พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1231 ร้ายไม่เบา

บทที่ 1231 ร้ายไม่เบา

บทที่ 1231 ร้ายไม่เบา
กำลังจะกระดกดื่มเหล้าในขวดลงท้อง มือใหญ่ๆของจิรภัทรก็มาขวางเขาไว้

“เห้ย ไอจิรภัทร ทำอะไรน่ะ!” ปยุตขมวดคิ้ว แล้วทำท่าไม่พอใจต่อจิรภัทรอย่างมาก

“ดื่มๆ นอกจากดื่มแล้วยังรู้จักอย่างอื่นอีกบ้างไหม?”

จิรภัทรพูดอย่างโมโหว่า “รพีพงษ์เป็นคุณชายเสียขนาดนี้ แต่ยอมลดตัวมาให้คุณสอนวิชากลั่นยาให้ ก็ถือว่าเป็นเกียรติมากแล้ว แต่คุณไม่ยอมสอนเสียนี่!”

“เป็นคุณชายแล้วอย่างไรเล่าไอจิรภัทร ผมว่าหลายปีมานี้คุณเลอะเลือนไปหรือเปล่า วิชาการกลั่นยากับการฝึกวิชาต่อสู้ ล้วนเป็นคนละเรื่องกันเลยนะ”

ปยุตพูดต่อไป แล้วก็เหลือบมองรพีพงษ์ไปด้วย “ผมไม่เชื่อหรอก รพีพงษ์มีพรสวรรค์ด้านการต่อสู้กว่าใครๆ หรือว่าจะยังเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านกลั่นยาด้วยงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้!”

พอได้ยินดังนั้น สายตาของจิรภัทรก็เผยรอยอมยิ้มร้ายกาจออกมา

ถ้าหากว่า……เขาเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านกลั่นยาจริงๆล่ะก็ จะเป็นอย่างไร?”

“เป็นไปไม่ได้!”

ปยุตโบกมือพูดว่า “ไอจิรภัทร ถ้าหากว่าเขาเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านกลั่นยาด้วยล่ะก็ ผมก็จะไม่กินเหล้าอีกเลยทั้งชีวิต!”

“ได้!คุณพูดเองนะ!”

จิรภัทรหัวเราะลั่น “แต่ว่า ไอ้แก่อย่างคุณรักสุราดั่งชีวิต ให้คุณเลิกเหล้าทั้งชีวิต คุณเชื่อ แต่ผมไม่เชื่อหรอก!”

พอคิดๆ ดู จิรภัทรก็กลอกตาไปมา “เอาแบบนี้ ผมก็จะไม่ให้คุณลำบากใจ ตอนที่คุณอยู่ในช่วงที่สอนรพีพงษ์กลั่นยาอยู่นั้น จะต้องไม่ดื่มเหล้าเลยแม้แต่หยดเดียว คุณว่าได้ไหม?”

“ได้เลย ได้แน่นอน แต่ว่า พนันกันแบบนี้ก็ไม่แน่ว่าผมจะแพ้นะ”

จิรภัทรยิ้มเบาๆ มองไปทางรพีพงษ์ “ต้องรู้ก่อนนะว่า อยากจะเรียนกลั่นยา มีปัจจัยที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณเทพค่อนข้างสูง คุณไหวหรือเปล่า?”

รพีพงษ์และจิรภัทรก็มองหน้ากัน แล้วก็อมยิ้ม

“ดื่มเยอะๆ หน่อยแล้วกัน นี่อาจจะเป็นเหล้ามื้อสุดท้ายหลังจากนี้อีกนานเลยทีเดียว” รพีพงษ์พูดนิ่งๆ

ปยุตก็พูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ “เหอะ อย่าพูดไป ผมไม่เชื่อหรอก……”

ยังพูดไม่จบ ตาแก่ที่ไม่แต่งตัวดีๆ เหมือนกับจิรภัทรก่อนหน้านี้ นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ในมือก็ถือขวดเหล้า ท่าทางตลกไม่น้อย

จิรภัทรที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ้มเบาๆ ปยุตคนนี้ อยากจะเห็นเอ็งตกใจจนต้องอ้าปากค้างเสียจริงๆ !

หลังจากนั้น10กว่าวินาที รพีพงษ์ก็เก็บจิตวิญญาณเทพคืนมา

ปยุตก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ดื่มเหล้าในมือจนเกลี้ยง ปยุตก็พูดเสียงดังๆ ว่า “ให้ตายเถอะ ในโลกนี้มีคนแบบนี้ด้วยหรือนี่!มันน่าอัศจรรย์มากเลย!”

“เป็นไงล่ะ คุณเชื่อแล้วล่ะสิ” จิรภัทรยิ้มพูด “แล้วเรื่องพนันกันไว้ครั้งก่อน…….”

“หนอยแหน่ะไอจิรภัทร จะเล่นแง่กับผมใช่ไหม!”

ปยุตก็มองบนใส่จิรภัทร แต่ก็ไม่จะเอาเรื่องอะไรมาก

“ได้ ผมตัดสินใจแล้ว จะสอนรพีพงษ์กลั่นยาเอง!”

“งั้นก็ขอบคุณผู้อาวุโสด้วย” รพีพงษ์พูดนิ่งๆ

“ไม่ต้องมาขอบคุณหรอก ผมน่าจะเดาถูก สามารถให้คุณไม่รังเกียจตาแก่อย่างผม แล้วมาเรียนกลั่นยากับผม นับว่าเป็นเกียรติของผม”

ปยุตพูด

“เอาเถอะๆ พวกคุณอย่ามัวมาขอบคุณกันอยู่เลย ยังมีเวลาอีก1เดือน ปยุต ก็ฝากด้วยแล้วกัน” จิรภัทรกล่าว

“ได้ ผมรู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”

พูดไปดังนั้น สเต๊กยุตก็มองหน้ารพีพงษ์แหยๆ “ต่อจากนี้อีก1เดือน ถ้าอยากจะพัฒนาฝีมือเร็วๆ ก็จะต้องลำบากกว่าปกติ ถึงขั้นต้องฝึกฝนอย่างหนัก คุณรับได้ไหม? เพราะถึงอย่างไร คุณก็เป็นถึงนายใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ของเกียวโต ตั้งแต่เล็กก็……..”

“คุณวางใจเถอะครับ!ถึงแม้ผมจะเกิดมาในตระกูลใหญ่ แต่ก็ไม่ได้เป็นคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็น กลับกัน ผมผ่านเรื่องราวเลวร้ายต่างๆ มามากมายกว่าคนบนโลกนี้เคยได้รับเสียอีก!”

“ได้ งั้นก็โอเค”

ปยุตพยักหน้าอย่างพอใจ “อย่ามัวชักช้ากันอยู่เลย ตามผมมาเถอะ”

พูดไป เขาก็ลากมือรพีพงษ์ ออกไปจากที่นี่

มองด้านหลังของทั้งสองคนนั้น จิรภัทรที่อยู่ในศาลาก็อมยิ้ม

“ปยุตคนนี้ ในที่สุดก็มีเรื่องที่ให้เขาต้องเป็นห่วงจนได้”

พูดไป เขาก็หยิบขวดเหล้าบนแท่นหินขึ้นมา

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็มีเสียงตะโกนดังออกมา

“ให้ตายเถอะ จะไม่เหลือให้กันสักหยดเลยหรือไง!”

……

“คุณก็อยู่ที่นี่งั้นหรือ”

รพีพงษ์ถาม

ปยุตก็พาเขามาที่ถ้ำแห่งหนึ่งในสำนักเทพยาเซียน

ในถ้ำค่อนข้างมืด แต่อากาศก็ถ่ายเทได้ดี ไม่ค่อยชื้นแฉะเท่าไรนัก

บนพื้นเต็มไปด้วยขวดเหล้า พูดอย่างไม่โอเวอร์เลย มีหลายร้อยขวด

คนคนนี้ เป็นขี้เหล้าจริงๆ !

รพีพงษ์คิดในใจ เป็นขี้เหล้าก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีความสามารถจริงๆ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ก็จะเสียเวลาไปเปล่าๆ

ดูเหมือนว่าปยุตจะอ่านความคิดของรพีพงษ์ออก ก็เลยยิ้มพูดว่า “รพีพงษ์ คงคิดอยู่สินะว่า ขี้เหล้าอย่างผม จะกลั่นยาได้จริงๆหรือ ใช่ไหม?”

“ในเมื่อเจ้าสำนักจิรภัทรเชื่อมั่นในตัวคุณ ผมก็เชื่อเหมือนกันครับ” รพีพงษ์กล่าว

“รู้ไหวว่าทำไมผมต้องมาอยู่ที่นี่?” ปยุตหยีตาพูด

รพีพงษ์ส่ายหัว บอกตามตรง ตนเองก็ไม่คิดเลยว่า วันหนึ่งจะมาอยู่ในถ้ำแบบนี้

“ตามผมมา!”

สองคนเดิมตามกันไป เดินเข้าไปยังในถ้ำด้านใน

ยิ่งเดินยิ่งแคบลง ปยุตที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วน ผ่านไปค่อนข้างลำบาก แต่ว่าสามารถตะแคงตัวผ่านไปได้

“คุณดูสิ!”

ปยุตชี้ไปข้างหน้า รพีพงษ์ก็อึ้งไปอย่างมาก

“ด้านหน้านั้นสว่างมาก ถ้ำภายในถ้ำอีกที ปรากฏขึ้นตรงหน้ารพีพงษ์”

เมื่อเทียบกับถ้ำด้านนอกที่เก่าคร่ำคร่าแล้ว ถ้ำด้านในนี้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่ หรือการตกแต่ง ล้วนดีกว่าด้านนอกมากมาย

ในนี้ จัดเรียงชั้นหนังสือไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้านบนเต็มไปด้วยหนังสือต่างๆ

“นี่คือ?”

รพีพงษ์มองปยุต

ปยุตยิ้มพูดว่า “น้ำพักน้ำแรงทั้งหมดของสำนักเทพยาเซียนเรา ล้วนอยู่ที่นี่ทั้งหมด!”

“ที่นี่มีห้องยา มีคัมภีร์โบราณ หลักการสำคัญของการเรียนวิชากลั่นยา ที่สำคัญกว่านี้คือ ยังเก็บวัตถุดิบสำคัญหายากไว้ด้วย!”

“วัตถุดิบสำคัญหายากงั้นหรือ?”

รพีพงษ์ไม่ค่อยเข้าใจ “สำนักเทพยาเซียนมีพลังทิพย์มากมาย สามารถค้นหาตัวสมุนไพรหายากได้ง่ายๆ หรือว่าที่นี่จะเก็บตัวยาที่ล้ำค่ากว่าด้านนอกไว้”

“แน่นอน”

ปยุตพูดว่า “เป็นยาล้ำค่าเหมือนกัน แต่ว่าระดับมันต่างกัน”

ถ้าเอามาทำยาชนิดเดียวกัน วัตถุดิบที่มีระดับยิ่งสูง ความบริสุทธิ์ของยาที่ได้ก็จะยิ่งสูงไปด้วย เห็นกล่องที่เรียงอยู่ตรงนั้นไหม?

รพีพงษ์มองออกไป มันไม่เหมือนกันชั้นวางอื่นๆ บนชั้นวางนี้ เรียงเต็มไปด้วยกล่องกว่า50กล่อง บนกล่องล้วนล่ามโซ่ไว้

“ผ่านการค้นหามากว่า100ปี ถึงหาตัวยาที่หายาก50-60ชนิดนี้ นี่ก็คือสิ่งของล้ำค่าที่สุดของสำนักเทพยาเซียนเรา!” ปยุตกล่าว

รพีพงษ์มองปยุต ในใจก็ไม่สงสัยอะไรอีก

ให้หน้าที่สำคัญแบบนี้แก่ปยุต เห็นได้ชัดว่า ตำแหน่งของปยุตในสำนักเทพยาเซียนนี้ ก็คงจะสูงไม่น้อย

“สมาคมการเล่นแร่แปรธาตุ รู้จักไหมครับ?”

รพีพงษ์ถามขึ้นมา

“รู้สิ คนในวงการนี้มีใครบ้างไม่รู้จัก” ปยุตพูดอย่างไม่ค่อยสนใจว่า “ก็นี่ไง เหตุที่ต้องเก็บของพวกนี้ไว้ที่นี่ พวกเขาตามหากันหลายสิบปีก็ยังหาไม่พบ จะว่าไปแล้ว ก็เป็นไอ้พวกโง่เขลากันทั้งนั้น”

รพีพงษ์พยักหน้า บอกเลยว่าวิธีของสำนักเทพยาเซียนนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

ถ้ำแห่งนี้ ถ้ามองจากด้านนอกมันดูพังทลายมาก บวกกับขี้เหล้าอย่างปยุตอยู่ในถ้ำ ไม่ว่าคนนอกที่ไหน ก็ไม่อยากเข้าใกล้ ใครจะอยากเข้าไปสำรวจด้านในกันล่ะ?

ต่อให้มีคนเข้ามา เกรงว่าถ้าไม่มีปยุตนำทางให้ ก็คงไม่รู้ว่าด้านในยังมีอะไรแบบนี้อยู่ด้วย

“ตาแก่นี่ ร้ายไม่เบาเลยทีเดียว!”

รพีพงษ์ก็แอบยิ้มๆ

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท