พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1220 กฎของเรา

บทที่1220 กฎของเรา

“ตะ……ตลาดนักสวนดอกไม้ จางเหล่ย” พรตกล่าว

รพีพงษ์พยักหน้า เพียงแค่หาตัวการเจอ ก็ง่ายแล้ว

สิ่งที่ตัวเองอยากรู้โดยทั่วไปก็กระจ่างแล้ว รพีพงษ์จึงได้ผ่อนแรงที่ขาลง

“คุณชายรพี ผมพูดสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมดแล้ว ผมรับรอง ว่าต่อไปจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก คุณปล่อยผมไปเถอะนะ” พรตกล่าว

“ใช่ คุณชายรพี อาจารย์ของผมแก่แล้วหน้ามืดตามัว เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ต่อไปผมจะช่วยคุณดูเอง คุณปล่อยพวกเราไปเถอะนะ” ตนัสพูดข้างๆ

“ปล่อยพวกแกไป?”

รพีพงษ์ดูแคลน หลังจากที่มองสายตาอ้อนวอนของพวกเขา แล้วค่อยๆเดินออกจากห้องไป

“ในห้องกลับมาสงบอีกครั้ง”

พรตลูกศิษย์อาจารย์ที่คุกเข่าอยู่กับพื้นมองไปรอบๆ อย่างงงงวย

“อาจารย์ เขา……ไปแล้ว?”

“ใช่มั้ง ไม่งั้นแกออกไปดูหน่อยมั้ย?”

“ผมไม่ออกไป” ตนัสรีบปฏิเสธ เขากลัวรพีพงษ์จะย้อนกลับมาอีกครั้ง

เวลาผ่านไป ในตอนที่พวกเขากำลังจะโล่งใจนั้น จู่ๆ เปลวไฟสีฟ้าอ่อนหล่นลงมาจากบนฟ้า

“”อาจารย์ ไฟไหม้แล้ว……“

“ไอ้เหี้ยรพีพงษ์ มันจะฆ่าพวกเรา……”

พรตตะโกนออกมา “รพีพงษ์ วันนี้แกฆ่าฉัน ทำผิดต่อสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ! พวกเขาจะต้องล้างแค้นให้ฉัน!”

ในค่ำคืนที่มืดมิด ไฟหล่นลงมาจากฟ้า เสียงกระเบื้องและกำแพงอิฐร่วงลงมา ทำให้พรตตะคอกออกมาอย่างสิ้นหวังหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด

รพีพงษ์ใช้พลังปราณจุดเป็นไฟ เผาไหม้ทั้งห้องได้อย่างรวดเร็ว

กาดำแบบนี้ รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยไว้แน่นอน

เพียงแค่ ผู้หญิงที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของพรต ทำให้เขาครุ่นคิด

ทุกอย่างกลับมาสงบ

ไฟมอดไหม้ทุกอย่าง ห้องไหม้จนเป็นขี้เถ้า และพรตศิษย์อาจารย์ทั้งคู่เผาไหม้เป็นเถ้าถ่าน

หลังจากที่รพีพงษ์จากไปได้ครึ่งชั่วโมง ร่างที่เลื่อนลอยมาตรงหน้าของห้องที่ถูกเผาไหม้

“สวะจริงๆ เรื่องเล็กๆยังจัดการไม่ได้”

หญิงสาวกล่าวเสียงเบา ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม

ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าของหญิงสาวสวยมาก เธอไม่สนใจ กับซากปรักหักพังที่อยู่ตรงหน้าแต่อย่างใด

ในทางกลับกัน เธอเดินเข้าไปในเถ้าถ่าน พลางเดินพลางพูดว่า “รพีพงษ์นี่ น่าสนใจจริงๆ ดูแล้ว ฉันต้องลงมือเองแล้วละ”

ในขณะที่เธอกำลังจะกลับไปนั้น จู่ๆ เธอก็เห็นใต้กระเบื้องที่ถูกเผา ราวกับมีของสิ่งหนึ่งอยู่

“นี่มัน?”

หญิงสาวก้มตัวลง ไปหยิบของขึ้นมา

ที่แท้ นี่คือยาพิษที่พรตให้ตนัส ยาเม็ดจิ่วจ่วน

“ไม่คาดคิด ว่าในโลกนี้จะมีคนทำยาแบบนี้ออกมาได้ด้วย แม้แต่ยายังไหม้ไม่ได้”

หญิงสาวกล่าว แล้วเอายาในที่อก

“ในเมื่อยานี้เตรียมไว้เพื่อรพีพงษ์ งั้นก็เก็บมันเอาไว้แล้วกัน”

เธอพูดพลาง หันหลังกลับเตรียมจะจากไป

จู่ๆ มีลมพัดมา ผมสีเทาของหญิงสาวถูกลมพัดสยาย

เธอเคร่งเครียด หันมองกลับไป เห็นเพียงตรงหน้า มีชายวัยรุ่นสมาร์ทคนหนึ่งกำลังมองมาที่ตัวเอง

“คุณ?” หญิงสาวถาม

หลังจากที่ผู้ชายเห็นผู้หญิงแล้ว ก็คุกเข่า ขอร้อง “องค์หญิงน้อย ได้โปรดไปกับผม!”

“เหอะ คุณหลงหน้ามืดตามัวไปแล้วเหรอ ฉันบอกแล้วไง ถ้ายังจัดการธุระไม่เสร็จ ฉันจะไม่มีทางไป” หญิงสาวกล่าว

“แต่……ผู้อาวุโสได้ตกลงปลงใจเรื่องงานแต่งของเราทั้งสองแล้ว” ผู้ชายกล่าว ท่าทาสง่างาม แต่มีความร้ายกาจอยู่มาก

“รู้แล้ว”

หญิงสาวตอบ “แต่ เพียงแค่ครั้งนี้ฉันทำสำเร็จ หาสิ่งที่เหล่าผู้อาวุโสหาไม่เจอ ฉันก็จะใช้เหตุผลนี้ ยกเลิกงานแต่ง!”

“องค์หญิงน้อย คุณ……” เมื่อผู้ชายได้ยิน ก็ร้อนรนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันรู้ จิรพนธ์ ที่คุณพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าใกล้ฉัน ก็แค่ให้ความสำคัญกับตัวตนของฉันก้เท่านั้น แต่ฉัน ไม่คิดอะไรกับคุณ คุณไปเสียเถอะ รอให้ฉันทำธุระให้เสร็จ จะไปบอกกับผู้อาวุโสเอง” ผู้หญิงกล่าวอย่างเยือกเย็น

“องค์หญิงน้อย……”

“ทำไม ไม่ฟังฉันเหรอ?” สาวน้อยถามอย่างเลือดเย็น

“มิบังอาจ!”

ผู้ชายรีบกล่าว “เพียงแต่ ครั้งนี้ที่ผมมาเพื่อพาคุณกลับไป ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่ว่าองค์หญิงน้อยอยู่ที่ไหน ผมก็จะอยู่ที่นั่น ไม่ห่างไปไหน”

“คุณ……”

หญิงสาวเกรี้ยวกราด แล้วมองไปรอบๆทันที

“ได้ เพียงแค่คุณช่วยฉันทำสำเร็จ แล้วฉันจะไปกับคุณ”

“เชิญองค์หญิงน้อยรับสั่ง จิรพนธ์จะทำอย่างเต็มที่” ผู้ชายกล่าว

หญิงสาวยิ้ม เดินมาที่ข้างหน้าของจิรพนธ์ เอายาเม็ดจิ่วจ่วนก่อนหน้านี้ออกมา

“นี่……” จิรพนธ์มองไปที่ยา อย่างไม่เข้าใจ

“ยาพิษเม็ดนี้ เป็นมนุษย์บนโลกทำขึ้นมา” หญิงสาวกล่าว

“เหอะ ขยะ องค์หญิงน้อยได้โปรดทิ้งมันไปด้วยเถอะ จะได้ไม่แปดเปื้อนมือของคุณหนู” จิรพนธ์พูดพลาง แสดงสีหน้าเหยียดหยาม

“ไม่”

หญิงสาวครุ่นคิด “ยาเม็ดนี้เตรียมไว้เพื่อรพีพงษ์ ฉันอยากให้คุณ เอาไปให้รพีพงษ์กินด้วยตัวของคุณเอง”

“รพีพงษ์อีกแล้วเหรอ?”

จิรพนธ์ไม่สบอารมณ์ เขาคือผู้ชายที่ต่อสู้กับรพีพงษ์ บนหลังคาคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาในวันนั้น

“ไอ้นี่ จะฆ่ามันทำไมต้องใช้ยาพิษ ใช้ดาบฟันไปก็พินาศแล้ว” จิรพนธ์กล่าวอย่างเหยียดหยาม แต่ลืมไปแล้วว่าวันนี้ เขาถูกกระบี่สยบมารทำให้บาดเจ็บ

“ฉันจะให้คุณวางยา คุณทำได้มั้ย?” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น

“ได้ ผมทำ!”

จิรพนธ์รับยาเม็ดจิ่วจ่วนมา ไม่พูดอะไรมาก หันหลังแล้วจากไป

เมื่อเห็นจิรพนธ์เดินไปแล้ว หญิงสาวก็ยิ้มออกมา

“การวางยาฆ่ารพีพงษ์ นั้นค่อนข้างยาก ดีละ แบบนี้ก็ยืดเวลาไปได้อีกหลายวัน รีบไปทำภารกิจของตัวเองให้เสร็จเร็วๆดีกว่า”

ผู้หญิงพูดพลาง ก็หันหลังกลับจากไป

……

โรงแรมไม้คู่

ตอนที่รพีพงษ์กลับมาที่นี่ ได้มืดค่ำแล้ว

“มีห้องว่างมากมาย เปิดสักห้องนอนสักคืนก็แล้วกัน”

รพีพงษ์พูดกับเซจึนะที่เข้ากะนอกเวลา

“ขอโทษครับคุณรพี ทุกวันจะเปิดแค่ยี่สิบห้องเท่านั้น ห้องที่เหลือล็อคเอาไว้ อีกอย่าง คุณหนูให้คุณพักที่ห้องของเธอ” เซจึนะตอบ

“ไม่ไม่ แบบนี้ได้ไง ชายหญิงสองต่อสองในห้องเดียวกัน กระทบต่อภาพพจน์ของฝนสุดา” รพีพษ์กล่าว “คุณช่วยผมเปิดห้องเถอะนะ”

“คุณรพี บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจจริงๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น แม้เป็นหญิงชายอยู่กันสองต่อสองในห้องเดียวกันเป็นเรื่องที่ปกติมาก” เซจึนะกล่าว

“สภาพประเทศต่างกัน ผมรู้ ที่ประเทศญี่ปุ่นของพวกคุณ ยังมีชายหญิงลงอ่างออนเซ็นด้วยกันอีกด้วย แต่นี่คือประเทศจีน ต้องทำตามกฏของเรา” รพีพงษ์ตอบกลับ

“คุณรพีพูดมีเหตุผลมาก” เซจึนะพยักหน้า “ภายภาคหน้าถ้ามีโอกาส ถ้าคุณรพีไปประเทศญี่ปุ่นแล้วอยากลองอ่างออนเซ็น ผมจัดให้ได้ครับ”

“ไม่ ไม่ เพียงแค่คุณเปิดห้องให้ผมก็พอแล้ว ห้องไหนก็ได้ได้ทั้งหมด” รพีพงษ์กล่าว

“ไม่ได้!”

“ยังไม่ได้อีกเหรอ?”

รพีพงษ์แปลกใจ กับคนประเทศญี่ปุ่นที่ต่อปากต่อคำคนนี้ จนมีความรู้สึกอยากต่อยเขาขึ้นมา

“กุญแจอยู่ที่คุณหนู ถ้าคุณรพีต้องการ ถามคุณหนูได้นะครับ”

เซจึนะพูดพลาง กลับไปที่ห้องทำงานนอกเวลา

รพีพงษ์ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ช่างมัน ไปถามฝนสุดาเรื่องกุญแจดีกว่า จะคุยสิ่งที่ได้รับจากคืนนี้กับเธออยู่พอดี

รพีพงษ์ขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นบนสุด เดินตามทางเดินของโรงแรม หยุดที่ตรงหน้าห้องเพลสซิเดนท์สูทของฝนสุดา

กำลังเตรียมจะเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงขี้เกียจของฝนสุดาดังขึ้นมาจากข้างใน

“เข้ามาได้เลย ไม่ได้ล็อคประตู”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน