พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่1228 คุณสามารถขวางฉันได้หรือ

บทที่1228 คุณสามารถขวางฉันได้หรือ

ถนนที่ไปสู่สำนักเทพยาเซียนนั้นขรุขระมาก ผู้คนทั่วไปจะท้อแท้แล้วถอยกลับ แม้แต่คนที่มีความอุตสาหะอย่างยิ่ง ก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามถึงห้าวัน ถึงจะไปถึงสำนักเทพยาเซียนได้

แต่ว่า สำหรับรพีพงษ์ที่เคยไปสำนักเทพยาเซียนมาแล้ว ถนนที่ขรุขระเช่นนี้ ก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคอะไรเลย

ด้วยพลังความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ทั้งความแข็งแกร่งทางกายภาพและความอดทนก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

“เมื่อข้ามภูเขาลูกนี้ไป สำนักเทพยาเซียนก็อยู่ข้างหน้าแล้ว”

รพีพงษ์มองขึ้นไปบนยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอกซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินทางเกือบสองชั่วโมงแล้ว

ก่อนหน้านี้ ที่ธีรพัฒน์ออกจากลานตระกูลลัดดาวัลย์ เขาเคยชี้แนะรพีพงษ์ว่า ถ้าถึงสำนักเทพยาเซียนแล้ว บางทีอาจพบวิธีถอนพิษในร่างของอารียาโดยตรงได้

ความคิดนี้ ตรงกับความคิดของรพีพงษ์

เพียงแต่ว่าตอนนี้ รพีพงษ์เริ่มสงสัยเล็กน้อย

รพีพงษ์ได้รู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ จากเฉินชิวหมิงกับศิษย์ของเขา

ดูเหมือนว่า นักกลั่นยาของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ จะก้าวหน้ากว่าสำนักเทพยาเซียนมาก

แม้แต่หลิงเฉินจื่อที่ถูกสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุขับไล่ แต่กลับไม่สนใจตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักเทพยาเซียนเลย

“ครั้งนี้……จะสำเร็จได้จริงหรือ?”

รพีพงษ์คิดในใจ แต่เพื่ออารียา เขาจึงตัดสินใจไปค้นหา

อย่างน้อยที่สุด รพีพงษ์ยังไม่มีความสามารถในเรื่องการกลั่นยา และรักษาโรคช่วยชีวิตผู้คน

หลังจากพักสักครู่ รพีพงษ์ก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังภูเขาลูกสุดท้าย

ความมหัศจรรย์ของภูเขาลูกนี้ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น

ครั้งที่แล้วเมื่อเขามาถึงที่นี่ พลังความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ไม่ดีเท่าตอนนี้ และตอนนี้เขาได้สัมผัสถึงพลังทิพย์ในที่นี้แล้ว

แต่ตอนนี้ รพีพงษ์ได้ปลุกจิตวิญญาณเทพให้ตื่นแล้ว รพีพงษ์ที่อยู่ในระดับแดนเทพครึ่งก้าว ทำให้เขารู้สึกว่าภูเขาลูกนี้ที่อยู่ใกล้กับสำนักเทพยาเซียนมากที่สุด มีพลังทิพย์เหนือกว่าที่ใด ๆ ที่ตนเองเคยไป

รพีพงษ์มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ถ้าเขาอาศัยอยู่ที่นี่ แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย แค่เวลาผ่านไปไม่กี่ปี ก็จะทำให้ร่างกายและจิตใจของตนเองแข็งแรงมากกว่าปกติ

ธรรมชาติเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง ที่ได้บังเกิดสถานที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้

ชั่วพริบตา รพีพงษ์อยู่เหนือภูเขา มีหุบเขาปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้าเขา

“สำนักเทพยาเซียน ผมมาแล้ว!”

เพิ่งถึงทางเข้าสำนัก มีชายหนุ่มในชุดยาวขวางรพีพงษ์ไว้

“คุณมาทำอะไร? คุณมาที่นี่เพื่อรับยาหรือเปล่า?” ชายคนนั้นถาม

รพีพงษ์ส่ายศีรษะ “ไม่ ผมมาหาเจ้าสำนักจิรภัทรของพวกคุณ”

“คุณมาหาเจ้าสำนักจิรภัทรหรือ?”

เมื่อชายผู้นั้นได้ยิน ก็ขมวดคิ้วขมวด “งั้นผมขอถามคุณว่า เจ้าสำนักของพวกเราเชิญคุณมา หรือคุณได้นัดล่วงหน้ากับเขาไว้ก่อนแล้ว?”

“ผมมาอย่างรีบเร่ง จึงไม่ได้นัดหมาย” รพีพงษ์กล่าว

ชายคนนั้นมองสำรวจรพีพงษ์จากศีรษะจรดเท้า ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและแววตาที่สงสัย

“ทำไมหรือ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” รพีพงษ์กล่าวถาม

“ผมถามคุณว่า คุณมาถึงที่นี่ ใช้เวลาไปเท่าไหร่” ชายหนุ่มถาม

รพีพงษ์รู้สึกสงสัย บุคคลนี้ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงได้ถามเช่นนี้?

รพีพงษ์ตอบว่า “เกือบสามชั่วโมง”

“สามชั่วโมง!”

สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสงสัย “คุณแน่ใจนะ ว่าคุณไม่ได้พูดโอ้อวด?”

“พูดโอ้อวด? คุณกำลังพูดว่า ผมใช้เวลาในการมาที่นี่สั้นเกินไปเหรอ?” รพีพงษ์ถามกลับ

“แน่นอน!”

ชายหนุ่มกล่าวว่า “ถึงแม้จะเป็นเจ้าสำนักของเรา ออกจากสำนักครั้งหนึ่งก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบชั่วโมง! คุณบอกว่าคุณมาจากเมืองถึงที่นี่ภายในเวลาสามชั่วโมง จะเป็นไปได้อย่างไรถ้าคุณไม่พูดโอ้อวด?”

สายตาของชายหนุ่มมีความดูถูกเหยียดหยาม “ผมไม่เชื่อ ว่าคุณมีพลังแข็งแกร่งกว่าเจ้าสำนักของพวกเราได้! ”

พูดถึงตอนนี้ ทำให้รพีพงษ์เข้าใจแล้ว

คิดไปคิดมามันก็ถูก ตนเองอายุพอๆ กับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า จึงไม่น่าแปลกใจที่คนอื่นจะไม่เชื่อตนเอง

“จิรภัทร ตอนนี้ยังอยู่ในระดับแดนปรมาจารย์ไหม?”

รพีพงษ์ถามด้วยรอยยิ้ม

“แดนปรมาจารย์? ฮึ่ม คุณดูถูกสำนักเทพยาเซียนของพวกเราเกินไปแล้ว!”

ชายหนุ่มกล่าวด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง “ตอนนี้เจ้าสำนักจิรภัทรของเราถึงระดับปรมาจารย์แดนดั่งเทพแล้ว และผมก็อยู่ในระดับแดนปรมาจารย์! ”

ขณะที่พูดถึงจุดนี้ ชายหนุ่มดูภูมิใจเป็นอย่างมาก

รพีพงษ์เงยหน้าขึ้นและมองมาที่ชายหนุ่ม เขาได้เข้าสู่ระดับแดนปรมาจารย์ในวัยดังกล่าว พรสวรรค์ความสามารถของผู้ชายคนนี้นั้นหายากเช่นกัน

“โอ้ ถ้าเป็นเช่นนี้ ช่วงนี้ถือว่าจิรภัทรมีความก้าวหน้า”

รพีพงษ์กล่าว

“เชอะ คุณช่างเป็นคนที่ชอบคุยโวโอ้อวดจริง ๆ!”

ชายหนุ่มยิ้มเย้ยหยัน “ผมคิดว่าคุณคุยโวโอ้อวดเกินไปแล้ว คุณกล้าพูดว่าสามารถมาถึงสำนักเทพยาเซียนของเราได้ภายในเวลาไม่ถึงสามชั่วโมง อยากจะหัวเราะให้ฟันหักจริง ๆ คุณคงจะไม่พูดว่า ระดับแดนของคุณสูงกว่าเจ้าสำนักน่ะ”

“แล้วแต่คุณจะพูดยังไง ตอนนี้ผมสามารถเข้าไปที่สำนักได้หรือยัง?”

รพีพงษ์กล่าวถาม

ใช้ชีวิตเป็นเขยแต่งเข้ามานานหลายปี ทำให้เขาเรียนรู้ที่จะอดทนมานานแล้ว

แทนที่จะบอกว่าอดทน น่าจะบอกว่าขี้เกียจที่จะอธิบายมากกว่า

“ไม่ได้!”

ทันใดนั้น ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด

“ถ้าคุณไม่พูดจุดประสงค์ของการมาที่นี่ให้ชัดเจน ผมจะไม่ปล่อยให้คุณเข้าไปเด็ดขาด!”

“ผมมาที่นี่เพื่อหาจิรภัทร ไม่มีเรื่องอื่นอีก”

รพีพงษ์กล่าว “แต่….. ถ้าคุณยังทำให้ผมเสียเวลา ผมก็จะไม่เกรงใจคุณแล้วน่ะ”

“หึ ด้วยฝีมืออย่างคุณ?”

ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “ผมเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพลังแข็งแกร่ง และมีพรสวรรค์มากที่สุดในสำนักเทพยาเซียน รู้ไว้ด้วย รีบออกไปจากที่นี่ซะ! ”

“ฮึ่ม”

รพีพงษ์ถอนหายใจ

สำนักเทพยาเซียนอยู่ห่างไกล ในสถานการณ์ปกติจะมีบุคคลภายนอกเข้ามาน้อยมาก คนที่อยู่ในสำนักถ้าไม่มีอะไรสำคัญ ก็จะไม่ออกจากที่นี่

ดังนั้น สำหรับโลกภายนอกแล้ว สถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนสวรรค์ ที่ไม่ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก

“ตอนนี้เสียใจแล้วใช่ไหม? ฮึ่ม ผมคิดว่าคุณมีเจตนาไม่ดีอยู่แล้ว อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณเป็นสมาชิกของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ ผมโตษินไม่กลัว!”

ชายหนุ่มยืดอกแล้วกล่าว

“เดี๋ยวก่อน! คุณพูดว่า… ผมเป็นคนของสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ?” รพีพงษ์ขมวดคิ้วและถาม

“หรือว่าไม่ใช่” โตษินกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ทุกปีสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุของพวกคุณได้ใช้การแข่งขันกลั่นยาเป็นข้ออ้าง มาที่สำนักเทพยาเซียนของพวกเราเพื่อยึดวัตถุดิบยา เห็นคุณยังอายุน้อย ที่แท้ก็เป็นพวกเดียวกับสมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ!”

“แข่งขันกลั่นยา?”

รพีพงษ์ยิ่งฟังยิ่งสับสน ดูเหมือนว่าจะต้องไปถามจิรภัทรให้เข้าใจ

“ผมจะเข้าไปหาจิรภัทร คุณอย่าขวางทาง”

ขณะที่พูด รพีพงษ์ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว และเดินตรงเข้าไป

“ห้ามเข้า!”

มีกระบี่ยาวขวางอยู่ข้างหน้ารพีพงษ์

“แค่คุณก้าวมาอีกหนึ่งก้าว ผมก็จะฆ่าคุณ!” โตษินขมวดคิ้วและกล่าวว่า “สำนักเทพยาเซียนของพวกเรา ไม่ใช่สถานที่ที่สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุอย่างพวกคุณสามารถเหยียบย่ำได้ตามต้องการ!”

“คุณจะขวางผม?”

รพีพงษ์หรี่ตาและมองไปที่อีกฝ่าย และหัวเราะอยู่ในใจ

ด้วยพลังความแข็งแกร่งและสถานะของเขาในวันนี้ ในโลกใบนี้ แค่รพีพงษ์ต้องการ ไม่มีใครสามารถขวางเขาได้!

หลังจากได้รับคำตอบยืนยันจากอีกฝ่ายแล้ว รพีพงษ์ก็กล่าวอย่างขี้เล่นว่า ”คุณเพิ่งพูดว่า จิรภัทรถึงระดับแดนดั่งเทพขั้นต้นแล้วใช่ไหม”

“ถูกต้อง!”

ท่าทางโตษินหยิ่งผยอง “แต่ถ้าจัดการกับคุณ ไม่ต้องให้เจ้านำนักของพวกเราลงมือ ผมคนเดียวก็เพียงพอแล้ว! ”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรมาก แอบใช้พลังจิตของตนเอง

ทันใดนั้น กระบี่ยาวสีทองก็ปรากฏขึ้นในมือ

หลังจากที่โตษินเห็นสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก “นี่…… เป็นไปได้ยังไง? คุณก็เป็นปรมาจารย์แดนดั่งเทพ?”

“ตอนนี้ คุณคิดว่าตนเองจะสามารถขวางผมได้ไหม?

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท