“ได้ ในเมื่อคุณกล้ามาขายหน้าตัวเอง งั้นฉันก็จะช่วยสนองให้!”
จิลลายิ้มร้ายๆ
ส่งสายตาออกไป พวกของชุติเดชก็เอาวัตถุดิบที่ใช้แข่งขันออกมา
รพีพงษ์ก็มองไปนิ่งๆ วัตถุดิบพวกนี้ ถ้าเอาออกไปภายนอก ล้วนเป็นของหายาก แต่ที่สำนักเทพยาเซียน กลับเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่ายๆ
“ก่อนแข่งขัน ฉันมีคำถามจะถามคุณ คุณกลั่นยาเป็นไหม? ตอนแข่งขันอย่าพูดบอกแล้วกันว่าฉันรังแกคุณ” จิลลาถามอย่างหัวเราะเยาะ
“ผมเรียนอยู่ที่นี่2วันแล้วล่ะ” รพีพงษ์ตอบไปตามตรง
“2วันหรือ?”
พอจิลลาได้ยิน ก็อึ้ง แล้วก็หัวเราะลั่นออกมา
คนอื่นๆ ก็หัวเราะจนแทบหงายหลังไป
“เรียนแค่2วัน ก็กล้ามาท้ากับจิลลาแล้วหรือ?”
“ไอ้คนนี้ไม่มีสมองหรือเปล่าเนี่ย?”
“ใช่น่ะสิ เดี๋ยวคอยดูเขาโชว์โง่ได้เลย”
……
“นี่นาย ด้านการกลั่นยา นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรอก ยอมแพ้เถอะ”
จิลลาพูดอย่างมั่นใจ “ขอเพียงนายยอมขอโทษกับเรื่องที่ทำไว้เมื่อวาน แล้วเรียกฉันว่า ย่า สามครั้ง ฉันก็จะให้อภัยคุณ!”
“เรื่องที่ทำเมื่อวานหรือ? ทำอะไรไป?” รพีพงษ์ถามออกไป
“ก็ที่นาย………”
พอพูดถึงจุดนี้ จิลลาก็หน้าแดงขึ้นมา
“อ็อ จำได้แล้ว ที่คุณปลักปลำผม บอกว่าผมไปแอบดูคุณแช่น้ำพุอยู่น่ะหรือ ใช่ไหม?” รพีพงษ์ตอบ
“อะไรนะ เขาแอบดูจิลลาแช่น้ำพุงั้นหรือ?”
“จิลลาถูกเขาดูไปหมดทุกอย่างแล้วมั้งน่ะ?”
“ถึงว่าศิษย์พี่จิลลาถึงได้โมโหมาก ที่แท้เมื่อวานก็เกิดเรื่องแบบนี้นี่เอง”
……
“พวกแกหุบปากไปเลยนะ!”
จิลลาตะโกนอย่างโมโห มาพูดเรื่องที่ตนเองถูกแอบดูตอนอาบน้ำต่อหน้าคนอื่นๆ ทำให้จิลลาไม่พอใจมาก แล้วก็ยิ่งแค้นรพีพงษ์มากกว่าเดิม
“จะบอกให้นะ วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่ ตอนนี้นายคิดอยากจะมาขอโทษ มันก็สายไปแล้วล่ะ!”
จิลลาพูดอย่างหัวเสีย
“ตามใจเถอะ” รพีพงษ์ทำท่าไม่สนใจ และไม่อยากจะเอาเรื่องกับเธอ “พวกเราเริ่มกันได้หรือยัง ผมกำลังรอจะไปกินข้าวกลางวัน”
“ได้ นายก็อวดเก่งดี ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าคนที่เพิ่งเรียน2วัน จะเอาชนะฉันได้!”
สายตาของจิลลามีความร้ายกาจรวมอยู่ แล้วก็หันตัวมายังชั้นวางสมุนไพรที่เรียงไว้เรียบร้อยแล้ว
พอเห็นทั้งสองคนเข้าที่แล้ว ในตอนนี้ชุติเดชก็เดินออกมาพูดถึงกติกาการแข่งขัน
“การแข่งขันครั้งนี้ ตัดสินแพ้ชนะภายในครั้งเดียว มีสูตรยาระดับ สูง กลาง ต่ำ พวกคุณทั้งสองจะต้องทำยาทั้งหมด3เม็ด คุณภาพดีที่สุดชนะไป ถ้าคุณภาพเท่ากัน ก็นับเวลาที่ใช้น้อยที่สุด”
พูดไป ชุติเดชก็มองทั้งสองคน “เอาล่ะ เริ่มการแข่งขันได้!”
จิลลามองรพีพงษ์ด้วยสายตาประชด “เดี๋ยวฉันจะคอยดู ว่านายจะอวดเก่งได้ถึงไหน”
“คุณครับ อย่าพูดมาก ลงมือทำให้มากๆ”
รพีพงษ์ตอบไปนิ่งๆ โดยไม่สนการประชดประชันของสาวน้อยคนนั้นเลย
เขาอ่านสูตรยายาเม็ดทั่วไป โดยรวมแล้ว ไม่ต่างอะไรกับยาเม็ดตั้งสมาธิที่ตนทำไปเมื่อสองวันก่อน ไม่ได้มีความยากอะไร
ส่วนทางนี้ จิลลาก็กลั้นใจทำ ตอนที่ชุติเดชประกาศเริ่มการแข่งขันนั้น ก็ได้รีบเตรียมหลอมรวมสมุนไพรแล้ว
มือของเธอไวมาก มองปุ๊บจับปั๊บ
รพีพงษ์ก็ชื่นชม อายุเท่านี้ แต่มีวิชากลั่นยาได้ถึงขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่เรียกว่าคนมีพรสวรรค์
อีกอย่าง รพีพงษ์ตรวจสอบได้ว่า รอบๆ ตัวจิลลามีพลังบางอย่าง
ยัยคนนี้ เป็นคนที่มีพลังจิตวิญญาณเทพแข็งแกร่งเหมือนกัน!
รพีพงษ์ก็พยักหน้า ดูเหมือนจะรู้แล้วว่า ทำไมจิรภัทรถึงให้ความสำคัญกับเธอมากขนาดนี้
เวลาผ่านไป รพีพงษ์ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่ทางนี้จิลลาก็ได้กลั่นยาเม็ดทั่วไปไปครึ่งหนึ่งแล้ว
“หมอนี่ ทำเป็นหรือเปล่าเนี่ย?”
“นั่นน่ะสิ ทำไมยืนโง่ๆ อยู่แบบนั้นล่ะ?”
“จริงด้วย เอาชนะศิษย์พี่จิลลาไม่ได้หรอก!”
ทุกคนก็แสดงความเห็นกันไป แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า รพีพงษ์ที่กำลังหลับตาอยู่คนนี้ ได้เอาสูตรยาระดับต่ำกลางสูง ทั้ง3ระดับ จดจำไว้ในหัวหมดแล้ว
เมื่อวาน จิตวิญญาณเทพของตนเองเพิ่งได้เลื่อนขั้น จะได้อาศัยโอกาสพอดี ดูสิว่าตอนที่ตนเองกลั่นยานั้น จะทำได้ดีกว่าสองครั้งก่อนหรือเปล่า
หลังจากนั้น15นาที รพีพงษ์ก็ลืมตาขึ้นมา มุมปากก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เขาเริ่มกลั่นยาแล้ว!”
คนอื่นก็ตกใจ
จิลลาก็มองออกไปด้วยเหมือนกัน
มองไปก็ไม่เท่าไร จิลลาแทบจะหัวเราะออกมา
แต่คนอื่นๆ ก็อึ้งเหมือนกัน ตอนนี้พวกเขาเริ่มสงสัย คนคนนี้จะมาก่อกวนหรือเปล่านะ?
คนส่วนใหญ่จะกลั่นยา ก็จะทำเหมือนกับจิลลา จะแยกตัวยาต่างๆ ออกตามสูตรที่กำกับไว้ แล้วก็แยกกันกลั่นออกมา
นี่เป็นวิธีที่ไวที่สุด
แต่ว่า รพีพงษ์ในตอนนี้ กลับเอาตัวยาต่างๆ มาดองรวมกันไว้ตรงหน้า หยิบเอาทีละอัน ไม่มีหลักการเลย
“หมอนี่ทำอะไรเนี่ย?”
คนอื่นๆ ก็ไม่เข้าใจ
เห็นแต่ว่ารพีพงษ์ เดี๋ยวหยิบตัวยารยาเม็ดทั่วไป เดี๋ยวตัวยาเม็ดระดับสูง
“เขารู้จักตัวยาพวกนี้หรือเปล่าเนี่ย หยิบมั่วไปหมดเลย?”
ทุกคนก็ไม่เข้าใจ คิดแต่เพียงว่า ชายตรงหน้าคนนี้จะต้องพ่ายแพ้แน่นอน
ตอนนี้รพีพงษ์ก็ตั้งสมาธิมาก พลังจิตวิญญาณเทพของเขาถูกปล่อยออกมา ในหัวของเขาตอนนี้ มีแต่สูตรยาทั้ง3ที่จดจำไว้ในหัว
ดูเหมือนว่าจะหยิบมั่ว แต่จริงๆ แล้วรพีพงษ์กำลังท้าทายกับตนเอง
คนอื่นจะกลั่นยาทีละเม็ด แต่รพีพงษ์ครั้งนี้ กลั่นครั้งเดียว3เม็ด!
อีกอย่าง ยา3เม็ดนี้ ยังมีระดับที่ต่างกันอีกด้วย!
สำหรับนักกลั่นยาแล้ว มันเป็นการท้าทายที่ทรหดมาก
จะรวบรวมพลังจิตนั้น ฝึกบ่อยๆ ก็สามารถทำได้ แต่ว่า แต่จะเอาพลังจิตแบ่งไปใช้กับยาทั้ง3เม็ดเท่าๆ กัน แถมยังต้องรับรู้ถึงคุณภาพการหลอมรวมกันของยาแต่ละเม็ดให้เร็วที่สุดด้วยนั้น มันยากกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีก!
แต่รพีพงษ์ในตอนนี้ กลับกำลังทำเรื่องนี้อยู่
จิตวิญญาณเทพถูกพัฒนา ก่อนหน้านี้รพีพงษ์ก็สามารถเอาจิตวิญญาณเทพของตนเองไปแยกออกเป็นวิชามังกรเลื้อย4ตัว แถมยังควบคุมได้ดี ตอนนี้ทำยาพร้อมกัน3เม็ด รพีพงษ์คิดว่าตนเองสามารถทำได้
ทางนี้ ยาเม็ดทั่วไปของจิลลาก็ทำเสร็จแล้ว
“ว้าว 45นาที ศิษย์พี่จิลลา พี่พัฒนากว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะ!”
ชุติเดชพูดชื่นชมออกมา
จิลลายิ้มมุมปาก ดูเหมือนว่าหลายวันนี้ที่ไปแช่น้ำที่น้ำพุ จะมีประโยชน์เหมือนกัน
เพียงแต่ พอนึกถึงน้ำพุ จิลลาก็จะนึกถึงตอนที่ถูกรพีพงษ์แอบมองอยู่ตลอด
ไอ้หมอนี่ วันนี้จะต้องพ่ายแพ้ในมือฉัน ดูสิว่าวันข้างหน้าจะยังอวดเก่งได้สักเท่าไร!
คิดๆ ไป เธอก็เหลือบมองรพีพงษ์
ตรงหน้ารพีพงษ์ ตัวยาถูกวางมั่วๆ ดูแล้ววุ่นวายมาก ไม่มีหลักการเสียเลย
“เชอะ แบบนี้แล้วยังไม่ยอมแพ้อีก รักศักดิ์ศรีเสียเหลือเกินนะ!”
จิลลาคิดในใจ
และในตอนนี้ จิรภัทรและปยุตที่กำลังยื่นอยู่บนยอดเขาฝั่งตรงข้าม ก็ส่ายหัวพร้อมกัน
“ขณะกลั่นยา เน้นเรื่องห้ามว่อกแว่ก ยัยหนูจิลลาคนนี้ เกิดมามีพรสวรรค์ แต่รวบรวมสมาธิไม่ได้ เธอแพ้แล้วล่ะ” จิรภัทรกล่าว
ปยุตก็ยิ้มๆ “แพ้ แพ้แน่ๆ แต่ผมไม่คิดเลยว่า รพีพงษ์คนนี้ จะพัฒนาได้เร็วแบบนี้ กลั่นยาครั้งเดียวพร้อมกัน3เม็ด แถมยังเป็นคนละระดับด้วย ไอจิรภัทร คุณทำได้ไหม?”
จิรภัทรก็พูดอึกอัก “ถ้าเป็นยาระดับเดียวกัน3เม็ดล่ะก็ ก็สามารถลองทำได้”
ปยุตก็ไม่พูดต่อ แล้วก็มองรพีพงษ์ จากนั้นก็ชื่นชมไปอีก
ข้างหลิงฉวน จิลลาก็ได้เริ่มทำยาเม็ดระดับกลางแล้ว
ครั้งนี้ ความเร็วของเธอช้าลงอย่างเห็นได้ชัด พลังจิตก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่แล้ว
เพราะเป็นถึงยาเม็ดระดับกลาง จะต้องรวบรวมพลังจิตที่มากขึ้น ถึงจะเพียงพอ
“ศิษย์พี่จิลลา สู้ๆ หมอนั่นยังทำยาเม็ดทั่วไปออกมาไม่ได้เลย!”
“ใช่น่ะสิ เหนื่อยก็พักหน่อย ผมว่าเขากลั่นยาออกมาไม่ได้หรอก!”
ทุกคนก็คุยกัน
จิลลาก็ไม่ได้วางใจ เมื่อวานนี้ถูกรพีพงษ์จัดการไปง่ายๆ เธอในวันนี้เธออยากจะอวดความสามารถด้านการกลั่นยาให้รพีพงษ์ได้เห็นต่อหน้า
“ฉันจะเอาชนะคุณให้ได้ จะทำให้คุณหมดคำพูดให้ได้!”
จิลลายิ้มมุมปาก แล้วก็รวบรวมสมาธิอีกครั้ง
ทั้นใดนั้น ก็สัมผัสได้ว่า คนอื่นๆที่ครึกครื้นกันก่อนหน้านี้ ก็ได้เงียบลงไป
เสียงของชุติเดชก็ดังเข้ามา “นี่มัน……..เป็นไปได้อย่างไรกัน?”