พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1224หินลั่วหง

บทที่ 1224หินลั่วหง

“คนในโลกนี้ ล้วนเป็นคนไร้ประโยชน์! ”

ขณะที่พูด ชิงจู๋ตกตะลึงทันที เขาเห็นว่า เดิมพลังของกระบี่ยักษ์ที่กดจนทำให้รพีพงษ์ซึ่งหายใจไม่ออก ไม่นึกเลยว่าเขาค่อยๆ ยืดตัวขึ้น

แม้ว่าท้องฟ้าจะเต็มไปด้วยหินและทรายที่ปลิวว่อนกระแทกไปที่ร่างกายของรพีพงษ์อย่างไร้ความปรานี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ

สิ่งที่ทำให้ชิงจู๋ประหลาดใจขึ้นไปอีก ก็คือเขารู้สึกได้ชัดเจนว่าพลังของรพีพงษ์แตกต่างไปจากเมื่อก่อนมาก

“ไอ้หนูนี่ ได้เข้าสู่แดนเทพแล้วหรือ?” ชิงจู๋ถามด้วยความประหลาดใจ

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของรพีพงษ์ “ถ้าแสดงไพ่ตายออกมาเร็ว มันก็จะน่าเบื่อเกินไป!”

หลังจากนั้น รพีพงษ์ก็ที่ใช้เทคนิคลับเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง ใช้แรงผลักกระบี่ยักษ์ออกไปด้วยมือทั้งสองข้าง

“ถ้าหากในโลกนี้มีอัจฉริยะ คนคนนั้นจะต้องเป็นผมคนเดียว!”

รพีพงษ์กล่าวอย่างหยิ่งผยอง กระบี่สยบเซียนนั้นไร้ความปรานีฟันไปโดยตรง

ชิงจู๋รีบต้าน

หลังจากเสียงดัง รอยร้าวเล็ก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนกระบี่ยักษ์

“สิ่งที่คุณเสกออกมาเป็นของเล่นอะไร ช่างเปราะบางมาก” รพีพงษ์กล่าวเย้ยหยัน

“คุณ……”

ขณะที่ชิงจู๋กำลังจะโกรธ เขาก็รับรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ข้างหลังเขา

หันกลับไปอย่างรวดเร็ว แล้วเห็นว่ามังกรที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียว กำลังโจมตีเขาอย่างรวดเร็ว

“ไอ้ทรยศ ไม่นึกเลยว่าจะลอบโจมตี!”

ชิงจู๋เป็นเจ้าแห่งแดนเทพ ทำให้ร่างกายของเขาก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาได้กระโดดไปด้านข้าง และหลบเลี่ยงไปได้

“กับคนอย่างคุณ ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องศีลธรรม!”

ขณะพูด กระบี่สยบเซียนของรพีพงษ์ก็พุ่งออกจากมือ

สยบเซียนที่รู้จักเจ้าของมานาน ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับรพีพงษ์แล้ว

ชิงจู๋เคยเห็นอานุภาพของกระบี่สยบเซียนมาก่อนแล้ว

เวลานี้ เขาหลบเลี่ยงคมกระบี่ของรพีพงษ์อย่างรวดเร็ว ด้วยสถานการณ์ที่คับขัน

นี่คือความช่วยเหลือจากอาวุธวิเศษ!

ก่อนหน้านั้นทั้งสองเป็นมนุษย์ในระดับแดนเทพขั้นแรกแต่เนื่องจาก พลังของกระบี่สยบเซียน จึงทำให้รพีพงษ์อยู่เหนือกว่า

“ไอ้เด็กเวร ผมจะฆ่าคุณ!”

หลังจากการต่อสู้รอบหนึ่ง ชิงจู๋หายใจหอบ และเสื้อผ้าของเขาขาดเกือบหมด

“น้ำหน้าอย่างคุณ?”

รพีพงษ์ไม่แยแส ดูเหมือนว่าสิ่งที่ธีรพัฒน์เคยพูดไว้ก่อนหน้านั้นมันถูกต้อง ไม่ใช่ทุกคนในทวีปโอชวินจะมียาเม็ดระดับเทพเซียน

ถ้าชิงจู๋หยิบยาเม็ดสีทองออกมาอีกในเวลานี้ รพีพงษ์รู้ว่าตนเองจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

คืนนั้นในลานบ้านของตระกูลลัดดาวัลย์ รพีพงษ์ก็กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยไม่ได้ไล่ตามอย่างต่อเนื่อง เพราะถึงอย่างไร ที่คนอาศัยอยู่ในนั้นคือคนที่ตนเองรักทั้งสองคน

ถ้าอารียา และหนูลินได้รับบาดเจ็บ เป็นสิ่งที่รพีพงษ์ไม่อยากเห็น

เวลาพรของเทคนิคลับมีจำกัด และรพีพงษ์ต้องการให้การต่อสู้จบโดยเร็วที่สุด

ร่างกายลอยขึ้นไปอยู่กลางอากาศ กระบี่สยบเซียนเป็นเหมือนรู้ล่วงหน้า มันพุ่งเข้ามาอยู่ในมือของรพีพงษ์ทันที

“คุณคิดจะยืมร่างของคนอื่น มันวิธีการที่น่ารังเกียจจริง ๆ สมควรที่จะถูกฆ่าตาย!”

ขณะพูด รพีพงษ์ก็โจมตีทันที

กระบี่มังกรเลื้อย มีพลังมากกว่าเดิมหลายเท่า

ชิงจู๋ตะลึงอยู่ที่เดิม ราวกับว่าเขาตกใจกับพลังของกระบี่สยบเซียน

ขณะที่กระบี่สยบเซียนเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ พลังของกระบี่ตัดเสื้อผ้าของฝ่ายตรงข้ามจนขาด

พฤติกรรมของชิงจู๋ทำให้รพีพงษ์ประหลาดใจ

เมื่อเผชิญกับการโจมตี แต่เขาไม่ได้หลบเลี่ยง ตรงกันข้ามเขากลับพุ่งตรงมาที่กระบี่สยบเซียน

“นี่คือ……รนหาที่ตายหรือ?”

รพีพงษ์เบิกตากว้าง

“ร่างกายนี้ไม่ใช่ของผม ถ้าคุณจะทำลาย ก็ทำลายเลย แต่จางเหลยคนนี้จะหายไปจากโลกนี้ และคุณเป็นฆาตกร!”

เสียงของชิงจู๋เย็นชา และปนด้วยความเยาะเย้ย

“คุณมันน่ารังเกียจมาก!”

ตอนนี้รพีพงษ์เข้าใจแล้ว

ถ้ากระบี่ของตนเองแทงเข้าไป มีเพียงร่างของจางเหลยเท่านั้นที่จะถูกทำลาย แต่จิตวิญญาณของชิงจู๋จะไม่ได้รับผลกระทบเลย

เขาเพียงแค่แยกตัวออกจากร่างของจางเหลยก็ได้แล้ว

“ไม่นึกเลยว่าทวีปโอชวินจะมีวิชาที่ชั่วร้ายเช่นนี้ได้!”รพีพงษ์ดุด่า

คิดดูแล้ว วิชาที่ชั่วร้ายเช่นนี้ น่าจะคล้ายกับเทคนิคลับบนโลก

ขณะที่รพีพงษ์กำลังลังเล กริชสั้นสีดำก็ปรากฏขึ้นในมือของชิงจู๋

“รพีพงษ์ ไม่มีใครบอกคุณหรือว่า ทุกเรื่องต้องทำให้มันจบ?”

หลังจากนั้น กริชสั้นกำลังจะแทงมาที่หน้าอกของรพีพงษ์อย่างไร้ความปรานี

ตอนนี้ทั้งสองคนก็เป็นแดนเทพขั้นแรกและเวลาที่พวกเขาต่อสู้ พวกเขาสองคนจะหมดสติ

บ่อยครั้งในเวลานี้ คู่ต่อสู้จะจับจุดบกพร่องของตนเองได้

เวลานี้รพีพงษ์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และถอยกลับทันที

แต่ว่า ระยะห่างระหว่างคนทั้งสองนั้นใกล้กันมาก และการโจมตีของชิงจู๋มีอานุภาพประดุจสายฟ้าที่ฟาดมา

“รพีพงษ์ คุณแข็งแกร่งมาก แต่คุณใจดีเกินไป!”

ชิงจู๋ยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก กริชสั้นสีดำในมือพุ่งเข้าไปใกล้กับหัวใจของรพีพงษ์

เรื่องราวต่าง ๆ กำลังจะถึงบทสรุป

ทันใดนั้น ชิงจู๋ตกใจเมื่อพบว่า พลังสีดำแผ่ออกมาจากกริชสั้นกำลังถูกรพีพงษ์ดูดไป ซึ่งความเร็วนี้สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า

“นี่…. มันเป็นไปได้ยังไง?”

ชิงจู๋ตกตะลึง แม้แต่รพีพงษ์ก็รู้สึกประหลาดใจ

ชิงจู๋มองกริชสั้นในมือที่สั้นลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ถูกดูดพลัง และอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก

“อะไรอยู่ในหน้าอกของคุณ!”

รพีพงษ์ผละออกทันที

ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่กี่เมตร ในเวลานี้ กริชสั้นสีดำของชิงจู๋นั้นได้หายไปแล้ว

รพีพงษ์เอามือลูบหน้าอกตนเอง และหยิบหินลั่วหงออกมา

“นี่คือ…..” ชิงจู๋เงยหน้าขึ้นมอง เพียงแค่แวบเดียวแต่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก

“ทำไมคุณถึงมีหินลั่วหง นี่เป็นของทวีปโอชวิน ส่งคืนให้ผม!” ชิงจู๋กล่าวเสียงดัง

“ที่แท้ นี่เรียกว่าหินลั่วหง”

รพีพงษ์คิดอยู่ในใจ

หยกนี้ตนเองได้มาจากชัชพิสิฐ คิดว่าชัชพิสิฐคงนำหยกนี้มาจากทวีปโอชวิน

ในวันนั้น จอมมารชูร่ากล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า หินลั่วหงนี้มีความพิเศษไม่เหมือนหยกทั่วไป ห้ามให้ตกอยู่ในมือคนอื่นเด็ดขาด

“รีบเอามาให้ผม!” ชิงจู๋กล่าวอีกรอบ

“ทำไมผมต้องให้คุณด้วย” หลังจากที่รพีพงษ์มองดูท่าทางกังวลของอีกฝ่าย เขาก็นำหินลั่วหงใส่ไว้ในอกเสื้อ

“คุณ!”

ชิงจู๋อยากเดินไปข้างหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะลังเลเล็กน้อย

รพีพงษ์มองฝ่ายตรงข้าม “ที่แท้ คุณกลัวหินก้อนนี้นี่เอง”

ขณะที่กำลังพูด รพีพงษ์ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว

“รีบไสหัวออกไปจากร่างของจางเหลย!”

รพีพงษ์ อย่าคิดว่าผมจะกลัวคุณ!” ชิงจู๋กล่าว

“รพีพงษ์แอบหัวเราะอยู่ในใจ เสียงของไอ้หมอนี้สั่นเล็กน้อย ถ้าไม่กลัวแล้วมันคืออะไร และทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ชิงจู๋เห็นหินลั่วหง

คิดว่า ถ้าหากตนเองมีเวลา จะต้องศึกษาวิจัยหินลั่วหงชิ้นนี้อย่างจริงจัง

ไปถามธีรพัฒน์ เพื่อดูว่าเขารู้จักหินก้อนนี้หรือไม่

แต่ตอนนี้ ต้องจัดการปัญหาของชิงจู๋ก่อน

“ในเมื่อคุณไม่ยอมออกมา ผมก็จะหาทางบีบให้คุณออกมาเอง!”

ขณะที่รพีพงษ์พูด พลังจิตวิญญาณเทพก็ระเบิดออกมาทันที

“คุณจะทำอะไร!”

ชิงจู๋งงงวย แต่ในไม่ช้า เขาก็ตกตะลึงและพูดไม่ออก

เดิมรพีพงษ์ใช้จิตวิญญาณเทพของตนเองสัมผัสร่างกายของจางเหลย แต่เขาไม่พบความผิดปกติใด ๆ นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนเขาเป็นแค่แดนดั่งเทพชั้นยอดเท่านั้น มันเป็นเรื่องที่ง่ายหากเจ้าแห่งแดนเทพ จะซ่อนพลังของตนเอง

แต่ตอนนี้ ทั้งคู่อยู่ในระดับแดนเทพขั้นแรก รพีพงษ์สามารถย้ายจิตวิญญาณเทพไปในร่างของจางเหลยโดยตรง

“ในโลกแห่งวิญญาณ ไม่มีใครสามารถเอาชนะผมได้!”

รพีพงษ์กล่าวอย่างเย่อหยิ่ง

เขามีจิตวิญญาณเทพโดยกำเนิด แม้แต่ธีรพัฒน์เองก็ยังรู้สึกอิจฉา

“สมควรตาย!”

จิตวิญญาณเทพของชิงจู๋ในร่างกายของจางเหลย มีความเคียดแค้นปรากฏอยู่ในสายตา

มนุษย์เล็กทองคำของรพีพงษ์ส่องประกายแสงสีทอง อยู่ตรงข้ามเขา

“ตราคุมจิต!”

ตราประทับถูกสร้างขึ้นกลางอากาศ ตามด้วยกระบี่สยบเซียน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท