พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1189 แผนการ

บทที่ 1189 แผนการ

เช้าวันรุ่งขึ้น

ศักดานั่งอยู่ในห้องรับแขก และพบเจอกับอารียาที่ลงมาจากชั้นบน

“แคลร์ จะออกข้างนอกเหรอ” ศักดายิ้มแล้วพูดก่อน

ทันทีทันใด มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง: “รพีพงษ์ล่ะ ทำไมเขาไม่ไปด้วยกันกับลูก?”

“เขาออกไปแต่เช้าแล้ว ในกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์มีเรื่องให้เขาต้องไปจัดการ”

“อ๋อ ถ้าอย่างนั้นก็ดี” ศักดาพูดเบาๆ แล้วยิ้มทันที: “ถ้าอย่างนั้นลูกจะไปไหนเหรอ?”

อารียาพูดอย่างราบเรียบว่า: “ตอนนี้หนูรู้สึกว่าร่างกายเกือบจะฟื้นตัวแล้ว อยากจะออกไปเดินเล่นที่ข้างนอก”

“เดินเล่นเหรอ? พ่อไปเป็นเพื่อนลูก พอดีว่าพ่อก็ไม่มีอะไรต้องทำ” ศักดาพูด พร้อมเดินตามอารียาออกไปข้างนอก

“ทำไม วันนี้พ่อไม่อยู่เป็นเพื่อนคุณน้าเหรอ?”

อารียาถาม

“ไม่ต้อง ตอนเช้านี้น้าของลูกเธอจะไปช้อปปิ้ง ไม่ต้องการให้พ่อไปเป็นเพื่อน ไปเถอะ พวกเราสองคนพ่อลูกก็ไม่ได้เดินเล่นด้วยกันมานานแล้ว”

อารียายักไหล่

ตั้งแต่หลังจากที่โจซี่มาแล้ว ศักดาไม่เคยริเริ่มที่จะพูดคุยกับตัวเองเหมือนวันนี้มาก่อน

แต่ว่าอารียาก็ไม่ได้คิดมาก ในเมื่อเขาจะตามมา ถ้าอย่างนั้นก็มาเถอะ

ทั้งสองคนมาถึงที่สวนสาธารณะ อารียารู้สึกว่าอากาศหวานสดชื่น มุมปากมีรอยยิ้มที่เงียบสงบ

“แคลร์ นั่งลงก่อนเถอะ”

ศักดาที่นั่งที่ม้านั่งควักมือเรียก

ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน ศักดาถามด้วยความเป็นห่วงว่า: “ตอนนี้ลูก ร่างกายดีขึ้นบ้างมั้ย?”

“ดีขึ้นมากแล้ว ครั้งนี้ที่รพีพงษ์กลับมาได้นำเครื่องยาสมุนไพรมาให้หนูด้วย หนูฟื้นตัวเกือบพอสมควรแล้ว” อารียาพูดตามความจริง

ประสิทธิ์ของจอกหนูอ่อนโยนยาวนาน อารียาเพียงรู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายอ่อนระทวยกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย

“แคลร์ ลูกรู้มั้ยว่า พ่อเป็นห่วงลูกมาก แม้ว่าลูกจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ แต่ว่า ลูกน่าจะเข้าใจ ทุกอย่างที่พ่อทำก็เพราะหวังดีกับลูก” ศักดาพูด

อารียาขมวดคิ้ว พูดในใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับเขา ดีๆอยู่ก็พูดแบบนี้ทำไม? หรือว่า เขายังอยากให้ฉันหย่ากับรพีพงษ์เหรอ?

“พ่อ หนูรู้ว่าพ่อทำทุกอย่างก็เพราะหวังกับหนู แต่ว่า ถ้าหากวันนี้พ่อจะให้หนูหย่ากับรพีพงษ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดอีกแล้ว หนูไม่มีทางแยกจากรพีพงษ์!”

อารียายืนขึ้นมา และทำท่าทางจะจากไป

ศักดารีบห้ามอารียาไว้: “ไม่ วันนี้พ่อไม่ได้จะมาพูดเรื่องนี้กับลูก! ลูกเข้าใจผิดแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของศักดา อารียาถึงได้สบายใจ

“ในใจของพ่อรู้ดีว่า ให้ลูกหย่ากับรพีพงษ์คือเป็นไปไม่ได้” ศักดาพูดพึมพำ

“รพีพงษ์ดีกับหนูมาก ที่สำคัญก่อนหน้าก็ไม่ได้เลวร้ายกับพ่อ พ่อ สิ่งนี้พ่อน่าจะเข้าใจ”

อารียาพูดต่อ: “พ่อ หนูรู้สึกว่าพ่อไม่เหมือนกับเมื่อก่อน หรือว่าตัวของพ่อเองก็ไม่ได้สังเกตเหรอ?”

“ไม่เหมือนเหรอ? ตรงไหนที่ไม่เหมือน?” ศักดายืดเส้นยืดสาย: “ลูกกำลังจะบอกว่าพ่ออ้วนขึ้นเหรอ? แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ วันๆเอาแต่ว่างอยู่บ้าน คงจะอ้วนขึ้นอย่างแน่นอน”

“ไม่ใช่”

อารียาส่ายหัว: “ก่อนหน้านี้ตอนที่ศศินัดดาอยู่ที่บ้านของพวกเรา แม้ว่าเธอจะโหดร้ายมาก แต่ว่าพ่อเพื่อที่จะปกป้องหนูกับรพีพงษ์ ยินยอมที่จะหย่ากับเธอ แต่ตอนนี้ล่ะ?”

“ตอนนี้ทำไมเหรอ? ก็ดีอยู่ไม่ใช่เหรอ?”ศักดาถาม

อารียาส่ายหัว พูดในใจ ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขายังดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเองออกมาไม่ชัดเจน

“พ่อ ฟังหนูพูดคำหนึ่ง คุณน้าโจซี่เธอหนักแน่นเกินไป พ่อเชื่อฟังเธอทุกอย่าง แบบนี้ไม่ดี” อารียาพูด หวังว่าศักดาจะพอเข้าใจ

ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ศักดาได้ยิน ก็กระโดดขึ้นทันที: “แกว่าโจซี่ไม่ดีเหรอ? เธอไม่ดีตรงไหน? พ่อรู้สึกว่าเธอดีมาก แกอย่าคิดว่าทั้งโลกก็จะมีผู้ชายอย่างรพีพงษ์ที่น่าหลงใหลเพียงคนเดียว เพื่อโจซี่แล้ว ฉันก็สามารถให้ชีวิตของตัวเองได้!”

“พ่อ…..”

อารียากัดริมฝีปาก มองดูศักดาที่แสดงท่าทางหงุดหงิดไม่พอใจ ในใจก็เจ็บปวดอย่างฉับพลัน

“ช่างมันเถอะ รู้ผลมานานแล้ว เพียงแต่ไม่นึกเลยว่าโจซี่จะทำให้พ่อเชื่อฟังขนาดนี้…..จากนี้ไปเรื่องของพวกเขา ฉันก็จะไม่ยุ่งแล้ว ตราบใดที่โจซี่ไม่คิดที่จะทำลายฉันกับรพีพงษ์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร”

อารียาคิดในใจ

เวลาก็พอสมควรแล้ว อารียาตั้งใจจะจบการสนทนาในครั้งนี้ ยืนขึ้นเดินกลับบ้าน

“ลูกรอก่อน!”

ศักดาเรียกอารียาไว้: “ ให้ดูลูกของสิ่งนี้!”

อารียามองไปอย่างสงสัย และเห็นเม็ดยาสีแดงเข้มขนาดเล็กในมือของศักดา

“นี่คือ…..”

ศักดายิ้มแล้วพูดว่า: “ลูกยังว่าคุณน้าโจซี่ไม่เป็นห่วงลูก เธอเพื่อที่จะให้ร่างกายของลูกฟื้นตัวโดยเร็วที่สุด ตั้งใจซื้อยาเม็ดนี้ให้ลูกโดยเฉพาะ”

“หือ?” อารียาขมวดคิ้ว เธอไม่อยากเชื่อว่าโจซี่จะเป็นห่วงร่างกายของตัวเองมากขนาดนี้

“ลูกไม่เชื่อเหรอ?”

เห็นชัดว่าศักดาวิตกกังวล ถ้าหากยาพิษเม็ดนี้ไม่สามารถมอบให้อารียาให้เธอทานลงไป ภารกิจที่โจซี่มอบให้ตัวเองก็จะล้มเหลว

“ถ้าอย่างนั้นหนูจะถามพ่อ ประสิทธิผลของยาเม็ดคืออะไร และเธอได้มันมาอย่างไร?”อารียาถาม

“นีย์เอ๋อร์ฉลาดจริงๆ เมื่อคืนนี้เดาได้ว่าอารียาจะถามแบบนี้” ศักดาแอบคิดในใจ เมื่อคืน โจซี่ก็อธิบายแล้ว ตัวเองเจอกับคำถามแบบนี้ควรตอบอย่างไร

“อะแฮ่ม ยาเม็ดนี้สามารถฟื้นฟูกำลังฟื้นฟูเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกัน และขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย…..”

ตามที่โจซี่บอก ศักดาท่อนได้ทุกคำ: “สำหรับได้มาจากที่ไหน ก็คือได้มาจากหมอ…..หมอที่มีชื่อเสียงคนนั้น ชื่อชุติอะไรนะ..…”

“ชุติเทพเหรอ?”

“ใช่ ก็คือชุติเทพ!” ศักดาพูด: “ลูกไม่รู้ว่า คุณน้าของลูกเธอขอร้องถามชุติเทพ รอเขาสามวันสามคืนเต็มๆ”

“สิ่งนี้…..รพีพงษ์รู้มั้ย? เนื่องจาก ถ้าเขาไปหาชุติเทพ ชุติเทพคงจะช่วยเหลืออย่างแน่นอน”

อารียาถาม ฟังหูไว้หู

ถ้าบอกว่าโจซี่ทำแบบนี้ เธอคงจะไม่เชื่อย่างแน่นอน แต่ว่า เห็นศักดาพูดเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ และสามารถที่จะบอกชื่อของชุติเทพมาได้ อารียาก็ไม่ค่อยแน่ใจ

“ลูกก็รู้ว่า ความสัมพันธ์ของคุณน้าของลูกกับรพีพงษ์ไม่ดี เธอไม่อยากอาศัยความสัมพันธ์ของรพีพงษ์ ดังนั้นจึงไปหาชุติเทพด้วยตัวเอง” ศักดาพูดอธิบาย

อารียาพยักหน้า เหมือนกับว่า ทะเลาะกันครั้งก่อน โจซี่และรพีพงษ์สองฝ่ายไม่มีทางเข้ากันได้ เธอมีปัญหา คงจะไม่มีทางไปหารพีพงษ์อย่างแน่นอน

“แคลร์ นี่คือน้ำใจของคุณน้าของลูก พ่อรู้ว่ารพีพงษ์มีความสามารถ เขาจะช่วยดูแลร่างกายของลูก แต่ว่า พ่อก็หวังว่าลูกจะได้รับยาเม็ดนี้”

ขณะที่พูดอยู่ ศักดาก็วางเม็ดยาลงบนฝ่ามือของอารียา

ต่อจากนั้นพูดน้ำเสียงหนักแน่นว่า: “เนื่องจากพ่อและโจซี่ยังพักอยู่ในตระกูลลัดดาวัลย์ กินของพวกเธอดื่มของพวกเธอ ครั้งก่อนหลังจากเรื่องนั้นแล้ว พ่อก็พูดกับโจซี่แล้ว ยาเม็ดนี้ ก็ถือว่าเป็นคำขอโทษที่เธอมีต่อลูก ตราบใดที่ลูกทานยาเม็ดนี้ลงไป จากนี้ไปเรื่องระหว่างลูกกับรพีพงษ์เธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก”

“ถ้าหากเป็นแบบนั้นจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยหนูขอบคุณเธอด้วย เพียงแค่เธอไม่พาลหาเรื่อง พวกเราก็ยังเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน”

อารียาที่จิตใจไม่รู้ว่า ยาเม็ดในมือ นั่นคือพิษร้ายแรง และศักดา ก็ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่เชื่อฟังโจซี่มานานแล้ว!

“ใช่แล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียว”

เห็นอารียายอมรับ ใบหน้าของศักดาก็ดูผ่อนคลาย

อารียายอมรับยาเม็ด นี่เป็นเพียงแค่ก้าวแรก ศักดาพูดอย่าตั้งใจและไม่ตั้งใจว่า: “แคลร์ พ่อมีคำถามอยากจะถามลูก ลูก…..กับรพีพงษ์ มีความสัมพันธ์ที่ดีมั้ย?”

“หือ?” อารียามองไปที่ศักดาที่กระอักกระอ่วน: “พ่อถามเรื่องนี้ทำไม? หนูกับรพีพงษ์มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก”

“พ่อหมายความว่า ด้านนั้น…..ดีมั้ย?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท