พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1195 ผสมผสานจิตวิญญาณเทพ

บทที่ 1195 ผสมผสานจิตวิญญาณเทพ

พอเห็นสีหน้าไร้สีเลือดของแม่นางทอผ้า โจซี่รู้ทันทีเลยว่า ผู้หญิงเซ็กซี่คนนี้เป็นหุ่นเชิดของรพีพงษ์เหมือนกัน แถมมีพลังอยู่ในระดับสุดฮั่วจิ้งเหมือนกันด้วย

นี่ทำให้โจซี่อดตะลึงไม่ได้เลย

หุ่นเชิดที่มีพลังระดับสุดฮั่วจิ้งสองคน ต่อให้อยู่ในทวีปโอชวินทีมแบบนี้ถือว่าเก่งมากเลยนะ

“เจ้านาย ขอโทษด้วยนะคะ ก่อนนี้คุณช่วยฉันซื้อเสื้อผ้ามากเกินไป ฉันมัวเลือกว่าจะใส่ชุดไหนดีเลยมาช้าไปหน่อย เพราะแม่นางทอผ้ามาเจอเจ้านายต้องแต่งตัวสวยๆค่ะ”

แม่นางทอผ้าในชุดกระโปรงสีดำบอก

รพีพงษ์แอบเซ็ง สมเป็นหุ่นเชิดที่จอมมารชูราสร้างออกมา มีความคิดเป็นของตัวเองอีก

เพียงแต่ว่าสำหรับแม่นางทอผ้าและชยนต์แล้ว ความคิดหลักของพวกเขามีเพียงอย่างเดียวคือ รับใช้ให้รพีพงษ์มีความสุข และปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของรพีพงษ์

“ป้า มีดเมื่อกี้เป็นยังไงบ้าง เอาอีกรอบไหม” แม่นางทอผ้าบอก

“แกว่าใครป้า?” โจซี่แผดเสียงใส่ เห็นได้ชัดว่าเกลียดคำเรียกนี้มาก

แม่นางทอผ้า เบ้ปาก ถามอย่างสงสัยว่า “ทำไม ดูหน้าป้าก็ปาเข้าไปห้าสิบแล้ว ไม่ใช่ป้าแล้วอะไรล่ะ? หรือว่าฉันเรียกผิดไปหรือไง?”

“เหอะ”

โจซี่แค่นเสียงเย็น จากนั้นในมือเริ่มสร้างก้อนพลังขึ้นเรื่อย ๆ “ต่อให้สามคนแล้วยังไงล่ะ เข้ามาพร้อมกันเลย”

“พร้อมกันก็พร้อมกันสิ เจ้านาย วางใจได้ค่ะ ป้าคนนี้ยกให้ฉันกับชยนต์จัดการเถอะ”

แม่นางทอผ้าบอก ชยนต์พยักหน้ารับ

ในฐานะหุ่นเชิด เวลาเจ้านายเจอสถานการณ์แบบนี้ เป็นหน้าที่พวกเขาอยู่แล้ว

“แค่พวกแกสองคนน่ะนะ น่าจะไม่พอนะ” โจซี่ยิ้มเย็นบอก “พวกแกเป็นหุ่นเชิดได้มันไม่ง่ายเลย ถ้าไม่อยากวิญญาณแตกสลาย ก็ไสหัวไปไกลๆ!”

ถึงหุ่นเชิดจะไม่ได้มีร่างเดิม แต่สำหรับพวกเขาแล้ว เหมือนกับได้รับโอกาสเกิดใหม่อีกครั้ง

เพียงแต่โดนฆ่าอีกครั้ง วิญญาณเพียงน้อยนิดของพวกเขาก็จะสลายหายไป นับแต่นี้จะไม่หลงเหลือร่องรอยพวกเขาในโลกนี้อีก

“พวกนายสองคน ไปจากที่นี่!”

รพีพงษ์เดินมายืนหน้าทั้งคู่พลางบอก

“เจ้านาย?”

แม่นางทอผ้ากับชยนต์ยืนนิ่งอยู่กับที่

“ทำไม พวกนายไม่ฟังคำสั่งฉันแล้ว?”

“ไม่กล้า!”

ชยนต์กับแม่นางทอผ้าตอบพร้อมกัน

“งั้นก็ดี” รพีพงษ์พูดต่อ “พวกนายพาอารียากับศักดาและไอ้อ้วนที่นอนสลบที่พื้นไปหาชุติเทพนั่นให้เร็วที่สุด”

“รับทราบ!”

ระหว่างพูด ชยนต์จับศักดาและไอ้อ้วนพาดไหล่ข้างละคน

“รพีพงษ์”

สายตาอารียาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

ศักดารอดตายมาได้ฉิวเฉียด เธอยิ่งไม่อยากให้รพีพงษ์เกิดเรื่อง

“วางใจเถอะ รีบไปหาชุติเทพ ช่วยคนสำคัญกว่า” รพีพงษ์บอก

อารียาพยักหน้า

“ฉันพาคุณไป จะได้เร็วหน่อย” แม่นางทอผ้ายิ้มละไมบอกอารียา

ไม่รออารียาได้สติกลับมา แม่นางทอผ้าจับมืออารียาและหายตัวไปทางประตูทันที

ทางนี้ชยนต์พาดร่างผู้ชายสองคนไว้บนไหล่ หนึ่งในนั้นยังเป็นคนอ้วน แต่กลับเหาะตามแม่นางทอผ้าไปติดๆอย่างสบายๆ

“จะหนี ไม่มีทาง!”

โจซี่จะรีบตามไปสกัด เธอรู้ดีว่า อยากจะควบคุมรพีพงษ์ ต้องควบคุมอารียาให้ได้ก่อน

จากนั้นแสงสีทองวาบขึ้น มังกรไฟปราดเข้ามาผลักเธอให้ถอยกลับไป

พอเธอคิดจะตามอีกครั้ง ชยนต์กับแม่นางทอผ้าก็ไปไกลแล้ว

“คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน” รพีพงษ์พูดเสียงเย็นชา

“เหอะเหอะ ก่อนนี้สามรุมหนึ่ง พวกแกอาจมีแววชนะบ้าง ตอนนี้โอกาสรอดของแกเป็นศูนย์” โจซี่บอกเสียงเบา

“แกผิดแล้ว” รพีพงษ์ส่ายหัว ยืนตัวตรง พลังแผ่ซ่านออกมาจากร่าง

ด้านหลังเขา มีกระบี่สยบเซียนสีทองโผล่ออกมา

หลังจากผ่านการผสานกับจอมมารชูรา กระบี่สยบเซียนทอประกายเหลืองทอง ดูมีราศีกว่าเมื่อก่อนมากนัก

รพีพงษ์จับกระบี่สยบเซียนไว้มั่น พลังดูจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก

ฆ่าแก ฉันคนเดียวก็พอ!

สายตาโจซี่เริ่มจริงจังขึ้นมา สำหรับกระบี่สยบเซียนในมือรพีพงษ์ เธอออกจะหวั่นๆใจ

วิชามังกรเลื้อย!

รพีพงษ์ใช้ท่าไม้ตายอีกครั้ง

เทียบกับดาบที่ตัวเองสร้างออกมาเองเมื่อกี้ ตอนนี้ พอรพีพงษ์เปลี่ยนเป็นกระบี่สยบเซียน กระบี่มังกรเลื้อย ดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อกี้หลายเท่า

อาวุธเทพ เป็นสิ่งที่นักสู้ทุกคนวาดฝันไว้ ยิ่งไปกว่านั้น กระบี่สยบเซียนยังเป็นอาวุธชั้นเลิศที่ร่วมกันสร้างโลกมากับจอมมารชูรามาเป็นหลายร้อยปีแล้วด้วย

มังกรสีทองเก้าตัว ว่ายวนไปทั่วห้องโถง โจซี่ไม่มีทางหนีเลยแม้แต่น้อย

“เหอะ แกคิดว่าแบบนี้ก็จะขังฉันไว้ได้แล้ว!ฝันไปเถอะ!”

โจซี่ขยับตัว เร็วจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

นี่เป็นความเร็วของครึ่งแดนเทพหรือไง?

โชคดีที่รพีพงษ์มีพลังจิตวิญญาณเทพ เขาในตอนนี้สามารถควบคุมจิตวิญญาณเทพจนครอบคลุมทั้งห้องโถงแล้ว

“จิตวิญญาณเทพผสมผสาน!”

รพีพงษ์ระเบิดเสียง เขาที่ปลุกจิตวิญญาณเทพได้แล้ว ตอนนี้ยิ่งสามารถใช้มันได้ทุกที่

แน่นอน สำหรับรพีพงษ์ในตอนนี้ มันใช้แรงมาก ไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นานเกินไป

แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว

เขาใช้จิตแข็งแกร่งของตนเอง และบังคับแบ่งจิตวิญญาณของตนออกเข้าไปในตัวมังกรทองสี่ตัว

นี่เป็นขีดจำกัดของรพีพงษ์ในตอนนี้แล้ว

ทางนี้โจซี่ใช้ประโยชน์ความคล่องตัวของตนขยับอย่างรวดเร็ว ตอนเพิ่งเริ่ม มังกรทองเก้าตัวคลุมทั่วทั้งห้องโถง แต่เธอที่มีพลังแดนเทพครึ่งหนึ่งมักจะหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

แถมทุกวินาที โจซี่ก็จะเข้าใกล้รพีพงษ์มากขึ้นหนึ่งเมตร

“รพีพงษ์ แกนี่อัจฉริยะจริงๆเลย แต่ความแตกต่างระหว่างแกกับฉันมันมากเกินไปจริงๆ ในสายตาฉัน แกมันก็แค่มดตัวหนึ่งเหมือนเดิม!”

โจซี่พูดเสียงดัง รวมพลังไว้ในมือ เธอจะโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของตัวเอง!

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ทันใดนั้น โจซี่พบว่า ระหว่างมังกรทองทั้งเก้าตัว มีมังกรทองสี่ตัวคอยตามติดเธอไม่ลดละ

ไม่ว่าเธอจะขยับตัวเร็วแค่ไหน สี่ตัวนี้ก็ตามเธอทันเสมอ แถมยังสกัดกั้นทางที่เธอจะเข้าหารพีพงษ์ไม่เหลือเลย

“หมอนี่เล่นแบ่งจิตวิญญาณเทพผสานกับมังกรทอง และใช้ประโยชน์จากจิตวิญญาณเทพมาสะกดรอยฉันทุกทางหรือเนี่ย?”

โจซี่ได้สติกลับมา เพียงแต่ว่าความเร็วของเธอเป็นพลังของแดนเทพครึ่งหนึ่ง ต่อให้จิตวิญญาณเทพของรพีพงษ์ไม่ธรรมดา แต่จะตามโจมตีเธอได้ทันเวลา ต้องใช้พลังจิตแกร่งกล้าแค่ไหนกันเนี่ย!

“หมอนี่ดูจะปลุกจิตวิญญาณเทพสำเร็จแล้ว!” โจซี่แอบคิดในใจ จากนั้นสายตาเริ่มทอประกายอาฆาต

จะเก็บหมอนี่ไว้ไม่ได้! เกิดให้มันพัฒนาต่อไป ต้องเป็นหอกข้างแคร่ตัวใหญ่ของทวีปโอชวินและคอยขัดขวางแผนการทั้งหมดของทวีปโอชวินแน่!

สามนาทีผ่านไป มังกรทองสี่ตัวไล่ต้อนโจซี่จนชิดมุมห้อง

กระบี่สยบเซียนส่งเสียงสนั่นออกมา และพุ่งแทงโจซี่

สำหรับกระบี่เทพนี่ โจซี่ไม่สบายใจเอาซะเลย

กระบี่สยบเซียน กระบี่แกร่งกล้า ไม่ว่าเทพมารที่ไหนล้วนพ่ายแพ้ใต้คมดาบ!

“ไปตายซะ!”

รพีพงษ์ตะคอกดัง พลังขึ้นถึงขีดสุด

“ฝ่ามือแผ่เมฆ!”

โจซี่ซัดฝ่ามือคู่ออกไป พลังปะทะรุนแรงเข้าใส่มังกรทอง

มังกรทองเก้าตัวรวมกันอ้าปากกว้างพุ่งเข้าหาโจซี่

บรึ้ม!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวจากในห้องโถง พื้นที่ทุกตารางนิ้วลอยตัวขึ้น ฝุ่นคลุ้งกระจาย

เธอ…ตายหรือยัง?

รพีพงษ์ย่อตัวกึ่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น คิดอย่างสงสัย

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน