พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1217 นักกลั่นยา

บทที่1217 นักกลั่นยา

“อาจารย์ ท่านพูดว่า ท่านกำลังรอรพีพงษ์?” ตนัสถาม

พรตพยักหน้า “ใช่ ภารกิจที่ผู้ว่าจ้างให้ฉันทำ ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือการพุ่งเป้าไปที่รพีพงษ์ ไม่คาดคิด ว่าเด็กนี่มันจะมาจริงๆ”

“งั้นก็ดีเลย” ตนัสพูดพลาง ส่งสายตาแห่งความอาฆาต “ไอ้นี่ ทำร้ายผมอนาถขนาดนี้ ผมอยากสั่งสอนมันตั้งนานแล้ว!”

“แต่ ก่อนที่จะสั่งสอนมัน ท่านช่วยผมรักษาอาการท้องร่วงนี่ก่อนได้มั้ย การท้องร่วงนี้ ไอ้รพีพงษ์คนนั้นแหละที่ทำ” ตนัสพูดพลาง จับท้องวิ่งไปที่ห้องน้ำ

ตอนที่เขาออกมาจากห้องน้ำ เห็นในมือของพรตมียาโผล่ขึ้นมา

“นี่คือ……”

“กินลงไป แล้วอาการท้องร่วงของแกจะหายไป” พรตพูด

“ขอบคุณยาของอาจารย์!” ตนัสรับมาด้วยสองมือ แล้วกินลงไป

ที่แท้ ผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกว่าท้องเริ่มอุ่น สบายขึ้นอย่างมาก อาการไม่ดีเหล่านั้นก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว

“ไม่แปลกที่อาจารย์เป็นหนึ่งในห้าของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ ยาถึงโรคหาย ต่อให้เป็นการทำร้ายที่เกิดจากยอดฝีมือแดนดั่งเทพขั้นสุดยอด ก็สามารถคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย” ตนัสชื่นชม

“เพราะรพีพงษ์มันใส่พลังปราณไปนิดเดียวเท่านั้น ถ้ามันใช้พลังทั้งหมด ฉันก็ปวดหัวอย่างที่สุดเหมือนกัน แต่ก็นะ ยังไม่ถึงขั้นช่วยอะไรไม่ได้หรอก” พรตกล่าว

“อาจารย์ พูดมาเลยครับ ว่าเราจะจัดการรพีพงษ์อย่างไรดี” ตนัสถาม

“การแพร่กระจายของโรคระบาดครั้งนี้ดึงดูดความสนใจของรพีพงษ์ได้จริงๆ ก้าวต่อไป สิ่งที่พวกเราต้องทำคือจัดการมัน ต่อให้ฆ่ามันไม่ตาย ก็ต้องถ่วงเวลามันไว้ นี่เป็นสิ่งที่ผู้ว่าจ้างให้ฉันทำ”

พรตมองไปที่ตนัสกล่าว “ถ้าแกช่วยฉัน หลังจากสำเร็จแล้ว ฉันจะให้แกยี่สิบล้าน แกคิดว่าไง”

“ยี่สิบล้าน?” ตนัสอ้าปากค้าง ชีวิตของไอ้รพีพงษ์นี่ มีค่าจริงๆ

พรตหัวเราะในใจ

แค่ยี่สิบล้าน ก็ทำให้เขาดีใจได้ขนาดนี้ ต้องรู้ไว้ ว่าผู้ว่าจ้างในครั้งนี้ ให้เขาสองร้อยล้าน!

“โอเคล่ะ เพราะแพร่กระจายโรคระบาดในครั้งนี้ ฉันว่าจากนิสัยของรพีพงษ์ไม่มีทางนิ่งดูดายอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน ฉวยโอกาสช่วงนี้ แกสืบให้ฉันว่ามันพักที่ไหน ทุกๆวันเจอใครบ้าง”

จากนั้น พรตหยิบยาเม็ดหนึ่งขึ้นมา “ยาเม็ดจิ่วจ่วนเม็ดนี้ เป็นผลงานชิ้นเอกของฉัน ถ้าเอาขายตามท้องตลาด ยังไงก็มีมูลค่ากว่าสิบล้าน แกหาโอกาส ให้รพีพงษ์กินลงไป”

ตนัสรับยาเม็ดจิ่วจ่วนมา แล้วพยักหน้า เพียงแค่หาโอกาสลงมือ ยี่สิบล้านก็จะเป็นของตนแล้ว!

บางครั้ง เมื่ออยู่เผชิญกับผลประโยชน์ มนุษย์จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปทั้งหมด

ตนัสตัวคนเดียว

“จะว่าไป ผู้หญิงที่ข้าเรียกมา ทำไมถึงตอนนี้ยังไม่มาอีกนะ ทำให้คนหมดสนุกจริงๆ” พรตกล่าว

“อย่าใจร้อนสิอาจารย์ ไม่แน่อาจจะกำลังมานะ” ตนัสตอบ

ในขณะเดียวกันนี้ ประตูใหญ่ได้ดังขึ้นอีกครั้ง

“ครั้งนี้ต้องใช่แน่ๆ!” ตาบวมเหลี่ยมของพรตหลับตามองไปที่ประตู

“ผมไปเปิดเอง!”

ตนัสพูดอย่างเอกใจใส่ แล้วมาที่ประตู

ประตูเปิดออก ตนัสนั่งลงกับพื้น ด้วยสายตาหวาดกลัว ราวกับเห็นผีก็มิปราณ

พรตไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตะโกนถามว่า “มาแล้วก็เข้ามาสิ กลัวว่าฉันจะจ่ายเงินไม่ไหวเหรอ?”

ผ่านไปไม่กี่วินาที ด้านนอกไม่มีเสียงใดๆดังขึ้น

พรตไม่สบอารมณ์ คิดในใจ คงไม่ใช่ตนัสเห็นสาวสวย แล้วแย่งไปก่อนแล้วนะ

นึกถึงจุดนี้ เขายืนขึ้นเดินไปที่ประตู เดินไปได้ไม่ถึงสองก้าว ก็เห็นสีหน้าหวาดผวาของตนัส ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ

แล้วด้านหลังของเขา เป็นวัยรุ่นที่ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม เดินเข้ามาช้าๆ

“แกเป็นใคร ทำไมมาถึงนี่ได้!” พรตถาม

“เกียวโต รพีพงษ์”

รพีพงษ์กล่าวอย่างสงบ

พรตตกใจหน้าซีด มองไปที่ตนัสอย่างเกรี้ยวกราด “ไอ้นี่ บอกว่าไม่มีใครสะกดรอยไม่ใช่เหรอ?”

“ผม……ผมจะรู้ได้ไงว่ามันฉลาดขนาดนี้” ตนัสกล่าวอย่างท้อใจ

“หลอกให้ตายใจแล้วค่อยจัดการ”

รพีพงษ์หัวเราะ “ก่อนหน้านี้ฉันเห็นแกไม่อ้อนวอนให้ฉันช่วยแก้อาการท้องร่วง ก็เลยเดาว่าแกต้องมาหาอาจารย์ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันแค่ตามหลังแกมาก็ได้แล้ว”

“แกมัน……”

เลวทราบสองคำ สุดท้ายตนัสก็ไม่ได้พูดออกมา แต่ ในใจกลับเสียใจอย่างที่สุด

คิดว่ารพีพงษ์ถูกตัวเองหลอกแล้ว ไม่คาดคิดว่าคนที่ถูกหลอก เป็นเขาเองต่างหาก!

“แกคือพรต?”

รพีพงษ์หุบยิ้ม มองไปที่เขาอย่างเลือดเย็น “โรคระบาดของเมืองเล็ก แกเป็นคนทำใช่มั้ย!”

รพีพงษ์พูดตรงๆ ไปที่หัวข้อหลัก!

“ใช่ ข้าคือพรต เรื่องโรคระบาดที่แกว่านั้น ข้าเป็นคนทำเอง”

พรตดื่มเหล้าแสร้งทำเป็นเยือกเย็น แล้วกล่าว “คนอื่นกลัวแก แต่ ฉันไม่กลัว”

“เหรอ?”

ในมือรพีพงษ์ปรากฏเป็นดาบยาวขึ้นมา ดูแคลน “แกทำเรื่องที่ไร้ศีลธรรมแบบนี้ ไม่กลัวคนอื่นรังเกียจแก? บอกมา ทำไมแกต้องทำแบบนี้ด้วย!”

“เหอะ คนรังเกียจเป็นหมื่นแล้วไง เพียงแค่ให้เงิน ต่อให้เป็นเรื่องที่ไร้ศีลธรรมกว่านี้เป็นพันเท่า ฉันก็ทำ!”

พรตพูดอย่างไม่อายปาก “ฉันก็ไม่อายที่จะบอกแกนะ ว่ามีคนให้เงินข้าเพื่อเอาชีวิตแก แต่ หลังจากที่ฉันเห็นแกแล้ว ฉันเปลี่ยนใจแล้วล่ะ”

“อ๋อ?” รพีพงษ์มองอีกฝ่ายอย่างดูแคลน

“ถ้า แกให้เงินมากกว่า ฉันสามารถไตร่ตรองปล่อยแกไปได้” พรตยิ้มพลางกล่าว

รพีพงษ์จับดาบยาวในมืออย่างแน่น “ความตายอยู่ตรงหน้า แล้วยังคิดเรื่องแบบนี้อีก แกมันผู้เฒ่าเลวทรามจริงๆ!”

พรตมองไปที่ดาบยาวอันเปล่งประกาย แล้วดูแคลน “ถ้าเทียบเรื่องการต่อสู้ ฉันไม่เก่งเหมือนแก แต่ ถ้าแกคิดว่านักกลั่นยามีฝีมือแค่นี้ งั้นก็คิดผิดอย่างมหันต์แล้วล่ะ”

“เหรอ?”

รพีพงษ์ก้าวไปที่พรตสองก้าว “ฉันอยากลองดูจัง”

รพีพงษ์พูดจบ ลงมืออย่างไม่ไยดี พลังจิตในร่างกายไหลเวียน พุ่งไปล็อคพรตไว้

พรตเหมือนกับถูกมัดไว้ ด้วยความงง

“เหอะ แม้แต่แดนดั่งเทพก็ไม่ใช่ แล้วยังกล้าโอหังต่อหน้าฉันอีก!”

รพีพงษ์กล่าวอย่างดูแคลน

เรื่องการต่อสู้ พรตยังสู้ศิษย์ของเขา ตนัสไม่ได้

“ไปตามซะ!”

รพีพงษ์ยกมือขึ้นฟันลงไป โดยไม่ไยดี

แต่ในขณะเดียวกันนี้เอง จู่ๆรพีพงษ์ก็รับรู้ได้ ถึงลมที่พัดผ่านหลังไป

และ พัดอย่างเร็วมาก แม้แต่รพีพงษ์ยังนับถือ

ช่วงไม่กี่วินาที รพีพงษ์หันหลังกลับไป ตั้งรับการโจมตีนี้

“แกคือ?” รพีพงษ์เคร่งเครียด

ผู้เฒ่าเครายาวท่านหนึ่งเดินมาช้าๆ

“ฉันคือประมุกเมธิดา” ผู้เฒ่ากล่าว “ปล่อยผู้สูงอายุพรตไป แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก”

“หอกวยหลาย?”

เหมือนว่ารพีพงษ์จะเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน

ในฐานะที่เป็นชุมชนใหญ่อันดับหนึ่งของเจียงหนาน การค้าของหอกวยหลายมีอยู่ทั่วประเทศจีน

“ในเมื่อเป็นหอกวยหลาย ทำไมต้องเข้ามายุ่งละ”

รพีพงษ์กล่าว

จากจิตวิญญาณเทพ เขาพบว่า ผู้เฒ่าที่ชื่อเมธิดานี้ อย่างน้อยก็เป็นแดนดั่งเทพขั้นกลาง

“ผู้สูงอายุพรตเป็นแขกพิเศษของหอกวยหลายของเราถ้าแกจะฆ่าเขา ฉันไม่ยุ่งไม่ได้” เมธิดากล่าว

“ผู้สูงอายุพรต”

“ฮ่าฮ่า!”

ในขณะนี้ พรตที่รู้สึกตัวกลับมาหัวเราะ “รพีพงษ์ เห็นหรือยัง ถ้าแกจะฆ่าฉัน จะมีคนมากมายมาปกป้องฉัน นี่ คือคุณค่าของฉันนักกลั่นยา!”

เหมือนว่ารพีพงษ์จะเข้าใจบางอย่าง

ยาที่นักกลั่นยาของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ ทำไว้ทั้งหมด เป็นสิ่งล้ำค่าของโลก แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ตระกูลใหญ่แย่งชิงกัน

ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งสองคนจึงรู้ๆกัน ว่า นักกลั่นยาช่วยตระกูลใหญ่กลั่นยา และตระกูลใหญ่รับผิดชอบปกป้องนักกลั่นยา

นั่นก็หมายถึง นักกลั่นยาไม่จำเป็นต้องมีวิชาการต่อสู้ที่เก่ง เพียงแค่มีตระกูลใหญ่ปกป้อง ชาตินี้ก็จะปลอดภัยแล้ว

หลังจากที่ทำความเข้าใจแล้ว รพีพงษ์มองไปที่เมธิดา “ประมุกเมธิดา คนแบบนี้ คุณก็จะปกป้องเหรอ?”

“เหอะเหอะ ทุกๆปีผู้สูงอายุพรตกลั่นยาสองตัวให้ฉันฟรีๆ ฉันปกป้องเขา ก็เป็นเรื่องที่ควรทำ” เมธิดากล่าวอย่างสงบ

รพีพงษ์ส่ายหน้า “ไม่คาดคิด ว่าจะเจอคนแก่ตาพร่ามัวอีกแล้ว”

“เหอะเหอะ แกคิดเสียว่าฉันเป็นคนแก่ตาพร่ามัวก็ได้ แต่ ผู้สูงอายุพรต ฉันต้องปกป้องเขา” เมธิดากล่าว

“ถ้า ผมบอกว่าคุณปกป้องไว้ไม่อยู่ละ?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท