พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1240 กลั่นพร้อมกัน3เม็ด

บทที่ 1240 กลั่นพร้อมกัน3เม็ด

“ได้ ในเมื่อคุณกล้ามาขายหน้าตัวเอง งั้นฉันก็จะช่วยสนองให้!”

จิลลายิ้มร้ายๆ

ส่งสายตาออกไป พวกของชุติเดชก็เอาวัตถุดิบที่ใช้แข่งขันออกมา

รพีพงษ์ก็มองไปนิ่งๆ วัตถุดิบพวกนี้ ถ้าเอาออกไปภายนอก ล้วนเป็นของหายาก แต่ที่สำนักเทพยาเซียน กลับเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายๆ

“ก่อนแข่งขัน ฉันมีคำถามจะถามคุณ คุณกลั่นยาเป็นไหม? ตอนแข่งขันอย่าพูดบอกแล้วกันว่าฉันรังแกคุณ” จิลลาถามอย่างหัวเราะเยาะ

“ผมเรียนอยู่ที่นี่2วันแล้วล่ะ” รพีพงษ์ตอบไปตามตรง

“2วันหรือ?”

พอจิลลาได้ยิน ก็อึ้ง แล้วก็หัวเราะลั่นออกมา

คนอื่นๆ ก็หัวเราะจนแทบหงายหลังไป

“เรียนแค่2วัน ก็กล้ามาท้ากับจิลลาแล้วหรือ?”

“ไอ้คนนี้ไม่มีสมองหรือเปล่าเนี่ย?”

“ใช่น่ะสิ เดี๋ยวคอยดูเขาโชว์โง่ได้เลย”

……

“นี่นาย ด้านการกลั่นยา นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก ยอมแพ้เถอะ”

จิลลาพูดอย่างมั่นใจ “ขอเพียงนายยอมขอโทษกับเรื่องที่ทำไว้เมื่อวาน แล้วเรียกฉันว่า ย่า สามครั้ง ฉันก็จะให้อภัยคุณ!”

“เรื่องที่ทำเมื่อวานหรือ? ทำอะไรไป?” รพีพงษ์ถามออกไป

“ก็ที่นาย………”

พอพูดถึงจุดนี้ จิลลาก็หน้าแดงขึ้นมา

“อ็อ จำได้แล้ว ที่คุณปลักปลำผม บอกว่าผมไปแอบดูคุณแช่น้ำพุอยู่น่ะหรือ ใช่ไหม?” รพีพงษ์ตอบ

“อะไรนะ เขาแอบดูจิลลาแช่น้ำพุงั้นหรือ?”

“จิลลาถูกเขาดูไปหมดทุกอย่างแล้วมั้งน่ะ?”

“ถึงว่าศิษย์พี่จิลลาถึงได้โมโหมาก ที่แท้เมื่อวานก็เกิดเรื่องแบบนี้นี่เอง”

……

“พวกแกหุบปากไปเลยนะ!”

จิลลาตะโกนอย่างโมโห มาพูดเรื่องที่ตนเองถูกแอบดูตอนอาบน้ำต่อหน้าคนอื่นๆ ทำให้จิลลาไม่พอใจมาก แล้วก็ยิ่งแค้นรพีพงษ์มากกว่าเดิม

“จะบอกให้นะ วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่ ตอนนี้นายคิดอยากจะมาขอโทษ มันก็สายไปแล้วล่ะ!”

จิลลาพูดอย่างหัวเสีย

“ตามใจเถอะ” รพีพงษ์ทำท่าไม่สนใจ และไม่อยากจะเอาเรื่องกับเธอ “พวกเราเริ่มกันได้หรือยัง ผมกำลังรอจะไปกินข้าวกลางวัน”

“ได้ นายก็อวดเก่งดี ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าคนที่เพิ่งเรียน2วัน จะเอาชนะฉันได้!”

สายตาของจิลลามีความร้ายกาจรวมอยู่ แล้วก็หันตัวมายังชั้นวางสมุนไพรที่เรียงไว้เรียบร้อยแล้ว

พอเห็นทั้งสองคนเข้าที่แล้ว ในตอนนี้ชุติเดชก็เดินออกมาพูดถึงกติกาการแข่งขัน

“การแข่งขันครั้งนี้ ตัดสินแพ้ชนะภายในครั้งเดียว มีสูตรยาระดับ สูง กลาง ต่ำ พวกคุณทั้งสองจะต้องทำยาทั้งหมด3เม็ด คุณภาพดีที่สุดชนะไป ถ้าคุณภาพเท่ากัน ก็นับเวลาที่ใช้น้อยที่สุด”

พูดไป ชุติเดชก็มองทั้งสองคน “เอาล่ะ เริ่มการแข่งขันได้!”

จิลลามองรพีพงษ์ด้วยสายตาประชด “เดี๋ยวฉันจะคอยดู ว่านายจะอวดเก่งได้ถึงไหน”

“คุณครับ อย่าพูดมาก ลงมือทำให้มากๆ”

รพีพงษ์ตอบไปนิ่งๆ โดยไม่สนการประชดประชันของสาวน้อยคนนั้นเลย

เขาอ่านสูตรยายาเม็ดทั่วไป โดยรวมแล้ว ไม่ต่างอะไรกับยาเม็ดตั้งสมาธิที่ตนทำไปเมื่อสองวันก่อน ไม่ได้มีความยากอะไร

ส่วนทางนี้ จิลลาก็กลั้นใจทำ ตอนที่ชุติเดชประกาศเริ่มการแข่งขันนั้น ก็ได้รีบเตรียมหลอมรวมสมุนไพรแล้ว

มือของเธอไวมาก มองปุ๊บจับปั๊บ

รพีพงษ์ก็ชื่นชม อายุเท่านี้ แต่มีวิชากลั่นยาได้ถึงขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่เรียกว่าคนมีพรสวรรค์

อีกอย่าง รพีพงษ์ตรวจสอบได้ว่า รอบๆ ตัวจิลลามีพลังบางอย่าง

ยัยคนนี้ เป็นคนที่มีพลังจิตวิญญาณเทพแข็งแกร่งเหมือนกัน!

รพีพงษ์ก็พยักหน้า ดูเหมือนจะรู้แล้วว่า ทำไมจิรภัทรถึงให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้

เวลาผ่านไป รพีพงษ์ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่ทางนี้จิลลาก็ได้กลั่นยาเม็ดทั่วไปไปครึ่งหนึ่งแล้ว

“หมอนี่ ทำเป็นหรือเปล่าเนี่ย?”

“นั่นน่ะสิ ทำไมยืนโง่ๆ อยู่แบบนั้นล่ะ?”

“จริงด้วย เอาชนะศิษย์พี่จิลลาไม่ได้หรอก!”

ทุกคนก็แสดงความเห็นกันไป แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า รพีพงษ์ที่กำลังหลับตาอยู่คนนี้ ได้เอาสูตรยาระดับต่ำกลางสูง ทั้ง3ระดับ จดจำไว้ในหัวหมดแล้ว

เมื่อวาน จิตวิญญาณเทพของตนเองเพิ่งได้เลื่อนขั้น จะได้อาศัยโอกาสพอดี ดูสิว่าตอนที่ตนเองกลั่นยานั้น จะทำได้ดีกว่าสองครั้งก่อนหรือเปล่า

หลังจากนั้น15นาที รพีพงษ์ก็ลืมตาขึ้นมา มุมปากก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

“เขาเริ่มกลั่นยาแล้ว!”

คนอื่นก็ตกใจ

จิลลาก็มองออกไปด้วยเหมือนกัน

มองไปก็ไม่เท่าไร จิลลาแทบจะหัวเราะออกมา

แต่คนอื่นๆ ก็อึ้งเหมือนกัน ตอนนี้พวกเขาเริ่มสงสัย คนคนนี้จะมาก่อกวนหรือเปล่านะ?

คนส่วนใหญ่จะกลั่นยา ก็จะทำเหมือนกับจิลลา จะแยกตัวยาต่างๆ ออกตามสูตรที่กำกับไว้ แล้วก็แยกกันกลั่นออกมา

นี่เป็นวิธีที่ไวที่สุด

แต่ว่า รพีพงษ์ในตอนนี้ กลับเอาตัวยาต่างๆ มาดองรวมกันไว้ตรงหน้า หยิบเอาทีละอัน ไม่มีหลักการเลย

“หมอนี่ทำอะไรเนี่ย?”

คนอื่นๆ ก็ไม่เข้าใจ

เห็นแต่ว่ารพีพงษ์ เดี๋ยวหยิบตัวยารยาเม็ดทั่วไป เดี๋ยวตัวยาเม็ดระดับสูง

“เขารู้จักตัวยาพวกนี้หรือเปล่าเนี่ย หยิบมั่วไปหมดเลย?”

ทุกคนก็ไม่เข้าใจ คิดแต่เพียงว่า ชายตรงหน้าคนนี้จะต้องพ่ายแพ้แน่นอน

ตอนนี้รพีพงษ์ก็ตั้งสมาธิมาก พลังจิตวิญญาณเทพของเขาถูกปล่อยออกมา ในหัวของเขาตอนนี้ มีแต่สูตรยาทั้ง3ที่จดจำไว้ในหัว

ดูเหมือนว่าจะหยิบมั่ว แต่จริงๆ แล้วรพีพงษ์กำลังท้าทายกับตนเอง

คนอื่นจะกลั่นยาทีละเม็ด แต่รพีพงษ์ครั้งนี้ กลั่นครั้งเดียว3เม็ด!

อีกอย่าง ยา3เม็ดนี้ ยังมีระดับที่ต่างกันอีกด้วย!

สำหรับนักกลั่นยาแล้ว มันเป็นการท้าทายที่ทรหดมาก

จะรวบรวมพลังจิตนั้น ฝึกบ่อยๆ ก็สามารถทำได้ แต่ว่า แต่จะเอาพลังจิตแบ่งไปใช้กับยาทั้ง3เม็ดเท่าๆ กัน แถมยังต้องรับรู้ถึงคุณภาพการหลอมรวมกันของยาแต่ละเม็ดให้เร็วที่สุดด้วยนั้น มันยากกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีก!

แต่รพีพงษ์ในตอนนี้ กลับกำลังทำเรื่องนี้อยู่

จิตวิญญาณเทพถูกพัฒนา ก่อนหน้านี้รพีพงษ์ก็สามารถเอาจิตวิญญาณเทพของตนเองไปแยกออกเป็นวิชามังกรเลื้อย4ตัว แถมยังควบคุมได้ดี ตอนนี้ทำยาพร้อมกัน3เม็ด รพีพงษ์คิดว่าตนเองสามารถทำได้

ทางนี้ ยาเม็ดทั่วไปของจิลลาก็ทำเสร็จแล้ว

“ว้าว 45นาที ศิษย์พี่จิลลา พี่พัฒนากว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ!”

ชุติเดชพูดชื่นชมออกมา

จิลลายิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าหลายวันนี้ที่ไปแช่น้ำที่น้ำพุ จะมีประโยชน์เหมือนกัน

เพียงแต่ พอนึกถึงน้ำพุ จิลลาก็จะนึกถึงตอนที่ถูกรพีพงษ์แอบมองอยู่ตลอด

ไอ้หมอนี่ วันนี้จะต้องพ่ายแพ้ในมือฉัน ดูสิว่าวันข้างหน้าจะยังอวดเก่งได้สักเท่าไร!

คิดๆ ไป เธอก็เหลือบมองรพีพงษ์

ตรงหน้ารพีพงษ์ ตัวยาถูกวางมั่วๆ ดูแล้ววุ่นวายมาก ไม่มีหลักการเสียเลย

“เชอะ แบบนี้แล้วยังไม่ยอมแพ้อีก รักศักดิ์ศรีเสียเหลือเกินนะ!”

จิลลาคิดในใจ

และในตอนนี้ จิรภัทรและปยุตที่กำลังยื่นอยู่บนยอดเขาฝั่งตรงข้าม ก็ส่ายหัวพร้อมกัน

“ขณะกลั่นยา เน้นเรื่องห้ามว่อกแว่ก ยัยหนูจิลลาคนนี้ เกิดมามีพรสวรรค์ แต่รวบรวมสมาธิไม่ได้ เธอแพ้แล้วล่ะ” จิรภัทรกล่าว

ปยุตก็ยิ้มๆ “แพ้ แพ้แน่ๆ แต่ผมไม่คิดเลยว่า รพีพงษ์คนนี้ จะพัฒนาได้เร็วแบบนี้ กลั่นยาครั้งเดียวพร้อมกัน3เม็ด แถมยังเป็นคนละระดับด้วย ไอจิรภัทร คุณทำได้ไหม?”

จิรภัทรก็พูดอึกอัก “ถ้าเป็นยาระดับเดียวกัน3เม็ดล่ะก็ ก็สามารถลองทำได้”

ปยุตก็ไม่พูดต่อ แล้วก็มองรพีพงษ์ จากนั้นก็ชื่นชมไปอีก

ข้างหลิงฉวน จิลลาก็ได้เริ่มทำยาเม็ดระดับกลางแล้ว

ครั้งนี้ ความเร็วของเธอช้าลงอย่างเห็นได้ชัด พลังจิตก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่แล้ว

เพราะเป็นถึงยาเม็ดระดับกลาง จะต้องรวบรวมพลังจิตที่มากขึ้น ถึงจะเพียงพอ

“ศิษย์พี่จิลลา สู้ๆ หมอนั่นยังทำยาเม็ดทั่วไปออกมาไม่ได้เลย!”

“ใช่น่ะสิ เหนื่อยก็พักหน่อย ผมว่าเขากลั่นยาออกมาไม่ได้หรอก!”

ทุกคนก็คุยกัน

จิลลาก็ไม่ได้วางใจ เมื่อวานนี้ถูกรพีพงษ์จัดการไปง่ายๆ เธอในวันนี้เธออยากจะอวดความสามารถด้านการกลั่นยาให้รพีพงษ์ได้เห็นต่อหน้า

“ฉันจะเอาชนะคุณให้ได้ จะทำให้คุณหมดคำพูดให้ได้!”

จิลลายิ้มมุมปาก แล้วก็รวบรวมสมาธิอีกครั้ง

ทั้นใดนั้น ก็สัมผัสได้ว่า คนอื่นๆที่ครึกครื้นกันก่อนหน้านี้ ก็ได้เงียบลงไป

เสียงของชุติเดชก็ดังเข้ามา “นี่มัน……..เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท