พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1216 รอเขานั่นแหละ

บทที่1216 รอเขานั่นแหละ

“ลูกศิษย์? คุณหมายถึงตนัส?” อุเอสึงิ ฮารุเข้าใจทันใด

“ทำไมฉันคิดไม่ถึงนะ คุณชาย คุณฉลาดจริงๆ!”

รพีพงษ์ยิ้ม ด้วยสายตาอาฆาต

“ถ้าคนที่ชื่อพรต ทำเรื่องไร้ศีลธรรมแบบนี้จริง ผมไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่!” รพีพงษ์กล่าว

“เดี๋ยวก่อน”

ขณะนี้ ฝนสุดายืนขึ้นพูด “พวกคุณพูดมาเยอะขนาดนี้ แล้วตนัสพักที่ไหน พวกคุณรู้มั้ย?”

“ฉันจะไปสืบเดี๋ยวนี้!”

อุเอสึงิ ฮารุพูดขึ้นทันที

“ไม่จำเป็น”

รพีพงษ์ยิ้มอย่างมั่นใจ “วางใจได้ ไม่นานผมจะหาเขาเจอ”

ฝนสุดามองไปยังรพีพงษ์ที่มั่นใจเต็มร้อย ถ้าเป็นคนอื่น ฝนสุดาจะต้องคิดว่าเขากำลังพูดโม้อยู่แน่นอน

แต่ ประโยคนี้รพีพงษ์พูดออกมา ไม่รู้ว่าทำไม ฝนสุดาจึงเชื่ออย่างไร้เหตุผล

บางที นี่คือเสน่ห์ที่ว่าสินะ!

รพีพงษ์ออกมาจากโรงแรม มองไปที่ป้ายข้างบน

ไม้ทั้งสองแทนตัวอักษรหลิน ดูๆแล้ว ฝนสุดาผูกพันอย่างลึกซึ้งจริงๆนะเนี่ย

รพีพงษ์เดินบนถนนที่ว่างเปล่า หลับตาลง พลังจิตวิญญาณเทพค่อยๆแผ่ขยายออก

ภายใต้พลังของแดนดั่งเทพขั้นยอด แม้พลังปราณจะไม่สามารถปกคลุมเมืองเล็กๆทั้งเมืองนี้ได้ แต่ รพีพงษ์มีวิธีของเขา

ช่วงบ่าย ตอนที่รพีพงษ์เอายาเม็ดนั้นให้ตนัส ได้ใส่ปราณทิพย์ไว้

และรพีพงษ์ที่จิตวิญญาณเทพตื่นภวังค์แล้ว สามารถตามตำแหน่งพลังปราณของตนเองได้ ต่อให้เป็นแค่อากาศ เขาก็ตามรอยได้อย่างรวดเร็ว

รพีพงษ์ลืมตาขึ้น ด้วยรอยยิ้ม เดินไปตามทางที่ตัวเองคิดไว้

ในห้องน้ำสาธารณะ ตนัสกำลังขมวดคิ้วจับท้องเดินออกมา

“แม่ง ท้องเสียชิบหาย ไอ้เด็กนี้มันเก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ”

เพิ่งเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว ตนัสรู้สึกปั่นป่วน เริ่มเจ็บขึ้นมาอีกแล้ว

“ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว……”

เขาพูดพลาง หันหลังกลับไปเข้าห้องน้ำอีกครั้ง

สิบนาทีผ่านไป ตนัสออกมาอีกครั้ง

“เหี้ยเอ้ย ยาที่ตัวเองทำไร้ประโยชน์เหรอเนี่ย ดูๆแล้วต้องไปหาอาจารย์แล้วละ ให้ผู้เฒ่าช่วยหน่อยแล้ว”

ตนัสพูดพลาง ก้มหน้า เดินไปข้างหน้า

“โธ่!”

ในคืนแห่งความมืดมิด ตนัสชนเข้ากับคนๆหนึ่ง

“เหี้ย ใครแม่งไม่ดูตาม้าตาเรือ อยากตายหรือไง?” ตนัสด่าทอ

“แกพูด ว่าใครอยากตาย”

ในคืนแห่งความมืดมิด เสียงของรพีพงษ์เยือกเย็นผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด

“เอ๊ะ……เสียงนี้ ทำไมคุ้นหูจังนะ?”

ตนัสพึมพำ เบิ่งตามอง ไปยังคนที่อยู่ตรงหน้า

เมื่อเห็นก็เคร่งเครียดขึ้นมา อีกนิดเขาเกือบจะอุจจาระราดกางเกงแล้ว

“ทำ……ทำไมเป็นแกได้?” ตนัสตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว มองไปที่รพีพงษ์ด้วยความระแวง

“ไม่ต้องกลัว”

รพีพงษ์พูดอย่างมีเลศนัย “ไง รสชาติของการท้องเสียโอเคมั้ย”

“แก แกคิดจะทำอะไร ลงโทษฉันไปแล้วไม่ใช่หรือไง หรือ แกยังจะสั่งสอนฉันอีก?” ตนัสกล่าวอย่างเคร่งเครียด

เขาพยายามควบคุมกล้ามเนื้อหูรูดของตัวเอง ไม่งั้นอุจจาระจะออกมาแล้วจริงๆ

“ไม่ต้องเครียด ฉันแค่อยากถามแก ว่าอยากจะหายในทันทีมั้ย” รพีพงษ์ถาม

“อยากแน่นอนสิ”

ตนัสเสียใจจนจะร้องไห้ออกมาแล้ว “รสชาติแบบนี้ มันทรมานเกินไปจริงๆ”

“ในเมื่ออยากหาย งั้นแกก็ต้องจัดการเรื่องหนึ่งให้ฉัน” รพีพงษ์กล่าว

“เรื่องอะไร?”

ตนัสถาม ดูๆไปค่อนข้างเคร่งเครียด

“พรต แกรู้มั้ยว่าอาศัยอยู่ที่ไหน?” รพีพงษ์มองไปที่อีกฝ่ายแล้วกล่าว

“ทำไมแกรู้จักอาจารย์ของฉันได้?” ตนัสไม่สบอารมณ์ สงสัยเป็นอย่างมาก

รพีพงษ์ยิ้ม “ฉันมีวิธีของฉัน ฉันแค่ถามแก ว่าแกรู้มั้ยว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน?”

“ฉัน……”

ดวงตาของตนัสกลับกลอกไปมา แล้วพูดทันใด “อาจารย์ผู้เฒ่าเค้าไปทั่วสารทิศ ฉันจะรู้ได้ไงว่าเขาอยู่ที่ไหน?”

“เหรอ?”

รพีพงษ์หลับตามองอีกฝ่าย “ดูๆแล้ว ฉันลงโทษแกยังรุนแรงไม่พอ บอกมา แกจะเอามือซ้ายหรือมือขวา!”

“หา? แก……”

ยังไงตนัสก็เป็นแดนดั่งเทพ แต่ เมื่ออยู่ต่อหน้ารพีพงษ์เขาไม่สามารถโต้ตอบใดๆได้เลย

“คุณชายรพี ปล่อยผมไปเถอะนะ ยังไงผมก็เป็นนักกลั่นยา ถ้าแม้จะไม่เก่ง แต่ ก็ต้องใช้มือทั้งสองทำมาหากินนะ ถ้าแขนถูกคุณตัดออกไปข้างหนึ่ง แล้วอนาคตผมจะทำไง?” ตนัสร้องโอดครวญ

“เพียงแค่บอกมาว่าพรตอยู่ที่ไหน ฉันไม่เพียงไม่ตัดแขนแก ตรงกันข้าม ฉันยังให้แกหายจากการเจ็บปวดของท้องเสียด้วย” รพีพงษ์กล่าว

“อาจารย์อยู่ไหน ฉันไม่รู้จริงๆนะ”

ตนัสกล่าว “ต่อให้แกฆ่าฉัน ฉันก็ไม่รู้ คุณชายรพี อย่าทรมานฉันอีกเลย ตอนนี้ฉันก็อนาถมากพอแล้ว”

“แกไม่รู้จริงๆ?”

รพีพงษ์ไม่สบอารมณ์ มองไปที่อีกฝ่าย “ปกติพวกแกศิษย์กับอาจารย์ไม่มีวิธีติตต่อกันงั้นเหรอ?”

ตนัสก้มหน้าส่ายหัว “ฉันถูกฆ่าชื่อออกจากสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุตั้งนานแล้ว อาจารย์ผู้เฒ่าเค้าไม่รับศิษย์อย่างฉันตั้งนานแล้ว แล้วฉันจะมีหนทางติดต่อเขาได้ไง ไม่งั้น แกคิดว่าฉันอยากวางแผนหลอกลวงเหล่านั้นเหรอ?”

รพีพงษ์มองนักพรตคนนี้ ก้มหน้าครุ่นคิดสักพัก

การแสดงของนักแสดงช่ำชองคนนี้ รพีพงษ์พอจะเข้าใจอยู่บ้าง

ผ่านไปสักพัก รพีพงษ์พูดเบาๆว่า “ดูๆแล้วฉันเข้าใจแกผิดไปแล้วละ แกไม่รู้จริงๆว่าพรตอยู่ที่ไหน”

“ใช่ คุณชายรพี ต่อให้คุณเอาความกล้าให้ผมสักเท่าไหร่ ผมก็ไม่กล้าโกหกคุณหรอก” ตนัสกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า “โอเค ดูๆแล้วหาแกก็ไร้ประโยชน์ แต่ ต่อไปถ้าแกมีข่าวคราวของพรต จำไว้บอกฉันให้เร็วที่สุดนะ”

รพีพงษ์พูดจบ ก็หันหลังเดินจากไป

“คุณชายรพีเดินทางปลอดภัยครับ……”

ตนัสโบกมือตะโกนจากด้านหลัง จนกระทั่งมั่นใจแล้วว่ารพีพงษ์จากไปแล้วจริงๆ

“เหอะ เด็กโง่ ยังอ่อนหัดจริงๆ หลอกเขาได้อย่างง่ายดายจริงๆ”

ตนัสพูดกับตัวเองอย่างเหยียดหยาม “จะให้ฉันบอกที่อยู่ของอาจารย์กับแก? ฝันไปเถอะ!”

เขาพูดพลาง ท้องก็เริ่มเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง

“โอ้ย ไม่ไหวแล้ว ฉันต้องรีบไปหาอาจารย์แล้ว ไอ้เหี้ยรพีพงษ์ รอให้อาการท้องเสียของฉันหายก่อน จะต้องให้อาจารย์ทำยาพิษ ฆ่ามัน!”

ตนัสพูดพลาง หันหลังเดินไปอีกทาง

เขตแดนของเมืองเล็กนี้ มีบ้านไม่กี่ครอบครัวกระจายอยู่กัน

ในบ้านที่ดูธรรมดาทั่วไป กำลังสว่างไสว

ผู้เฒ่าที่ตาบวมเหลี่ยม กำลังลิ้มลองอาหารอันโอชะที่วางอยู่บนโต๊ะ

ก๊อกก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผู้เฒ่าคนนี้เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมาทันใด

“คนสวย ฉันมาแล้ว”

ผู้เฒ่าพูดพลาง รีบยืนขึ้น เปิดประตู

“อาจารย์ อาจารย์ต้องช่วยผมนะ!” ตนัสปรากฏกายต่อหน้าผู้เฒ่า

ผู้เฒ่าที่ตาบวมเหลี่ยมนี่ไม่ใช่ใคร คืออาจารย์ของตนัส พรต

“แม่ง ที่แท้ก็แกไอ้เกเร ฉันคิดว่าคนสวยที่ฉันเรียกมาแล้วเสียอีก” พรตกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด หันหลังแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร

“อาจารย์ อาจารย์ต้องช่วยผมนะ เพียงแค่อาจารย์ช่วยผม ต่อไปเรื่องหญิงสาวของท่าน ผมจะจัดการให้เอง” ตนัสกล่าว

“ว่ามา ครั้งนี้เป็นอะไรอีก?” พรตเดินเหล้าแล้วถาม

“ผม……ผมถูกทำร้าย ท้องร่วงอย่างหยุดไม่อยู่” ตนัสกล่าว “ผู้เฒ่ารีบๆช่วยผมเถอะนะ”

“ท้องร่วง”

พรตเยาะเย้ย “เรื่องเล็กแค่นี้ยังมารบกวนฉัน ถ้าถูกคนสะกดรอยตาม ทำลายเรื่องของฉัน ฉันแม่งจะฆ่าแก!”

“วางใจได้อาจารย์ ไม่มีใครตามมา” ตนัสกล่าว “แต่ก็นะ ให้ผู้เฒ่าท่านอยู่ที่นี่ แย่จริงๆ”

“ใช่ แต่ผู้ว่าจ้างในครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพียงแค่ฉันจัดการเรื่องของเขาให้เสร็จ สิ่งตอบแทนที่เขาจะให้ค่อนข้างมากมายเลยละ ยากที่จะปฏิเสธได้” พรตกล่าว

“งั้น……ถึงตอนนั้นแบ่งส่วนแบ่งให้ศิษย์ด้วยได้มั้ย” ตนัสพูดกลาง ใส่เหล้าให้พรต

“แบ่งส่วนแบ่งให้แก?” พรตชักตาใส่ตนัส “ไอ้นี่ สองวันนี้ได้เงินไม่น้อยล่ะสิ”

“เห้อ อย่าพูดเลย เพราะไอ้รพีพงษ์นั่นแหละ เงินที่ได้มาสองวันนี้ ชดใช้จนหมดแล้ว!” ตนัสเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง

“ใครนะ! รพีพงษ์?”

พรตกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ เขาหน้าบึ้ง จากนั้น ก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมา

“ได้ ผู้ว่าจ้างพูดไว้ไม่มีผิด ไอ้นี่มันมาที่นี่แล้วจริง ข้ากำลังรอมันอยู่เลย!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท