พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 1238 หญิงสาวกลางบ่อน้ำพุ

บทที่ 1238 หญิงสาวกลางบ่อน้ำพุ

เดิมทีคิดว่าการฝึกพิเศษของตนเองนี้ จะทำให้รพีพงษ์ทนไม่ได้นานเท่าไร

แต่เห็นได้ชัดว่า ตนเองคาดการณ์พลาดไป

คนที่มีจิตวิญญาณเทพแต่กำเนิด จะใช้สายตาของคนธรรมดามาตัดสินไม่ได้!

ในตอนนี้ ทันใดนั้นปยุตก็เห็นว่า รพีพงษ์ที่อยู่ตรงหน้า เริ่มขยับตัวแล้ว

รพีพงษ์ในตอนนี้ มนุษย์ทองคำตัวน้อยที่อยู่ในหัวก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว พลังจิตวิญญาณเทพก็บังเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หัวของมนุษย์ทองคำก็สูงกว่าเมื่อก่อนมาก ดูเก่งกาจมาก

ความรู้สึกที่มีพลังจิตวิญญาณเทพไหลไปทั่วร่างกายนั้น มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากเลย!

มุมปากของรพีพงษ์ยิ้มขึ้น แล้วก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

เขาเชื่อว่าตนเองในตอนนี้ ถ้าปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณเทพออกมาล่ะก็ จะสามารถควบคุมไปได้ไกลในรัศมี10ลี้โดยรอบ

“ในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ได้แล้วสิ”

พอเห็นรพีพงษ์ลืมตาขึ้นมา ปยุตก็รีบเข้าไปพูด

สายตาของรพีพงษ์มีรอยยิ้ม แต่ร่างกายยังไม่ขยับเหมือนเดิม

“เหนื่อยแล้วก็รีบขยับกลับเข้ามา ทนได้20กว่าชั่วโมง ก็นับว่าไม่เลวแล้ว” ปยุตพูดความจริง เพราะว่าตัวเขาเองเหนื่อยมากแล้ว

“ก็ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไร แต่หิวนิดหน่อย”

รพีพงษ์ที่ยืนอยู่ระหว่างหน้าผา พูดแบบนิ่งๆเท่ๆ

“แค่……หิวงั้นหรือ?”

รพีพงษ์พยักหน้า “กินอะไรรองท้องเสียหน่อย แล้วก็มายืนอีกสักวันหนึ่ง ก็ไม่ใช่ปัญหา”

“อย่าเลย!คุณผ่านการทดสอบแล้ว รีบกลับออกมาเถอะ!” ปยุตกล่าว

ยืนไปหนึ่งวัน ที่นี่มันคือหน้าผาเชียวนะ ตอนกลางคืนลมเย็นเข้ากระดูกเชียวนะ

รพีพงษ์สามารถทนได้ แต่กระดูกแก่ๆของปยุตคงจะทนไม่ไหว

“ผมรู้สึกว่าสถานที่นี้ สามารถกระตุ้นพลังแฝงในตัวผมได้ดีเลยทีเดียว จิตวิญญาณเทพของผมดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นเยอะเลย” รพีพงษ์ยิ้มพูด

“ฝึกได้ระดับนี้ก็ดีมากแล้ว คุณรีบกลับลงมาเลย” ปยุตกล่าว

อยู่ที่หน้าผาไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ตอนนี้ปยุตคิดถึงถ้ำของตนเองมากแล้ว

“งั้นก็ได้”

ปลายเท้ารพีพงษ์กระตุกนิดหน่อย ก็กระโดดออกมา

“ตอนนี้ ผมสามารถทำยาชั้นเลิศได้แล้วใช่ไหม?” รพีพงษ์พูดนิ่งๆ อย่างมีสมาธิ

“ตอนนี้หรือ?”

ปยุตชี้ไปที่ขอบตาที่คล้ำดำของตนเอง “กลับไปนอนพักผ่อน!”

พูดจบ ก็เดินกลับออกไป

รพีพงษ์กฎขำออกมา ก็ได้ ไปทำให้ชีวิตมีความสุขเอง

บนสำนักเทพยาเซียน มีพลังทิพย์มากมาย แค่ผลไม้ป่าธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือว่ารสชาติ ก็เหมือนจะดีกว่าที่ขายในตลาดอย่างมาก

ถึงแม้จะบอกว่าก่อนหน้านี้เคยมาที่สำนักเทพยาเซียน แต่รพีพงษ์ก็เพิ่งเคยเดินไปรอบๆ ของที่นี่เป็นครั้งแรก

“นี่มันเป็นแดนเซียนชัดๆ !”

จ้องมองทิวทัศน์อันงดงามตรงหน้า รพีพงษ์ก็ยิ่งสุนทรีย์

“ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าที่น้ำพุนั่นเป็นอย่างไรบ้าง”

รพีพงษ์นึกขึ้นได้ ตอนนั้นที่มายังสำนักเทพยาเซียน แล้วก็เรื่องน้ำพุมหัศจรรย์นั่น

เนื่องจากครั้งก่อนที่ตนเองไปแช่น้ำ เดิมทีน้ำพุสีเขียว แต่ถูกตนเองดูดเอาพลังทิพย์ไปจนหมด แล้วก็กลายเป็นน้ำที่ใส่สะอาดขึ้นมา

พอนึกถึงจุดนี้ รพีพงษ์ก็รู้สึกผิดขึ้นมา เพราะถึงอย่างไร ในน้ำพุมีพลังทิพย์อยู่ สำหรับคนที่สำนักเทพยาเซียนแล้ว ก็ถือว่าสำคัญอยู่เหมือนกัน

เดินไปอย่างรู้เส้นทาง รพีพงษ์ก็เดินมาถึงข้างๆ น้ำพุ

ไม่กี่เดือน ก่อนหน้านี้ที่น้ำยังใสสะอาด ก็เปลี่ยนกลับมาเป็นสีเขียวมรกตอีกครั้ง

มีพลังทิพย์เพิ่มมาแบบนี้ ทำให้รพีพงษ์เองก็อึ้งไปเหมือนกัน

“ไม่คิดเลยว่า สำนักเทพยาเซียนจะอัศจรรย์แบบนี้ พลังทิพย์แบบนี้ ราวกับมันจะไม่มีวันหมดสิ้นเลย”

รพีพงษ์ยืนพูดนิ่งๆ อยู่ข้างๆ

“ใครน่ะ!ใครกำลังพูด!”

ทันใดนั้น ตรงกลางน้ำพุ ก็มีเสียงของผู้หญิงส่งออกมา

บนพื้นน้ำปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวพรางตา รพีพงษ์หยีตามองออกไป แล้วเห็นเป็นรางๆว่ามีผู้หญิงกำลังแช่น้ำอยู่ตรงกลาง

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!

“ยังจะมองอีก!ถ้ามองอีกครั้ง ฉันจะควักลูกตานายออกมา!”

ผู้หญิงคนนั้นหัวเสีย รพีพงษ์ก็รีบเก็บสายตาตนเอง แล้วกันหน้าออกไป

“ผมแค่เริ่มผ่านมาเท่านั้น ถ้าล่วงเกินไป ก็ขออภัยด้วย” รพีพงษ์หันหลังให้กับบ่อน้ำพุแล้วพูด

ขณะพูด เขาก็รู้สึกว่าด้านหลังมีลมพัดเข้ามา

ในตอนนี้ รพีพงษ์ที่มีพลังจิตวิญญาณเทพเต็มเปี่ยม ตอนที่ลมนั่นห่างจากตนเองได้10เมตร ก็รับรู้ได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้น มืออันอ่อนช้อย ก็มาโจมตีเข้าที่หัวไหล่ของรพีพงษ์

รพีพงษ์ไม่ได้มอง แต่เอียงหลบไปทางซ้ายอย่างง่ายดาย

ผู้หญิงคนนั้นที่ด้านหลัง ก็ฉงนใจ แล้วพูดเบาๆ ว่า “นายเป็นยอดฝีมืองั้นหรือ?”

“คุณครับ ผมรับรองได้ว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้เห็นอะไรเลย ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนแล้วกันนะ”

พูดไป รพีพงษ์ก็เตรียมจะกลับออกไป โดยไม่หันหลังกลับไปมองเลยแม้แต่น้อย

“เหอะ!คิดหนีงั้นหรือ ต่อให้เป็นยอดฝีมือ ก็เป็นคนที่ไม่มีรับการศึกษา!”

พูดไป ผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาโจมตีอีกครั้ง

รพีพงษ์ได้ยินดังนั้น ในใจก็เริ่มไม่พอใจ

“คุณบอกว่าใครไม่มีการศึกษา!”

รพีพงษ์หันหลังไป แล้วก็ปัดมือออกไป เพื่อปัดป้องการโจมตีของฝั่งตรงข้าม

ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นได้ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แต่ผมยังเปีนกอยู่ รวมกับใบหน้าอ่อนช้อยงดงาม ดูแล้วก็สวยไปอีกแบบ

“ฉันบอกว่าคุณไม่มีการศึกษา” ผู้หญิงคนนั้นพูดแบบเอาแต่ใจ “ไม่รู้ว่าคุณไปคนป่าที่ไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่ออกมา”

สายตารพีพงษ์เย็นชา “ไม่คิดว่าคุณหน้าตาสะสวยแบบนี้ แต่พูดจาปากคอเราะรายมาก”

“ทำไม ฉันพูดผิดไปรึไง? ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ไม่มีการศึกษาล่ะก็ จะมาแอบมองคนอื่นเขาอาบน้ำทำไมกัน!”

“ผมบอกแล้วไง ว่าแค่เดินผ่านมาเฉยๆ และไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ด้วย อีกอย่างบนผิวน้ำก็มีหมอกปกคลุมหนา อยู่ห่างด้วยก็เลยมองไม่ชัด” รพีพงษ์พูดนิ่งๆ

“เหอะ พูดแบบนี้ ถ้านายเห็นชัดล่ะก็ ก็ยังจะดูต่อใช่ไหม?” ผู้หญิงคนนั้นพูดประชด

“ผมไม่อยากพูดอธิบายกับคนไม่รู้เรื่องแบบคุณ”

สำหรับผู้หญิงร้ายแบบนี้ รพีพงษ์ไม่มีความรู้สึกดีด้วย

“ถ้าวันนี้คุณไม่พูดให้ชัดเจน ก็ห้ามไปไหนเด็ดขาด”

พูดไป ผู้หญิงคนนั้นก็กระโดดมาตรงหน้ารพีพงษ์ แล้วก็หยิบมีดออกมาจากหน้าอก เตรียมจะแทงไปที่หน้ารพีพงษ์

“ผู้หญิงป่าเถื่อน!”

รพีพงษ์พูดไปด้วย แล้วก็เตรียมจะสั่งสอนเธอไปด้วย

ระหว่างที่หายใจ มีดสั้นก็ร่วงหล่นลงจากมือของผู้หญิงคนนั้น

รพีพงษ์ก็ไม่ลังเล แล้วก็ใช้มือคว้าหัวไหล่ของฝ่ายตรงข้ามไว้ พร้อมผลักออกไปเบาๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ล้มลงที่พื้น

เสื้อผ้าสีขาวบนเรือนร่าง ถูกดินโคลนแปดเปื้อนจนสกปรก

“นี่คุณ……..” ผู้หญิงคนนั้นนั่งที่พื้น สายตาก็เต็มไปด้วยความโกรธ

“คุณเพิ่งอายุเท่านี้ ก็จะลงมือฆ่าคนเสียแล้ว ร้ายกาจไปหน่อยหรือเปล่า” รพีพงษ์พูดอย่างเคร่งขรึม

“ก็จะฆ่า คุณจะทำไมล่ะ!” สาวน้อยไม่รู้จักสำนึกผิด

รพีพงษ์เห็นเธอเอาแต่ใจแบบนี้ ก็ส่ายหัวเบาๆ

สะบัดเศษโคลนบนตัวทิ้งไป สาวน้อยคนนั้นก็ลุกขึ้นจากพื้นดิน “จะบอกให้นะ!อย่าคิดว่าเอาชนะฉันได้ แล้วจะคิดว่าเก่ง ที่นี่คือสำนักเทพยาเซียน ถ้าเก่งจริง ก็มาแข่งกันกลั่นยาสิ นายกล้าไหมล่ะ?”

“กลั่นยางั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” สาวน้อยคนนั้นมองดูถูกรพีพงษ์ “ดูท่าทางนายแล้ว น่าจะกลั่นยาไม่เป็น น่าจะมาเพื่อขอยามากกว่า ถ้านายยอมขอโทษฉันดีๆ แล้วโขกหัวคำนับ3ครั้ง บางทีฉันอาจจะพิจารณาให้ยาคุณก็ได้”

“คุณคิดมากไปแล้ว” รพีพงษ์พูดเสียงขรึม “แต่ว่า ผมรับรองได้ว่า ถ้าคุณยังพูดจาปากไม่มีหูรูดอีกล่ะก็ ต่อไปจะไม่หกล้มธรรมดาๆ แบบนี้แน่นอน”

“นี่คุณ!”

สาวน้อยคนนั้นโมโหมาก แต่พลังของตนเองสู้ไม่ได้จริงๆ

“สายวันพรุ่งนี้ มาที่ข้างน้ำพุนี้ จัดการแข่งขันการกลั่นยาระหว่างลูกศิษย์ด้วยกัน คุณกล้ามาไหมล่ะ?” แม่สาวน้อยถาม

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท