พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1192 โจซี่กร่างสุดขีด

บทที่ 1192 โจซี่กร่างสุดขีด

ไหนเลยจะรู้ว่า โจซี่ไม่แคร์เลยสักนิด หล่อนแค่ส่งซิกให้ศักดาที่อยู่ข้างกายเท่านั้น

ศักดาได้รับสัญญาณ ก็ยิ้มรับ และเดินหน้าขึ้นไปผลักชุติเทพกระเด็นอย่างไม่แคร์ “ไอ้แก่ กล้าเสียมารยาทกับนีย์เอ๋อร์ หาเรื่องตายซะแล้ว!”

ชุติเทพอายุใกล้แปดสิบแล้ว มีหรือจะทานทนแรงผลักของศักดาได้

ทำเอาเขาเกือบล้มคะมำลงพื้น

ท่ามกลางผู้คน ไอ้อ้วนรีบเข้ามาพยุงชุติเทพไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะล้มลง

“จะบอกให้นะ ถ้ากล้าเสียมารยาทกับนีย์เอ๋อร์อีก ฉันจะฆ่าแกซะ!” ศักดาพูดเสียงดัง

“แม่ง ศักดา แกใจกล้าไม่เบานะ เพื่อผู้หญิงคนนี้ กล้าผลักหมอชุติเทพเลย? จะบอกแกให้นะ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าพี่รพีพงษ์ วันนี้ปู่อ้วนของแกน่ะจะส่งแกลงนรกเอง!” ไอ้อ้วนบอก

ศักดาประกายตาโกรธแค้น เขารู้ว่า คนอย่างไอ้อ้วนนี่ จะฆ่าตนนั้นง่ายซะยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือซะอีก

“รพีพงษ์! ถ้านายยังไม่มาล่ะก็ ฉันจะโยนพ่อตาแม่ยายนายออกไปแล้วนะ!”

ไอ้อ้วนใช้พลังลมปราณส่งเสียงดังก้องกังวาน เชื่อว่าทั่วทั้งคฤหาสน์บ้านลัดดาวัลย์ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนซอกไหนก็ต้องได้ยินชัดเจนแน่

ศักดาเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบหลบหลังโจซี่

จากนั้นกลับไม่มีแม้แต่เงาร่างรพีพงษ์อยู่ดี

“ฮะฮะ!”

โจซี่หัวเราะร่วน มองทุกคนอย่างเยาะหยัน “ลืมบอกพวกคุณไปอย่าง วันนี้ฉันนี่แหละที่เรียกพวกคุณมารวมตัวกันที่นี่!”

“อะไรนะ หล่อนหรอ?”

ทุกคนตกตะลึง

“ศักดา! เมื่อกี้แกบอกว่านายน้อยเรียกพวกเรามาไม่ใช่หรือไง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!” หมอชุติเทพโกรธตะคอกดัง

“เชอะ ฉันก็แค่พูดไปงั้นๆแหละ ใครจะรู้ว่าพวกแกหลอกง่ายขนาดนี้ ดูท่าคนบ้านลัดดาวัลย์ก็แค่นี้เองนี่นา!” ศักดาบอกอย่างไม่ยี่หระ

“ดี ฉันจะจำบัญชีนี้ไว้ รอติดต่อนายน้อยได้ ไม่ว่ายังไง พวกแกต้องโดนลงโทษ!”

หมอชุติเทพพูดพลางลุกยืนตรง และหันไปทางทุกคน “ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ส่วนสองคนนี้รอนายน้อยมาจัดการ”

คนบ้านลัดดาวัลย์ ถือเป็นใหญ่ในประเทศจีน

ส่วนโจซี่กับศักดา นอกจากพวกเขาจะเป็นพ่อตาแม่ยายของรพีพงษ์แล้ว พวกเขาไม่มีค่าอะไรในสายตาคนบ้านลัดดาวัลย์เลย

เพราะอย่างนั้นพอได้ยินหมอชุติเทพพูดแบบนั้น แต่ละคนเตรียมตัวกันแยกย้ายกลับ

“พวกคุณจะไปกันแล้วหรอ?”

โจซี่ถามอย่างเย็นชา

“ไม่ไปแล้วยังไงล่ะ รอดูหล่อนเป็นบ้าตรงนี้หรอ!” ไอ้อ้วนตอบแบบไม่แยแส

โจซี่แค่นเสียงเย็นว่า “ถ้าวันนี้พวกคุณก้าวเท้าออกไป ฉันรับประกันว่าพวกคุณต้องเสียใจแน่!”

“เสียใจ? เหอะ ผู้หญิงอย่างหล่อนนี่อวดดีเกินไปแล้ว ถ้าไม่เห็นแก่หน้ารพีพงษ์ ฉันต่อยหล่อนไปนานแล้ว!” ไอ้อ้วนมองอย่างหยามหยัน

โจซี่มองไอ้อ้วนด้วยสายตาเย็นชา “หมาอย่างแกยังมีหน้ามาเห่าหอนต่อหน้าฉัน”

“แกว่าไงนะ?” ไอ้อ้วนเบิกตากว้างมองดูโจซี่ไฟความโกรธลุกโชนในใจ

คนที่ออกมาจากคุกที่ห้า ไม่เคยมีใครเป็นคนดีกันทั้งนั้น

ไอ้อ้วนปกติโผงผาง แท้ที่จริงแล้วเป็นคนชอบเอาชนะ แถมฝีมือลมปราณของเขาเพียงพอรับมือคนธรรมดาแล้ว มีหรือจะเคยโดนว่าแบบนี้มาก่อน

“ดีนี่แก วันนี้ฉันจะสั่งสอนแกแทนรพีพงษ์ ดูสิว่าจะยังกร่างได้อยู่ไหม!”

ระหว่างพูด ไอ้อ้วนยกมือขึ้นกำหมัดหนักราวหม้อเหล็ก

เดิมเขาแค่กะจะขู่โจซี่เท่านั้น ให้หล่อนอย่ากร่างให้มันมากไปนัก เลยไม่ได้คิดจะออกเต็มแรง

เพราะเกิดทำใครตายขึ้นมา ก็ยุ่งยากอีก!

ทุกคนหยุดชะงักฝีเท้า หันกลับไปดู หลังจากโดนศักดากับโจซี่หลอกแล้ว พวกเขาเองก็รอให้มีคนก้าวออกมาสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน

บรึ้ม!

เสียงดังสนั่น

ทุกคนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง

พวกเขายังไม่ทันได้สติกลับมา ก็เห็นร่างไอ้อ้วนลอยละลิ่วไปกระแทกกับกำแพงฝั่งตรงข้ามราวกับว่าวที่สายขาด

“นี่…เป็นไปได้ยังไง?”

หมอชุติเทพมองตะลึงอ้าปากค้าง ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่า โจซี่จะมีฝีมือแบบนี้ด้วย

แค่กระบวนท่าเดียว ก็เอาชนะไอ้อ้วนที่มีเน่ยจิ้งชั้นต้นแล้ว

“เหอะ มดตัวนิดเท่านั้นเอง”

โจซี่พูดอย่างหยามหยัน พลางกวาดสายตามองทุกคน “พวกคุณ ยังกล้าจะไปกันอีกไหม?”

ทุกคนต่างตกอยู่ในภวังค์ตะลึงที่เห็นไอ้อ้วนโดนโจมตีลอยละลิ่วไป มีหรือจะกล้าจากไปท่ามกลางสายตาเย็นชาเสียดแทงกระดูกของโจซี่จับจ้องอยู่นี่

“ขยะพวกนี้นี่ ตระกูลลัดดาวัลย์แท้ๆ นอกจากรพีพงษ์แล้ว กลับไม่มียอดฝีมืออยู่เลย น่าเบื่อจริงๆ” โจซี่ดูถูก

ทุกคนสีหน้าเคร่งเครียด มองไปทั่วประเทศจีน ยังไม่มีใครกล้าว่าตระกูลลัดดาวัลย์แบบนี้เลย คนที่กล้าพูดตายลงหลุมไปนานแล้ว

“โจซี่ เธอนี่คมในฝักจริงนะ พวกเรามองเธอพลาดไปจริงๆ” หมอชุติเทพพูดเสียงเย็น

“แต่ว่า วันนี้ถ้าเธอกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ ต่อให้ต้องเอากระดูกผุๆของฉัน ฉันก็จะยับยั้งเธอให้ได้!”

พอเห็นหมอชุติเทพก้าวออกมาอย่างไม่ห่วงชีวิต คนอื่นในตระกูลก็เปลี่ยนเป็นฮึกเหิมขึ้นมาด้วย

“หมอชุติเทพ รีบติดต่อนายน้อยเลยครับ พวกเราลุยด้วยกัน”

“ใช่ ลุยด้วยกัน ผมไม่เชื่อหรอกว่า พวกเราหลายคนยังต้องกลัวหล่อนอีก!” วัยรุ่นหลายคนในตระกูลพูดขึ้น

“เด็กน้อยไม่ประสาเอ๊ย อยู่ต่อหน้าฝีมือจริง พวกเยอะพวกน้อยมันจะเป็นอะไร ก็แค่หาเรื่องตายเท่านั้นแหละ!” โจซี่เย้ยเข้าให้

“ไป ไปติดต่อนายน้อย!” หมอชุติเทพบอก

มีคนหนึ่งในห้องโถงหยิบมือถือออกมา คิดจะโทรหารพีพงษ์

ฮะฮะฮะ!

ครั้งนี้โจซี่หัวเราะร่าอย่างเหิมเกริมกว่าเก่า

“นายน้อยของพวกคุณน่ะ ตอนนี้น่าจะตายแล้วล่ะ!” โจซี่บอก

ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงมา

ทุกคนที่ได้ยินข่าวนี้ไม่มีใครไม่ตะลึง หมอชุติเทพเองยังตัวสั่นเทาไปหมด

“เธอ…เธอว่าไงนะ? นายน้อยตายแล้ว?” หมอชุติเทพพูดด้วยเสียงสั่นเทา

“แน่นอนสิ โดนพิษยาเปลี่ยนวิญญาณเข้าไป ต้องตายแหงอยู่แล้ว แต่ว่าก่อนตายได้สุขสมไปรอบหนึ่งก็ถือว่าเขาโชคดีแล้วนะ” โจซี่บอกกลั้วหัวเราะ

“แก…ผู้หญิงสารเลวอย่างแกกล้าทำร้ายนายน้อย ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่ขออยู่ร่วมโลกกับแกแน่!” หมอชุติเทพตะโกนอย่างโกรธจัด

“ไม่ขออยู่ร่วมโลกแล้วยังไงล่ะ! ในสายตาฉัน ตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแกก็แค่ขยะเท่านั้นเอง!”

โจซี่ประกาศก้องด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดใส่ทุกคนว่า “ฉันจะประกาศ ต่อไปนี้ทรัพย์สินธุรกิจทุกอย่างของตระกูลลัดดาวัลย์จะสืบทอดต่อโดยศักดา ใครกล้าคัดค้าน!”

“อะไรนะ ศักดา?”

ทุกคนตกตะลึง ไม่คิดมาก่อนว่า วันนี้โจซี่มาด้วยจุดประสงค์แบบนี้

เพียงแต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ ศักดาโดนวิชาพิษกู่ เขาต้องเชื่อฟังโจซี่ทุกอย่าง

“ผมคัดค้าน!”

หนุ่มน้อยคนหนึ่งที่พูดขึ้นมาชื่อว่าหลินอวี้หาง เขาลุกขึ้นยืนพรวดด้วยความโกรธ “เรื่องของตระกูลลัดดาวัลย์เรา ยังไม่ต้องให้คนนอกมาสอด พวกแกสองคนตอนนี้ไสหัวออกไปเลย!”

“คนหนุ่มอายุน้อย เลือดลมเดินสะดวกดีนะ!” โจซี่ยิ้มเย็นบอก “แต่ว่า ในเมื่อเธอคัดค้าน งั้นก็ไปตายซะเถอะ!”ระหว่างพูด เธอก็ขยับชายเสื้อ

พลังลมปราณระลอกหนึ่งพุ่งตรงหาหลินอวี้หาง

โจซี่ที่มีฝีมือระดับฮั่วจิ้ง แค่กระบวนท่าเดียวมันก็มากเกินพอที่คนปกติจะทานรับไหวแล้ว

ร่างของหลินอวี้หางโดนลมปราณพัดลอยขึ้นมาซัดไปทางประตูเหล็กตรงข้าม

ทุกคนต่างรู้ดีว่า ด้วยความเร็วในกระแทกแบบนี้ หลินอวี้หางต้องตายแน่

โจซี่สีหน้ายิ้มละไม การฆ่าคนสำหรับเธอแล้วไม่มีอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น ในสายตาเธอแล้วคนพวกนี้แทบไม่มีค่าเลย

“เชือดไก่ตัวหนึ่งให้ลิงดู ดูสิใครจะกล้าคัดค้านอีก!” โจซี่แอบคิด

ในตอนที่ทุกคนกำลังสิ้นหวังกัน ทันใดนั้น มีแสงสีดำสะท้อนเข้ามา ร่างสูงใหญ่ลอยลงมาจากฟ้ามายืนกั้นหน้าประตูเหล็ก

ผู้ชายร่างโปร่งคนหนึ่ง ไม่มีร่องรอยเลือดสักนิด ในจังหวะที่หลินอวี้หางจะกระแทกเข้ากับประตูเหล็ก เขาใช้แค่สองมือก็สลายพลังที่เกาะกุมตัวหลินอวี้หางไว้จนหมดสิ้น จากนั้นก็ค่อยๆประคองเขาลงพื้น

“อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง?”

โจซี่ตกใจกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงนี้มาก เธอจับจ้องมองผู้ชายแปลกหน้าอย่างตะลึง

คนตระกูลลัดดาวัลย์เองก็สงสัยอย่างมากว่า คนคนนี้เป็นใคร พวกเขาไม่มีใครรู้จักเลย

ในตอนนี้เองมีเสียงคุ้นเคยดังขึ้นที่ปากทางเข้าห้องโถง

“ขอโทษทุกคนด้วยนะที่ให้รอนาน!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท