พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1227 ออกเดินทางไปสำนักเทพยาเซียน

บทที่ 1227 ออกเดินทางไปสำนักเทพยาเซียน

“ขอบคุณคนสวยทั้งสองคน” รพีพงษ์กล่าวสรรเสริญเยินยอ

การตัดสินของตนเองถูกต้อง เรื่องนี้มันแปลกประหลาดเกินไป ถ้าตนเองพูดกับจางเหลย อาจใช้เวลาในการอธิบายนานครึ่งค่อนวัน

แต่ว่า หากเปลี่ยนเป็นสาวงามเหมือนนางฟ้าสองคนอธิบายและกำชับกับจางเหลย จางเหลยผู้ซื่อสัตย์จะต้องเชื่อฟังแน่นอน

“ตอนนี้ คุณรู้ถึงความร้ายกาจของฉันกับฮารุแล้วใช่ไหม” ฝนสุดากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

ฮารุที่อยู่ข้าง ๆกล่าวว่า “ใช่ คุณชาย หลังจากที่บุคคลนั้นตื่นแล้ว แววตาที่เขามองพวกเรา ทำให้ฉันรู้สึกอายเล็กน้อย”

รพีพงษ์หัวเราะ หญิงสาวสองคนนี้ เป็นคนที่สวยสง่า ถ้าผู้ชายธรรมดาเห็นพวกเธอ จะไม่รู้สึกหวั่นไหวได้อย่างไร

“คุณชาย มาดูสิว่าพี่ฝนสุดาซื้ออะไรมา นี่ซื้อเพื่อคุณเป็นพิเศษเลยน่ะ”

จากนั้น อุเอสึงิ ฮารุก็เดินเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว

เมื่อฝนสุดามีปฏิกิริยาตอบสนอง และต้องการไล่ตาม มันก็สายเกินไปแล้ว

“คุณชาย คุณดูสิ”

เมื่อรพีพงษ์มองดูสิ่งของที่อยู่ในมือของอุเอสึงิ ฮารุ ทำให้เขาเกือบจะกระอักเลือด

“เป็นอะไรไป คุณชาย ชุดนอนนี้พี่ฝนสุดาตั้งใจเลือกอย่างดี เธอรู้สึกว่าชุดนอนเมื่อคืนไม่ดีพอ ดังนั้นเธอเลยตั้งใจเปลี่ยนเป็นชุดนอนชุดนี้” อุเอสึงิ ฮารุกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ฮารุ รีบเอาไปเก็บ!”

ฝนสุดารีบเดินไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางโกรธ หยิบชุดนอนสีดำบางเฉียบตัวนี้แล้วเก็บอย่างรวดเร็ว

“พี่ฝนสุดา สิ่งที่ฉันพูดมันคือความจริง” อุเอสึงิ ฮารุรู้สึกน้อยใจเล็กน้อย

“เอาล่ะ ฮารุ วันนี้เธอไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันมาทั้งวัน เธอคงเหนื่อยแล้ว รีบกลับบ้านพักผ่อนเถอะ”

“ฉันยังอยากจะคุย…..คุยกับคุณชายอยู่”

ก่อนที่จะพูดจบ อุเอสึงิ ฮารุก็ถูกฝนสุดาผลักออกไปนอกประตู

หลังจากประตูปิด ฝนสุดาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงระรื่น

“นี่… อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระที่เธอพูด” ฝนสุดากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฉันแค่ซื้อมาเล่น ๆ เท่านั้น”

รพีพงษ์ยิ้มเล็กน้อย “ชุดนอนนี้สวยมาก ถ้าคุณสวมใส่ต้องดูดีมากเลย”

“จริงหรือคะ?”

ใบหน้าของฝนสุดามีความปีติยินดีเป็นอย่างมาก เธอแทบรอไม่ไหวที่จะสวมใส่มันเพื่อให้รพีพงษ์ได้เห็น

“เป็นไปได้ไหมว่า หลังจากคืนหนึ่ง ไอ้หมอนี้ได้เปลี่ยนรสนิยมไปแล้ว?”

แต่ในไม่ช้า คำพูดต่อไปของรพีพงษ์ เป็นเหมือนน้ำเย็นที่สาดกลางใจ

“ผมคิดว่า สามีในอนาคตของคุณ คงจะชอบมากหลังจากที่คุณสวมมัน แต่ว่าคนคนนั้นไม่ใช่ผม”

เมื่อพูดจบ รพีพงษ์ก็หันหลังและอยากจะเดินออกจากประตู

“รพีพงษ์ไอ้คนบ้า รพีพงษ์ไอ้คนชั่ว! ฉันเกลียดคุณ!”

ฝนสุดารู้สึกงอน แต่เมื่อเธอเห็นรพีพงษ์กำลังจะเดินออกไป เธอรีบกล่าวว่า “อย่าไป คืนนี้ก็นอนพักที่นี่”

“คุณคงไม่ใช้แผนเหมือนเมื่อคืนน่ะ?”

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ทำให้รพีพงษ์กล่าวตามสัญชาตญาณ

“มันน่าจริง ๆเลย ทำไมคุณถึงกลัวฉันขนาดนี้ ฉันน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ฝนสุดากล่าวอย่างรู้สึกผิด

ถ้าบอกว่าฝนสุดาขี้เหร่ งั้นคงไม่มีผู้หญิงสวยในโลกนี้แล้ว

“วางใจเถอะ คุณนอนบนโซฟาเหมือนเมื่อคืน ส่วนฉันนอนในห้อง” ฝนสุดากล่าว

“จริงเหรอ? คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ทำซี้ซั้ว?” รพีพงษ์ถามอย่างไม่มั่นใจ

ฝนสุดากลอกตา “โอ้แม่เจ้า คุณเย็นชาใส่ฉันแบบนี้ ฉันจะยังตื๊อคุณอีกทำไม? ยังไงซะฉันก็เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลก้องวณิชกุล อีกอย่างฉันก็คิดได้แล้ว”

“คิดได้ก็ดี” รพีพงษ์แอบชื่นชม ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะเข้าใจและยอมรับความจริงแล้ว

“ฉันคิดได้แล้วอย่างหนึ่งว่า ยังไงเธอก็ต้องเป็นของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่รีบร้อนอีกต่อไปแล้ว” ฝนสุดากล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ห๊ะ?”

รพีพงษ์ตกใจ “เดี๋ยวก่อน นี่คุณหมายความว่ายังไง? คุณก็รู้ว่าผมจะอยู่กับอารียาคนเดียวไปตลอดชีวิตเท่านั้น”

“นั่นมันก็เป็นชาติเดียวของเธอ”

ฝนสุดายิ้มเล็กน้อย “ฉันได้ยินชุติเทพพูดว่า ขอแค่ฉันตั้งใจฝึกฝน ต่อไปอายุขัยของฉันจะยาวนานมากขึ้น และคุณไม่จำเป็นต้องพูด ดังนั้นฉันต้องฝึกฝนให้หนักและรอจนกว่าอารียา……..”

เมื่อพูดตรงนี้ ฝนสุดานิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาปรากฏรอยยิ้ม “ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ยังไงก็ตาม อย่างมากสุดก็รอคุณนานไปอีกหลายสิบปีแค่นั้น”

หลังจากพูดจบ เธอก็รีบเข้าไปในห้องของเธอทันที

ห้องรับแขกเงียบลงอีกครั้ง แต่คำพูดที่ฝนสุดาเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่ กระตุ้นรพีพงษ์เป็นอย่างมาก

รพีพงษ์คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ และยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเท่านั้น

คำพูดเดียวปลุกคนช่างฝัน!

ตนเองได้เข้าสู่หนทางแห่งการฝึกเซียน และเพื่อต่อต้านทวีปโอชวิน จึงพยายามพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

แต่ว่า เขากำลังยุ่งกับการกอบกู้โลก ทำให้เขาละเลยอารียาและหนูลินลูกสาวของพวกเขา

พวกเธอเป็นมนุษย์ธรรมดา การเกิด แก่ เจ็บ และตาย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อคิดถึงร้อยปีต่อมา เมื่อปราศจากอารียาและหนูลินอยู่ข้างกาย ความรู้สึกพ่ายแพ้ที่รุนแรงได้หยั่งรากลึกลงในหัวใจของรพีพงษ์

ถ้าหากไม่สามารถปกป้องภรรยาและลูกไว้ได้ แล้วจะปกป้องโลกได้อย่างไร!

“ถ้าเป็นเช่นนี้ มันคงน่าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่อีกหลายร้อยปี” รพีพงษ์กล่าวกับตนเอง

ให้พวกเธอแม่ลูกฝึกเซียนพร้อมกับตนเอง!

เป็นครั้งแรกที่ความคิดนี้หยั่งรากในหัวใจของรพีพงษ์

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะนำแนวคิดนี้ไปใช้ ก่อนอื่นรพีพงษ์ต้องหาวิธีถอนพิษในร่างกายของอารียาก่อน

วันรุ่งขึ้น รพีพงษ์สวมแว่นกันแดดเดินออกจากโรงแรม

“คุณชาย คุณจะไปจริงเหรอ?” อุเอสึงิ ฮารุกล่าวด้วยแววตาที่อาลัย

รพีพงษ์พยักหน้า “เป้าหมายหลักของผมในครั้งนี้คือไปที่สำนักเทพยาเซียน เพราะเกิดเรื่องขึ้นในเมืองจึงทำให้ผมล่าช้าไปสองวัน ตอนนี้ผมต้องออกเดินทางทันที”

“หรือครั้งนี้ ให้ฉันไปเป็นเพื่อนคุณ ฉันเคยไปที่สำนักเทพยาเซียนมาก่อน มีเพื่อนเดินทางก็ดีไม่น้อย” อุเอสึงิ ฮารุกล่าว

“ไม่ ผมไปคนเดียวเองได้” รพีพงษ์ตอบ “นอกจากนี้ คุณสวยขนาดนี้ ถ้าคุณเจอโจรป่า มันก็จะลำบากน่ะ?”

“คุณชายพูดตลกเก่งนัก” อุเอสึงิ ฮารุถอนหายใจ “มีคุณอยู่ จะกลัวโจรป่าไม่กี่คนได้อย่างไร?”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรมาก เหลือบไปมอง เขาเห็นฝนสุดาที่เศร้าหมอง

“คราวนี้จะทิ้งเราสองคนอีกแล้วเหรอ? เหมือนก่อนหน้านี้ที่ประเทศญี่ปุ่น?”

ฝนสุดามองรพีพงษ์ด้วยดวงตาพร่าเลือน ความอาลัยอาวรณ์ปรากฏอยู่ในแววตา

ตนเองรอมาหลายวัน แต่ได้อยู่ด้วยกันเพียงสองวัน

“คุณบอกว่าจะตั้งใจฝึกไม่ใช่หรือ? หรือไม่คุณกลับไปที่ประเทศญี่ปุ่นกับอุเอสึงิ ฮารุ แล้วไปฝึกกับนิรภัฏให้ดี” รพีพงษ์กล่าว

“ฉันจะไปไหน คุณไม่ต้องมายุ่ง”

ฝนสุดากล่าว แล้วหันศีรษะไปด้านข้าง

รพีพงษ์ยักไหล่ ไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่ง แค่อย่าตามตนเองไปก็พอแล้ว

ขณะที่รพีพงษ์กำลังจะออกเดินทาง อุเอสึงิ ฮารุก็ชี้ไปที่ด้านหน้าและกล่าวว่า “พวกคุณดูสิ มีคนมากมายอยู่ที่นั่น!”

ทั้งสามคนหันไปมองพร้อมกัน เดิมถนนที่ว่างเปล่าตอนนี้กลับคึกคักขึ้น

ทุกคนสวมหน้ากาก และยืนสองข้างทางอย่างมีจิตสำนึก

รถยนต์โดยสารมาช้า ๆ แล้วจอดลง จากนั้นประตูรถก็เปิดออก มีชายชราผู้ร่าเริงเดินลงมาพร้อมกับสวมใส่หน้ากาก

รอยยิ้มของเขาอบอุ่น และแววตาหนักแน่น

ฝูงชนข้างถนนส่งเสียงเชียร์ และแสดงความขอบคุณสำหรับการมาเยือนของชายชรา

“คุณหมอใหญ่จงซาน!”

ฝนสุดากล่าว

รพีพงษ์ยิ้ม เขาเชื่อว่าคุณหมอใหญ่จงซานทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และคราวนี้ก็มาด้วยตัวเอง เมืองจะได้รับการฟื้นฟูในไม่ช้า

นี่คือเสาหลักของประเทศ และนี่คือต้นแบบที่คนจีนควรเรียนรู้!

สันติสุขสร้างโดยวีรบุรุษ ที่ไหนวีรบุรุษที่นั่นก็จะมีสันติสุข!

รพีพงษ์จัดระเบียบตนเอง จากนั้นมองไปที่สำนักเทพยาเซียนที่ปกคลุมด้วยเมฆและภูเขาที่อยู่ไกลออกไป และตั้งใจแน่วแน่ที่จะเดินทางไปที่นั่น

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท