พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1201 ธีรพัฒน์ที่ใจกว้าง

บทที่ 1201 ธีรพัฒน์ที่ใจกว้าง

รพีพงษ์พยักหน้า นี่เป็นการช่วยอารียาให้รอดพ้น ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตแล้วทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ!

“ศิษย์พี่ คุณว่า ผมควรทำอย่างไร” รพีพงษ์เอ่ยถาม

“หากพูดตามหลัก อารียาใช้ไม้เทพ เธอที่มีไม้เทพคอยคุ้มครองอยู่ไม่ว่าพิษอะไรก็ไม่สามารถทำร้ายได้ทั้งสิ้นถึงจะถูก เพียงแต่ ยาเปลี่ยนวิญญาณนี้มาจากทวีปโอชวิน จำเป็นต้องพูดว่า พิษยาของมันมีความรุนแรงมากกว่ายาพิษแบบใดๆในโลกนี้เป็นร้อยเท่า” ธีรพัฒน์เอ่ยพูด

รพีพงษ์แสดงความเข้าใจ ถึงอย่างไร ความตั้งใจที่แท้จริงของโจซี่ก็คืออยากจะยืมใช้ยาเปลี่ยนวิญญาณเพื่อมาจัดการกับตัวเอง

เลือกใช้ยาพิษที่อยู่ในระดับสูงกว่า ความคิดของโจซี่ช่างร้ายกาจมากเหลือเกิน

แต่ในเวลานี้ ก็ทำให้รพีพงษ์เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาได้แล้ว

เม็ดยาระดับเทพ ยาพิษระดับสูง ความแข็งแกร่งของทวีปโอชวิน สรุปแล้วเป็นการมีอยู่แบบไหนกันแน่?

“พูดตามหลักเหตุผลแล้ว หลังจากสิบห้าวันผ่านไป ยาเปลี่ยนวิญญาณก็จะแว้งกัดเจ้าของ แต่ว่ามีพลังจากไม้เทพคอยให้การสนับสนุนคุ้มกัน กลับว่าสามารถที่จะขยายเวลาที่จำกัดของการแว้งกัดออกไปได้” ธีรพัฒน์พูดต่อ

“งั้นสามารถขยายเวลาไปได้นานเท่าไหร่?”รพีพงษ์เอ่ยถาม

ธีรพัฒน์แสดงสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม : “ประมาณ ยี่สิบวันมั้ง”

“20วัน?” รพีพงษ์แสดงท่าทางที่ผิดหวัง แต่หลังจากนั้นก็พูดจากอย่างแน่วแน่ว่า : “แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกแค่ห้าวันก็ตาม แต่ก็มีความหวังเพิ่มขึ้นอีกห้าวัน ผมเชื่อว่า ค้นหาทั่วทั้งโลก จะต้องหาวิธีล้างพิษได้แน่นอน อย่างมากก็แค่……”

จู่ๆในใจของรพีพงษ์ก็เกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ อย่างมาก ก็แค่ไปที่ทวีปโอชวิน!แม้ว่า โอกาสรอดตายมีน้อยมากแล้วทำไมจะไม่ลองดูล่ะ!

ธีรพัฒน์พยักหน้าอย่างพึงพอใจ: “วัยรุ่น ข้าได้เห็นความหวังบนโลกใบนี้ของเราบนตัวของเอ็งแล้ว เอ็งวางใจได้ วันนี้ข้าเพื่อหญิงสาวท่านนี้ จะพยายามทำอย่างสุดความสามารถแน่นอน”

“ขอบคุณคับ ท่านผู้เฒ่า”รพีพงษ์พูด

“ถ้าอยากจะปราบปรามยาเปลี่ยนวิญญาณนี่ จะต้องปลุกเสกด้วยพลังของไม้เทพ ขอเพียงแค่นำพลังของไม้เทพฉีดเขาไปยังร่างกายของภรรยาของเอ็ง พิษจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างกายก็จะเป็นเวลากลางคืน” ธีรพัฒน์กล่าว

“ฉีดพลังของไม้เทพที่มากขึ้น?”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่น

ธีรพัฒน์ยิ้มเบาๆพร้อมพูดว่า : “อย่าลืมนะ ที่ข้าเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นตัวเป็นตนได้อย่างน่าอัศจรรย์ ก็เป็นเพราะการช่วยเหลือของไม้เทพปริมาณมาก ดังนั้น ภายในร่างกายของข้าตอนนี้ ก็เต็มไปด้วยพลังแห่งไม้เทพ นำมาใช้เพื่อขยายชีวิตของเธอ เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

“เป็นแบบนี้นี่เอง งั้น……คุณนำพลังของไม้เทพโอนถ่ายให้อารียา แล้วคุณล่ะ?”รพีพงษ์เอ่ยถาม

“คุณกำลังถามข้าเหรอ?”

ธีรพัฒน์จู่ๆก็ยิ้มแล้วพูดว่า : “หากถ่ายทอดพลังของไม้เทพให้เธอ ข้าก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนหน้านี้โดยปริยาย”

“สภาพเดิมก่อนหน้านี้?”

รพีพงษ์ตกใจอย่างมาก ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว ธีรพัฒน์ไม่ใช่ว่าต้องกลายเป็นเงาภาพลวงตาเหมือนเมื่อก่อนเหรอ?

“ก่อนหน้านี้ข้าติดอยู่กับหินหน้าผากว่าร้อยปี เป็นเพราะเอ็ง ข้าถึงได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ข้าพึงพอใจมากพอแล้ว”

ธีรพัฒน์พูดต่ออีกว่า : “ช่วยภรรยาของเอ็งให้มีชีวิตรอด เป็นเรื่องที่ข้าสมควรที่จะทำ”

“แต่ว่า……”

รพีพงษ์อยากที่จะหยุดยั้งอย่างทันที เพื่อที่จะช่วยชีวิตอารียา และเสียสละธีรพัฒน์ไป นี้เป็นสิ่งที่รพีพงษ์ไม่อยากเห็นอย่างมาก

“ไม่มีคำว่าแต่อะไรทั้งนั้น”

ธีรพัฒน์โบกไม้โบกมือปฏิเสธ สีหน้าท่าทางจริงจัง

ในเวลานี้ เขามาถึงตรงหน้าของอารียาแล้ว มือทั้งสองข้างวางบนฝ่ามือของอารียา

“รพีพงษ์ ตอนที่ข้าถ่ายโอนพลังของไม้เทพ ไม่สามารถทำสองอย่างไปพร้อมๆกันได้ เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องยืมใช้พลังจิตวิญญาณเทพของเอ็งนำพลังของไม้เทพถ่ายโอนไปยังเส้นทางเดินทุกเส้นของพลังงานชีวิตในร่างกายของเธออย่างแม่นยำ” ธีรพัฒน์พูดสั่ง

“รับทราบ”

รพีพงษ์เห็นท่าทางที่แน่วแน่ของธีรพัฒน์ ก็ไม่พูดจาให้มากความอีก แต่ว่าในใจของเขาให้คำสาบานว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะไม่ทำให้ธีรพัฒน์ต้องกลับไปสู่สภาพเดิม

ถึงอย่างไร เพียงแค่โจซี่คนเดียว พลังที่อยู่บนตัวทั้งหมดเพียงพอที่จะทำให้รพีพงษ์รู้สึกทึ่งได้

ในโลกใบนี้ ต้องการผู้ที่แข็งแกร่งเหมือนกับธีรพัฒน์อย่างมาก!

หลอมรวมจิตวิญญาณเทพ!

รพีพงษ์โยกย้ายพลังจิตวิญญาณเทพ เขาที่ตื่นภวังค์จิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด ง่ายต่อการรับรู้ถึงพลังของไม้เทพที่แพร่กระจายออกมาจากมือทั้งสองข้างของธีรพัฒน์ ที่กำลังไหลเข้าไปยังร่างกายของอารียาอย่างต่อเนื่อง

จิตวิญญาณเทพฉุดลากพลังของไม้เทพ รพีพงษ์ใจจดใจจ่อ ปล่อยเข้าไปยังเส้นทางเดินของพลังงานชีวิตในร่างกายของอารียาทุกเส้นอย่างระมัดระวัง

คนหนึ่งคือแดนดั่งเทพชั้นยอด คนหนึ่งเข้าสู่ในแดนเทพ

ทั้งสองคนปลดปล่อยพลังชี่กงในเวลาเดียวกัน ทั้งลานหลังบ้านปกคลุมไปด้วยกำลังชี่

“นานขนาดนี้แล้วยังไม่ออกมาอีก ฉันจะต้องเข้าไปดูหน่อยแล้ว!”

หน้าห้องโถง เจสสิก้าพูดอย่างขุ่นเคือง

“คุณเข้าไปไม่ได้นะ เมื่อกี้รุ่นพี่บอกแล้ว เราไม่สามารถไปที่ลานหลังบ้านได้”ชุติเทพเอ่ยพูดทันที

“ฉันไม่สนใจ ฉันจะต้องเข้าไป”

เจสสิก้าพูดไปพลาง เดินไปทางลานหลังบ้านพลาง

ตลอดทางเดิน สีหน้าของเธอแดงก่ำ พูดเบาๆว่า : “ถ้าหากรพีพงษ์เห็นสิ่งที่อยู่ในลิ้นชัก งั้นต่อไปฉันคงไม่มีหน้าไปเจอเขาแล้ว”

“เจสลิก้า คุณจะไปไม่ได้นะ!”

เสียงของชุติเทพแพร่ซ่านมาจากด้านหลังของเจสสิก้า

แต่ว่ามันสายเกินไปแล้ว เท้าซ้ายของเจสสิก้าเพิ่งจะเหยียบไปยังลานหลังบ้าน ทันใดนั้น เธอก็เหมือนชนกับกำแพงที่แข็งแรง ถูกกระเด้งกลับมาแล้วทั้งตัว ล้มลงพื้นอย่างแรง

“อ๊ะ เจ็บจังเลย”เจสสิก้ากัดฟันพูดกล่าว

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม จะให้อาจารย์ดูให้คุณหน่อยไหม แปะพลาสเตอร์ยาหน่อยไหม?”ชุติเทพพูดอย่างเป็นห่วงมาก

สำหรับคนรักของตัวเอง เขาใส่ใจเป็นอย่างมาก ไม่สามารถทนเห็นเธอบาดเจ็บได้แม้แต่นิดเดียว

“อาจารย์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เจสสิก้ารู้สึกสงสัยอย่างมาก

ชุติเทพมองไปยังลานหลังบ้านที่ราวกับว่าปกคลุมไปด้วยหมอกควัน พูดอย่างชื่นชมว่า : “รพีพงษ์เจ้าเด็กคนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ เรากลับไปที่ห้องโถงเถอะ”

แววตาของเจสสิก้าโศกเศร้า เธอเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ข้างในคำพูดของอาจารย์

รพีพงษ์บุคคลที่มีความสามารถอย่างนี้ ตัวตนและเขตแดนเฉกเช่นวันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองสามารถเทียบเทียมได้

“อารียาช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้รับความรักเดียวของพี่ใหญ่อย่างรพีพงษ์ได้ ทำให้คนอิจฉาจริงๆ” เจสสิก้าพูดกระซิบกระซาบในปาก แล้วหันหลังจากไป

ภายในห้อง

สีหน้าของธีรพัฒน์ขาวซีดกว่าเมื่อก่อนเยอะ

“พลังแห่งไม้เทพได้วนเส้นลมปราณของเธอหนึ่งรอบแล้ว หากคิดอยากที่จะควบคุมยาเปลี่ยนวิญญาณทั้งสิ้น ต้องวนสามรอบ รพีพงษ์ คุณยังยืนหยัดต่อได้อีกไหม?”ธีรพัฒน์เอ่ยถาม

“ผมไหว”

ณพีพงษ์พยักหน้า หันหน้าไปมองธีรพัฒน์ ทันใดนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

เขารับรู้ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากสูญเสียพลังของไม้เทพ ตอนนี้ธีรพัฒน์ที่อยู่ตรงหน้า เลือนรางไปกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว

“ท่านผู้เฒ่า คุณ……”รพีพงษ์พูดอย่างเป็นกังวล

“ไม่ต้องสนใจข้า มีสมาธิรวบรวมกำลังวังชา ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาว่อกแว่ก” ธีรพัฒน์พูดกล่าว

พลังแห่งไม้เทพถ่ายทอดออกไปจากฝ่ามือของธีรพัฒน์ เวลาผ่านไปทุกนาที ตัวตนที่แท้จริงของธีรพัฒน์ก็ค่อยๆอ่อนแอลงเรื่อยๆ

พลังแห่งไม้เทพวนเข้าไปในร่างกายของอารียาเป็นรอบที่สอง เห็นได้ชัดว่าใช้เวลานานกว่ารอบแรกมาก

รพีพงษ์ขมวดคิ้วแน่น ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด เกรงว่าเขาก็คงจะยืนหยัดไม่ได้ไปตั้งนานแล้ว

แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ หน้าผากของรพีพงษ์ก็มีเหงื่อออกมาแล้ว

สถาการณ์ของธีรพัฒน์ ก็ยิ่งจะแย่ลงเรื่อยๆ

“เด็กน้อย ดูออกว่าเอ็งรักภรรยาของเอ็งมาก ข้าจะเอาทุกสิ่งอย่างที่เอ็งเคยให้ข้าคืนสู่กลับให้เอ็ง ถือว่าข้าตอบแทนคืนให้กับเอ็งแล้ว”ธีรพัฒน์คิดในใจ

หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป พลังแห่งไม้เทพก็วนครบรอบที่สอง

รพีพงษ์สามารถรับรู้ได้ว่า อารียาในเวลานี้ พิษยาเปลี่ยนวิญญาณที่อยู่ในร่างกายแทบจะถูกระงับไว้ไม่สามารถแพร่กระจายได้อีกแล้ว และพลังแห่งไม้เทพกลับว่าเข้าไปเติมเต็มทั้งร่างกายของอารีรอบแทน

ถ้าหากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถที่จะรับพลังแห่งไม้เทพนี้ได้เยอะเช่นนี้เลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เล็กน้อย เกรงว่าก็จะทำให้ร่างกายระเบิดได้แล้ว

แต่เพราะว่ามีความช่วยเหลือของรพีพงษ์อยู่ ต่อให้อยู่ภายใต้การควบคุมของจิตวิญญาณเทพที่แข็งแกร่งขนาดไหน พลังแห่งไม้เทพก็จะกระจายไปยังเส้นลมปราณของเธออย่างสม่ำเสมอ การทำงานของมันเพียงแค่นำมาใช้ต่อต้านพิษของยาเปลี่ยนวิญญาณ นี่จึงทำให้ดูเหมือนว่าอารียาไม่ได้เป็นอะไรที่ร้ายแรง

“ลำดับต่อมา ก็คือการวนรอบที่สาม วนรอบที่สามเสร็จแล้ว พิษของยาเปลี่ยนวิญญาณถูกควบคุมไว้แล้วทั้งหมด อย่างน้อย ก่อนที่ภรรยาของเอ็งจะจากโลกนี้ไป ก็จะไม่มีอาการกำเริบขึ้นอีกแล้ว”

ธีรพัฒน์พูดอย่างเนิบๆ ลมหายใจของเขาอ่อนแรงลงอย่างมาก

รพีพงษ์มองไป ทอดถอนใจอย่างมาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท