหนทางที่จะมีความเป็นไปได้ นั่นก็คือรพีพงษ์ต้องขโมยรถคันนี้มาแน่ๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้เธอก็รู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นโอกาสที่จะทำให้รพีพงษ์อับอาย ครั้งก่อนเธอได้ยินว่ารพีพงษ์ยังกล้าทำร้ายคนอื่นอีกด้วย

คิดได้ดังนั้น จารุดาจึงวิ่งเข้าไปยืนข้างรถเฟอร์รารี่แล้วตะโกนให้ทุกคนฟังว่า

“รปภ. อยู่ไหน รีบมาจับไอ้หมอนี่เร็ว มันเป็นโจรขโมยรถ รถคันนี้เป็นรถที่มันขโมยมา”

การแต่งตัวของรพีพงษ์ที่มาขับเฟอร์รารี่มากพอที่จะดึงดูดสายตาของทุกคน เมื่อได้ยินสิ่งที่จารุดาพูด ทุกคนต่างพากันไปมองไปที่รพีพงษ์

จารุดาไม่เพียงแต่จะตะโกนเท่านั้น เธอยังวิ่งไปหารปภ.ที่หน้าห้างสรรพสินค้าอีกด้วย เธอตะโกนเรียกรปภ.

“รปภ. รีบมาจับมันเร็วๆ ไอ้หมอนี่มันขโมยรถเฟอร์รารี่ของคนอื่น”

เมื่อรปภ.ได้ยินสิ่งที่จารุดาพูด จู่ๆ เขาก็หยิบอาวุธที่อยู่ในอกออกมาแล้วจ้องไปที่รพีพงษ์ รพีพงษ์หันหลังกลับมา เขารู้จักคนตรงหน้าเพราะเธอเป็นญาติห่างๆ กับอารียา แต่เขาไม่อยากสนใจคนประเภทนี้ เขาหันหลังจะเดินเข้าไปในร้านยา เพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบที่เหลือในการปรุงยา

ตอนนี้การทำให้อารียาฟื้นขึ้นมาคือเรื่องสำคัญที่สุด ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าอารียาเป็นยังไงบ้าง

“รพีพงษ์ ทางที่ดีอย่าคิดหนี”

เมื่อพูดจบ จารุดาก็เดินเข้ามาจับตัวรพีพงษ์ แล้วตะโกนให้คนข้างๆ ฟังด้วยสีหน้าตื่นเต้น

เธอต้องการทำให้รพีพงษ์อับอายมาโดยตลอด เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจะได้อยู่เหนืออารียา เธอโดนอารียากดหัวมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอก็ยังไม่มีโอกาสแก้แค้น

และตอนนี้รพีพงษ์กล้าขโมยรถสปอร์ตของคนอื่น นี่เป็นโอกาสงามๆ ที่สวรรค์ประทานให้เขา เขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกันล่ะ

เมื่อรพีพงษ์เห็นจารุดาจับเขา เขาก็มีสีหน้าโมโหขึ้นมาทันที เขาหันไปตวาดใส่จารุดา

“รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”

“ทำไม อย่าบอกนะว่าถ้าฉันไม่ปล่อยนาย นายจะทำร้ายฉันอย่างนั้นเหรอ รปภ. ไอ้หมอนี่มันเอาแต่กินๆ นอนๆ ในบ้านของฉัน มันเป็นแค่สวะคนหนึ่ง ฉันคุ้นเคยกับมันดี มันไม่มีทางขับรถหรูแบบนี้ได้อย่างแน่นอน อีกอย่างดูเสื้อผ้าที่มันใส่สิ ดูก็รู้ว่าจน ถ้าวันนี้ไม่จับเขา พวกคุณจะพลาดโอกาสในการจับขโมย!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท