พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1233 การฝึกพิเศษ

บทที่ 1233 การฝึกพิเศษ

บทที่ 1233 การฝึกพิเศษ
เพียงแต่ เศษวิญญาณแบบนี้ เมื่อเทียบรพีพงษ์แล้ว มันเล็กน้อยกว่ามาก

“คุณก็เป็นพลังจิตวิญญาณเทพด้วยหรือ?”

พอปยุตเก็บกลับไปแล้ว รพีพงษ์ก็ถามขึ้นมา

“ใช่ที่ไหนกัน คนที่มีจิตวิญญาณเทพตั้งแต่กำเนิดนั้นมีน้อยมาก ผมไม่ได้มีวาสนาดีอย่างนั้นหรอก” ปยุตยิ้มพูด “ก็เป็นแค่พลังจิตเท่านั้นเอง”

“ถึงแม้ผมจะเทียบกับคุณไม่ได้ แต่ว่า พรสวรรค์ของผมนี้ อยู่ในวงการการกลั่นยา ก็ถือว่าอยู่ในระดับต้นๆแล้ว จะว่าไป พรสวรรค์ของไอจิรภัทรยังไม่เท่าผมเลย”

พูดถึงจุดนี้ ปยุตก็ดูจะอวดเก่งขึ้นมาทันที

“แล้ว………ทำไมตอนนี้……..”

“ก็เพราะว่าผมติดเหล้าไงล่ะ? ดื่มเป็นเวลานาน ระดับขั้นของฝีมือก็ไม่พัฒนา พลิงจิตก็ถดถอยไปมาก ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้ล่ะก็ ตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักเทพยาเซียน ก็คงไม่ใช่ของไอจิรภัทรหรอก”

ปยุตพูดไป แล้วก็ยิ้ม “แต่ก็ไม่อะไรหรอก ผมรู้สึกว่าตอนนี้ใช้ชีวิตสุขสบายมากกว่า มีเหล้ามีเนื้อให้กิน ชีวิตนี้ก็พอแล้ว”

“ความคิดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ขอเพียงค้นหาชีวิตที่เหมาะกับตนเอง ก็ถือว่าดีที่สุด” รพีพงษ์กล่าว

“ใช่แล้ว ครั้งก่อนที่คุณมาที่สำนักเทพยาเซียน ได้ยินว่ากำราบไอจิรภัทรและพวกอาวุโสทั้งหลายจนราบคาบหมดเลยงั้นหรือ?” ปยุตยิ้มพูด

รพีพงษ์ก็ยกมือคำนับพูดว่า “มันก็เป็นเรื่องในอดีตแล้ว ผมแค่โชคดีที่เอาชนะได้ก็เท่านั้น”

“วันนั้นผมดื่มเยอะไปหน่อย ก็เลยนอนหลับอยู่ในถ้ำ พอจบก็ได้ยินข่าว แถมยังไม่เชื่อที่พวกนั้นเล่ามาด้วยซ้ำ ในใจคิดว่า วัยรุ่นคนหนึ่ง จะมีพรสวรรค์ขนาดนี้ได้อย่างไร แถมยังมาจัดการกับพวกตนเองที่อยู่ในระกับแดนปรมาจารย์ได้อีก”

“แต่ว่า…….ตอนนี้ผมก็ได้ลบความสงสัยนั้นไปเสียหมดสิ้นแล้ว วัยรุ่นอย่างคุณ ถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องไม่ธรรมดา พวกคนแก่ของสำนักเทพยาเซียนจะไปเทียบได้อย่างไร” ปยุตกล่าว

“ขอบคุณที่ชมครับ”

รพีพงษ์ยิ้มเบาๆ แล้ววางตะเกียบลง

“ผมกินเสร็จแล้วครับ กับข้าวพวกนี้คุณก็กินให้หมดเลยแล้วกัน”

“เฮ้อ….” พูดถึงตรงนี้ ปยุตก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“มีกับข้าวแต่ไม่มีเหล้า มันช่างน่าเสียดายจริงๆ”

“อย่าดื่มเหล้างั้นหรือครับ?” รพีพงษ์ยิ้มๆ “จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะดื่มไม่ได้นะ!”

“ไม่ได้!” ปยุตรีบพูดขึ้นมาว่า “ผมได้บอกกับไอจิรภัทรไปแล้ว ถ้าข่าวมันแพร่ออกไปล่ะก็ วันข้างหน้าก็จะถูกไอจิรภัทรประชดประชันเอาได้”

“ไม่หรอก เพราะว่า ที่คุณดื่มมันไม่ใช่เหล้าจริงๆ”

รพีพงษ์พูดให้ชวนคิด “คุณรอเดี๋ยว เดี๋ยวผมกลับมา”

พูดไปดังนั้น ก็รีบเดินออกไปจากถ้ำ

ปยุตก็ฉงนใจ เดาไม่ออกว่ารพีพงษ์จะทำอะไรกันแน่

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รพีพงษ์ก็กลับมา ในมือของเขา เต็มไปด้วยดอกไม้กลีบสีแดงหลายดอก

“นี่คือ………..” ปยุตก็มองรพีพงษ์อย่างแปลกใจ

“ดอกจิ่วหง ในคัมภีร์หน้าที่320บันทึกไว้ว่า พอเอาไปแช่น้ำก็ใช้ได้ รสชาติเหมือนเหล้าอ่อนๆ แถมยังสามารถยืดอายุ ทำให้แก่ช้าลงด้วย”

รพีพงษ์พูดไป แล้วก็มองปยุตไปด้วย “ไม่ทราบว่าที่ผมพูดมา ถูกต้องไหม”

“ถูกต้อง ถูกมากเลย!เพียงแต่ คุณหามันเจอได้อย่างไร? บริเวณรอบๆ ถ้ำนี้ก็ไม่มีนะ!” ปยุตถาม

“ตั้งแต่ระหว่างทางศาลาในภูเขา มาจนถึงถ้ำนี้ ผมได้ไปเห็นเข้า จากนั้นก็เปิดหนังสือเจอ ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า ที่แท้ดอกไม้นี้ก็คือดอกจิ่วหง” รพีพงษ์บอกไปตามตรง

ปยุตพยักหน้าด้วยความพอใจ การเรียนรู้แล้วนำไปใช้ของรพีพงษ์ รวมทั้งความสามารถทางการสังเกตและความจำ ล้วนเป็นความสามารถที่เพียบพร้อมสำหรับการจะเป็นนักกลั่นยา

“ผมมีความมั่นใจ ว่าภายในหนึ่งเดือน จะสามารถทำให้คุณเป็นนักกลั่นยาที่เก่งที่สุดในสำนักเทพยาเซียนได้แน่นอน!” ปยุตพูดอย่างตื่นเต้น

จากนั้น รพีพงษ์ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะว่าในสายตาของเขา เป็นแค่นักกลั่นยาที่เก่งที่สุดมันยังไม่เพียงพอ

พอนึกถึงทวีปโอชวิน ความอยากเป็นผู้แข็งแกร่ง ก็ผุดขึ้นมาในหัวของรพีพงษ์

“ตอนนี้ จะเริ่มสอนวิชากลั่นยาให้ผมได้หรือยังครับ?” รพีพงษ์ถาม

ปยุตก็ยิ้มๆ แล้วก็ดื่มดอกจิ่วหงไปหนึ่งแก้ว “ไม่ต้องรีบ ยังไม่มืดเท่าไร อีกสักชั่วโมงแล้วกัน ให้ผมได้ลิ้มรสความหอมของดอกจิ่วหงเสียหน่อยก่อน”

……

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ฟ้าก็มืดมิด ปยุตก็ไปหาตะเกียงที่ใส่ถ่านเรียบร้อยแล้วเข้ามา แล้วก็ไปหยิบสมุนไพร10กว่าชนิด

ถ้าเป็นรพีพงษ์ในเมื่อก่อน ก็คงจะไม่รู้จักชื่อยาสมุนไพรพวกนี้ แต่ว่าตอนนี้ รพีพงษ์กลับจดจำชื่อและฤทธิ์ยาได้เป็นอย่างดี

ครั้งนี้ รพีพงษ์ก็เหมือนจะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ทำไมปยุตถึงให้ตนเองอ่านหนังสือก่อน

มีเพียงรู้จักตัวยาแล้ว เข้าใจมันแล้ว จึงจะสามารถนำเอายาพวกนั้นมาใช้ได้อย่างใจหวัง

“ตอนนี้ พวกเราจะเริ่มเรียนการกลั่นยา แต่ว่าก่อนอื่น ผมจะทดลองให้คุณดูก่อน”

ปยุตพูดไปดังนั้น แล้วก็หยิบกิ่งไม้ที่พื้นมาไม่กี่อัน แล้วยื่นให้รพีพงษ์2อัน

“วิชากลั่นยา หลักสำคัญคือต้องรับรู้ข้อดีข้อเสียของยาเม็ดนั้น ก็คือการคาดคะเนปริมาณของผู้กลั่น จะต้องหยิบให้พอดี ดังนั้นในระหว่างกลั่นยา จะต้องมีสมาธิอย่างมาก”

“เข้าใจแล้ว” รพีพงษ์พยักหน้าตอบ สำหรับสมาธิและการจดจ่อของตนเองนั้น เขามีความมั่นใจมาก

ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ก่อนหน้านี้ที่ใต้ทะเลสาบจงซิน ก็คงจะหลงใหลไปกับคาถาวางเสน่ห์ของตมิสาแล้ว

“ทำแบบนี้ คุณทำตามผม มือซ้ายวาดวงกลม มือขวาวาดสี่เหลี่ยม”

พูดไป ปสเต๊กก็ใช้กิ่งไม้ทำการวาดลงไปบินดินโคลนที่พื้น

วาดไปด้วย พูดกับตนเองไปด้วยว่า “ผมรู้ ว่าตอนแรกๆ คุณอาจจะยังไม่ค่อยถนัด ฝึกๆ ไปเดี๋ยวก็ดีเอง”

“คุณดูหน่อยว่าใช่แบบนี้ไหม?”

รพีพงษ์กล่าว

พอปยุตหันไปมอง ก็ตกใจมาก

บนพื้น ทางซ้ายเป็นรูปวงกลม ทางขวาเป็นสี่เหลี่ยม วาดได้สัดส่วนดี ราวกับใช้ไม้บรรทัดมาวัดเลย

“ดูเหมือนว่า จะไม่ค่อยยากเท่าไรนะครับ” รพีพงษ์พูดนิ่งๆ

มีจิตวิญญาณเทพคอยช่วยเหลือ รพีพงษ์จึงสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว

“คุณวาดหรือ…….บังเอิญหรือเปล่า”

ปยุตเบ้ปาก “นี่มันง่ายไป เดี๋ยวพวกเราเพิ่มระดับความยาก มือซ้ายวาดแมว มือขวาวาดหมา คุณลองดู”

พูดไป ปยุตก็มองรพีพงษ์

ความยากเพิ่มขึ้น จริงๆ แล้วปยุตอยากจะแกล้งให้รพีพงษ์ทำไม่ได้

มือซ้ายวาดแมว มือขวาวาดหมา มันยากกว่าก่อนหน้านี้มากเลย ปยุตเองก็ยังทำไม่ได้

ใครจะรู้ รพีพงษ์ก็ตอบรับออกมาเลย

หายใจเข้าอย่างลึกๆ รพีพงษ์ก็ปลดปล่อยจิตวิญญาณเทพของตนเองออกมา ให้สมองควบคุมมือซ้าย ใช้จิตวิญญาณเทพควบคุมมือขวา

ลงมือวาดอย่างง่ายดาย รพีพงษ์เรียนดนตรีศิลปะตั้งแต่เด็ก วาดแค่ไม่กี่ครั้ง ก็เห็นเป็นโครงร่างแล้ว

ตอนแรกปยุตก็ยังไม่สน แต่ตอนนี้ เห็นกิ่งไม้ในมือรพีพงษ์สะบัดพลิ้วไหว มือหนึ่งวาดแมวมือหนึ่งวาดหมา แล้วก็ปรากฏเป็นรูปร่างขึ้นมาที่พื้น

ไม่เกิน4นาที รพีพงษ์ก็ทำตามคำสั่งที่ตั้งใจกลั่นแกล้งของฝั่งตรงข้าม

“ไม่ได้วาดนานเลย ไม่ค่อยคุ้นมือ น่าจะได้อยู่นะ” รพีพงษ์กล่าว

ตอนนี้ปยุตก็อึ้งกิมกี่ไปเลยทีเดียว ถ้าแบบนี้เรียกว่า ได้อยู่ แล้วสิ่งที่ตนเองวาด นั่นไม่เรียกว่า ขยะ เลยหรือ

“เอาเถอะ การทดสอบก่อนการกลั่นยาจริงๆ ก็…….ให้คุณผ่านแล้วกัน ต่อจากนี้ พวกเราก็เริ่มของจริงกันเลย”

รพีพงษ์พยักหน้า เขารู้ว่า ในที่สุดตนเองก็จะได้สัมผัสกับวิชากลั่นยาจริงๆ แล้ว!

ปยุตก็เดนมาที่แท่นหิน แล้วชี้ไปยังยาสมุนไพร พร้อมพูดว่า “ยาสมุนไพรบนโต๊ะ10กว่าชนิดนั่น คุณคงจะรู้จักดี ยาพวกนี้ใช้กลั่นยาระดับต่ำ เป็นยาสมุนไพรสำหรับทำยาเม็ดตั้งสมาธิ”

“ต่อจากนี้ ผมจะบอกวิธีการกับคุณ คุณแค่ไปทำตามที่ผมบอก น่าจะไม่ยาก” ปยุตพูดต่อ

“ได้ครับ เดี๋ยวผมลองดู”

รพีพงษ์พูดไปดังนั้น แล้วก็เดินมาที่แท่นหิน

ตอนที่กำลังเตรียมการในขั้นแรกนั้น ทันใดนั้น เจ้าปยุตก็ดับไฟในถ้ำทั้งหมด

พริบตา ในถ้ำก็มืดมิด จนมองไม่เห็นมือตรงหน้าตนเอง

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท