ตอนนี้รพีพงษ์ไม่มีกะจิตกะใจไปคิดถึงความคิดของคนอื่น ตอนนี้ในหัวของเขามีเพียงเรื่องที่จะกลับไปช่วยให้อารียาฟื้นขึ้นมาเท่านั้น
เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นขึ้นมา รถเฟอร์รารี่ถูกขับโดยรพีพงษ์ มันเคลื่อนตัวออกไปจากลานจอดรถราวกับสายลม เนื่องจากรถคันนี้ได้รับการดัดแปลง มันจึงสมบูรณ์แบบที่สุดในแง่ของประสิทธิภาพและความเร็วจนถึงขีดสุด
ทันทีที่รพีพงษ์ออกมา ไม่นานเขาก็ขับรถขึ้นไปบนสะพาน ความเร็วของรถเพิ่มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เขาโดนตำรวจที่อยู่ข้างทางเห็นและสบถออกมา
“คนตระกูลไหนกัน ที่กล้าขับรถเร็วแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ นี่เขาไม่เคารพกฎหมายเลย”
ตำรวจพูดพลางขึ้นรถของตัวเอง เพื่อที่จะตามไปเรียกค่าปรับ แต่ทว่ารถของเขาไม่สามารถไล่ตามรถเฟอร์รารี่ได้ ดังนั้นเขาจึงโมโหเป็นอย่างมาก เขาหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อที่จะสอบถามทะเบียนรถเฟอร์รารี่ เขาอยากรู้ว่าเป็นรถของตระกูลไหน
แต่เมื่อเขารู้ก็ถึงกับต้องตกใจ มันเป็นรถของตระกูลณัฐรัชต์
เมื่อเห็นเช่นนั้นตำรวจจึงหวาดกลัวขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นตำรวจ แต่ตระกูลณัฐรัชต์เคยเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก่อน คำโบราณกล่าวไว้ว่าถึงจะตกต่ำแต่ก็เคยยิ่งใหญ่มาก่อน ถ้าขืนเขาขัดขวางรถคันเอาไว้ กลัวว่าเขาจะต้องตกงานน่ะสิ
แต่ตอนนี้รพีพงษ์ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนตำรวจจับตาดูอยู่ เขารีบขับรถขึ้นไปบนทางด่วนอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมาบนทางด่วนรพีพงษ์ก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
ความเร็วปกติของรถอย่างน้อยๆ น่าจะถึงตัวเมืองภายในสามชั่วโมง แต่ทว่ารพีพงษ์ใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งของเวลาเดิมมาถึงร้านยาแห่งหนึ่ง
เมื่อรถคันนี้จอดลง คนรอบๆ ต่างพากันมามุงดู ในขณะเดียวกันแถวๆ ร้านยา
จารุดาญาติห่างๆ ของอารียากับเพื่อนอีกสองสามคนกำลังมาเดินเล่นแถวนี้
“โอ้พระเจ้า นี่รถเฟอร์รารี่ใช่ไหม คุณชายตระกูลไหนเนี่ย ถึงขับรถสปอร์ตสุดหรูแบบนี้ นี่มันเท่สุดๆ ไปเลย”
จู่ๆ ก็มีคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“เหอะๆ เธอเหมือนคนบ้านนอกเลย เธอรอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปขอวีแชทของหนุ่มหล่อคนนั้นมา”
จู่ๆ จารุดาก็เชิดหน้าขึ้นและทำท่ามั่นอกมั่นใจ เธอเดินเข้าไปที่รถเฟอร์รารี่คันนั้น ขณะนั้นรพีพงษ์ก็เปิดประตูออกมาจากรถเฟอร์รารี่ เมื่อเห็นรพีพงษ์ จารุดาก็ตกใจเป็นอย่างมาก เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าผู้ชายคนนี้จะขับรถเฟอร์รารี่ได้
ชายหนุ่มตรงหน้าเธอรู้จักเป็นอย่างดี นี่เป็นสามีไม่เอาไหนของลูกพี่ลูกน้องเธอไม่ใช่หรือไง คนแบบนี้จะขับเฟอร์รารี่ได้ยังไงกัน
จู่ๆ เธอก็มึนงงไปหมด ในความทรงจำของเธอรพีพงษ์เป็นเพียงคนจนๆ เท่านั้น ไม่มีทางมีเงินมากขนาดนี้ เพราะอารียาแต่งงานกับเขา ถึงทำให้เธออยู่ดีกินดีแบบนี้มาหลายปี
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอรู้มาโดยตลอดว่าเธอมีลูกพี่ลูกน้องที่เก่งมาก เธอจึงคาดหวังว่าเมื่อตัวเองโตจะสามารถชุบตัวเองได้และจะมากดหัวอารียา
ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะมีโอกาสแบบนี้ อารียาแต่งกับสวะอย่างรพีพงษ์ แต่ทว่าตอนนี้รพีพงษ์ขับเฟอร์รารี่สุดหรู นี่มันทำให้เธอสิ้นหวังเป็นอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอจารุดา”
เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ จารุดา ต่างพากันมองเธอด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้จารุดากำลังกุมขมับเหมือนกำลังจะเป็นลมได้ตลอดเวลา
“ไม่เป็นอะไร ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
เมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างๆ จารุดาจึงใจเย็นลง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง คนที่แต่งตัวแบบนั้นจะขับรถเฟอร์รารี่สุดหรูได้ยังไงกัน”
“ใช่ ฉันก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน อย่าบอกนะว่าสมัยนี้พวกคุณชายบ้านรวยชอบแต่งตัวแบบมอมแมมเพราะอยากอวดอย่างนั้นเหรอ”
จู่ๆ คนที่อยู่ข้างๆ ของจารุดาต่างพากันถกเถียงขึ้นมา แต่เมื่อจารุดาได้ยินสิ่งที่ เธอจึงตั้งสติได้ เธอสืบค้นตัวตนของรพีพงษ์ได้ตั้งนานแล้ว
ถึงแม้ช่วงนี้บ้านของอารียาจะทำเงินได้ไม่น้อย แต่รถเฟอร์รารี่คันนี้มีมูลค่าสูง ไม่มีทางที่รพีพงษ์จะขับมันได้แน่นอน
อีกอย่างรพีพงษ์เป็นแค่สวะคนหนึ่งเท่านั้น เขาคงไม่มีกำลังขนาดนั้น จู่ๆ เธอก็นึกถึงหนทางที่จะมีความเป็นไปได้ นั่นก็คือรพีพงษ์ต้องขโมยรถคันนี้มาแน่ๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้เธอก็รู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นโอกาสที่จะทำให้รพีพงษ์อับอาย ครั้งก่อนเธอได้ยินว่ารพีพงษ์ยังกล้าทำร้ายคนอื่นอีกด้วย
คิดได้ดังนั้น จารุดาจึงวิ่งเข้าไปยืนข้างรถเฟอร์รารี่แล้วตะโกนให้ทุกคนฟังว่า
“รปภ. อยู่ไหน รีบมาจับไอ้หมอนี่เร็ว มันเป็นโจรขโมยรถ รถคันนี้เป็นรถที่มันขโมยมา”
การแต่งตัวของรพีพงษ์ที่มาขับเฟอร์รารี่มากพอที่จะดึงดูดสายตาของทุกคน เมื่อได้ยินสิ่งที่จารุดาพูด ทุกคนต่างพากันไปมองไปที่รพีพงษ์
จารุดาไม่เพียงแต่จะตะโกนเท่านั้น เธอยังวิ่งไปหารปภ.ที่หน้าห้างสรรพสินค้าอีกด้วย เธอตะโกนเรียกรปภ.
“รปภ. รีบมาจับมันเร็วๆ ไอ้หมอนี่มันขโมยรถเฟอร์รารี่ของคนอื่น”
เมื่อรปภ.ได้ยินสิ่งที่จารุดาพูด จู่ๆ เขาก็หยิบอาวุธที่อยู่ในอกออกมาแล้วจ้องไปที่รพีพงษ์ รพีพงษ์หันหลังกลับมา เขารู้จักคนตรงหน้าเพราะเธอเป็นญาติห่างๆ กับอารียา แต่เขาไม่อยากสนใจคนประเภทนี้ เขาหันหลังจะเดินเข้าไปในร้านยา เพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบที่เหลือในการปรุงยา
ตอนนี้การทำให้อารียาฟื้นขึ้นมาคือเรื่องสำคัญที่สุด ตอนนี้เขาไม่รู้ว่าอารียาเป็นยังไงบ้าง
“รพีพงษ์ ทางที่ดีอย่าคิดหนี”
เมื่อพูดจบ จารุดาก็เดินเข้ามาจับตัวรพีพงษ์ แล้วตะโกนให้คนข้างๆ ฟังด้วยสีหน้าตื่นเต้น
เธอต้องการทำให้รพีพงษ์อับอายมาโดยตลอด เมื่อเป็นเช่นนี้เธอจะได้อยู่เหนืออารียา เธอโดนอารียากดหัวมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เธอก็ยังไม่มีโอกาสแก้แค้น
และตอนนี้รพีพงษ์กล้าขโมยรถสปอร์ตของคนอื่น นี่เป็นโอกาสงามๆ ที่สวรรค์ประทานให้เขา เขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกันล่ะ
เมื่อรพีพงษ์เห็นจารุดาจับเขา เขาก็มีสีหน้าโมโหขึ้นมาทันที เขาหันไปตวาดใส่จารุดา
“รีบปล่อยฉันเดี๋ยวนี้”
“ทำไม อย่าบอกนะว่าถ้าฉันไม่ปล่อยนาย นายจะทำร้ายฉันอย่างนั้นเหรอ รปภ. ไอ้หมอนี่มันเอาแต่กินๆ นอนๆ ในบ้านของฉัน มันเป็นแค่สวะคนหนึ่ง ฉันคุ้นเคยกับมันดี มันไม่มีทางขับรถหรูแบบนี้ได้อย่างแน่นอน อีกอย่างดูเสื้อผ้าที่มันใส่สิ ดูก็รู้ว่าจน ถ้าวันนี้ไม่จับเขา พวกคุณจะพลาดโอกาสในการจับขโมย!